ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] - ตอนที่ 227 สังหารสิ้น
ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] – ตอนที่ 227 สังหารสิ้น
ชิงหลวนและจูหลีตกใจร้องออกมาเสียงดังพร้อมกัน
ทั้งสองคนกระโดดเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ชิงหลวนพยุงเมิ่งเชี่ยนโยว ส่วนจูหลีกันอยู่ด้านหน้าของพวกนาง
ในใจของกัวเฟยกับเหวินเปียวยิ่งกระวนกระวาย อยากจะใช้กระบวนท่าที่รุนแรงเพื่อกดดันให้คนที่ล้อมโจมตีตัวเองถอยห่างออกไป จะได้มาช่วยพวกเมิ่งเชี่ยนโยว เสียดาย ต่อสู้ไปครึ่งค่อนวัน พละกำลังของทั้งสองก็เสียสูญไปเกือบหมด ไม่อาจที่จะทำได้ดั่งใจ
เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำให้เมิ่งเชี่ยนโยวบาดเจ็บได้เช่นนี้ เฮ่อเหลี่ยนรู้สึกสะใจอย่างมาก หัวเราะขึ้นฟ้าแล้วร้องตะโกนเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง “ฆ่านาง! ฆ่านาง!”
เมิ่งเชี่ยนโยวค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยการพยุงของชิงหลวน ใช้มือเช็ดเลือดสดๆ ที่มุมริมฝีปาก เผยรอยยิ้มที่เฉยชา “อยากจะเอาชีวิตข้า ก็ต้องลองดูว่าพวกเจ้ามีปัญญาหรือไม่”
การโจมตีของหัวหน้าคนชุดดำครั้งนี้ออกเต็มกำลังเพื่อที่จะเผด็จศึกล้มเมิ่งเชี่ยนโยวได้ในคราเดียว แต่นึกไม่ถึงว่านางจะสามารถหลบได้ และได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จึงสำรวมท่าทีที่ดูถูก แล้วหัวหน้าคนชุดดำก็กระโดดลอยตัวมุ่งเข้าไปโจมตีสามคนนั้นโดยไม่ลังเล
จูหลีต้านไว้ด้านหน้าสุด แกว่งกระบี่ในมือตั้งรับ หัวหน้าชุดดำหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย แล้วโบกมือไปด้านหลัง “พวกเจ้าจัดการแล้วกัน!”
คนสวมชุดดำด้านหลังรับคำ รุดเข้ามา
แต่จูหลีถอยออกไปอย่างรวดเร็ว กลับไปข้างกายของเมิ่งเชี่ยนโยวกับชิงหลวนทั้งคู่
ทุกคนกดดันเข้ามา ชิงหลวนถือกระบี่และป้องกันอยู่ด้านหน้าเมิ่งเชี่ยนโยวพร้อมกับจูหลี
ทั้งคู่ถูกฝึกให้เป็นองค์รักษ์ลับแต่เด็ก บวกกับมีกำลังภายใน คนชุดดำพวกนี้ก็หมดหนทางล้มพวกเขาไปชั่วขณะหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าสาวใช้ตัวน้อยๆ ทั้งคู่จะจัดการยากเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน หัวหน้าคนชุดดำขมวดคิ้ว ลอยเท้าขึ้นด้วยกำลังภายใน และตะโกนขึ้นเสียงดัง “หลีกไป!”
