CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 5 บทที่ 148 เสียงซุบซิบนินทา

  1. Home
  2. ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ
  3. เล่มที่ 5 บทที่ 148 เสียงซุบซิบนินทา
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

กว่าจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นช่วงค่ำของวันถัดมา

สายตาของทุกคนจับจ้องหญิงสาวบนเตียงตาไม่กระพริบ

จนกระทั่งเปลือกตาของนางเปิดออก หัวใจที่เสมือนถูกแขวนอยู่บนหุบเหวจึงกลับมาเป็นปกติดังเดิม

“นายหญิง ท่านทำให้พวกข้าตกใจแทบตาย”

ป๋ายจื่อปาดน้ำตา นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่หลินเมิ้งหยาสลบไป ดังนั้นหัวใจของสาวใช้คนนี้จึงเริ่มเปราะบาง

แม้ดวงตาของนางจะแดงก่ำ แต่ในที่สุดหลินเมิ้งหยาก็ขยับริมฝีปากแล้วหยักยิ้ม

“วางใจเถิด ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”

เหตุเพราะมีสิ่งที่นางต้องดูแลมากมาย

“พิธีฝังศพของพี่เยว่ถิงเป็นอย่างไรบ้าง? ”

ดวงตาเผยให้เห็นร่องรอยของความเสียใจ ทว่าสีหน้ากลับสงบนิ่ง

ราวกับว่าเวลาเพียงแค่คืนเดียวสามารถทำให้นางพูดเรื่องเกี่ยวกับเยว่ถิงได้อย่างปกติ

“ทั้งหมดถูกจัดขึ้นตามคำขอของพี่สาวขอรับ ผู้อาวุโสสกุลหลินสั่งให้ลูกหลานของตนเองหลายคนมาช่วยเคลื่อนย้ายโลงศพของพี่เยว่ถิงไปยังบ้านสกุลหลินแถบชานเมือง”

หลินจงอวี้เล่าในสิ่งที่คนของเขาเห็นมากับตาให้ฟัง

โชคดีที่คนเหล่านั้นมิได้กระทำการต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง

ดังนั้น จึงไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันใด ๆ

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว จริงสิ ท่านอ๋องล่ะ? ”

หลังจากฟื้นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเมิ้งหยาเอ่ยถึงหลงเทียนอวี้ สาวใช้ทั้งสี่กลับส่ายหน้าพร้อมทั้งเอ่ยว่าไม่รู้

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว พยุงข้าหน่อย ข้าจะไปเดินเล่นที่สวน”

ทันทีที่ฟื้นก็จะลุกเดิน สาวใช้ทั้งสี่กลับไม่สามารถห้ามนางได้

ชิงหูทนมองไม่ไหวอีกต่อไป ก้มตัวลงแล้วอุ้มหลินเมิ้งหยาขึ้นมา

“เจ้าเด็กน้อย ถ้าหากเจ้าป่วยแบบนี้ไปตลอดชีวิตก็คงดี”

เสียงของชิงหูดังขึ้นด้านบน หลินเมิ้งหยาถลึงตาใส่เขา

“ถ้าข้าเจ็บป่วยเช่นนี้ไปตลอดชีวิต คนที่รักคงเสียน้ำตา คนที่เกลียดคงมิวายหัวเราะเยาะ”

ชิงหูกลับส่ายหน้า ก่อนจะอุ้มหลินเมิ้งหยาไปที่ศาลาเล็กในสวน

“หากเจ้าป่วยตลอดชีวิต ข้าเองก็จะสามารถอุ้มเจ้าเช่นนี้ไปได้ตลอดชีวิตเช่นกัน ข้าจะขอเป็นขาของเจ้าเอง”

หลินเมิ้งหยามิได้สนใจคำพูดไร้สาระของชิงหู ที่ศาลาเล็กมีเบาะนั่งขนสัตว์วางอยู่ก่อนแล้ว

บรรยากาศยามค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเย็นมากขึ้นทุกที

แม้ว่าเบาะนั่งขนสัตว์จะอุ่นมากขนาดไหน แต่หัวใจของนางกลับสั่นสะท้าน

“อีกไม่นานพระจันทร์ก็คงเต็มดวง”

อีกไม่นานก็จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ของต้าจิ้นแล้ว

พี่ชายเองก็น่าจะกลับมาจากชายแดนแล้วเช่นกัน ถ้าหากพี่ชายรู้เรื่องของพี่เยว่ถิง เขาจะเสียใจมากขนาดไหน?

