ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 13 บทที่ 365 พระชายาผู้กล้าหาญ
ป๋ายจื่อพยายามโยนถ่านระอุใส่พวกชายฉกรรจ์เหล่านั้น บัดนี้เสียงก่นด่าระคนเสียงร้องโหยหวนเพราะความเจ็บปวดดังระงม
ชายฉกรรจ์เหล่านั้นมีประมาณห้าหกคน เมื่อถูกหม้อยาร้อนและก้อนถ่านของป๋ายจื่อโจมตี พวกเขาล้มกองระเนระนาดลงหลายคน
ส่วนคนที่เหลือยืนอยู่ไกลๆ เหตุเพราะกลัวว่าจะมีของประหลาดถูกโยนออกมาอีก
น่าเสียดายที่เรือนหลังนี้ค่อนข้างเล็ก ฉะนั้นพวกเขาจึงมิได้เข้ามาทั้งหมด มิฉะนั้นป่านนี้พวกเขาคงไม่อาจเล็ดลอดไปได้แม้แต่คนเดียว
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าพวกเจ้าเป็นใคร จงเผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้”
ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายในเรือนเล็ก สายตาเย็นเฉียบดุจน้ำแข็งของหลินเมิ้งหยาจ้องไปทางพวกผู้ชายที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น
ความโกรธเกรี้ยวพวยพุ่ง แต่กลับไร้ซึ่งความกระวนกระวาย
พวกผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้นล้วนโชคร้าย แม้จะมีร่างกายกำยำ แต่ก็ถูกนางเล่นงานจนหมดท่า
“นังพวกผู้หญิงสารเลว! บังอาจสาดยาร้อนใส่พวกข้า พี่ชายทั้งหลาย บุก!”
เสียงร้อนรนเพราะความพ่ายแพ้พลันดังขึ้นจากพื้น
หลินเมิ้งหยาปรายตามอง ก่อนจะเห็นเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“บังอาจ!”
ตะคอกเสียงดังลั่น หลินเมิ้งหยากวาดสายตามองไปรอบๆ เหตุเพราะการโจมตีของนาง ชายฉกรรจ์เหล่านี้จึงระมัดระวังนางมากขึ้น
ไม่มีผู้หญิงคนไหนใช้ถ่านร้อนต้อนรับคนจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นพวกเขามาก่อน
“ข้าเป็นถึงชายาอวี้ซึ่งมีฐานะเป็นลูกสะใภ้ของฮ่องเต้ ซ้ำยังมีฐานะเป็นบุตรสาวคนโตของเจิ้นหนานโหว หากพวกเจ้าทำให้เส้นผมของข้าหลุดร่วงแม้เพียงเส้นเดียว ข้าสาบานเลยว่าตระกูลของพวกเจ้าจะต้องถูกประหารถึงเก้าชั่วโคตร”
เสียงของหลินเมิ้งหยาเย็นยะเยือก พวกนักเลงหัวไม้เหล่านี้ล้วนรู้จักเบื้องสูงเบื้องต่ำเหล่านี้ดี ฉะนั้นสมองของพวกเขาพลันปรากฏคำใหญ่ๆ สามคำ….อย่าไปยุ่ง
หันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ก่อนจะตัดสินใจล่าถอย
แต่หัวหน้าของพวกเขาเองก็ใช่คนที่จะรับมือด้วยได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขารับเงินมาแล้ว
สายตาของทุกคนจึงหยุดอยู่ที่หัวหน้าใหญ่ซึ่งนอนวัดพื้นอย่างไม่เป็นท่า
เขาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น ทว่าใบหน้าของ คนคุ้นเคย คนนั้นกลับบวมเป่ง
