ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 35
ลีอาเฝ้าดูศพของคาร์โลค่อย ๆ จางหายไปในอากาศราวกับควัน
ศัตรูทั้งหมดที่ผู้เล่นฆ่า จะถูกสังเวยให้เทพเจ้าแห่งเกม มันเป็นกฎที่มาพร้อมกับพรของระบบ
ความจริงซีเว่ยซึ่งเฝ้าดูทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น สามารถเลือกที่จะไม่รับศพของคาร์โลและปล่อยให้ลีอาฝังอดีตอาจารย์ของเธอได้ แต่เขาก็ไม่ทำ
หากเขาเริ่มให้เกียรติเหล่าสาวกในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ทุกครั้ง พวกเขาก็จะชินกับมัน แม้ว่าพวกเขาจะขอบคุณความมีเมตตาของเขาในช่วงแรก แต่เมื่อพวกเขาถูกละเลยในอนาคต มันจะก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่สาวก และอาจหนักถึงขั้นที่พวกเขาหันหลังให้กับศาสนจักรของเขา
ดังนั้นเทพเจ้าจะต้องรักษาระยะห่างจากสาวก หากพวกเขาใกล้ชิดกันมากเกินไป สาวกก็จะสูญเสียความเคารพที่พวกเขามีต่อเทพเจ้า
“ฝ่าบาท…” บอริสมองไปที่กระดูกสีดำชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ในจุดที่ศพของคาร์โลหายไป จากนั้นทัศนคติของเขาที่มีต่อลีอาก็มีความเคารพมากขึ้น
แม้ว่าลีอาจะเข้าร่วมการต่อสู้กับสัตว์ร้ายและสัตว์ประหลาดกับพวกเขาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และเธอก็มีพลังมากพอที่จะระเบิดพลังรับ EXP ในอัตราส่วนที่มากที่สุดในปาร์ตี้ไป แต่ในสายตาของเขา เธอก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์
แต่ตอนนี้บอริสได้ค้นพบแล้วว่า ลีอามีพลังมากจนแม้แต่คาร์โล บุคคลที่อยู่ยงคงกระพันในสายตาเขา ยังพ่ายแพ้ให้กับเธอได้อย่างง่ายดาย
เธอคู่ควรกับคลาส ‘เจ้าหญิงนักรบ’ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเทพเจ้าแห่งเกมโดยตรง เธอแตกต่างกับทหารธรรมดาทั่วไปเช่นพวกเขา…
ลีอาหายจากอาการซึมเศร้าแล้ว
ในความเป็นจริง แม้แต่ลีอาเองก็ไม่นึกมาก่อนเลยว่าความสามารถของเธอจะเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้หลังจากได้รับระบบ เนื่องจากเธอไม่เคยต่อสู้กับคนด้วยกันมาก่อน และระบบเองก็มีคำศัพท์ที่คลุมเครือมากในคำอธิบายทักษะ เธอจึงไม่รู้เลยว่ามันทรงพลังมากเมื่อเทียบกับทักษะดาบที่เธอเคยเรียนมา
เมื่อคาร์โลพบเธอ เธอก็เตรียมใจที่จะตายไว้แล้วเช่นเดียวกับบอริส แต่เมื่อเธอเริ่มสู้ เธอก็พบว่าพลังของทักษะจากระบบนั้นเหนือความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง แม้แต่คาร์โลก็ไม่สามารถป้องกันมันได้ เขาพ่ายแพ้หลังจากที่เธอโจมตีไปเพียงไม่กี่ครั้ง!
ถึงคาร์โลเองจะถูกเธอจัดการเพราะเขาไม่เข้าใจในทักษะของเธอ แต่ลีอาก็รู้ว่าเธอจะไม่แพ้ แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวอย่างยุติธรรมก็ตาม!
