CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 6 บทที่ 180 ตายยังดีกว่าอยู่

  1. Home
  2. ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ
  3. เล่มที่ 6 บทที่ 180 ตายยังดีกว่าอยู่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“ท่านอ๋อง?”

คนที่เข้ามาคือหลงเทียนอวี้

หลินเมิ้งหยาเบี่ยงกายหลบเขา

“ไปเถิด กลับจวนกัน”

หลงเทียนอวี้ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามหลินเมิ้งหยาแล้วส่งเสียงเรียบ

ป๋ายซูออกไปนั่งข้างคนขับรถม้าอย่างรู้งาน

ภายในรถม้าจึงเหลือเพียงหลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้

รถม้าเคลื่อนไหวโคลงเคลงไม่หยุดจนกระทั่งออกจากเขตพระราชวัง

ฤทธิ์ของยาเริ่มหมดไป ความเจ็บปวดที่มือทำให้หลินเมิ้งหยาหายใจถี่ขึ้น

จุดที่ป๋ายซูสะกดเอาไว้เริ่มคลาย

หลินเมิ้งหยารู้สึกได้ว่าบาดแผลที่ฝ่ามือเริ่มมีเลือดไหล

จู่ๆ จมูกพลันได้กลิ่นเลือดและสมุนไพร

เขาจ้องหน้าหลินเมิ้งหยา หน้าผากของนางมีเหงื่อผุดพราย

“เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ? บาดแผลอยู่ตรงไหน?”

ความกังวลพลันปรากฏขึ้นในดวงตา

หลงเทียนอวี้ยื่นมือเข้าไปจับมือหลินเมิ้งหยา ทว่าอีกฝ่ายกลับร้องออกมาเบาๆ

“โอ๊ย ปล่อยมือหม่อมฉันก่อน”

หลงเทียนอวี้รีบคลายมือออก

ผลปรากฏว่ามือที่เปื้อนไปด้วยเลือดเผยให้เห็นตรงหน้าเขา

หลงเทียนอวี้เม้มปากแน่น ปลดผ้าสีขาวที่ชุ่มไปด้วยเลือดบนมือของนางออก

“หม่อมฉันมียา”

มือ…ปวดจนหลินเมิ้งหยาแทบสิ้นสติ

ทว่านางยังมีแรงมากพอที่จะล้วงมือซึ่งกำลังสั่นระริกเข้าไปหยิบยาห้ามเลือดในแขนเสื้อออกมา

หลงเทียนอวี้มองดูหลินเมิ้งหยาด้วยความกระวนกระวาย สุดท้ายรับยาจากนางแล้วช่วยใส่ยาให้

หลินเมิ้งหยาเม้มปากแน่น ไม่ยอมส่งเสียงร้องแม้เพียงนิด

แต่หยาดเหงื่อบนหน้าผากกลับรินไหล

“ถ้าเจ็บก็ร้องออกมาเถิด”

หลงเทียนอวี้ชำเลืองมองนาง คิดไม่ถึงเลยว่านางจะอดทนมาได้จนกระทั่งตอนนี้

แม้จะเจ็บแต่กลับไม่ยอมส่งเสียงร้องทำเพียงกัดฟันอดทน จนคนมองอดที่จะเจ็บปวดตามไม่ได้

“ตอนนี้ยังไม่ถึงจวน หากมีคนได้ยินเข้าจะสังเกตเห็นความผิดปกติเอาได้เพคะ”

แท้ที่จริงนางเจ็บมาก เจ็บปวดจนสุดขั้วหัวใจ

หลินเมิ้งหยากลับทนเอาไว้แม้ใบหน้าจะขาวซีดก็ตาม

หลงเทียนอวี้เองก็รู้สึกเจ็บปวดตาม บาดแผลของนางลึกจนเกือบถึงกระดูก

นางต้องใช้ความอดทนมากขนาดไหนกัน?