“ฮึ ก็แค่คุณหนูใหญ่มิใช่หรือ? ซี้ด…พวกเราล้วนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เหตุใดเจ้าจึงต้องรุนแรงเช่นนี้ด้วยเล่า เช่นนั้นอย่าว่าข้าที่เป็นน้องเขยไม่ไว้หน้าเจ้าเลย”
ชายคนนี้คือหลิวเอ้อร์ที่ขวางประตูไม่ให้หลินเมิ้งหยาเข้าเมื่อวาน
ตามหลักแล้ว หญิงสาวตรงหน้ามีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ แต่นี่เป็นเพียงความคิดของเขาคนเดียวเท่านั้น
แม้จะรู้สึกหื่นกระหายตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหลินเมิ้งหยา แต่เพราะนางมีฐานะเป็นถึงลูกสะใภ้ของฮ่องเต้ อย่าว่าแต่แตะต้องเลย หากเขามองมากกว่าหนึ่งครั้งก็อาจถูกประหารได้
ทว่าตอนนี้สถานการณ์แตกต่างกัน
หลินเมิ้งหวู่ของเขาคิดแผนขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสสวาทจากพระชายา
ครุ่นคิดถึงอนาคต เขาไม่เพียงสามารถมีสัมพันธ์สวาทกับลูกสะใภ้ของฮ่องเต้ได้ทุกเวลา แต่เขาจะได้รับชื่อเสียงเงินทองจากสกุลหลินอีกด้วย ฉะนั้นเขาจึงไม่อาจหยุดยั้งความโลภในใจได้
หลินเมิ้งหยาจ้องหลิวเอ้อร์โดยไม่คิดหลบสายตา ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดเถียนหนิงจึงอยากให้นางพาเถียนมามาหนีไป
ตอนนี้พ่อบ้านเติ้งถูกหลอกล่อออกไปแล้ว เบื้องหลังของนางมีเพียงคนแก่และหญิงสาวร่างบอบบาง
นางไม่มีวันถอยหนี!
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
หลินเมิ้งหยามองชายตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะหยิบมีดเล่มหนึ่งกำเอาไว้ในมือแน่น
เพราะนางมีความรู้ทางการแพทย์และผ่านประสบการณ์เฉียดตายมามากมาย นางจึงเรียนรู้ที่จะสงบนิ่งเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น หากนางยิ่งเงียบขรึมอีกฝ่ายก็จะยิ่งจับจุดอ่อนของนางไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจะไม่กล้าเคลื่อนไหว
พ่อบ้านเติ้งเป็นถึงทหารเก่าที่เคยทำศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน คาดว่าเขาจะต้องพบความผิดปกติและกลับมาในอีกไม่ช้าอย่างแน่นอน
ขอเพียงนางพยายามเบนความสนใจพวกเขาเอาไว้ก็พอ
อาการแสบร้อนทำให้ใบหน้าของหลิวเอ้อร์บิดเบี้ยว ใบหน้าที่เคยได้สัดส่วนงดงามถูกความร้อนจากไฟทำให้ได้รับความเสียหาย
ความเจ็บปวดแล่นพล่านถึงหัวใจ หลิวเอ้อร์ที่มิประสงค์ดีกับหลินเมิ้งหยาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งโมโหหลินเมิ้งหยา
“ฮึ นังผู้หญิงสารเลว ผู้หญิงสกุลหลินอย่างพวกเจ้าล้วนแพศยา เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้ว่าน้องสาวของเจ้าต้องการอะไร! หากวันนี้เจ้าว่านอนสอนง่าย ข้าจะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี แต่ถ้าหากเจ้าขัดขืน ข้าจะไม่ไว้หน้าเจ้า!”
