ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] - ตอนที่ 180-1 ช่วยชีวิต
ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] – ตอนที่ 180-1 ช่วยชีวิต
เสี่ยวเอ๋อร์ไม่ขยับ
น้ำตาของจางลี่ไหลออกมา พยายามใช้แรงยกมือค่อยๆ ตบร่างกายของเสี่ยวเอ๋อร์เบาๆ กล่อมด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเอ๋อร์เจ้าไม่เชื่อฟังอีกแล้วใช่หรือไม่ แม่จะโกรธแล้วนะ เสี่ยวเอ๋อร์เด็กดี ดื่มยาลงไป รีบๆ ดีขึ้นมา แม่ยังต้องการให้เจ้าปกป้องอยู่นะ”
ชิงหลวนและจูหลีหันหลังไป
เมิ่งเชี่ยนโยวกัดฟันไม่พูดอะไร จ้องมองไปที่เสี่ยวเอ๋อร์
ไม่นาน ริมฝีปากของเสี่ยวเอ๋อร์ก็ขยับเล็กน้อย แม้ว่าจะเห็นไม่ชัด แต่เมิ่งเชี่ยนโยวก็เห็น รีบยื่นช้อนยาไปข้างปากแชวเอ๋อร์อย่างดีใจ ค่อยๆ กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือและอ่อนโยนว่า “ใช่ เสี่ยวเอ๋อร์ อย่างนี้แหละ อ้าปาก ดื่มยาหมดแล้วก็จะดีขึ้นและมาปกป้องแม่ของเจ้าได้แล้ว”
ชิงหลวนและจูหลีหันหลังกลับมา เดินเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกัน มองเสี่ยวเอ๋อร์อย่างเหลือเชื่อ
จางลี่ก็ก็ตาค้าง หยุดหายใจ จ้องริมฝีปากของเสี่ยวเอ๋อร์อย่างรอคอย
ภายใต้สายตาแห่งความหวังของทุกคน เสี่ยวเอ๋อร์ที่หลับตาปิดสนิทค่อยๆ อ้าปากออก
ชิงหลวนและจูหลีดีใจจนเกือบกระโดดขึ้นมา
จางลี่ก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เอาหัวเข้าใกล้หัวของเสี่ยวเอ๋อร์อย่างลำบาก พึมพำว่า “เสี่ยวเอ๋อร์ แม่รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นเด็กดี เชื่อฟัง”
เมิ่งเชี่ยนโยวมือสั่น นำยาที่อยู่ในช้อนป้อนเข้าไปในปากของเสี่ยวเอ๋อร์
หลังจากเสี่ยวเอ๋อร์กลืนลงไปแล้ว ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เมิ่งเชี่ยนโยวตาแดงแล้วยิ้มกล่าวออกมาว่า “เสี่ยวเอ๋อร์เด็กดี หลังจากดื่มยาเสร็จแล้ว ป้าจะทำน้ำหวานให้เจ้าดื่ม”
พูดจบ เงยหน้าสั่งชิงหลวน “ไปทำน้ำหวานมา”
ชิงหลวนรีบวิ่งออกไปอย่างดีใจ
เสี่ยวเอ๋อร์เหมือนได้ยินคำพูดของเมิ่งเชี่ยนโยว คิ้วก็ไม่ขมวดแล้วอ้าปากกว้างมากขึ้น
เมิ่งเชี่ยนโยงค่อยๆ ป้อนยาจนหมด ชิงหลวนก็ยกน้ำหวานเข้ามา นำถ้วยเปล่าให้จูหลี แล้วรับน้ำหวานมา เมิ่งเชี่ยนโยวตักน้ำหวานขึ้นมาคำเล็กๆ ป้อนเข้าไปในปากของเสี่ยวเอ๋อร์
เสี่ยวเอ๋อร์กลืนลงไป เหมือนว่ารู้สึกถึงความหวาน ใบหน้าก็แสดงรอยยิ้มอ่อนแรงออกมา
ป้อนน้ำหวานเสร็จแล้ว นำถ้วยเปล่าให้ชิงหลวน แล้วช่วยเสี่ยวเอ๋อร์เช็ดยาและน้ำหวานที่ติดอยู่มุมปากก่อน แล้วค่อยช่วยจางลี่เช็คน้ำตาที่อยู่หางตา ยิ้มกล่าวว่า “ลี่เอ๋อร์ พี่โยวเอ๋อร์รับประกันกับเจ้า เสี่ยวเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้เจ้าวางใจได้แล้วใช่หรือไม่”
จางลี่เงยหน้าขึ้นมองนาง แสดงรอยยิ้มกว้างออกมา พยักหน้า กล่าวเสียงเบาๆ ว่า “ขอบคุณพี่โยวเอ๋อร์”
เมิ่งเชี่ยนโยวช่วยสองแม่ลูกจัดผ้าห่ม ตำหนินางว่า “ขอบคุณอะไร ยังจะเกรงใจอย่างนี้กับพี่อีก”
แม้โดนตำหนิ จางลี่ก็ยังคงยิ้มอย่างมีความสุข
“หลับตาลง นอนหลับพักผ่อนดีๆ หลังจากเจ้าตื่นขึ้นมา เสี่ยวเอ๋อร์ก็ตื่นแล้ว”
จางลี่พยักหน้า หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง ขยับหัวใกล้หัวของเสี่ยวเอ๋อร์ แล้วค่อยๆ หลับไป
