ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 72
การสร้างเมืองไร้ชื่อกำลังดำเนินการไปในทิศทางที่ดี แม้ว่าคะแนนประสิทธิภาพที่แองโกร่ามีนั้นจะค่อนข้างจำกัด ก็เลยไม่มีสิ่งปลูกสร้างของระบบมากนักในเมือง แต่นี่ก็ไม่ใช่โลกเกมจริง ๆ มีผู้ศรัทธาจำนวนมากในหมู่ผู้ลี้ภัย พวกเขาเคยเป็นช่างฝีมือสมัยที่โรวีเนียยังไม่ถูกทำลาย
หลังจากชีวิตของพวกเขาสงบลง ผู้ศรัทธาหลายคนก็เลือกวิถีชีวิตเดิมของพวกเขา พวกเขาช่วยชาวเมืองก่อสร้างอาคารและสร้างเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมไปถึงการประดิษฐ์สิ่งของที่มีประโยชน์ หากมีใครมาที่นี่ในตอนนี้ ความประทับใจแรกของพวกเขาก็คงคิดว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพราะใบหน้าของชาวเมืองทุกคนเต็มไปด้วยความหวัง และเมืองก็เจริญรุ่งเรือง
โรงเหล้ากาต้มน้ำเหล็ก เป็นอาคารหนึ่งที่สร้างขึ้นโดยผู้เล่น
มันต่างจากร้านอาหารของระบบที่ใจกลางเมือง แม้ว่าอาหารที่เสิร์ฟในโรงเหล้ากาต้มน้ำเหล็กจะไม่มีบัฟ และราคาเบียร์ก็สูงกว่าร้านอาหารของระบบเล็กน้อย แต่ก็มีอาหารรสชาติดีมากมาย ความจริงคือเจ้าขอโรงเหล้ากาต้มน้ำเหล็กเป็นเชฟชื่อดังในอดีตของโรวีเนีย สเต็กของเขาที่หมักด้วยซอสสูตรลับ ชุ่มฉ่ำและอร่อยมาก มันเป็นอาหารจานเด่นของเขา เนื่องจากมันยอดเยี่ยมเมื่อทานคู่กับขนมปังและเบียร์ ทำให้มันสามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากให้กลายเป็นลูกค้าประจำ และเป็นที่นิยมมากกว่าร้านอาหารของระบบ
“วันนี้เจ้าได้ท้าทายห้องใต้ดินของผีดิบรึยัง? ผลเป็นยังไงบ้าง”
เจ้าของโรงเหล้าที่มีชื่อสีขาวลอยอยู่บนหัวว่า ไอรอน•เคททึล เช็ดแก้วไม้ด้วยผ้า เขาทักทายลูกค้าประจำที่เดินเข้ามาในร้าน
“เฮ้อ อย่าพูดถึงมันเลย” ผู้เล่นถอนหายใจแล้วพูดว่า “คราวนี้เราวิ่งไปเจอมุขนายกชุดดำทันทีที่เข้าไปในดันเจี้ยน หลังจากสู้อยู่นาน ทั้งปาร์ตี้ก็ตายกันหมด นอกจากจะไม่ได้รับของรางวัลอะไรแล้ว เรายังเสียค่าประสบการณ์ไปอีก 10%!”
หลังจากตายในดันเจี้ยน ผู้เล่นจะฟื้นขึ้นมาทันทีที่ไลฟ์สโตน และถูกหักค่าประสบการณ์ 10% อย่างที่บอก 10% นั้นค่อนข้างมากสำหรับผู้เล่นเลเวลสูง
“พวกเจ้าถือว่าไม่เลวแล้ว!” ผู้เล่นอีกคนที่กำลังก้มหน้ากินอย่างเมามัน เงยหน้าขึ้นมาพูดทั้ง ๆ ที่อาหารเต็มปาก “พวกข้าโชคร้ายกว่าเจ้าอีก! เราเดินทางอย่างราบรื่นไปถึงห้องบอส แล้วระหว่างทางเราก็ยังได้รับไอเทมระดับสูงมา แต่ลองเดาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น? เมื่อเราเริ่มสู้กับบอส อัครมุขนายกกระดูกเน่าก็กระโดดออกมาและใช้เวทย์ AoE ระดมยิงใส่เรา ก่อนที่เราจะทันได้ตอบสนอง เราก็ถูกฆ่ายกตี้!”