“เสี่ยวอวี้ พี่สาวขอร้องเจ้าสักหนึ่งเรื่องได้หรือไม่? ”

หลินจงอวี้รีบเข้ามายืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยาด้วยความกระตือรือร้น ใบหน้าแดงระเรื่อของหนุ่มน้อยอยากจะสื่อเป็นนัยกับหลินเมิ้งหยาว่าเขาพร้อมจะทำทุกเรื่องที่นางขอ

“กระจายข่าวลือเรื่องไท่จื่อที่ไร้ความสามารถ ปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่เยว่ถิงให้หมด อย่าให้พี่ชายของข้ารู้เรื่องนี้ เปลี่ยนแปลงเรื่องราวเป็นพี่เยว่ถิงไม่ทันระวังจึงลื่นตกเขา”

ความแค้นเป็นเรื่องเหน็ดเหนื่อยที่สุด นางขอแบกรับสิ่งนั้นไว้เพียงลำพัง

นางปรารถนาเพียงให้พี่ชายจดจำแต่เรื่องดี ๆ ของพี่เยว่ถิงเอาไว้

หญิงสาวผู้งดงามควรแค่การการคะนึงถึง

“ขอรับ ข้าจะพยายามช่วยพี่สาวให้ดีที่สุด”

เสี่ยวอวี้พยักหน้าลง ก่อนจะรีบออกวิ่งไปหาลูกน้องของตนเอง

“ไม่ใช่มือของตนเอง ก็เลยรู้สึกไม่สะดวกใช่หรือไม่? ”

เสียงอันเจือไว้ซึ่งความขี้เล่นของชิงหูดังขึ้น มองดูเด็กน้อยของตนเอง ดวงตาเสมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เปล่งประกาย

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”

หลินเมิ้งหยาจ้องชิงหู แต่กลับได้เห็นฝ่ายตรงข้ามกะพริบตาปริบ ๆ

“ข้าบอกว่าข้ามอบฝูหรงโหลวให้แก่เจ้า ที่นั่นเป็นเพียงโรงน้ำชาแต่เพียงเท่านั้น”

ดูเหมือนความตั้งใจของเขาจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของนางสินะ

ทว่า การยืมมือคนอื่นให้เข้าช่วยมิใช่อุปนิสัยของนาง

“ฝูหรงโหลว เถาฮวาอู๋ เท่านี้อำนาจของเจ้าก็มากมายมหาศาลแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังมีวิธีอื่นอีก”

หลังจากผ่านเรื่องของเยว่ถิงมา ในที่สุดหลินเมิ้งหยาก็รู้ตัวว่าหากตนเองไร้ซึ่งอำนาจ ก็จะไม่สามารถทำเรื่องที่ต้องการได้

ดังนั้น นางต้องทำให้ตนเองแข็งแกร่งมากพอ จึงจะสามารถมีอำนาจที่สมบูรณ์แบบได้

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ไม่มีใครพูดเรื่องของพี่เยว่ถิงอีก

ข่าวลือที่เข้ามาแทนที่คือเรื่องไท่จื่อผู้ไร้ความสามารถ

ทั้งร้านเหล้าและโรงน้ำชาล้วนสนทนากันเรื่องของไท่จื่อ

ไม่นานเขาก็กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง

แน่นอนว่าเรื่องนี้มิอาจปิดบังคนผู้นั้นในวังหลวงได้

ในช่วงเวลาที่หลินเมิ้งหยากำลังพักรักษาตัว ไท่จื่อถูกเรียกตัวเข้าวัง ฮองเฮาสั่งสอนและตำหนิเขาอย่างรุนแรง

ภายในห้องโถงหรูหราในตำหนัก มีเพียงไท่จื่อและฮองเฮาอยู่ในนั้น

ผู้ที่นั่งตำแหน่งประธานคือฮองเฮาซึ่งสวมใส่ชุดประจำตำแหน่ง ศีรษะสวมใส่รัดเกล้าลายหงส์

ทว่า สีหน้าของนางแข็งทื่อ ดวงตาที่จ้องมองทางไท่จื่อเผยให้เห็นความผิดหวัง

เย็นชา ราวกับว่าเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของนาง

“เจ้าลองดูนี่ นี่คือเพลงที่คนทั้งเมืองต่างร้อง เจ้าเป็นถึงองค์รัชทายาท เจ้าควรเป็นแบบอย่างของทุกคนในใต้หล้า แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร? เจ้ากลายเป็นตัวตลกไปแล้ว! ”

