ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] - ตอนพิเศษ (1) ตอนที่ 47 ช่วยเหลือ
หวงฝู่อี้เซวียนก้าวออกมา จับเส้นผมที่เปียกเล็กน้อยของนาง “นี่เป็นชีวิตที่ข้าอยากให้เจ้ามี”
หลายปีนี้ เมิ่งเชี่ยนโยวค่อยๆ เล่าเรื่องราวในชาติก่อนของตัวเองให้เขาฟังทีละเล็กทีละน้อย หวงฝู่อี้เซวียนปวดใจมาก จึงยิ่งดีกับนางมากขึ้น ดีจนบางครั้งตัวเมิ่งเชี่ยนโยวเองก็รับไม่ไหว
ยิ้มไม่พอใจเขาหนึ่งที เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวว่า “หากเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้วจริงๆ”
หวงฝู่อี้เซวียนโน้มตัว ก้มศีรษะ มองตรงไปที่ดวงตาของนาง “ข้าอยากให้เจ้ากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ เยี่ยงนั้นข้าจะได้เลี้ยงดูเจ้าได้”
เมิ่งเชี่ยนโยวหน้าแดง ไม่สนใจเขาอีก แกล้งทำเป็นหิวน้ำแล้วก้มศีรษะลงดื่มน้ำ
หวงฝู่อี้เซวียนยิ้มกว้าง ลุกขึ้นยืน ไปข้างนอก ทำสัญญาณมือให้เสี่ยวเอ้อร์นำอาหารมาส่งที่ห้อง
ทานอาหารเย็นเสร็จ พักผ่อนชั่วครู่ แล้วกำชับให้ทุกคนนอนพักผ่อนเช้าๆ เมิ่งเชี่ยนโยวถอดเสื้อแล้วขึ้นบนเตียง นอนลงบนอ้อมกอดของหวงฝู่อี้เซวียน ไม่นานก็หลับลึกลงไป
หวงฝู่อี้เซวียนลืมตาขึ้นมา หูตั้ง ฟังการเคลื่อนไหวของห้องข้างๆ เหมือนได้ยินเสียงพูดคุยกันเบาๆ จึงวางใจลง เก็บความคิด แล้วก็หลับลึกลงไป
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ตกใจตื่นเพราะเสียงเคาะประตูแรงๆ “เปิดประตู เปิดประตู เข้าแถวตรวจสอบ”
หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวตกใจตื่นขึ้นมา ลืมตาขึ้นมาพร้อมกัน เหตุใดเสียงนี้จึงฟังดูคุ้นเคย นั้นคือนายทหารที่มาเมื่อตอนกลางวัน ในใจเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ลุกขึ้นจากเตียง แล้วออกมาด้านนอกห้อง
แขกในโรงเตี๊ยมตกใจตื่นขึ้นมาทุกคน
เถ้าแก่ที่ได้ยินการเคลื่อนไหว สวมเสื้อคลุมแล้วรีบวิ่งมาจากลานด้านหลังทันที สั่งให้เสี่ยวเอ้อร์ดึงไม้ที่ปิดประตูออก
ประตูถูกเปิดออกจากทางด้านนอกทันที กลุ่มทหารเมื่อตอนกลางวันพุ่งเข้ามาทันที ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็พุ่งตรงขึ้นไปชั้นสองทันที
เข้าใจจุดประสงค์ของพวกเขาแล้ว สีหน้าของเถ้าแก่ก็ซีดขาวขึ้นมาทันที
หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวขยับตัว ขวางตรงด้านหน้าห้องของชายหนุ่ม
ทหารทุกคนที่ขึ้นมาใช้อาวุธชี้ตรงไปทางพวกเขา ส่วนนายทหารที่นำหน้าคะคอกด้วยความโมโหตรงๆ ว่า “หลีกไป ไม่เยี่ยงนั้นข้าจะจับกุมพวกเจ้าไปด้วย”
ทั้งสองคนไม่ขยับ
เมิ่งเชี่ยนโยวทำสัญญาณมือว่าฟังไม่เข้าใจอย่างจนใจ
ทหารที่นำหน้าจึงคิดขึ้นได้ว่าพวกเขาฟังภาษาของตัวเองไม่ออก ร้อนใจมาก จึงยื่นมือออกมา จะดึงตัวเมิ่งเชี่ยนโยว
หวงฝู่อี้เซวียนสะบัดมือเล็กน้อย ร่างกายของนายทหารที่นำหน้าไม่มั่นคง สะดุดไปด้านหลังสองก้าว
“โทวเอ๋อร์” ทหารที่อยู่ด้านหลังร้องตกใจออกมา สายตาไวมือไวดึงตัวที่เอนออกไปด้านนอกของบันไดแล้วครึ่งตัวของเขาไว้
นายทหารที่นำหน้ายืนตรงโดยที่ใจยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงตะคอกโมโหยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เจ้าคนโง่เขลา กล้าลงมือกับข้า ข้าคิดว่าพวกเจ้าน่าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว” พูดจบ โบกมือ สั่งทหารด้านหลังว่า “ไป จับตัวพวกเขา แล้วกลับไปรับรางวัล”
ทันทีที่พูดจบ ทหารทุกคนพุ่งตัวออกไปทันที จะลงมือกับทั้งสอง
“หยุดเดี๋ยวนี้” เสียงน่าเกรงขามดังขึ้นมาจากด้านนอกโรงเตี๊ยม ตามมาด้วยชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเข้ม บนเอวมีเข็มขัดสีเดียวกันที่เดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนที่ถือคบเพลิงไว้ในมือ เงยหน้าขึ้น มองเห็นเหตุการณ์ด้านหน้าอย่างชัดเจน บนใบหน้าที่ใกล้เคียงกับชายหนุ่มเล็กน้อยนั้นแสดงสีหน้าขุ่นเคืองออกมา “บอกพวกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ว่าอย่าทำร้ายคนบริสุทธิ์”
