ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 13 บทที่ 363 หลุมพราง
หากเมื่อวานเพิ่งดื่มยา เช่นนั้นวันนี้ก็ต้องมีการตกเลือดจึงจะถูก
ทว่าเหตุใดนางจึงไม่ได้กลิ่นเลือดเลยแม้แต่น้อย?
หลินเมิ้งหยาจมอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง หรือว่าคนที่ดื่มยาจะมิใช่ซ่างกวนชิงหรือหลินเมิ้งหวู่?
“นายหญิง? นายหญิง? พ่อบ้านเติ้งมารายงานความคืบหน้าเจ้าค่ะ”
ป๋ายจื่อเขย่าแขนของหลินเมิ้งหยาด้วยความกังวล
แปลกจริง นับตั้งแต่วันที่ออกจากจวนอวี้ นายหญิงมักจะเหม่อลอยเสมอ อีกทั้งสีหน้าของนายหญิงยิ่งเคร่งขรึมมากขึ้น
“อืม พวกเราไปกัน”
สีหน้าของหลินเมิ้งหยาไม่น่ามอง แต่ไหนแต่ไรมานางเป็นคนมั่นใจในตัวเองเสมอ อีกทั้งยังเชื่อว่านางมองคนเหล่านั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
แต่หลังจากกลับมาที่จวนเจิ้นหนานโหว นางกลับรู้สึกว่าไม่เป็นเช่นนั้น
เสมือนสิ่งที่นางคาดเดาอยู่ไกลจากความจริงค่อนข้างมาก
ทว่านางยังเชื่อว่าความคิดของตนเองถูกต้อง แต่เพราะเหตุใดเรื่องราวจึงแตกต่างจากสิ่งที่นางคิดไว้เช่นนี้เล่า?
หลินเมิ้งหยาดึงสติกลับมา ก่อนจะเดินไปยังห้องด้านข้างเรือนเล็ก
ทันทีที่พวกซ่างกวนชิงกลับไป พ่อบ้านเติ้งก็ปรากฏตัว
มองหลินเมิ้งหยา พ่อบ้านเติ้งเป็นคนมีมารยาทและรู้กฎระเบียบเป็นอย่างดี หลังจากถวายคำนับนางแล้ว เขาจึงเริ่มรายงานสิ่งที่ตนเองไปสืบมา
“ทูลพระชายา แม่บ้านที่พระองค์ให้ข้าน้อยไปตามสืบมิได้อาศัยอยู่ในจวนพ่ะย่ะค่ะ นางอาศัยอยู่ในตรอกเล็กแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าแม่บ้านผู้นั้นจะมีลูกชายอยู่คนหนึ่งที่กำลังป่วยหนัก ตอนที่ข้าน้อยไปถึง เขาไอออกมาอย่างหนัก หลังจากแม่บ้านคนนั้นเข้าประตูไปแล้วก็คอยดูแลลูกชายและไม่ได้ออกจากบ้านอีกเลย”
หลังจากฟังรายงานของพ่อบ้านเติ้งจบ หลินเมิ้งหยาเกิดความคิดขึ้นในใจ
คนคนนั้นจะต้องเป็นลูกชายของเถียนมามาอย่างแน่นอน
เคยได้ยินมาว่าร่างกายของลูกชายเถียนมามาค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อคิดดูแล้วบางทีอาจเพราะเขาล้มป่วยลง ฉะนั้นผู้เป็นแม่อย่างเถียนมามาจึงหมดทางเลือก จึงต้องกลับมาทำงานที่จวนและปล่อยให้ชะตาชีวิตอยู่ในกำมือของซ่างกวนชิงอีกครั้ง