คนชุดดำถอยหลังออกอย่างรวดเร็ว
ลมฝ่ามือของหัวหน้าคนชุดดำกระแทกเข้าใส่ชิงหลวนและจูหลีจนร่างกายโซเซไป แล้วกระอักเลือดสดๆ ออกมาในเวลาเดียวกัน
เมิ่งเชี่ยนโยวกลับกระโดดขึ้นไปโดยไร้ซึ่งความกลัว บุกเข้าโจมตีหัวหน้าคนชุดดำอย่างสงบเยือกเย็น แต่ละกระบวนท่าดุเดือดและว่องไว และเล็งที่จุดตาย หัวหน้าคนชุดดำไม่ได้เตรียมป้องกันจึงถูกนางดันถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีกำลังภายใน เสียเปรียบคู่ต่อสู้ที่ฝีมือขั้นสูงอย่างมาก เมิ่งเชี่ยนโยวจึงทำได้เพียงใช้ความได้เปรียบของร่างกายที่คล่องแคล่ว เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองไม่หยุด โจมตีหัวหน้าคนชุดดำจากหลายทิศทาง
ตอนที่มองดูการต่อสู้อยู่ในดงป่าตั้งนานนั้น หัวหน้าคนชุดดำก็มองออกว่ากระบวนท่าของเมิ่งเชี่ยนโยวแม้ว่าจะโบราณพิลึก แต่นางไม่มีกำลังภายใน ถ้าหากมาปะทะกับเขาที่มีกำลังภายในชั้นสูงและลึกซึ้งเช่นนี้ ต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อได้ลงมาต่อสู้ด้วยตัวเองแล้ว เขาถึงจะรู้ว่า ต่อให้ไม่มีกำลังภายใน นังเด็กสาวตัวน้อยนี้ก็แข็งแกร่งกว่าลูกน้องชุดดำของเขาพวกนี้อยู่มากโข
หัวหน้าคนชุดดำไม่ล่อกแล่กแล้ว ตั้งรับอย่างสงบ
และคนชุดดำคนอื่นมุ่งไปล้อมโจมตีชิงหลวนและจูหลีทั้งสองคน
สถานการณ์มาถึงเวลาคับขันแล้ว ถ้าหากยังจัดการพวกคนชุดดำนี้ไม่ได้ ตัวเองก็ไม่อาจหาทางปกป้องนายหญิงได้ ในแต่ละครั้งชิงหลวนกับจูหลีจึงกวัดแกว่งกระบี่พุ่งเข้าใส่ที่จุดตายอย่างเดียว
ทั้งสามคนเพิ่งจะโจมตีอย่างฮึกเหิมได้ชั่วครู่ กำลังกายก็สูญเสียไปมาก และผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม การเคลื่อนไหวของเมิ่งเชี่ยนโยวช้าลงเล็กน้อย
หัวหน้าคนชุดดำถูกนางรบเร้าประชิดตัวตลอด หาโอกาสปล่อยกำลังภายในไม่ได้ เวลานี้เหลือบเห็นโอกาส ในมือคว้ากระบี่ที่ไม่รู้เอาออกมาแต่เมื่อใด แทงเข้าไปยังจุดตายของเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
เมิ่งเชี่ยนโยวหลบทันเพียงแค่ออกจากจุดตาย เสียงดังขึ้น ฉึก กระบี่แทงเข้าที่กลางอกของนาง เลือดสดสีแดงเข้มทะลักออกมา
“นายหญิง!”
ชิงหลวนและจูหลีร้องเสียงหลงดังออกมาอีกครั้ง
กัวเฟยที่กำลังต่อสู้อย่างร้อนใจได้ยินเสียงร้องตะโกนของพวกนาง ในใจก็กังวล ทันทีที่จะปลีกตัวออกมา แขนซ้ายทั้งท่อนก็ถูกคนชุดดำฟันขาดตกลงบนพื้น
กัวเฟยพ่นลมทางจมูก ร่างกายกะโผลกกะเผลก ดาบของคนชุดดำอีกคนแกว่งมาที่คอของเขา เหวินเปียวรีบสะบัดดาบไปเพื่อช่วยเขากันการโจมตีจากคนชุดดำ และถามด้วยความเป็นห่วงอย่างรีบร้อน “ยังต้านไหวอยู่หรือไม่”
ภายในเวลาที่ประมาทไปชั่วครู่ ดาบของคนชุดดำอีกคนก็มาถึงตรงหน้าของเขา
เหวินเปียวได้สติกลับมา เอี้ยวกายไปด้านหลัง และหลบออกได้ในพริบตา พร้อมปักดาบที่อยู่บนมืออีกเล่มลงบนพื้นเพื่อประคองตัว
กลับมีดาบอีกเล่มที่อยู่ด้านข้างโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว ฟันผ่านส่วนขาของเขาโดยตรง
ร่างกายของเหวินเปียวเอนไปด้านหลัง ไม่เห็นดาบเล่มนั้นแม้แต่น้อย กัวเฟยกลับกลั้นความเจ็บปวดแล้วร้องตะโกนเสียงดัง “ระวัง!” พร้อมกับเขวี้ยงมีดสั้นที่แหลมคมในมือออกไป