นายทหารที่นำหน้ารีบยกมือรับคำสั่งทันที “ขอรับ องค์…” คิดอะไรขึ้นได้ จึงรีบเปลี่ยนคำพูด “ขอรับ คุณชาย”
พูดจบ โบกมือ ทหารทุกคนจึงเก็บอาวุธทันที
คนที่มาค่อยๆ ขึ้นมาชั้นบน เดินมายืนตรงตรงหน้าหวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยว แสดงรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา ท่าทางจริงใจ น้ำเสียงจริงใจ “ทำให้ทั้งสองท่านต้องตกใจ ขอประทานโทษจริงๆ”
ทั้งสองคนแสดงสีหน้าที่ฟังไม่เข้าใจ ไม่พูดจา
สีหน้าของคุณชายเริ่มข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่
นายทหารที่นำหน้ารีบอธิบายทันทีว่า “คุณชาย พวกเขาไม่เข้าใจคำพูดของเรา”
สีหน้าของคุณชายจึงผ่อนลงเล็กน้อย แสดงรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง ใช้น้ำเสียงอบอุ่นกล่าวถามนายทหารที่นำหน้าว่า “มีผู้ใดพูดภาษารัฐอู่ได้หรือไม่”
นายทหารที่นำหน้ากำลังอ้าปากจะตอบ หลินหันเยียนแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องพักของตัวเอง เดินมาถึงด้านหน้าทุกคน กล่าวว่า “ข้าพูดเป็นเจ้าค่ะ”
คุณชายรีบมองพินิจพิเคราะห์นาง ยิ้มแล้วกล่าวด้วยท่าทีอบอุ่นว่า “รบกวนทุกท่านแล้ว พวกข้ามาตามหาน้องชายของข้า หลายวันก่อน เขาดื้อรั้น หนีออกจากบ้าน โชคร้ายถูกคนชั่วทำร้าย ได้ยินว่าพวกเจ้าช่วยไว้ ข้าจึงตั้งใจมารับเขากลับไป”
ในน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาของคุณชายนั้นมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก ท่าทางเป็นห่วงน้องชายมาก เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์ทุกคน แล้วก็แขกที่มีไม่มากที่มาพักในโรงเตี๊ยมต่างเชื่อในคำพูดของเขาทุกคน จึงมองไปทางหวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวพร้อมกัน หลายวันนี้พวกเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าในหกคนนี้ สองสามีภรรยาคู่นี้เป็นผู้นำ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกเขา
หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวไม่ขยับ ยังคงยืนตรงด้านหน้าห้อง หวงฝู่อี้เซวียนกล่าวถามด้วยอารมณ์ปกติ น้ำเสียงเรียบๆ ว่า “คุณชายท่านนี้ ท่านจะยืนยันได้อย่างไรว่าคนที่พวกข้าช่วยไว้นั้นเป็นน้องชายของท่าน”
ฝั่งตรงข้ามนั้นเตรียมพร้อมมากลางดึก แล้วยังมาพร้อมกับทหารเยี่ยงนี้ หากเขายังปิดบังบอกว่าไม่มีคนอีก ย่อมหลอกพวกเขาไม่ได้แน่นอน หวงฝู่อี้เซวียนจึงยอมรับตรงๆ ว่าตัวเองช่วยคนไว้ แต่หากใช้แค่เพียงคำพูดไม่กี่คำของเจ้าบอกว่านั้นเป็นน้องชายของเจ้าแล้ว พวกเขาไม่เชื่อ ความหมายของคำพูดคือให้เขานำหลักฐานออกมายืนยัน
ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยถามเยี่ยงนี้ คุณชายเริ่มขมวดคิ้ว บนใบหน้าเริ่มมีสีหน้าหงุดหงิดออกมา หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ การคาดเดาในใจได้รับการยืนยัน รู้ว่าหากวันนี้ให้คุณชายท่านนี้นำตัวชายหนุ่มไป กลัวว่ายังไม่ทันออกจากโรงเตี๊ยม ชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่มีชีวิตแล้ว
ไม่นานคุณชายก็คลายคิ้วที่ขมวดเป็นปม แสดงรอยยิ้มออกมา ชี้ไปที่หน้าของตัวเองแล้วกล่าวว่า “น้องชายของข้าเหมือนข้ามาก”
“บนโลกนี้มีผู้คนมากมายที่มีใบหน้าคล้ายกัน หรือว่าพวกเขาก็เป็นพี่น้องแท้ๆ เหมือนกัน” เมิ่งเชี่ยนโยวถามกลับไป
ฟังหลินหันเยียนแปลเสร็จแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณชายฝืนต่อไปไม่ไหว หายไปจนหมด แสดงสีหน้าขุ่นเคืองออกมา น้ำเสียงก็เริ่มดุดันขึ้นมา “หากเอ่ยเยี่ยงนี้ นั่นคือทั้งสองท่านจะไม่ให้ข้าพบน้องชายของข้า?”