ผู้เล่นคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่ได้ยินเรื่องนี้รู้สึกสงสารผู้เล่นคนนี้ทันที มีเพียงบางคนที่หัวเราะเยาะในความโชคร้ายของเขา
ตอนนี้เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนคนเข้าดันเจี้ยน จึงไม่มีทางที่ผู้เล่นเพียง 6 คนจะเอาชนะอัครมุขนายกกระดูกเน่าได้ ขนาดเอลีน่าที่เป็นนักบุญหญิงฝึกหัดและเจ้าหญิงนักรบลีอา ก็ยังแทบเอาชนะเขาไม่ได้
มันก็เป็นเช่นเดียวกับผลลัพธ์ที่ผู้เล่นเจอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมุขนายกชุดดำ มีเพียงผู้เล่นชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ ในขณะที่ผู้เล่นทั่วไปจะต้องพ่ายแพ้เมื่อพบกับพวกเขา
จริงอยู่ ว่ารางวัลที่ปาร์ตี้จะได้รับจากการเอาชนะมุขนายกชุดดำนั้นค่อนข้างร่ำรวย ด้วยการรับประกันการดรอปไอเทมระดับอีลิท ผู้เล่นจึงมีการคาดเดากันว่า รางวัลสำหรับการเอาชนะอัครมุขนายกกระดูกเน่าจะต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน บางทีมันอาจจะเป็นไอเทมระดับตำนาน แต่ปัญหาก็คือมันยากเกินไป! ในตอนนี้อัครมุขนายกกระดูกเน่ายังคงไร้พ่าย
ดันเจี้ยนนี้ซีเว่ยได้สร้างห้องขึ้นมา 36 ห้อง นั่นหมายความว่ามีโอกาส 1 ใน 18 ที่ผู้เล่นจะได้พบกับศัตรูทั้งสองนี้ ไม่รู้ว่าซีเว่ยตั้งค่าผิดหรือเพราะผู้เล่นโชคร้ายเกินไป ผู้เล่นจึงได้พบ 2 ห้องนี้สูงกว่าปกติ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีผู้เล่นหลายกลุ่ม เสียใจกับการที่ต้องตายมาโผล่ที่ไลฟ์สโตนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
สิ่งนี้ทำให้ความต้องการของผู้เล่นที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนลดลงอย่างมาก และหลายคนก็เริ่มกลับไปใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิม พวกเขาเคลียร์งานประจำวันและเข้าสำรวจหุบเขาแห่งความตาย
“จริง ๆ มันก็ไม่เป็นไรหรอก ปัญหาคือปาร์ตี้ของข้าโชคร้ายเอง” ผู้เล่นที่กำลังเคี้ยวสเต็กราดน้ำผึ้งก็เข้าร่วมบทสนทนาด้วย “เพื่อนคนหนึ่งของข้ามีบางอย่างจะต้องไปทำที่แลงคาสเตอร์ ดังนั้นข้าเลยต้องหาผู้เล่นอื่นมาแทนที่เขาในปาร์ตี้ พวกเขาเป็นชายอ้วนคนหนึ่งและชายผอมอีกคนหนึ่ง ตอนที่เรากำลังเคลียร์ดันเจี้ยน คนตัวผอมก็เอาแต่เล่าเรื่องตลก แล้วคนตัวอ้วนก็เอาแต่หัวเราะไม่หยุด เขาหัวเราะและหัวเราะ ทำให้ตอนที่เราไปถึงห้องบอสไอ้บ้า 2 คนนั้นก็ใช้ทักษะยั่วยุศัตรูไม่ทันเวลา ศัตรูเลยโจมตีใส่ผู้เล่นที่อยู่แนวหลัง” เขาปรบมือเข้าหากันและวาดมือออกจากกันกว้าง ๆ “และเราทุกคนก็ตาย!”
“เฮ้ เจ้าเรียกใครว่าบ้า!” ชายร่างอ้วนลุกขึ้นยืนที่มุมโรงแรม
“ใช่! ข้าก็แค่อยากเล่าเรื่องตลกให้ปาร์ตี้ของเราผ่อนคลาย! เจ้ามันห่วยเอง จะมาโทษพวกเราได้ยังไง” ชายร่างผอมอีกคนลุกขึ้นมาตะโกนข้าง ๆ ชายร่างอ้วน
“พวกเจ้านั่นแหละ แม่งโคตรห่วยแตก!” ผู้เล่นที่มีคราบน้ำผึ้งเปื้อนอยู่รอบปากตะโกนสวนขึ้นมา เขาไม่คิดที่จะเช็ดปากในเวลานี้ เขาตะโกนด่าคู่หูอ้วนผอมว่า “ข้ากำลังสรรเสริญเจ้าว่าพวกเจ้ามันโคตรห่วย!”