หลิวเอ้อร์ย่างสามขุมเข้ามา ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย
ทว่าหลินเมิ้งหยากลับไม่ขยับตัวหนี นางยังคงยืนอยู่หน้าประตูเพื่อหาโอกาสปักมีดเสียบอกชายชั่วตรงหน้า
นอกจากชายคนที่โดนยาร้อนจัดสาดใส่หน้า คนอื่นๆ พยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดและตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น
ผู้หญิงตรงหน้าก็เป็นเพียงหญิงสาวร่างบอบบาง ส่วนที่เหลือก็คือคนแก่และไอ้ขี้โรคติดเตียงแต่เพียงเท่านั้น
ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในใจของพวกมันเมื่อครู่พลันจางหายไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สาวสวยทั้งสอง มานี่เถิด มาให้พวกพี่ชายมอบความรักเร่าร้อนให้พวกเจ้าเสียดีๆ”
“ผู้ชายของเชื้อพระวงศ์มีดีเช่นไรเล่า พวกเขาก็แค่มีฐานะสูงศักดิ์เท่านั้น พระชายาออกจะงดงามขนาดนี้ เกรงว่าท่านอ๋องของเจ้าแม้จะมีใจแต่ก็คงไร้น้ำยา”
ป๋ายจื่อโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ใบหน้านวลแดงก่ำ นางหยิบก้อนถ่านแล้วเขวี้ยงออกไป
คราวนี้พวกผู้ชายเหล่านั้นตั้งท่าเตรียมพร้อมเอาไว้อยู่แล้ว แต่แม้พวกมันจะเอี้ยวตัวหลบ ทว่าก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
ราวกับการกระทำเช่นนี้ไปกระตุ้นความดุร้ายของพวกมัน ดวงตาเหล่านั้นถลึงมองป๋ายจื่อราวกับต้องการจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ
“หยุด ห้ามแตะต้องนาง!”
หลินเมิ้งหยาตวัดมีดในมือแทงลงบนแขนของชายคนหนึ่ง แต่นางไม่หยุดแค่นั้น มีดที่ปักลงไปกรีดเนื้อลงเป็นทางยาวจนเนื้อหนังของมันฉีกขาด
“อ๊าก...นังสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า”
ชายร่างกำยำคนนั้นตะคอกอย่างบ้าคลั่ง มือหนาไขว่คว้าต้องการจับตัวของหลินเมิ้งหยา
ป๋ายจื่อเองก็ราวกับเริ่มสิ้นสติ นางพุ่งตัวเข้าไปแล้วใช้ที่คีบถ่านในมือฟาดลงบนแผ่นหลังและแขนของชายคนนั้น
“ตายซะ ตายซะ อย่ามาแตะต้องนายหญิงของข้า!”
แม้เรี่ยวแรงของป๋ายจื่อจะไม่มาก แต่เพราะมีที่คีบถ่านอยู่ในมือ ดังนั้นจึงมากเพียงพอจะทำให้ชายคนนั้นบาดเจ็บ
สุดท้ายชายคนนั้นทนความเจ็บปวดไม่ไหว เขารีบหมุนตัวกลับมาจับนางเอาไว้ ท่าทางเสมือนคนเสียสติ ราวกับว่าเขาสามารถกินป๋ายจื่อได้ทั้งตัว
ป๋ายจื่อกลับไม่หวาดกลัว นางยังคงใช้ที่คีบถ่านตีร่างของเขา
หลินเมิ้งหยายุ่งอยู่กับการรับมือจึงไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าร่างหนึ่งเดินอ้อมหลังนางไปทางเถียนมามาที่ไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับคนอื่น
เถียนมามาที่กำลังดูอาการของเถียนหนิงคิดไม่ถึงเลยว่าท่อนแขนแข็งแรงราวแท่งเหล็กข้างหนึ่งจะเอื้อมมารั้งคอของตนเอง
“ฮึ ฮึ ยอมจำนวนเสียเถิด มิเช่นนั้นชีวิตของแม่นมเจ้าจะต้องจบลง!”
หลิวเอ้อร์หยักยิ้มชั่วร้ายขณะข่มขู่หลินเมิ้งหยา
เพียงได้เห็นว่าคอของเถียนมามาถูกแขนรัดคอเอาไว้ หลินเมิ้งหยารู้สึกเสมือนลำคอของตนเองกำลังถูกบีบด้วยเช่นเดียวกัน
ทว่าเขาลำพองใจได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจะดังขึ้น
“อ๊าก...นังแก่…แก...”
