ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 55
แจ้งเปลี่ยนชื่อจาก ‘อุลการ์ด’ เป็น ‘เออร์กัต’
———————————
“ข้างนอกเงียบไปแล้ว ดูเหมือนว่าผู้ศรัทธาของเราได้กำจัดแมลงเหล่านั้นไปเรียบร้อยแล้ว” ซัคคาร่าพูดขึ้นมาหลังจากไม่ได้ยินเสียงใด ๆ จากด้านนอก
“มนุษย์พวกนั้นมีความสามารถแปลก ๆ แต่พวกมันกลับอ่อนแอเกินไป พวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ศรัทธาของเราตั้งแต่แรก” เออร์กัตยอมรับในเรื่องนี้ “เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ ข้ารู้สึกไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนนี้ไปทำสิ่งที่ข้าบอกให้เจ้าทำก่อนที่คริสตจักรใหญ่ ๆ เหล่านั้นจะตรวจพบสิ่งผิดปกติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำพิธีภายใต้จมูกของพวกมัน”
“ตามที่ท่านต้องการ นายท่านผู้เป็นเลิศ” ซัคคาร่าตอบด้วยความเคารพ
“โอ้ซัคคาร่า ข้าเข้าใจความไม่สบายใจของเจ้า แต่สิ่งที่เราพยายามทำมาจนถึงจุดนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์” เออร์กัตยิ้มปลอบใจ แต่รอยยิ้มของเขาดูแย่มากเมื่อมันปรากฏขึ้นมาใบหน้าแห้ง ๆ ของเขา “เมื่อเรามีหัวใจและเลือดของทารกนับ 100 คนแล้ว เราก็จะไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป! วันหนึ่งกระดูกเน่าจะเดินบนพื้นโลก”
ขณะที่อาร์คบิชอปกำลังจะกล่าวสุนทรพจน์อย่างเต็มรูปแบบ ประตูโบสถ์ก็ถูกระเบิดอีกครั้ง เบ้าตาที่เรืองแสงแปลก ๆ ของเขากวาดมองไปทางจุดระเบิด
“เมื่อกี้เจ้าพูดว่า ‘หัวใจและเลือดของทารกนับ 100’ ใช่ไหม เจ้ากล้ายื่นมือสกปรก ๆ ของเจ้าไปยังทารกผู้อ่อนแองั้นรึ! สำหรับวายร้ายอย่างเจ้า จพต้องโดยข้าฟันในนามของ…อ๊าก!”
มาร์นี่ที่กำลังโพสท่าสุดเจ๋งก่อนที่เขาจะได้พูดจบ หัวใจของเขาก็ถูกเจาะด้วยลำแสงสีดำและร่างของเขาก็สลายหายไปในที่สุด
“เดี๋ยวก่อน แท็งค์ของเราไม่ได้เปิดใช้งานทักษะยั่วยุอยู่เหรอ? ทำไมบอสถึงโจมตีมาร์นี่ก่อน?”
“ใครจะรู้ เขาอาจมีออร่าดึงดูดความสนใจของบอสได้แบบ 100% ก็เป็นได้”
ผู้เล่นคุยกันอย่างสนุกสนาน และเริ่มโจมตีศัตรูที่เหลืออยู่อีก 2 คนในที่โบสถ์กระดูกเน่า
เออร์กัตเหลือบมองไปยังผู้เล่น เมื่อเขาพบว่ามีผู้เล่นเพียง 20 คนเท่านั้น เขาก็รู้สึกโล่งใจ
“เจ้ากล้าท้าทายเราด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้ ช่างโง่เขลานัก!”
ในขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็ยกแขนที่เหลือแต่กระดูกของเขาขึ้นเพื่อบัฟให้กับซัคคาร่าห์ ความจริงซัคคาร่าห์อ่อนแอที่สุดในบรรดาบิชอปชุดดำทั้ง 3 คน เขามีหน้าที่เป็นนักยุทธศาสตร์ ที่มุ่งเน้นไปยังงานเบื้องหลังแทนการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งกว่าผู้ศรัทธาระดับสูงเพียงเล็กน้อย
แต่ผู้เล่นที่เตรียมตัวมาอย่างดี จะปล่อยให้อาร์คบิชอปทำเช่นนั้นได้ยังไง
วอร์ริเออร์ผู้หนึ่งได้เร่งความเร็วเข้าหาเออร์กัต เขาโยนอาวุธของเขาที่ดูเหมือนมีดปอกผลไม้สีส้มขนาดใหญ่ทิ้ง แล้วคว้าตัวอาร์คบิชอปโยนกลับหลังด้วยท่าซูเพล็กซ์!
ถ้าเออร์กัตเป็นนักบุญ นักบุญฝึกหัด หรือพระสันตะปาปา เขาจะสามารถมีภูมิคุ้มกันต่อกฎของทักษะ
น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงอาร์คบิชอป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบหนีผลของทักษะได้และโดนเหวี่ยงเอาหัวปักพื้นทันที
ทักษะนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับเขามากนัก แต่เสื้อคลุมหรูหราที่ดูเหมือนสุ่มไก่ของขุนนางหญิงที่เขาสวมอยู่นั้น ก็ได้พลิกลงมาเผยให้เห็นขาผอม ๆ เหมือนตะเกียบของเขาชี้โด่เด่อยู่บนฟ้า
สิ่งนี้ทำให้บอสที่เดิมทีมีศักดิ์ศรี กลายเป็นตัวตลก…
“แกกล้าดียังไง…” อาร์คบิชอปที่เป็นอิสระจากการจับยึดของผู้เล่นสูญเสียความเยือกเย็นที่มีไปแล้ว เขาตัวสั่นด้วยความอัปยศอดสู ขณะที่เขายิงดัชนีมรณะใส่ผู้เล่น
“ตาย!”
อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของเขาก็เป็นไปตามความคาดหมายผู้เล่น ยกเว้นมาร์นี่ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาและพึ่งมาถึงทางเข้า ผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่างก็กลิ้งหลบการโจมตีนี้ได้ง่าย ๆ
มาร์นี่ที่โดนดัชนีมรณะซัดเข้าไปอีกครั้งกรีดร้องและหายตัวไป ในขณะที่เขาคร่ำครวญว่า ‘นี่ข้ารับบัฟมาเพื่ออะไร!’
เมื่อได้ยินเสียกรีดร้องโหยหวนของมาร์นี่ ความโกรธของเออร์กัตก็สงบลงเล็กน้อย
เขาพบว่าผู้เล่นพยายามขัดขวางไม่ให้เขาร่ายคาถาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับซัคคาร่า
ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะต้องดับความหวังของพวกมัน!
“ซัคคาร่ามานี่ ข้าจะ…”
เออร์กัตพูดแล้วหันไปหาซัคคาร่า…
ผลก็คือเขาเห็นซัคคาร่าถูกผู้เล่นจับทุ่มไปอีกคน เสื้อคลุมของเขาพลิกคว่ำเนื่องจากแรงโน้มถ่วง เผยให้เห็นขาตะเกียบของซัคคาร่าที่คล้ายกับเออร์กัต ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือซัคคาร่ายังคงมีขนขาเหลืออยู่ และมันกำลังพลิ้วไหวไปกับสายลม…
สิ่งนี้ทำให้เออร์กัตนึกถึงฉากอัปยศที่เขาพึ่งประสบ เขาสูญเสียความคิดไปอีกครั้ง
“ข้าขอสาปส่งเจ้า เจ้าพวกหนอนโสโครก!!!”
เขาโบกไม้เท้าไปรอบ ๆ และเริ่มไล่ล่าผู้เล่นที่ยั่วยุเขา
เขาดูเหมือนโครงกระดูกที่ใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธ ผู้คนจึงมักจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นนักเวทย์ที่มีร่างกายอ่อนแอ แต่ความจริงแล้วเนื่องจากร่างกายของเขาได้รับการดัดแปลงด้วยพลังงานกระดูกเน่า ความแข็งแกร่งและความเร็วของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าที่ตาเห็นมาก เขาไล่ล่าวอร์ริเออร์ที่กำลังหนีและต้อนพวกมันเข้าจนมุม
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายอย่างมีความสุข!”
เมื่อเห็นว่าศัตรูถูกต้อนจนมุม เขาก็ส่งเงาสีดำที่มีรูปร่างเหมือนหนอนจำนวนนับไม่ถ้วน ใส่เข้าไปในร่างกายของผู้เล่นด้วยสีหน้าอำมหิต
“จงลิ้มรสคำสาปหนอนพิษของข้าซะ! หนอนน้อยเหล่านี้จะกัดกินอวัยวะภายใน เลือด และกระดูกของเจ้าอย่างช้า ๆ มันจะทำให้เจ้าเจ็บปวดทรมาน และคันคะเยอไปทั้งตัว เจ้าจะรู้สึกแย่ยิ่งกว่าตาย…ร่างกายของเจาจะกลายเป็นรังหนอน! สมองของเจ้าจะถูกกัดกิน เจ้าจะต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดอันไร้สิ้นสุดไปจนกว่าเจ้าจะตาย! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ในตอนท้าย เขาหัวเราะอย่างชั่วร้ายเหมือนตัวละครจากหนังสยองขวัญ
ทำให้ผู้เล่นที่กำลังขมวดคิ้วเพราะโดนคำสาปหนอนเข้าไป โล่งใจขึ้นเยอะ
“งั้นข้าก็แค่ต้องตายก่อนสินะ”
พูดจบ เขาก็หยิบมีดสั้นที่เขาพกติดตัวมา เสียบเข้ากลางอกตัวเอง จากนั้นร่างของเขาก็สลายกลายเป็นจุดแสงและหายไป
เออร์กัต “…?”
ผู้เล่นคนอื่น “…”
หลังจากทุกคนถูกแช่แข็งด้วยความเงียบไปชั่วขณะ เอ็ดเวิร์ดก็ยืนขึ้นและตะโกนออกมาว่า “เจ้ากล้าฆ่าเพื่อนของเราด้วยวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร! พี่น้องของข้า เจ้านี่ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก เราจะปล่อยมันไว้ไม่ได้ วันนี้เราจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน และฆ่ามันให้จงได้!”
เออร์กัตรู้สึกเหมือนกำลังกินแมลงวันเข้าไปเต็มปาก
‘ข้าไม่ได้ฆ่าเขา ทำไมเจ้าถึงพูดมั่ว ๆ เช่นนั้น!’
‘เขาฆ่าตัวตายชัด ๆ…’
—————————————————————————————————————————————————–