“ไอ้เวร! เจ้าจะรู้อะไร?! พี่น้องข้าเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งมาก แม้แต่ท่านลอร์ดเฟาสต์ยังขอให้เขาทำเควสลับสุดยอด! ใช่ไหมซิลวา” ผู้เล่นตัวอ้วนถามคนข้าง ๆ
“ใช่ พี่เทรรอสเช่!” ผู้เล่นที่ถูกเรียกว่าซิลวาตอบด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“ถุ้ย! เควสสืบหาชุมนุมลับดวงตาอะไรนั่นน่ะเหรอ? ไม่เห็นจะมีใครรู้เรื่องนี้เลย มีแค่พวกเจ้าเท่านั้นแหละที่พูดว่ามันเป็นเควสลับ! ข้าพนันได้เลยว่าพวกเจ้าสองคนกำลังโม้!” ผู้เล่นที่มีคราบน้ำผึ้งอยู่รอบปากหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม “ข้าไม่น่าเชื่อเรื่องโกหกของเจ้าและให้พวกเจ้าเข้าร่วมปาร์ตี้เลย!”
บรรยากาศในโรงเหล้าค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น
แม้แต่ไอรอน•เคททึลก็หยุดเช็ดแก้ว เขาจ้องมองไปยังผู้เล่น 3 คนที่กำลังทะเลาะกันในโรงเหล้าของเขา โรงเหล้านี้ไม่ได้เป็นของระบบ ดังนั้นคะแนนชื่อเสียงของพวกเขาจะไม่ลดลงแม้ว่าพวกเขาจะเริ่มต่อสู้กันที่นี่ก็ตาม และที่แย่ไปกว่านั้นคือ โต๊ะและเก้าอี้เหล่านี้ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เองเหมือนของระบบ เขาต้องให้ช่างไม้ซ่อมมัน…
ขณะที่ผู้เล่นทั้ง 3 คนกำลังจะดวลกัน ก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นที่ด้านนอกโรงเหล้า
ผู้เล่น 2-3 คนวิ่งเข้ามาในโรงเหล้าและซื้ออาหารมากมายจากเจ้าของโรงเหล้าอย่างเร่งรีบ “เอาอาหารแห้ง 10 รสมาให้ข้า ข้าจะไปทำสงคราม!”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เจ้าของโรงเหล้าถามอย่างงุนงง
“กิจกรรมใหม่ ดูเหมือนจะเป็นเควสเกี่ยวกับชุมนุมลับดวงตา!”
“พวกเจ้าสามารถรับเควสได้ที่ลูกพี่วีลา!”
“เควสใหม่ชื่อ [ผู้พิทักษ์มนุษย์กบ-ดับไฟแห่งสงคราม]!”
“โอ้ววว!”
ผู้เล่นที่รีบเข้ามาในโรงเหล้าทุกคนเริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
ไอรอน•เคททึลชะงักไปพักหนึ่ง เขาเริ่มหยิบอาหารแห้งทั้งหมดที่มีออกมาและแจกจ่ายให้กับผู้เล่น ก่อนที่เขาจะหยิบขวานเหล็กของตัวเองออกมาจากใต้เคาน์เตอร์ “พวกเจ้ารออะไรล่ะ! ไปทำเควสกัน!”
ตะโกนเสร็จ ไอรอน•เคททึลก็ออกจากโรงเหล้าไปพร้อมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ แม้แต่ผู้เล่นที่ยังกินอาหารอยู่ในโรงเหล้าก็รีบกินจนเสร็จและรีบไปเข้าร่วมสงคราม
กลุ่มเดียวที่ยังเหลืออยู่คือผู้เล่น 3 คนที่อยู่ระหว่างการต่อสู้ พวกเขามองไปรอบ ๆ โรงเหล้าที่ว่างเปล่าด้วยความสับสน ผู้เล่นที่มีคราบน้ำผึ้งเปื้อนอยู่รอบปากจ้องไปที่ทั้งคู่ด้วยความสงสัย
งั้น…แสดงว่าเควสลับของชุมนุมลับดวงตาก็เรื่องจริงนะสิ?