มองไปทางด้านนอกโรงเตี๊ยมเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบๆ คบเพลิงที่ถูกยกขึ้นสูงกับเงาตะคุ่มของผู้คน นั้นเห็นได้ชัดว่าคุณชายได้นำผู้คนมามากมาย หากตัวเองและโยวเอ๋อร์ยังยืนยันว่าจะไม่ให้พบคน แล้วลงมือขึ้นมา เกรงว่าฐานะของตัวเองอาจจะถูกเปิดเผย พรุ่งนี้เช้าตรู่อาจจะออกไปไม่ได้ แผนการในวันนี้ ทำได้เพียงหาวิธียื้อเวลา รอให้ท่านน้าของชายหนุ่มส่งคนมา ในขณะที่ใช้ความคิด ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย กล่าวว่า “คุณชายท่านนี้พูดผิดแล้ว ดูจากฐานะของท่านแล้ว คิดว่าไม่น่าใช่คนธรรมดา ถ้าเยี่ยงนี้ พวกข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว พวกข้าเสียกำลังมากมายเพื่อช่วยชีวิตน้องชายท่านไว้ หลายวันนี้จะให้ดูแลเปล่าๆ ได้อย่างไรใช่หรือไม่”
ที่แท้ก็ต้องการค่าตอบแทนนี่เอง ในใจของคุณชาย “หึ” ออกมา บนใบหน้าแสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา แต่ไม่นานก็หายไป กลายเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นทันที กล่าวตอบรับทันทีว่า “แน่นอน ทั้งสองท่านอยากได้เท่าไรล่ะ พูดออกมาได้เลย แม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองทุกอย่างของครอบครัวข้า ข้าก็จะไม่เอ่ยขัดแม้แต่คำเดียว”
พูดจาชัดเจนและมีพลัง แสดงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของตัวเองและน้องชายออกมาได้อย่างสมบูรณ์ หากอยู่ต่อหน้าผู้อื่น อาจจะหลอกผ่านไปได้ แต่เสียดายที่เขาโชคร้าย เจอกับหวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยว นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาเคยเล่นกันเมื่อหลายปีก่อน อยากจะหลอกพวกเขานั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน
หวงฝู่อี้เซวียนเอ่ยออกมา มุมปากมีรอยยิ้มเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าคุณชายสามารถให้ได้เท่าไหร่”
ไม่เอ่ยจำนวนเงิน นำเรื่องยากโยนให้เขาตรงๆ คุณชายหยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วมองพินิจพิเคราะห์เขาใหม่อีกครั้ง
หวงฝู่อี้เซวียนไม่หลบ ยิ้มมุมปาก แล้วปล่อยให้เขาพินิจพิเคราะห์ด้วยสีหน้าที่รอคอย
เห็นสีหน้าของเขาแล้ว คุณชายเก็บสายตา คิดในใจหลายรอบ แล้วไอออกมาเบาๆ หนึ่งครั้ง “ทองคำหนึ่งหมื่นชั่งได้หรือไม่”
ทันทีที่เขาเอ่ยจบ ทั้งโรงเตี๊ยมนั้นมีแต่เสียงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทองคำหนึ่งหมื่นชั่ง เป็นจำนวนตั๋วเงินที่มากมายเหลือเชื่อมาก
หวงฝู่อี้เซวียนแสดงสีหน้าตกใจออกมาพอดี “คุณชายใจกว้างมาก นี่เป็นเงินทองที่พวกข้าสองสามีภรรยาหาหลายชาติก็ไม่ได้”
ได้ผลแล้ว คุณชายแสดงสีหน้าดีใจออกมา กล่าวถามด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าเยี่ยงนั้นท่านสามารถให้ข้าพบน้องชายข้าได้หรือไม่”