ฮองเฮาขว้างกระดาษเนื้อเพลงใส่หน้าไท่จื่อ

ไท่จื่อผู้สวมใส่ชุดสีเหลืองทองอร่ามก้มหน้า ร่างกายสั่นเทิ้ม สีหน้าขาวซีด

เขาไม่รู้เลยว่าเพลงเหล่านี้มาจากที่ใด

“คำสอนที่ข้าเฝ้าพรรณนาให้เจ้าฟังเคยอยู่ในสมองบ้างหรือไม่? โง่เขลา เหตุใดจึงขลาดเขลาขนาดนี้? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าที่เป็นเช่นนี้กำลังทำให้ราษฎรหมดความจงรักภักดี”

ฮองเฮาทรงงานช่วยฮ่องเต้มานานหลายปี มุมมองทางการเมืองเฉียบขาด ไท่จื่อที่ถูกเลี้ยงดูอย่างสุขสบายตลอดมามิอาจเทียบนางได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ชื่อเสียงของหลงเทียนอวี้กับหลงชิงหานกำลังได้รับความนิยม

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่านางคงมิอาจรักษาตำแหน่งของไท่จื่อเอาไว้ได้ ดูท่า คงต้องมอบตำแหน่งนี้ให้กับผู้อื่นจริง ๆ

“หมู่โฮ้ว แต่ข้าเป็นไท่จื่อ ข้าคือว่าที่ฮ่องเต้ พวกเขาเป็นเพียงขุนนางเท่านั้น การปกป้องดูแลข้าเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรทำมิใช่หรือ? ”

จนกระทั่งตอนนี้ ไท่จื่อยังไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองทำอะไรผิด

แววตาของฮองเฮาเผยให้เห็นความผิดหวังอย่างสุดซึ้ง

เพราะอะไรกัน เหตุใดเด็กคนนี้จึงมิได้รับความฉลาดของนางกับฮ่องเต้ไปเลย?

“เจ้าโง่! หากเจ้าพยายามสักนิดที่จะต่อกรกับศัตรู ขุนนางพวกนั้นคงพยายามรั้งเจ้าเอาไว้และเจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาทผู้กล้าหาญ แต่ตอนนี้เจ้ากลับกลายเป็นเพียงองค์รัชทายาทผู้หนีเก่งไร้เทียมทาน แล้วแบบนี้จะกอบกู้ชื่อเสียงของเจ้ากลับมาได้อย่างไร”

ฮองเฮาโกรธไท่จื่อจนแทบสิ้นสติ เจ้าเด็กโง่คนนี้คิดหรือว่านักฆ่าพวกนั้นจะสามารถประชิดตัวเขาได้?

“คือ…ลูกผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกยอมรับความผิดทุกอย่าง”

ไท่จื่อยังคงไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิด แต่เมื่อเห็นฮองเฮากริ้ว เขาจึงรีบก้มหน้ารับผิดทันที

ฮองเฮาถอนหายใจ มองดูไท่จื่อที่กำลังคุกเข่าต่อหน้าตนเอง แต่ถึงกระนั้นความโกรธก็ยังมิจางหายไป

“ข้าไม่ค้านที่เจ้าร่วมมือกับฮ่องเต้หมิง แต่เหตุใดเจ้าจึงไปสร้างความร้าวฉานให้กับสกุลหลินและสกุลเยว่ หากสองพ่อลูกสกุลหลินตั้งตัวเป็นศัตรู กำลังของต้าจิ้นคงหายไปครึ่งเจียงซาน!”

ฮองเฮาสั่งสอนเขาด้วยความจริงใจ แม้จะเป็นลูกชายของตนเอง แต่เมื่อเขาทำผิด นางก็ต้องสั่งสอน

“หมู่โฮ้ว นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น เอ๋อร์เฉินคิดว่าสกุลหลินคงไม่ทำเช่นนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

คำตอบของไท่จื่อทำให้ฮองเฮาส่งสายตาไม่พึงพอใจกลับไป

เหตุใดคนอื่นจึงมีลูกฉลาดเฉลียวสง่างาม

แต่ลูกชายของนางกลับไร้ประโยชน์และโง่เขลา

“เอาล่ะ เจ้าออกไปก่อน จำเอาไว้ หากมิได้รับคำสั่งจากเปิ่นกง อย่าได้คิดทำอะไรโง่ๆ อีก หากยังมีครั้งหน้า เปิ่นกงจะขังเจ้าเอาไว้ในจวน! ”

ความชิงชังปรากฏขึ้นในสายตาของไท่จื่อ

ทว่า เขาถวายคำนับและออกไปแต่โดยดี

“ออกมาเถิด ตอนนี้เหลือเพียงพวกเราสองคนแล้ว”