เพล้ง! เสียงสองดาบปะทะกัน กลับเพียงแต่ป้องกันได้เล็กน้อย ดาบของคนชุดดำยังคงฟันโดนน่องของเหวินเปียว แม้ว่าจะฟันไม่ขาด แต่ก็บาดเจ็บไปถึงกระดูกและกล้ามเนื้อ ขาของเหวินเปียวอ่อนลง คุกเข่าลงไปกับพื้นโดยพลัน ในชั่วขณะนั้นก็กลายเป็นลูกแกะที่รอให้คนเชือดได้ทันที
คนชุดดำทั้งสองคนเริงรมย์อย่างยิ่ง ดาบบนมือก็กวัดแกว่งจากมือไปพร้อมๆ กัน มุ่งมาที่เหวินเปียวอย่างต่อเนื่อง
เหวินเปียวยกดาบใหญ่ในมือขึ้น ต้านทานเอาไว้สุดชีวิต
กัวเฟยโซเซร่างกายที่ไม่สมดุล หยิบดาบยาวเล่มหนึ่งบนพื้นอย่างรวดเร็ว และใช้พละกำลังกายทั้งหมดที่มีช่วยเขาต้านดาบของคนชุดดำ
คนชุดดำไม่นึกว่าทั้งสองคนบาดเจ็ดขนาดนี้แล้ว ยังจะเคลื่อนไหวได้อย่างน่าตกใจถึงเพียงนี้ หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง ในใจก็เกิดความนับถือขึ้น แต่ความปรารถนาที่อยากจะสังหารก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเช่นกัน คนเช่นนี้ยิ่งปล่อยเอาไว้ไม่ได้
หลังจากที่หัวหน้าคนชุดดำแทงเข้าที่ทรวงอกของเมิ่งเชี่ยนโยวแล้ว ดึงมือออกมา เลือดสดๆ ก็ทะลักพุ่งตามออกมา
ชิงหลวนและจูหลีตาแดง ตีดันให้คนชุดดำที่ล้อมตัวเองถอยออกไปโดยไม่คิดชีวิต แล้วร่างกายพุ่งกระโจนกลับไปที่ข้างกายเมิ่งเชี่ยนโยว
เมิ่งเชี่ยนโยวบาดเจ็บจนเหงื่อไหลพลัก พลันสติเลือนลางไปชั่วขณะหนึ่ง ปิดปาก แล้วกัดปลายลิ้นตัวเองจนแทบขาด เพื่อบังคับให้ตัวเองได้สติกลับมา
จูหลีถือกระบี่อยู่ด้านนอก ขณะที่ชิงหลวนแกะกระเป๋าผ้าที่อยู่บนตัวอย่างลนลาน แล้วนำยาห้ามเลือดราดบนหน้าอกของเมิ่งเชี่ยนโยว สุดท้ายก็ฉีกเสื้อผ้าตัวเองออกชิ้นหนึ่งแล้วพันให้นางอย่างลวกๆ
หัวหน้าคนชุดดำเอ่ยปาก “เจ้าเด็กน้อย เพียงแค่เจ้ารับความตายแต่โดยดี ข้ารับรองว่าจะปล่อยลูกน้องของเจ้า”
แม้ว่าจะทำให้เมิ่งเชี่ยนโยวบาดเจ็บได้ แต่คนของตัวเองก็สูญเสียไปไม่น้อย จากท่าทางที่สู้สุดชีวิตของพวกเขา แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะจัดการคนพวกนี้ได้ทั้งหมด ลูกน้องของตัวเองอาจจะเหลือเพียงไม่กี่คน ต้องรู้เสียว่า คนพวกนี้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมในกำมือเขา คนชุดดำเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก เวลานี้จึงพูดหลอกล่อ
เมิ่งเชี่ยนโยวลุกขึ้นยืนตัวตรงอย่างช้าๆ ใบหน้าแสยะยิ้มออกมา น้ำเสียงนิ่งสงบ ไม่มีความครั่นคร้ามและความกังวลใดๆ “พวกเขาเป็นลูกน้องของข้า ย่อมต้องร่วมเป็นร่วมตายกับข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องแสร้งทำใจดีหรอก เก็บเด็กน้อยของเจ้าพวกนี้ไปเถิด”
เมื่อถูกล่วงรู้ความคิดในใจ ใบหน้าชราของหัวหน้าคนชุดดำก็แดงก่ำไปชั่วขณะ จากความอับอายกลายเป็นความโกรธ และพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าได้มากล่าวหาว่าข้ามิได้เกรงใจอีกเลย”
พูดจบ โบกมือ นำฝูงคนล้อมเข้ามา
จูหลีแกว่งกระบี่เข้าปะทะ ชิงหลวนต้านอยู่ด้านหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว
หัวหน้าคนชุดดำพ่นลมออกมาด้วยความเหยียดหยาม กระบวนท่าที่ดุเดือดเพียงท่าเดียวทำให้จูหลีลอยออกไป ไม่รอให้ร่างของนางตกลงถึงพื้น คนชุดดำที่อยู่ด้านหลังสองคนก็กระโดดตามมา ดาบยาวบนมือก็แทงเข้าไปในร่างของจูหลี
กระบี่ร่วงหล่นลง ร่างกายของจูหลีเหมือนกับตุ๊กตาผ้าที่ยับเยิน ตกลงพื้นอย่างแรง
ชิงหลวนกับจูหลีโตมาในค่ายฝึกองครักษ์ด้วยกัน และอยู่ข้างกายเมิ่งเชี่ยนโยวด้วยกันเป็นเวลานานเช่นนี้ ก็ได้กลายเป็นพี่น้องที่รู้ใจกันตั้งนานแล้ว เห็นนางเช่นนี้ ก็ตะโกนร้องแทบจะขาดใจ “จูหลี!” แต่กลับไม่ได้วิ่งมา และคุ้มกันอยู่ข้างเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างแนบชิด
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ จูหลีก็ไม่ได้หมดสติและตายไป แต่ออกแรงข่มตัวเองให้ลุกขึ้นมา เดินไปหาสองคนนั้นอย่างโซซัดโซเซ
นางได้รับบาดเจ็บสาหัสมากแล้ว แม้จะไม่ตายก็ไม่เหลือกำลังที่จะทำให้กลัว หัวหน้าคนชุดดำไม่ได้สนใจนางอีก ปล่อยให้นางเดินกระโผลกกระเผลกมาถึงข้างกายของเมิ่งเชี่ยนโยวกับชิงหลวน
มือของชิงหลวนถือกระบี่ จับจ้องที่คนชุดดำ
เมิ่งเชี่ยนโยวคว้าจูหลีพยุงไว้
ระยะห่างเท่านี้ เกือบจะทำให้แรงทั้งหมดของจูหลีใช้ไปจนหมด ฝืนเผยรอยยิ้มออกมา พูด “นายหญิง ดูเหมือนว่าข้าต้องไปก่อนก้าวหนึ่งเสียแล้วล่ะเจ้าค่ะ”
เมิ่งเชี่ยนโยวจัดผมที่ปรกบนหน้าผากให้นาง เม้มปากพูด “ไปช้าหน่อย รอข้าประเดี๋ยว ข้าจะตามไปเป็นเพื่อนเจ้า”
จูหลีพยักหน้ายิ้มให้ ร่างกายก็ชาจนไร้เรี่ยวแรงไปหมด
เมิ่งเชี่ยนโยวพยุงให้นางนั่งลงกับพื้น แล้ววางยาห้ามเลือดบนมือของนาง พร้อมกับฉีกกระโปรงตัวเองออกเป็นหลายเส้น สองเส้นส่งให้นาง อีกสองเส้นคือหลังจากที่ลุกตัวยืนขึ้น ก็พันแน่นที่อกตัวเอง และพูด “ชิงหลวน เร็วเข้าหน่อย พวกเราไม่อาจปล่อยให้จูหลีเดินทางไปคนเดียว”
ชิงหลวนขอบตาแดงไปหมด เข้าใจความหมายของเมิ่งเชี่ยนโยว กลับไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย ยังคงต้านทานอยู่ข้างกายทั้งสองคน “นายหญิง อดทนอีกประเดี๋ยว ไม่แน่ว่าคนและม้าของพวกเราก็จะมาถึงแล้ว”
คำพูดนี้ประหนึ่งเตือนหัวหน้าคนชุดดำ ขณะนั้นจึงไม่ลังเลอีก ทุกคนล้อมบุกเข้ามาโจมตีทั้งสามคนอีกครั้ง
พลังที่แข็งแกร่งของกัวเฟยกับเหวินเปียวได้ถดถอยลงแล้ว นอกจากแขนและขา ร่างกายก็มีรอยแผลจากดาบนับไม่ถ้วน ทั่วทั้งร่างมีเลือดไหลออกมา แต่ทั้งสองคนยังคงไม่ได้หยุดมือ และไม่กล้าที่จะหยุดมือ ในสมองมีเพียงความคิดเดียว ฆ่าคนพวกนี้ให้สิ้นซาก ต้องสู้เพื่อให้นายหญิงมีชีวิตรอด
แผลบนตัวของทั้งสองคนยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะกลายเป็นมนุษย์เลือด มองไม่เห็นสภาพเดิมตั้งนานแล้ว แต่พวกเขากลับปะทะกับคนชุดดำหลายคนโดยไร้ซึ่งความหวั่นไหว พวกเขาเคยฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน กลับไม่เคยเห็นว่ามีคนที่บาดเจ็บถึงขั้นนี้แล้วยังจะยืนหยัดไม่ล้มลงได้อีก
เฮ่อเหลี่ยนกับเหวินเอ้อร์มองทุกเหตุการณ์ทั้งหมดกับตาตัวเอง เวลาเดียวกันก็เงยหน้าหัวเราะอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ตะโกนเอะอะอย่างพอใจ “เมิ่งเชี่ยนโยว ไม่นึกว่าเจ้าก็จะมีวันนี้ด้วยเหมือนกัน!”
