ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 147
บทที่ 147 สามสิบปีในเหอตงและสามสิบปีในเหอซี
“เยี่ยม!”
ซีเว่ยกอดแซฟไฟร์ทะเลทั้ง 7 ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาแล้วกลิ้งไปมาอย่างไม่มีมาดใดๆ “ฉันรวยแล้ว!”
การแสดงที่กํากับเองของเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสําเร็จอย่างมาก การแสดงเพียงแค่เงาของเขามีผลอย่างมาก แม้ว่าเทพเจ้ามนุาย์เงือกจะเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นและไม่ได้มีอยู่จริง แต่ก็ยังทําให้ผู้เล่นทุกคนในหมู่บ้านมนุษย์กบตกตะลึง
ใช่มันเป็นภาพลวงตา ซีเว่ยยังกําหนดพื้นที่แสดงผลไว้ภายในหมู่บ้านมนุษย์กบเท่านั้น เพื่อเซฟพลังงานเทพเจ้าและมีเพียงผู้เล่นที่นั่นเท่านั้นที่ได้เห็นมัน
มันง่ายกว่าที่จะทําให้ผู้เล่นเชื่อว่า HP ของพวกเขาลดลง ด้วยการควบคุมระบบในมือของเขามีอะไรจะง่ายไปกว่าการปรับค่าเหล่านั้นล่ะ?
และด้วยการแสดงสั้น ๆ ซีเว่ยก็หลอกล่อเอาแซฟไฟร์ทะเลมาจากผู้เล่นได้
อะไร การแสดงสั้นเกินไปและไม่เพียงพอสําหรับคุณ? ไร้สาระ! CG ก็ต้องการพลังงานเทพเจ้าเหมือนกันนะ!
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเทพสมุทรได้รับแซฟไฟร์ทะเลมาจากไหน อัญมณีเหล่านี้ไม่ทนทานเลย และอาจถูกทําลายได้ง่าย ๆ หากผู้เล่นธรรมดาโจมตีมันเต็มแรง แต่มันก็สามารถทําหน้าที่เป็นวัสดุบรรจุพลังงานเทพเจ้าได้มหาศาลดังเช่นกะโหลกของเทพเจ้ากระดูกเน่า
ถึงอย่างนั้นตาสมุทรก็มีอยู่จริง แต่มันเป็นเพียงพอร์ทัลที่เชื่อมต่อกับแผ่นเปลือกโลกใต้ทะเลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แตกต่างจากซีเว่ยที่สามารถใช้พลังสร้างพอร์ทัลอย่างไลฟ์สโตนขึ้นมาได้ อํานาจของเทพสมุทรไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพอร์ทัลเลย ความจริงพอร์ทัลนั้นเป็นทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติรวมกับเวทมนตร์ที่เป็นหนึ่งในอํานาจของเมจิกไวโอเล็ต หนึ่งในเทพบิดรทั้ง 7 ซึ่งเป็นศัตรูของเทพสมุทรในสงครามเทพเจ้า
ควบคู่ไปกับการขัดขวางของบาเรียโลกเทพสมุทรจึงได้สร้างตาสมุทรขึ้นมา เหนือเกาะมนุษย์เงือกด้วยพลังของเธอเอง ด้วยเหตุนี้จึงเกิดพอร์ทัลหลอก ๆ ที่เจาะช่องว่างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการ ‘เทเลพอร์ต’ ขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ต้องใช้พลังงานเทพเจ้าของเธอเป็นจํานวนมาก
และแซฟไฟร์ทะเลทั้ง 7 ก็คือแบตเตอรี่ที่ใช้ในการขับเคลื่อนพอร์ทัลนี้
เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือหากอํานาจของเมจิกไวโอเล็ทเหนือพอร์ทัล เป็นเหมือน กําแพงที่ผ่านไปไม่ได้ และหากคุณต้องการเทเลพอร์ต คุณก็ต้องเจาะผ่านมันไป สิ่งที่ซีเว่ยทําคือการใช้อํานาจในการข้ามของเขา แอบเปิดประตูจากอีกด้านของกําแพงในขณะที่เทพสมุทรนําถัง บรรจุระเบิดมาทําลายกําแพงของเมจิกไวโอเล็ตโดยตรง
จากจุดนี้เพียงอย่างเดียวเราจะเห็นได้ว่าทําไมแม้แต่อัสลานก็ยังตั้งชื่อเล่นให้เธอว่าผู้หญิงบ้า
เนื่องจากพลังที่แท้จริงของเทพสมุทรนั้นแตกต่างจากเขา ซีเว่ยจึงมีปัญหาในการดูดซับพลังงานในแซฟไฟร์ทะเล
แต่หลังจากการสัมผัสเพียงเล็กน้อย เขาก็พบว่าพลังภายในอัญมณีไม่ได้รุนแรง
แม้ว่าแซฟไฟร์ทะเลที่ทําหน้าที่เป็นภาชนะ จะถูกทําลายโดยพลังภายนอก พลังศักดิ์สิทธิ์ที่รั่วไหลก็จะสลายหายไปโดยไม่มีการระเบิดแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถดูดซับพลังของเทพสมุทรได้
แต่เขายังสามารถใช้มันเป็นแบตเตอรี่ได้ เขาสามารถเปิดตาสมุทรและปล่อยให้มนุษย์เงือกบางตนผ่านมาได้
นั่นอาจเป็นเพราะเทพสมุทรมองว่าซีเว่ยจะต้องกลายเป็นเทพย่อยของเธอ ไม่ว่าเขาจะผ่านการทดสอบหรือไม่ก็ตาม และนั่นหมายถึงผู้ศรัทธาของเขาจะกลายเป็นของเธอ เธอจึงไม่สามารถให้พลังของเธอระเบิดใส่ผู้ศรัทธาที่ทรงพลังเหล่านั้นที่สามารถค้นหาและได้รับแซฟไฟร์ทะเลได้
ยิ่งไปกว่านั้นตาสมุทรก็ไม่ใช่เทเลพอร์ตทั่วไป ซึ่งหมายความว่าพลังที่ใช้ในการเทเลพอร์ต จะคงที่ไม่ว่าจะเป็นการเทเลพอร์ตทาสมนุษย์เงือก หรือผู้นํามนุษย์เงือกก็ตาม
หากพลังงานเทพเจ้า 1 แต้มเป็นค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายมนุษย์เงือกหนึ่งตน แซฟไฟร์ทะเลทั้ง 7 มีพลังอยู่ประมาณ 980,000 แต้ม…คุณภาพและปริมาณที่มันมีเหนือกว่าพลังงานเทพ เจ้าของซีเวียด้วยซ้ํา
เมื่อเขาคิดว่าเทพสมุทรสามารถทิ้งพลังงานเทพเจ้ามากมายขนาดนี้เพื่อทดสอบเขา ซีเว่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
แต่โชคดีที่เขาไม่ได้คิดอะไรโง่ ๆ แบบเดียวกับเทพเจ้ากระดูกเน่าที่ยังคงอยู่ในเครื่องปั่น
ตราบใดที่เขายังปล่อยให้มนุษย์เงือกบางตัวผ่านมาอย่างต่อเนื่อง และเรียกผู้เล่นมาฟาร์มปลาและสังเวยมันให้เขา นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะเปลี่ยนพลังงานเทพเจ้าของเทพสมุทรให้เป็นพลังงานของเขาได้อย่างรวดเร็วหรือ!
“ฉันจะปล่อยมนุษย์เงือกวันละ 100 ตัว และฉันจะอยู่ได้ 9,800 วันด้วยพลังงานเทพเจ้าใน แซฟไฟร์ทะเล นั่นเท่ากับ 20 ปี..ไม่สิ โลกนี้มี 320 วันต่อปี หมายความว่ามันจะใช้งานได้ถึง 30
ถ้าซีเว่ยมีดวงตา ดวงตาของเขาอาจกลายเป็นรูปดอลลาร์ในตอนนี้ “โอ้ววววววววว!”
30 ปีอาจเท่ากับการสะบัดนิ้วของเทพเจ้าที่มีชีวิตอยู่เกือบชั่วนิรันดร์ แต่ซีเว่ยเชื่อมั่นว่า ถ้าเขาสามารถแขวนอยู่บนขอบของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไม่ตายในอีก 30 ปี เขาจะไม่มีทางแพ้เทพเจ้าองค์ใด
ตามคํากล่าวเก่า ๆ ที่ว่ากันว่า: 30 ปีในเหอตงและ 30 ปีในเหอซี อย่ารังแกลูกบอลเรืองแสงเพียงเพราะว่ามันดูอ่อนแอ
“เวลา 30 ปี การขึ้นสู่ตําแหน่งเทพบิดรจากเทพที่อ่อนแอเป็นเพียงเป้าหมายเล็ก ๆ เท่านั้น! ฉันไม่เชื่อว่าเทพสมุทรจะยังสามารถกลั่นแกล้งฉันได้อีกในตอนนั้น! ถ้าเธอทําได้จริงๆ ฉันจะอ่านชื่อตัวเองกลับหลัง!”
แต่อนาคตที่สดใสยังมาไม่ถึง นั่นคือเหตุผลที่ซีเว่ยต้องซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาต่อไป เพื่อทําให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว การปีนต้นไม้แห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในโลกนี้นั้นไร้ประโยชน์ เพราะสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ที่มีอํานาจทางฟิสิกส์หรือเคมีอาจมีอาการท้องผูกชั่วขณะ และเทคโนโลยีที่สะสมมาตลอดหลายทศวรรษก็จะถูกยกเลิก นั่นหมายความว่าพลังงานเทพเจ้านั้นน่าเชื่อถือกว่า
“พูดไปแล้ว การเคลื่อนไหวของผู้เล่นช้าไปหน่อยรึเปล่า นี่ก็ผ่านมา 2 วันแล้ว ทําไม เกาะมนุษย์เงือกถึงยังไม่ถูกกวาดล้างอีก ฉันควรเทคาปูชิโนให้ทุกคนคนละแก้ว แล้วปล่อยให้พวกเขาโต้รุ่งกันดีไหมเนี่ย” ซีเว่ยพึมพําอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่เปิดใช้งานดวงตาเทพเจ้าเพื่อมองไปที่ดินแดนด้านล่าง “ฉันทําเวอร์ชั่นใหม่เสร็จแล้ว รีบหน่อย”