สีหน้าเคร่งเครียดของฮองเฮาอ่อนโยนลง

“คิกคิก ข้าคิดอยู่แล้วว่าจะต้องซ่อนสายตาของหมู่โฮ้วไม่มิด”

เสียงขี้เล่นดังขึ้น จากนั้นหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งจึงเดินออกมาจากทางด้านหลังฮองเฮา

หญิงสาวอายุเพียงสิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น ทว่าใบหน้ากลับงดงาม รอยยิ้มมีเสน่ห์

สวมชุดหญิงชาววังหรูหราสีม่วง ศีรษะปักปิ่นทองห้อยระย้า

นางฉีกยิ้มกว้าง ท่าทางสดใสร่าเริง สามารถดึงดูดความสนใจผู้อื่นได้ในชั่วพริบตา

“เฮ้อ เมิ้งหรู หากไท่จื่อพี่ชายของเจ้าว่านอนสอนง่ายเช่นเจ้าก็คงดี”

ฮองเฮามิได้เข้มงวดกับลูกสาวเหมือนอย่างที่ทำกับไท่จื่อ

หลงเมิ้งหรูมีดวงตางดงาม ทว่าดวงตาคู่สวยกลับมีเล่ห์เหลี่ยมและความฉลาดเฉลียว

“หมู่โฮ้วอย่าได้ร้อนใจไปเลยเพคะ มีหนึ่งประโยคที่พี่ไท่จื่อกล่าวเอาไว้อย่างถูกต้อง นางเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น ตายไปก็ไม่เป็นไร เท่านี้หมู่โห้วก็สามารถส่งลูกไปแต่งงานกับหลินหนานเซิงได้แล้วมิใช่หรือเพคะ? ”

เสียงหวานใส แต่กลับผ่านการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว

คิ้วของฮองเฮาที่ขมวดเข้าหากันคลายออก จ้องมองลูกสาวสุดที่รัก ก่อนจะแสดงท่าทางเสียดาย

เหตุใดสมองอันชาญฉลาดของนางจึงตกอยู่ที่ลูกสาวกันนะ?

“เมิ้งหรู หากเจ้าเป็นชายคงจะดีกว่านี้”

โอบกอดร่างบาง ความโกรธเกรี้ยวเริ่มสลายไปจากหัวใจ

เมิ้งหรูพูดถูกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังในการปล่อยข่าวลือเสียๆ หายๆ ของไท่จื่ออย่างแน่นอน

หากเป็นเช่นนี้ พ่อลูกสกุลหลินคงมิอาจล่วงรู้ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของเยว่ถิง

“แต่ข่าวลือในคราวนี้รุนแรงยิ่งนัก เกรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพี่ชายของเจ้า”

หลงเมิ้งหรูครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ย

“เช่นนั้นพวกเราสร้างข่าวที่ใหญ่กว่านี้กันเถิดเพคะ เท่านี้ราษฎรก็จะลืมเรื่องเกี่ยวกับพี่ไท่จื่อ”

ฮองเฮาครุ่นคิด พยักหน้าลง ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

ภายในพระราชวังกำลังสร้างคลื่นใต้น้ำ ทว่า บรรยากาศในจวนอวี้กลับเงียบสงบ

นับตั้งแต่วันที่เยว่ถิงตายจากไป หลินเมิ้งหยาใช้ข้ออ้างว่ากำลังรักษาตัวเพื่อหลีกเลี่ยงในการออกไปด้านนอก

พระสนมเต๋อเฟยส่งคนมาดูอาการหลายครั้ง แต่ทุกครั้งส่งมาเพียงของบำรุงร่างกายเท่านั้น

หากมิได้ความเห็นชอบจากพระสนมเต๋อเฟย ซูเหม่ยหยุนคงมิอาจพาตัวพี่เยว่ถิงไปได้

ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างหลินเมิ้งหยากับพระสนมเต๋อเฟยจึงห่างเหินมากขึ้นทุกที

เพียงแค่ทุกคนดูไม่ออกแต่เพียงเท่านั้น

ปลายฤดูใบไม้ร่วง ทุกคนสวมใส่ชุดที่หนามากขึ้น

โดยเฉพาะป๋ายจื่อ รูปร่างกลม ๆ เล็กน้อยของนางยิ่งดูน่ารักเมื่ออยู่ในชุดสีชมพู

Related

Related

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "เล่มที่ 5 บทที่ 148 เสียงซุบซิบนินทา"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์