หัวหน้าคนชุดดำนำคนชุดดำที่เหลือเร่งการโจมตี ชิงหลวนกับเมิ่งเชี่ยนโยวยืนคู่กันอยู่ด้านหน้าจูหลีเพื่อคุ้มกันนาง
เมิ่งเชี่ยนโยวได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่ควรค่าที่จะเกรงกลัว หัวหน้าคนชุดดำจึงออกกระบวนที่ท่ารุนแรงใส่ชิงหลวน
ชิงหลวนฝีมือไม่ดีพอจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา เมื่อปะทะไปห้าหกกระบวนท่าแล้ว ก็ถูกดาบแทงเข้าที่หัวไหล่ ทว่า ไม่มีแม้แต่เสียงร้อง กระบี่ในมือของชิงหลวนยังคงมุ่งแทงไปที่เขา
หัวหน้าคนชุดดำถอยหลังออก พร้อมกับชักดาบตัวเองเข้ามา
เมิ่งเชี่ยนโยวเห็นโอกาสนี้ จึงทำร่างกายให้มั่นคง แล้วพลิกตัวอย่างปราดไวครั้งหนึ่งไปถึงจุดที่เขาจะลงพื้น กริชในมือที่แหลมคมราวกับเหล็กที่ฟันดินก็แกว่งตามออกไป
หัวหน้าคนชุดดำแม้ฝันก็ไม่อาจคาดคิดได้ว่าเมิ่งเชี่ยนโยวที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ยังจะมีร่างกายที่คล่องแคล่วได้เพียงนี้ ท่ามกลางความตกใจยิ่ง อยากจะหลบหนีก็ไม่ทันแล้ว น่องขาโดนฟัน ความรู้สึกเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาโดยฉับพลัน
และการโจมตีครั้งนี้ของเมิ่งเชี่ยนโยวก็ใช้แรงทั้งหมดของกาย แม้อยากจะยืนก็ยืนไม่ขึ้นอีกแล้ว
ระหว่างที่หัวหน้าคนชุดดำได้รับบาดเจ็บสาหัสนี้ ดาบยาวในมือก็แทงไปที่เมิ่งเชี่ยนโยวเช่นกัน
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่ได้มีแรงที่จะหลบอีกแล้ว มองดูดาบยาวแทงเข้าที่ทรวงอกของตัวเองต่อหน้าต่อตา
ชิงหลวนกระโดดลอยตัวมาอุ้มเมิ่งเชี่ยนโยวไว้ กลับหนีไม่ทัน ดาบของหัวหน้าคนชุดดำก็แทงเข้าสู่ร่างกายของนางจากด้านหลัง
ร่างกายของชิงหลวนเจ็บปวดจนด้านชา แต่ไม่ได้ลังเลใดๆ กอดเมิ่งเชี่ยนโยวไว้และล้มกลิ้งไปหลายตลบ จนกลิ้งไปถึงข้างหน้าของจูหลี
ฝักดาบหักลง ดาบแทงลึกเข้าไปในเนื้อหนังของนาง ชิงหลวนกระอักเลือดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ร่างกายกลับปกป้องร่างของเมิ่งเชี่ยนโยวอย่างหนาแน่น
จูหลีใช้แรงทั้งหมดของยันกายยืนขึ้น กันอยู่ด้านหน้าของทั้งสองอย่างโซซัดโซเซ
คนชุดดำทั้งหมดล้วนตกใจจนรู้สึกสะเทือนกันหมด เบิกตาโต จนลืมลงมือ ได้แต่ตัวแข็งทื่อมองทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้า
เฮ่อเหลี่ยนกับเหวินเอ้อร์ก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อ อ้าปากค้าง มองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