ซ่างกวนชิงคงต้องการให้เถียนมามาทำบางอย่าง แต่เพราะเถียนมามาไม่ยอม ฉะนั้นจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
เมื่อล่วงรู้ถึงชีวิตอันแสนน่าเวทนาของเถียนมามา หัวใจของหลินเมิ้งหยาพลันรู้สึกเหมือนถูกบีบรัด
เถียนมามาเปรียบเสมือนแม่นมของนาง เมื่อนางพบกับความลำบาก หลินเมิ้งหยาก็ไม่อาจทนดูอยู่เฉยๆ ได้
อีกทั้งงานที่เถียนมามากำลังทำยังอาจหมายถึงการเอาชีวิตมาทิ้ง
อย่าว่าแต่ตามหาเบาะแสต่อไปเลย ตอนนี้ต่อให้ข้างหน้าเป็นกับดักนางก็จะไป
ตอนแรกนางคิดจะสั่งให้พ่อบ้านเติ้งนำเงินไปมอบให้ แต่เมื่อรู้ว่าลูกชายสกุลเถียนเจ็บป่วยอาการหนัก นางที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอจึงมิอาจทนเฉยได้
สั่งให้ป๋ายจื่อตระเตรียมสิ่งของ หลินเมิ้งหยาและพ่อบ้านเติ้งแอบออกไปหาเถียนมามาและลูกชาย
ภายในเรือนหรูหรา ควันธูปซึ่งปักอยู่ในกระถางธูปลายหัวสัตว์ร้ายลอยวนขึ้นไปในอากาศ
ซ่างกวนชิงกำลังฟังรายงานจากคนรับใช้
“ดูเหมือนแผนของพวกเราจะสำเร็จ นังแพศยานั่นออกไปหาเถียนมามาแล้ว ก็ดีเหมือนกัน นังแพศยาเฒ่าช่างเหมาะสมกับนังแพศยานั่นนัก อย่างน้อยพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง”
เสียงของหลินเมิ้งหวู่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง
ทว่าสีหน้าของนางในเวลานี้ซีดเซียวยิ่งกว่าเมื่อเช้าตอนไปเจอหลินเมิ้งหยามาก
นางนอนอยู่บนเตียงนุ่มนิ่มขนาดใหญ่ของมารดา ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ฉายแววบ้าคลั่ง
“เจ้าพักผ่อนให้ดีเถิด เดี๋ยวร่างกายจะแย่เอาได้”
เสียงเรียบแต่แข็งกระด้างพลันดังขึ้น
หลินเมิ้งหวู่หันไปมองมารดาด้วยความหวาดกลัว
มือเล็กขยำผ้าห่มบนร่างแน่น
“ท่านแม่…ข้า….”
ส่งเสียงออดอ้อน ทว่าสายตาคมกริบของซ่างกวนชิงทำให้นางเงียบลง
มองมารดาด้วยความโศกเศร้า นางรู้ตัวว่าคราวนี้นางทำให้แม่ของตนเองโกรธแล้วจริงๆ
“เจ้ายังมีหน้าเรียกข้าว่าแม่อีกหรือ! ไอ้หลิวเอ้อร์นั่นมีดีเช่นไร? เหตุใดเจ้าจึงมอบกายให้มันได้? มันเป็นแค่นักเลงหัวไม้ เป็นพวกขี้เกียจสันหลังยาว เจ้าไม่เพียงทำเรื่องเลวร้าย แต่เกือบทำให้มันเข้ามาครองตำแหน่งในบ้านหลังนี้! เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกคนรับใช้ในจวนโกรธเกลียดมันขนาดไหน แผนที่พวกเราวางเอาไว้ตลอดหลายปีเกือบพังทลายก็เพรามัน!”
