ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 1 บทที่ 10 ท่านอ๋องที่ยากจะรับมือ
การทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ มิใช่อุปนิสัยของนาง
โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ถามเธอถึงเรื่องพุทราทันทีที่เข้ามาในห้องเช่นนี้ เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว เจ้าบ่าวคนนี้คงไม่ได้ยินยอมน้อมรับการแต่งงานในครั้งนี้เสียเท่าไร
คิ้วของหลงเทียนอวี้ยิ่งขมวดเข้าหากันแน่น หากมองข้ามข่าวลือหนาหูที่ว่านางมีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ไป
หญิงสาวที่กล้าแหวกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกด้วยตัวของนางเองทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก
ส่วนเธอที่ทำเพียงแหวกแต่ไม่ได้ถอดผ้าคลุมหน้าออกทั้งหมดนั่นก็เพราะไม่อยากให้ใบหน้าอัปลักษณ์ของตนเองปรากฏต่อสายตาของชายตรงหน้า จนทำให้เขารู้สึกอยากอาเจียน
“ข้าถามเจ้าว่าเพราะเหตุใด…” ยังไม่ทันที่จะพูดจบ สายตาของหลงเทียนอวี้กลับถูกใบหน้าของเจ้าสาวซึ่งนั่งอยู่บนเตียงดึงดูด
ท่ามกลางแสงเทียนซึ่งกำลังส่องสกาวอยู่ไกลๆ จนทำให้เห็นเป็นภาพที่ไม่ชัดเจนนั้น
สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาก็คือหญิงสาวตรงหน้ามีผิวพรรณนวลเนียนบริสุทธิ์ผุดผ่อง โดยเฉพาะดวงตาเปล่งประกายราวกับหยดน้ำที่ดูน่าหลงใหล จนทำให้คนมองไม่อาจผลักไส แต่กลับรู้สึกอยากที่จะปกป้องนาง
แม้แต่คุณหนูรองแห่งสกุลหลินเองก็นึกไม่ถึงว่านางจะงดงามเกินกว่าใครในแผ่นดินเช่นนี้
“ถ้าหากท่านอ๋องต้องการจะถอนพิษแทนหม่อมฉันแล้วละก็ หม่อมฉันก็คงต้องขอขอบพระทัยพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ แต่พิษนี้ถอนได้ไม่ยากนัก แม้พิษนี้จะรุนแรงมาก แต่เพราะผู้ทำยาพิษต้องการทำให้ยาพิษชนิดนี้ไร้กลิ่น ดังนั้นจึงปรับเปลี่ยนตัวยา ดังนั้นความรุนแรงจึงเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เพราะเหตุนี้ยาพิษชนิดนี้จึงทำการถอนพิษได้ไม่ยาก” หลินเมิ้งหยาซึ่งเป็นคนใจกว้างใช้ทัศนคติในตอนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยมาตอบข้อสงสัย
อาจารย์เคยพูดเอาไว้ว่าหากต้องการจะเป็นหมอที่มีคุณสมบัติครบถ้วน อย่างน้อยจะต้องมีลักษณะท่าทางของความเป็นหมอก่อน
มีเพียงการแสดงทัศนคติที่เป็นมืออาชีพที่สุดเท่านั้น คนไข้จึงจะเชื่อใจหมอ
หากลองคิดทบทวนดูแล้ว ถ้าแม้แต่หมอยังไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ถ้าอย่างนั้นคนไข้จะเชื่อมั่นในตัวหมอได้อย่างไรว่าจะสามารถรักษาพวกเขาให้หายได้
“โอ้? เจ้าฉลาดหลักแหลมใช้ได้เลยนี่ แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเจ้ามีวิธีการถอนพิษเช่นไร” หลงเทียนอวี้จ้องมองหลินเมิ้งหยาด้วยท่าทางที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ภายใต้แสงเทียนนั้น ลูกตาสีดำกำลังสั่นระริก
เมื่อได้พุทราเหล่านั้นมา เขาส่งมอบพุทราสองสามผลให้กับหมอคนสนิท แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่เจ้าบ้ายาที่หลงใหลกับการค้นคว้ายาเป็นชีวิตจิตใจคนนั้นจะหาวิธีการถอนพิษไม่เจอ
หลงเทียนอวี้ยังคงมีคำถามค้างคาใจกับยาพิษชนิดนี้
ก่อนอื่นคือเจ้าคนบ้ายาคนนั้นได้ลิ้มลองยาพิษนานาชนิดมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก อีกทั้งยังได้อ่านตำรามาทั้งหมดแล้ว หากเป็นเพียงยาพิษธรรมดา เจ้าคนบ้ายาคนนั้นไม่มีวันเหลียวมอง อีกทั้งยังสามารถบอกวิธีถอนพิษยาได้อย่างง่ายดาย
ทว่าตอนนี้แม้แต่เจ้าบ้ายาคนนั้นก็ยังไม่รู้จักแม้กระทั่งวิธีถอนพิษ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
นี่หรือว่าคุณหนูใหญ่แห่งสกุลหลินผู้นี้จะเก่งกาจเสียยิ่งกว่าเจ้าบ้ายาคนนั้นอีกหรือ?
นางก้มหน้าพลางแสยะยิ้ม แสงสลัวจากเปลวเทียนทำให้หลินเมิ้งหยายิ่งดูงดงามอรชรมากขึ้น
นางหัวเราะแล้วจ้องมองหลงเทียนอวี้ ก่อนจะส่งเสียงหวาน
“แม้ยาพิษชนิดนี้จะถอนพิษได้ไม่ยาก แต่ตัวยาบางชนิดที่จะนำมาใช้ในการถอนพิษกลับหาได้ยากมากเหลือเกิน” หลินเมิ้งหยาเอ่ยเพียงครึ่งประโยค ก่อนจะเงียบไปและไม่พูดอีก
“เจ้าลองพูดออกมาสิว่ามันคืออะไร ถ้าหากว่าในตำหนักของข้ามียาเหล่านั้น เจ้าก็จะสามารถเข้าไปเอายาเหล่านั้นมาถอนพิษได้มิใช่หรือ?” หลงเทียนอวี้คิดว่าหญิงสาวคนนี้จะต้องอยากได้ยาชั้นดีของตำหนักตนเองอย่างแน่นอน
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าหลินเมิ้งหยาจะส่ายหน้า