มีเสียงม้าวิ่งดังมาจากที่ไกลๆ เหวินเอ้อร์ก็ได้สติคืนมาคนแรก แล้วตะโกนอย่างตกใจ “กำลังเสริมของพวกมันมาถึงแล้ว เร็วเข้า ฆ่าพวกนาง แล้วพวกเราถอย”
คนชุดดำก็ได้สติกลับคืนมา จึงรีบยกดาบเข้าไปแทงทั้งสามคน ทว่า มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งพุ่งจู่โจมเข้ามา ทำให้คนชุดดำทุกคนลอยออกไป ตามมาด้วยหวงฝู่อี้เซวียนที่ทั้งกายเต็มไปด้วยเลือด ก็ลอยตัวกระโดดจากหลังม้า
จูหลียืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว ล้มแผ่ลงกับพื้น และหมดสติไป
เห็นทั้งหมดที่อยู่เบื้องหน้า ในใจของหวงฝู่อี้เซวียนก็ตึงเครียด ความโกรธที่แน่นอกแผ่กระจายออก เสียงที่เย็นชาสั่งองครักษ์ลับที่ตามมาถึงติดๆ “ฆ่าให้หมด!”
องครักษ์ลับกว่าร้อยนายเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้าที่น่าสลดเช่นนั้นก็สั่นสะท้านไปเช่นกัน ความโกรธภายในทรวงอกก็พ่นออกมา เมื่อรับคำโดยพร้อมกัน ก็แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ลงมือกับพวกคนชุดดำอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ท่ามกลางเสียงร้องโอดครวญคนชุดดำถูกฆ่าล้างจนหมด
จนกระทั่งตอนตาย หัวหน้าชุดดำก็เบิกตาโต เขาไม่เข้าใจ เขาใช้ลูกน้องที่ยอดเยี่ยมของตัวเองหลายสิบนาย ในเวลายาวนานขนาดนี้ ทว่า แม้แต่คนสิบคนนี้ก็ยังฆ่าไม่ตายเลย สุดท้ายกลับเป็นตัวเองที่ต้องฝังร่างไว้ในที่แห่งนี้
เฮ่อเหลี่ยนและเหวินเอ้อร์ตกใจจนหัวหดตั้งแต่เสี้ยวเวลาที่เห็นหวงฝู่อี้เซวียนกระโดดลอยมา พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า พวกเขาใช้คนกว่าร้อยคนไปลอบสังหารเขา เขากลับไม่ตาย แล้วยังจะนำคนมาช่วยชีวิตเมิ่งเชี่ยนโยวอีก
วิทยายุทธ์ของเหวินเอ้อร์แข็งแกร่งมาก จึงตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะตกใจจนสติกระเจิง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหนีเอาชีวิตรอด จึงเอี้ยวตัวมุดเข้าไปในป่าไม้อย่างรวดเร็ว อยากจะอาศัยสภาพพื้นที่ที่คุ้นเคยหนีเอาชีวิตรอด
พวกองครักษ์ลับจะปล่อยให้เขาทำตามดั่งใจปรารถนาได้อย่างไร ไม่นานก็ตามเขาทัน และใช้กระบวนท่าไม่กี่ท่า จบชีวิตของเขาลง
เฮ่อเหลี่ยนตกใจจนมือเท้าอ่อนแรง แม้แต่แรงที่จะวิ่งหนีก็ไม่มีแล้ว หวงฝู่อี้เซวียนเดินมาตรงหน้าแล้วใช้ดาบฟันไปครั้งหนึ่งเพื่อจบชีวิตอันเดรัจฉานของเขา
หวงฝู่อี้เซวียนเดินเข้ามาที่เมิ่งเชี่ยนโยว ย่อกายลง ยื่นมืออออกไปอย่างสั่นเทา ทาบดูลมหายใจใต้จมูกของเมิ่งเชี่ยนโยว