สิ่งนี้ทำให้เด็กสาวรู้สึกประชดประชันอยู่ในใจ
หากคาร์โลยังคงศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมและยึดมั่นในศรัทธานานกว่านี้อีกสักหน่อย เขาก็จะได้รับพลังที่มากมายเกินกว่าพรของเทพชั่วร้าย และหนทางแห่งการแก้แค้นของเขาก็จะไม่มีผู้ใดสามารถหยุดเขาได้ น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถรอได้อีกเพียง 2-3 วันหลังจากที่อดกลั้นมาได้นานขนาดนั้น เขาได้เข้าร่วมกับเทพเจ้ากระดูกเน่า และหันหลังให้กับเทพเจ้าแห่งเกม จากนั้น สุดท้ายเขาก็ต้องมาจบลงแบบนี้
มันช่างน่าเศร้า
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หน้าอกของลีอารู้ก็สึกร้อนรุ่ม ด้วยพลังของระบบ เธออาจสามารถกู้คืนฐานลับของเธอในแลงคาสเตอร์ได้
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ปฏิเสธมันทันที แม้ทักษะดาบของเธอจะน่าเกรงขาม แต่เธอก็ยังคงเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มีพลังเหนือธรรมชาติและสามารถถูกฆ่าได้อย่างง่ายดาย ท้ายที่สุดลัทธิกระดูกเน่าจะต้องมีตัวตนที่ทรงพลังอยู่ในหมู่พวกเขาแน่ ซึ่งนั่นหมายความว่าทักษะระดับต่ำ จะไม่มีประสิทธิภาพพอในการต่อสู้กับพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าลัทธิกระดูกเน่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเธอ แต่พวกเขาก็มีจำนวนมากกว่ากลุ่มของเธอที่มีกันอยู่เพียง 6 คน ด้วยจำนวน MP และ HP ที่จำกัด พวกเธอจึงไม่อาจทำลายลัทธินี้จนสิ้นซากได้
ดังนั้นตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการไปยังเมืองเริ่มต้นตามเควสที่เธอได้รับ ซึ่งที่นั่น พวกเขาจะสามารถสรรหาผู้เล่นมาช่วยเหลือพวกเขาได้ เมื่อจำนวนคนเพียงพอ พวกเขาก็จะกลับไปที่แลงคาสเตอร์และทำลายลัทธิกระดูกเน่าจนไม่เหลือซากในทีเดียว!
“รอทุกคนมารวมตัวกันก่อน” ลีอาเก็บดาบเข้าไปในฝัก ผมสีบลอนด์สว่างของเธอขยับไหวเมื่อเธอพูดออกมาเสียงดังว่า “เราจะเดินทางต่อไปยังหุบเขาแห่งความตาย”
“ตามพระประสงค์ของท่าน ฝ่าบาท!” บอริสคุกเข่าลงข้างหนึ่งขณะตอบ เขาชื่นชมในความสง่างามของเจ้าหญิงจากใจ เธอค่อย ๆ คล้ายกับอดีตกษัตริย์ของพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
☆
เมื่อลีอาและปาร์ตี้ของเธอเอาชนะพวกสะกดรอยและเดินหน้าต่อไปยังเมืองเริ่มต้น ผู้เล่นในเมืองเริ่มต้นก็ไม่ได้อยู่เฉย
หลังจากที่เอลีน่าและคนอื่น ๆ ฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็รีบเพิ่มค่าชื่อเสียงให้เพียงพอ เพื่อที่จะซื้อคบเพลิงชำระล้างไมแอชม่าและตั้งปาร์ตี้ใหม่ โดยครั้งนี้มีหัวหน้าทีมผู้คุ้มกันกองคาราวานมาร่วมด้วยอีกคน เป็น 6 คน และมุ่งหน้าไปยังหุบเขาแห่งความตายอีกครั้ง