เมิ่งเชี่ยนโยวห่มผ้าห่มให้พวกเขาสองแม่ลูกอย่างใส่ใจ ค่อยๆ ลงจากเตียงคั่ง ใส่รองเท้า นำชิงหลวนและจูหลีเดินออกจากห้อง
ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงแล้ คืนสุดท้ายของปีนี้มาถึงแล้ว
เมิ่งเชี่ยนโยวเงยหน้ามองท้องฟ้าไกล ค่อยๆ สงบอารมณ์ของนลง ผ่านไปสักพักจึงสั่งว่า “ชิงหลวน ไปบอกคุณชายรอง พวกเขาสองแม่ลูกไม่เป็นอะไรแล้ว”
ชิงหลวนรับคำสั่ง เดินออกไป
“จูหลี เจ้าไปแจ้งข่าวกับคนงานของคุณชายเชี่ย ให้เขารีบกลับไปบอกข่าวทันที”
จูหลีรับคำสั่ง ก็เดินออกไป
“พวกเจ้าทั้งหลาย” เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวกับสาวใช้ที่เฝ้าว่า “ทุกคนได้เงินคนล่ะสิบตำลึง เดี๋ยวสักครู่ข้าให้พี่รองแจกจ่ายให้พวกเจ้า”
สาวใช้ทุกคนกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ
“จำไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านสองสามวันนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด หากใครหลุดออกไป จะถูกขายออกไปทันที” เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
รอยยิ้มดีใจของสาวใช้ทุกคนยังไม่ทันหายไป ก็เกิดความสั่นกลัวพร้อมกัน แล้วรีบรับคำสั่งกัน
“ดูแลนายหญิงจูและคุณชายเล็กให้ดี ข้าออกไปสักพัก” เมิ่งเชี่ยนโยวสั่ง
สาวใช้ทุกคนรับคำสั่งด้วยความเคารพ
เมิ่งเชี่ยนโยวก้าวขาเดินออกไป ออกจากเรือน มาถึงนอกประตู ก้าวเร็วขึ้น เดินไปทางภูเขา เดินยิ่งเร็ว สุดท้ายก็วิ่งขึ้นมา เสียงลมจากทิศเหนือค่อยๆ ผ่านข้างหูไป แต่เมิ่งเชี่ยนโยวกลับรู้สึกว่าไฟโมโหและความกังวลในใจไม่ระบายออกมาสักที ก็เลยวิ่งเร็วขึ้นอีก วิ่งไปทางบนภูเขา
ชิงหลวนและจูหลีส่งข่าวกลับมา เดินเข้าห้องอย่างดีใจ แต่ไม่เห็นร่างของเมิ่งเชี่ยนโยว ตกใจ รีบหันหลังเดินออกจากห้อง รีบกล่าวถามสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง “เจ้านายล่ะ”
“นายหญิงบอกว่าออกไปสักครู่ พวกข้าก็ไม่รู้ว่านางไปไหน” สาวใช้คนหนึ่งกล่าวตอบ
ทั้งสองสบตากัน รีบเดินออกจากเรือนพร้อมกัน หาทั่วทุกที่ ก็ไม่เห็นร่างของเมิ่งเชี่ยนโยว
เมิ่งเชี่ยนโยววิ่งไปบนภูเขาไกลสุด จึงหยุดฝีเท้าลง ตะโกนใส่ภูเขาที่มืดๆ และพื้นที่โล่งๆ ราวกับว่าจะระบายความรู้สึกในใจออกมาให้หมด
วันสิ้นปี อากาศหนาวเย็น ทุกจวนต่างอยู่ร่วมกัน กินเกี๊ยวด้วยกันด้วยความยินดี แม้ว่าเมิ่งเชี่ยนโยวจะตะโกนเสียงดังออกมา และมีเสียงสะท้อนกลับมามากมายจากภูเขาที่เงียบสงบ แต่ก็ไม่รบกวนผู้ใด
เมิ่งเชี่ยนโยวใช้แรงทั้งหมดที่มี ตะโกนออกมา จนรู้สึกว่าอารมณ์ในใจพวกนั้นหายไปหมดแล้ว สบายใจขึ้น จึงจะหยุดลง
ชิงหลวนและจูหลีทั้งสองหาทั่วเรือนแล้วหนึ่งรอบ หาเมิ่งเชี่ยนโยวไม่เจอ ในใจร้อนรน ออกไปนอกประตูพร้อมกัน รู้สึกได้ยินเสียงมาจากภูเขาที่อยู่ไกล ทั้งสองสบตากัน รีบแสดงวิชาตัวเบาออกมาแล้วมุ่งหน้าไป เดินไปถึงครึ่งทาง ก็เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเดินก้าวกลับมาอย่างมั่นคง ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกันอเดินไปข้างหน้า เดินไปอยู่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของนาง
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่อธิบาย ทั้งสองก็ไม่กล่าวถาม ทั้งสามเดินกลับบ้านอย่างเงียบๆ