หวงฝู่อี้เซวียนส่ายหัวไปมา
สีหน้าของคุณชายหยุดชะงักไป
หวงฝู่อี้เซวียนอธิบายอย่างไม่รีบร้อนว่า “คุณชายก็รู้ว่าพวกข้าเป็นคนรัฐอู่ ขอแค่ชายแดนเปิด พวกข้าก็จะกลับไปแล้ว หากพวกข้ารับทองคำหนึ่งหมื่นชั่งนี้ เกรงว่าแม้แต่หมู่บ้านเล็กๆ นี้ก็ออกไปไม่ได้ ก็จะมีผู้คนที่โลภมากมากมายตามไล่ฆ่า ฉะนั้น เพื่อความปลอดภัย เรามาคุยเงื่อนไขหนึ่งข้อกันเถิด”
“เจ้าพูด”
“ทองคำนั้น พวกข้าไม่เอาแล้ว แต่รอหลังจากพรุ่งนี้เช้าแล้ว คุณชายส่งคนไปส่งพวกข้าออกจากชายแดนได้หรือไม่”
“นี่…” คุณชายพึมพำ ปิดชายแดนนั้น เป็นคำสั่งของท่านพ่อ ไม่มีสาสน์ของเขา ผู้ใดก็อย่าคิดที่จะเปิดประตูเมืองของชายแดน แต่ถ้าหากไม่รับปาก ดูท่าทางของทั้งสองแล้วไม่ให้เขาเห็น ‘น้องชายที่ดี’ ของตัวเองแน่นอน ส่วนเขาก็จะพลาดโอกาสลงมือที่ดีไป
นึกถึงตรงนี้ ก็แสดงรอยยิ้มออกมา พยักหน้า “ได้ ข้ารับปากเจ้า พรุ่งนี้เช้าตรู่ข้าจะสั่งให้คนไปส่งพวกเจ้าออกชายแดน”
“ถ้าเยี่ยงนั้น พรุ่งนี้เช้าตรู่หลังจากส่งพวกข้าออกจากชายแดนไปแล้ว ท่านค่อยพบน้องชายของเจ้า” เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าว
คุณชายหยุดชะงักไปชั่วครู่ เงยหน้าขึ้น มองไปทางเมิ่งเชี่ยนโยว จนเห็นสายตาเยาะเย้ยของนางแล้ว ไม่รู้เพราะเหตุใด ก็เข้าใจทันทีว่านางรู้แล้วว่าตัวเองตั้งใจหลอกพวกเขา
ความคิดล้มเหลว ในใจก็โมโหมาก น้ำเสียงคำพูดก็เริ่มดุดันขึ้นมา กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ถ้าเยี่ยงนั้น วันนี้ทั้งสองท่านคือจะไม่ดื่มสุราคารวะแต่จะดื่มสุราปรับโทษแทนใช่หรือไม่”
เมิ่งเชี่ยนโยวส่ายหัวไปมา “คุณชายพูดผิดแล้ว พวกข้าสองสามีภรรยาไม่เคยดื่มสุราเลย”
ทันทีที่นางพูดจบ ไม่เพียงแต่คุณชาย แต่ทหารและคนในโรงเตี๊ยมที่เข้ามาก็หยุดชะงักไปทันที ผ่านไปสักพักก็ยังไม่รู้สึกตัว
คุณชายโมโหโกรธมาก “ถ้าเยี่ยงนั้น ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
ทันทีที่พูดจบ โบกมือ กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ลงมือไปทางหวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวทันที
ผู้คนเคลื่อนไหว มีเสียงคร่ำครวญ มีเสียงตกลงมาจากบนที่สูง มีหลายคนตกลงจากชั้นสอง ตกลงมาที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง เลือดไหลออกมาจากปาก จมูกและมุมปาก กลายเป็นคนที่เหมือนไม่มีชีวิต
ผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมที่ยื่นคอออกมาดูเหตุการณ์ตกใจกันเป็นอย่างมาก ต่างถอยหลังออกไป
เถ้าแก่ตกใจสั่น แขนขาอ่อนแรง
คุณชายตกใจ เขาอยู่ใกล้ เห็นชัดเจน หวงฝู่อี้เซวียนและเมิ่งเชี่ยนโยวทั้งสองคนใช้แค่ท่าเดียวก็ทำให้คนของตัวเองตกลงไป กดความตกใจในใจไว้ เงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “ที่แท้ก็คือจารชนจากรัฐอู่ กุมตัวเดี๋ยวนี้”