หลินเมิ้งหวู่เองก็รู้สึกโศกเศร้าเช่นเดียวกัน หลิวเอ้อร์เป็นนักเลงหัวไม้ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ปกติเขาทำการค้าผู้หญิง
เมื่อหนึ่งเดือนก่อน หลินเมิ้งหวู่แอบหนีออกจากจวนแต่กลับถูกหลิวเอ้อร์จับได้ เหตุเพราะวาจาเล้าโลมอ่อนหวาน นางจึงถูกลวงไปที่บ้านเก่าหลังหนึ่ง
แต่เพราะเขาชื่นชอบในความงามของหลินเมิ้งหวู่จึงมิอาจทำใจขายนางได้
แน่นอนว่าหลินเมิ้งหวู่มิได้ยินยอม แต่เมื่อนางเผยฐานะของตนเอง หลิวเอ้อร์เสมือนคนบ้าที่ต้องการจะตะเกียกตะกายเข้ามาเป็นลูกเขยคนที่สองของสกุลหลิน
บางทีอาจเพราะคิดว่าเรื่องราวเลยเถิดจนยากจะกลับไปแก้ไขได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดว่าตนเองกลายเป็นลูกเขยของจวนหลังนี้
เมื่อเขาพาหลินเมิ้งหวู่กลับมายังจวนหลินอีกครั้ง ตอนนั้นหลินเมิ้งหวู่ตั้งท้องได้เกือบครึ่งเดือนแล้ว
ซ่างกวนชิงที่ตามหาลูกสาวไม่เจอทั้งโกรธทั้งตกตะลึง
ยิ่งได้เห็นคนไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างหลิวเอ้อร์ทำลายลูกสาวที่ตนเองทะนุถนอมมา ซ่างกวนชิงจึงคิดอยากฆ่าเขาให้ตาย
นอกจากหลิวเอ้อร์จะเป็นคนหยิ่งยโสแล้ว เขายังเป็นคนเจ้าเล่ห์ด้วยเช่นกัน
เขารู้ดีว่าหากเด็กในครรภ์ของหลินเมิ้งหวู่ยังอยู่ ฮูหยินหลินจะมิอาจทำอันใดเขาได้ ฉะนั้นเขาจึงเข้ามาทำงานที่จวนเพื่อปกป้องลูกในท้องของหลินเมิ้งหวู่
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูใหญ่แห่งสกุลหลินจะกลับมาในเวลานี้
ชื่อเสียงของหลินเมิ้งหยาในเวลานี้โด่งดังยิ่งกว่าแม่ทัพหลินเสียอีก
คนที่รู้จักนิสัยใจคอของหลินเมิ้งหยาดีอย่างซ่างกวนชิงจึงสั่งให้หลิวเอ้อร์ทำหน้าที่เฝ้าประตูเพราะต้องการกำจัดเขา
ผลปรากฏว่าหลิวเอ้อร์ทำผิดต่อหลินเมิ้งหยา ฉะนั้นโอกาสของนางจึงมาถึง นางสั่งให้หลินเมิ้งหวู่ดื่มยาขับเลือดทันที
เพราะที่หลินเมิ้งหยามิได้กลิ่นเลือดก็เพราะฮองเฮาส่งของมาให้สองอย่าง
อย่างแรกคือกระถางกำยานที่ใช้เผากำยานกลิ่นดอกป๋ายฮวา หลังจากรมควันอยู่หนึ่งคืน กลิ่นเลือดจึงจางหายไป
ส่วนเหตุที่หลินเมิ้งหวู่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังจากขับเลือดก็เพราะยาบำรุงที่ฮองเฮาประทานมาให้
แต่เพราะร่างกายของหลินเมิ้งหวู่ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว ฉะนั้นคงหมดหวังที่จะได้แต่งงานกับลูกหลานของขุนนางในราชสำนัก
นางคงทำได้เพียงแต่งงานกับคนไร้ชื่อเสียงไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เพราะชื่อเสียงของสกุลหลิน ฉะนั้นคาดว่าอีกฝ่ายคงไม่ปฏิเสธหลินเมิ้งหวู่อย่างแน่นอน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สุดท้ายซ่างกวนชิงก็รู้สึกเจ็บปวดใจอยู่ดี
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าข้าทำให้ท่านอับอาย แต่หลังจากวันนี้เกียรติยศของนังแพศยานั่นก็จะป่นปี้ เมื่อถึงเวลานั้นความแค้นของพวกเราก็จะได้สะสางเสียที เหตุที่พวกเราสองแม่ลูกตกอยู่ในที่นั่งลำบากเช่นนี้ก็เพราะนาง! หากมิใช่เพราะนาง ข้าก็คงไม่ถูกจับตัวและ…”
“พอแล้ว!”