เมิ่งฉีฟังคำรายงานของชิงหลวนแล้ว ในใจก็โล่งอก ตระกูลจูได้รับผลกระทบก็มาจากครอบครัวของตัวเอง จางลี่สองแม่ลูกจึงเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ถ้าพวกเขาช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ อย่าว่าแต่โยวเอ๋อร์เลย ครอบครัวเขาก็คงไม่สบายใจไปตลอดชีวิต ยังดี ยังดี สองแม่ลูกคู่นี้ไม่เป็นอะไร อยากจะถามเมิ่งเชี่ยนโยวว่ายังมีเรื่องอะไรต้องกำชับอีกหรือไม่ จึงมาถึงในเรือนฝั่งนี้ แต่สาวใช้กลับกล่าวว่าเมิ่งเชี่ยนโยวออกไปแล้ว
เมิ่งฉีสงสัยในใจ ก็หันหลังออกจากเรือนเพื่อไปหานาง
เมิ่งเชี่ยนโยวทั้งสามกลับมา เห็นเมิ่งฉีกำลังหานางไปทั่วพอดี ยิ้มกล่าวทักทายว่า “พี่รอง”
เห็นใบหน้าของนางยิ้มออกมาจนได้ เมิ่งฉีถึงรู้ว่าจางลี่สองแม่ลูกคงไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ก็อารมณ์ดีขึ้นมา กล่าวถามว่า “ออกไปทำไม มีเรื่องอะไรสั่งคนไปทำก็ได้”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มกล่าวตอบว่า “ไม่มีเรื่องอะไรเจ้าค่ะ ลี่เอ๋อร์สองแม่ลูกหลับแล้ว ข้ากลัวว่าจะรบกวนพวกเขา จึงออกมาเดินเล่น”
เมิ่งฉีไม่คิดอะไรมาก กล่าวว่า “ซ้อรองของเจ้าพาเซิ่งเอ๋อร์ไปอยู่กับท่านแม่ ในห้องไม่มีคน หากเจ้าเหนื่อย ก็ไปพักผ่อนที่ห้องของพี่รองก่อน”
เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหัว “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ข้าไม่เหนื่อย พวกเราไปกินเกี๊ยวที่จวนท่านแม่กันเถิด”
เมิ่งฉีพยักหน้า “ดี เกรงว่าท่านแม่จะรอนานแล้ว พวกเราไปกันตอนนี้เลยเถิด”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพูดสั่งชิงหลวนและจูหลี “พวกเจ้าสองคนอยู่ที่นี่ก่อน ดูแลลี่เอ๋อร์และเสี่ยวเอ๋อร์ ข้ากับพี่รองกินเกี๊ยวเสร็จแล้วจะกลับมาเปลี่ยนกับพวกเจ้า”
ทั้งสองรับคำสั่ง เข้าไปในเรือน
เมิ่งฉีและเมิ่งเชี่ยนโยวกลับไปที่จวนของเมิ่งซื่อด้วยกัน
ปีนี้ก็เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา หลี่ต้าฉุยสองสามีภรรยาและครอบครัวเหวินเปียว รวมถึงองครักษ์ลับทั้งหมด บวกกับพี่น้องในสำนักคุ้มภัยทั้งหลาย อยู่กินเกี๊ยวร่วมกันด้วยความสนุกสนาน ไฟสว่างในเรือนใหญ่ เต็มไปด้วยเสียงแห่งความดีใจ
พอเมิ่งฉีและเมิ่งเชี่ยนโยวเดินเข้าไปในเรือน ก็ถูกองครักษ์ลับที่สายตาว่องไวมองเห็นทันที ทักทายด้วยความเคารพว่า “เจ้านาย ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ”
เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพยักหน้า
ทุกคนที่อยู่ในเรือนก็เห็นพวกเขา ล้วนทักทายด้วยความสุขความปลื้มปิติยินดี เมิ่งฉีและเมิ่งเชี่ยนโยวต่างรับด้วยรอยยิ้ม
เมิ่งเสียนและซุนเชี่ยนได้ยินเสียงของคนในเรือน รีบเดินออกมาจากห้อง เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสอง ก็รู้ได้เลยว่าลี่เอ๋อร์สองแม่ลูกรอดแล้ว ใจที่กังวลก็ค่อยๆ คลายลง ซุนเชี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้ากลับมาพอดี เกี๊ยวเพิ่งจะห่อเสร็จ เดี๋ยวก็กินได้แล้ว”
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง เมิ่งซื่อและครอบครัวหลีต้าฉุย รวมทั้งครอบครัวเหวินเปียวซานโยวหลีที่พาเหวินเหลียนมาด้วย ยังมีหวังเหยียนที่อุ้มเซิ่งเอ๋อร์อยู่กันทั้งหมด
เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามา เมิ่งซื่อแสดงสีหน้าดีใจออกมา อ้าปาก อยากจะถามอะไรออกมา นึกขึ้นได้ว่าในห้องมีคนอยู่เยอะ จึงกลืนคำพูดลงไป