ขอบคุณประสบการณ์จากการสำรวจครั้งล่าสุด การเดินทางของพวกเขาในครั้งนี้ราบรื่นขึ้นมาก ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ในคบเพลิง มันก็ได้ไล่พวกเรเวแนนท์ระดับต่ำให้อยู่ห่าง ๆ และพวกเรเวแนนท์ระดับสูงรอบนอกหุบเขาก็เป็นศัตรูที่ดี มันไม่น่ากลัวเกินไป และพวกเขาทั้ง 6 ก็สามารถรับมือกับพวกมันได้
ถึงกระนั้นเควสการสำรวจก็ใช้เวลานาน เมื่อเหลือเพียงคบเพลิงอันสุดท้าย ในที่สุดทีมสำรวจหุบเขาแห่งความตายก็ได้มาถึงระดับ 1% ที่ต้องการ จากนั้นข้อความที่พวกเขารอคอยมานานก็โผล่ขึ้นมา
“มันบอกว่าเราต้องปักคบเพลิงอันสุดท้ายลงที่พื้น”
เอ็ดเวิร์ดที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ทำตามคำอธิบายในเควส
เสี้ยววินาทีที่ปักคบเพลิงลงไปบนดิน เปลวไฟขนาดเท่ากำปั้นเหนือคบเพลิงก็ระเบิดออกทันที มันเผาผลาญแท่งคบเพลิงจนหมด ก่อนที่จะลอยขึ้นไปในอากาศและก่อตัวเป็นเสาเพลิงขนาดใหญ่!
คนทั้งตี้กระโดดถอยห่างออกไปอย่างตกใจ
อย่างไรก็ตามไฟไม่ได้ขยายตัว มันหดตัวลงและกลายเป็นกองไฟ เมื่อเอลีน่าและคนอื่น ๆ มองไปที่กองไฟ พวกเขาก็เห็นดาบยาวเป็นเกลียวประหลาดเสียบอยู่ตรงกลาง
“นี่อะไรน่ะ ดาบนี่เป็นรางวัลเควสรึเปล่า” ด้วยความยินดีที่ได้เห็นรางวัล มาร์นี่จึงเข้าไปดึงดาบ แต่ทว่า ร่างกายของเขากลับถูกเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมาแผดเผาและหายไปทันทีที่สัมผัสกองไฟ!
“!!!”
คนอื่น ๆ ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหัน
“ข้าชุบชีวิตเขาไม่ได้…ลุงมาร์นี่ตายแบบไม่มีศพเหลือเลย” เอลีน่าพยายามร่ายเวทย์ชุบชีวิตไปยังกองไฟ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ต้องพูดว่าตาย ‘อีกแล้ว‘ ต่างหาก” มุมปากของโกวต้านกระตุก “เสียค่า EXP ไป 30%…ข้ารู้สึกว่าความพยายามของลุงมาร์นี่ในดันเจี้ยนครั้งนี้สูญเปล่าจริง ๆ”
“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องเศร้า แต่ทำไมข้าถึงอยากจะหัวเราะ…” โจเกาแก้มอย่างทำตัวไม่ถูก
“เขาจะฟื้นขึ้นมาในอีก 3 วัน พวกเราไม่จำเป็นต้องไว้ทุกข์ให้เขาหรอก” หัวหน้าผู้คุ้มกัน สมาชิกใหม่ในปาร์ตี้แนะนำอย่างใจเย็น
“ไม่ พวกเจ้าผิดแล้ว ดูเหมือนว่าลุงมาร์นี่จะยังไม่ตาย ดูรายชื่อในปาร์ตี้สิ”
เอ็ดเวิร์ดลองยื่นมือเข้าไปทางกองไฟ แต่เขาไม่ได้สัมผัสกองไฟ ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจ “ข้าเข้าใจแล้ว…กองไฟคือสิ่งที่เทพเจ้าของเราสร้างขึ้น มันจะส่งเรากลับไปยังไลฟ์สโตน! และครั้งต่อไปที่เราต้องการสำรวจหุบเขาแห่งความตาย เราก็สามารถเริ่มสำรวจต่อจากที่นี่ได้ทันที!”
——————————————————————–