ซ่างกวนชิงตบโต๊ะเสียงดังลั่น สีหน้าเคร่งขรึม
คราวนี้ฮองเฮาส่งคนมาจากวังหลวงเพื่อช่วยพวกนางด้วยตนเอง
พวกนางรู้ดีว่าหลินเมิ้งหยาฉลาดเฉลียวมากขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีความรู้ทางการแพทย์ คาดว่าเรื่องยาขับเลือดจะเป็นการเผยจุดอ่อนให้นางรู้
นางเป็นคนเรียกตัวเถียนมามากลับมาที่จวนเอง
ตอนแรกซ่างกวนชิงคิดอยากใช้ชีวิตของลูกชายเถียนมามามาข่มขู่บ่าวเฒ่าเพื่อให้นางวางยาพิษในอาหารของหลินเมิ้งหยา
แต่เถียนมามากลับปฏิเสธ
ทว่าไม่มีใครคาดคิดว่าอันที่จริงไพ่ตายของซ่างกวนชิงหาใช่เถียนมามาไม่
ขอเพียงหลินเมิ้งหยาก้าวเท้าออกจากจวน เช่นนั้นจะมีคนรายงานเรื่องนี้ไปยังจวนอวี้ทันที
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของฮองเฮา คาดว่าหลินเมิ้งหยาคงไม่รู้ตัวเลยว่าทุกย่างก้าวของนางคือทางเดินสู่กับดักของฮองเฮา!
ผินหน้าไปมองลูกสาวของตน หัวใจของนางทรมานเกินเยียวยา ทุกอย่างที่นางทำไปก็เพื่อลูกสาวของตนทั้งสิ้น
ฮองเฮารับสั่งแล้วว่าขอเพียงกำจัดหลินเมิ้งหยาได้ เช่นนั้นหลินเมิ้งหวู่จะกลายเป็นที่สนใจของพวกขุนนางทันที
แม้ลูกสาวจะต้องโศกเศร้า แต่ก็ยังดีกว่าการปล่อยให้นางแต่งงานกับคนไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากไปชั่วชีวิต
หลินเมิ้งหยาที่กำลังถูกปองร้ายไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย
นำขนมและเสื้อผ้าติดตัวมาบางส่วน นางนั่งอยู่ในรถม้าที่กำลังแล่นไปยังสถานที่ซึ่งเถียนมามาพักอาศัยอยู่
“พระชายาระวังตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านเติ้งประคองหญิงสาวทั้งสองลงจากรถม้า
มองเรือนทรุดโทรมตรงหน้า หลินเมิ้งหยารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน
เถียนมามายอมมอบกายถวายชีวิตเพื่อดูแลพวกนางสองพี่น้อง แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางกับลูกชายจะมีชีวิตที่น่าอดสูเช่นนี้
ถือของเดินเข้าไปทางเรือนทรุดโทรมเงียบๆ เมื่อมาถึงประตูไม้ซึ่งกำลังโอนเอนไปมาตามแรงลม หลินเมิ้งหยาเคาะประตูเบาๆ
“เถียนมามาอยู่หรือไม่?”
เสียงของเถียนมามาซึ่งอยู่ภายในพลันตอบกลับมา
“นั่นใคร?”
มือหยาบกร้านเหี่ยวย่นเปิดประตูออกช้าๆ ก่อนจะได้เห็นร่างบางภายใต้เสื้อคลุม ร่างกายของนางชะงักแข็งค้างอยู่กับที่
“หยาเอ๋อร์…ไม่สิ พระชายา เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ล่ะเจ้าคะ?”
มิอาจยินยอมเรียกชื่อจริงของหลินเมิ้งหยาอย่างไร้มารยาทได้
เถียนมามารีบเปิดประตูออกกว้าง สายตาตกตะลึงจ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของหลินเมิ้งหยา
“ที่นี่หาได้มีพระชายาไม่ มีเพียงหยาเอ๋อร์ของท่าน ป๋ายจื่อ เจ้ารีบนำของออกมาเร็ว มามา ข้ารู้ว่าพี่ชายป่วยหนัก ฉะนั้นข้าจึงมาเยี่ยม”
หลินเมิ้งหยาประคองเถียนมามาเข้าไปในเรือน
เมื่อได้เห็นผนังกำแพงทั้งสี่ทิศ จมูกของนางพลันแสบร้อน
เพราะเหตุนี้พี่ชายจึงป่วยไม่หาย เถียนมามาไม่รู้วิธีการดูแลผู้ป่วย
คาดว่าเงินทองของเรือนนี้คงร่อยหรอเต็มที แม้แต่ชุดที่เถียนมามาสวมใส่ยังถูกปะชุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หัวใจของหลินเมิ้งหยารู้สึกเสมือนถูกบีบเค้น