สีหน้าของเถียนมามาเคร่งขรึม นางหาใช่คนแก่ร่างกายอ่อนแอเหมือนอย่างที่หลิวเอ้อร์คิด
ออกแรงผลักแขนของหลิวเอ้อร์ออก เถียนมามาปกป้องร่างของลูกชายตนเองเอาไว้ ก่อนจะใช้เท้าถีบเตาไฟใส่หลิวเอ้อร์
หลินเมิ้งหยาที่ได้เห็นหลุดหัวเราะออกมา ก่อนจะใช้ท่อนไม้ที่มิรู้ว่าไปเก็บมาตอนไหนฟาดใส่ชายคนนั้น
ฟาดลงไปอย่างหนักหน่วง นางที่เคยเรียนกายวิภาคศาสตร์มาก่อนย่อมรู้จุดอ่อนของร่างกายมนุษย์ดี ไม่นานชายคนนั้นก็ร้องโหยหวนเพราะความเจ็บปวด
เมื่อก่อนเถียนมามาเป็นผู้ปกป้องพวกนางทั้งสามในจวนหลิน เช่นนั้นนางจะไม่มีเขี้ยวเล็บเชียวหรือ!
ฉะนั้นพ่อบ้านเติ้งที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติแล้วรีบกลับมายังเรือนเล็กจึงได้เห็นภาพเหล่านี้
ชายร่างกำยำห้าหกคนนอนโอดครวญอยู่บนพื้น ส่วนนายหญิงของเขาแม้เสื้อผ้าและเส้นผมจะยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่นางกลับมีใบหน้าของผู้ชนะ สายตาเย็นชาเหลือบมองพวกผู้ชายที่กำลังถูกป๋ายจื่อทุบตีอยู่บนพื้น
แม้จะตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจ
แต่ถ้าหากเขาได้เห็นว่าพระชายาจัดการชายฉกรรจ์เหล่านี้เช่นไร เกรงว่าเขาคงจะต้องรู้สึกเป็นกังวลแทนท่านอ๋องของตัวเองอย่างแน่นอน
ท่านอ๋องได้แต่งงานกับพระชายาที่แสนโหดเหี้ยมอำมหิต!
“พระชายาได้โปรดลงโทษด้วย ข้าน้อยถูกคนร้ายดักตัวไว้พ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านเติ้งรีบวิ่งเข้ามา แม้ร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ด้วยฝีมือของเขา หากเขาอยู่ที่นี่เช่นนั้นชายเหล่านี้คงมิอาจแตะต้องตัวพระชายาได้
หลินเมิ้งหยาผงกศีรษะลงแต่มิได้กล่าวโทษ
ขณะที่คิดจะออกคำสั่ง นางกลับได้ยินเสียงร้องตะโกนจากภายนอก
“เร็วเข้า! มีคนลอบโจมตี ทุกคนจงระวังให้ดี!”
ไม่นาน เรือนเล็กหลังนี้เสมือนถูกน้ำป่าไหลหลาก ทหารองครักษ์จำนวนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาภายใน
พวกเขาล้วนเป็นคนที่หลินเมิ้งหยาไม่คุ้นหน้า
ใบหน้าเคร่งขรึมไม่ยิ้มแย้มเสมือนทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดี
ชุดเกราะสีฟ้าทำให้พวกเขาดูน่าเกรงขาม แต่แม้จะเห็นหลินเมิ้งหยา สีหน้าของพวกเขายังคงเหมือนเดิม
“พวกเจ้าเป็นใคร? เป็นพวกเดียวกันกับกบฏเหล่านั้นหรือไม่?”
หูพลันได้ยินคำถามไร้ซึ่งมารยาท ป๋ายจื่อที่ทุบตีชายเหล่านั้นจนพอใจแล้วรีบก้าวเท้าขึ้นมาข้างหน้าแล้วยกมือเท้าเอว
“พวกเจ้าอย่าได้เอ่ยวาจาเสียมารยาท ท่านนี้คือชายาอวี้! กบฏอะไรกัน พวกเราเพิ่งจะเอาตัวรอดมาได้ แต่พวกเจ้ากลับเพิ่งโผล่หัวมาที่นี่ ตอนที่คนเหล่านั้นปฏิบัติต่อนายหญิงไม่ดี พวกเจ้ามุดหัวกันอยู่ที่ไหน!”
หลินเมิ้งหยาตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าป๋ายจื่อที่เคยเป็นคนอ่อนแอจะมีวาจาคมกริบประหนึ่งใบมีดเช่นนี้ ดูเหมือนสถานการณ์เลวร้ายจะเปลี่ยนนิสัยใจคอของนางไปเสียแล้ว!