“อย่ากัดปากตัวเอง เดี๋ยวเจ้าจะเจ็บ”

มิรู้ว่าเพราะเหตุใดนิ้วมือของหลงเทียนอวี้จึงยื่นเข้าไปแตะริมฝีปากของนาง

สัมผัสอ่อนนุ่มทำให้หัวใจของเขารู้สึกคันยุบยิบ

ริมฝีปากสีแดงดั่งลูกเชอรี่บัดนี้ขาวซีด

สายตามองเหม่อ

หลินเมิ้งหยาที่ไม่ทันระวังตัวถูกรวบตัวเข้าไปจุมพิตในชั่ววินาทีต่อมา

ริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกันเบาๆ หลินเมิ้งหยาผงะ

ดั่งต้องมนต์สะกด หลินเมิ้งหยารู้สึกว่าร่างกายของนางแข็งทื่อในชั่วพริบตาที่ริมฝีปากของตนเองสัมผัสกับริมฝีปากของเขา

จุมพิตของเขาอบอุ่นเหลือเกิน

แตกต่างจากยามปกติที่มักจะเย็นชาเหมือนคนไร้ความรู้สึก

ยามนี้หลินเมิ้งหยารู้สึกว่าสมองของนางกำลังหมุนติ้ว

เมื่อสังเกตเห็นปฏิกิริยาของร่างน้อย หลงเทียนอวี้แย้มยิ้มในใจ

จากริมฝีปากที่แตะกันอย่างแผ่วเบากลายเป็นหนักหน่วงยิ่งขึ้น

หนึ่ง เพื่อทำให้นางลืมความเจ็บปวดที่กำลังได้รับ

สอง เพราะเขาไม่อาจทนได้เมื่อได้เห็นริมฝีปากสีเชอรี่ตรงหน้า

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพียงรถม้าตกหลุม บาดแผลของหลินเมิ้งหยาก็ถูกกระทบกระเทือน

เหตุเพราะความเจ็บปวดนางจึงขบฟันแน่น

“อุ๊บ…”

หลงเทียนอวี้ส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ แต่กลับปล่อยให้หลินเมิ้งหยากัดริมฝีปากของตนเองต่อไป

ดวงตาเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก หลินเมิ้งหยารีบปล่อยตัวหลงเทียนอวี้

ใบหน้าแดงก่ำเพราะความเขินอาย ก่อนจะซุกตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของรถม้า มิกล้าสบตาเขา

“ขอ..ขออภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ…”

หลินเมิ้งหยาส่งเสียงแผ่ว นางอยากจะมุดหน้าลงดินให้รู้แล้วรู้รอด

“ไม่เป็นไร มือของเจ้าบาดเจ็บได้อย่างไร?”

คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย การได้เห็นพระชายาที่มักจะมีท่วงท่าสง่างามอยู่เป็นนิจกลายเป็นสาวน้อยขี้อาย ทำให้หลงเทียนอวี้รู้สึกเหมือนได้พบเจอประสบการณ์แปลกใหม่

เขาเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา เอื้อมจับมือนางมาวางแนบบนท่อนขาของตนเองเพื่อไม่ให้มือของนางถูกกระแทกอีก

“คุณหนูหวังต้องการสังหารหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันยื่นมือเข้าไปรับมีดเอาไว้เพคะ”

ความรู้สึกสับสนปรากฏขึ้นในดวงตาของหลงเทียนอวี้

เหตุใดนางจึงเด็ดเดี่ยวเช่นนี้?

ยากที่จะนึกภาพหญิงสาวซึ่งไร้วิทยายุทธ์ขณะถูกมีดฟันลงมา แต่นางกลับยื่นมือเข้าไปรับมีดของศัตรูเอาไว้

ต่อให้เป็นเขาเองที่ต้องเจอเรื่องนี้ก็คงไม่สงบนิ่งได้เช่นนาง

“ศพนิรนามที่ไร้ผิวหนังคือ…”

“องค์หญิงหมิงเยว่เพคะ นางกับคุณหนูหวังร่วมกันวางแผนทำร้ายหม่อมฉัน”

สุดท้ายพวกนางคงคิดไม่ถึงว่าจะต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของหลินเมิ้งหยา

“คิดจะทำร้ายผู้อื่นก็ควรคิดเอาไว้ด้วยว่าจะโดนผู้อื่นทำร้ายกลับ นางสมควรตายแล้ว แต่เจ้าใช้วิธีไหนสังหารนางกัน?”

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง บางทีหลินเมิ้งหยาอาจจะมิได้ลงมือเองทั้งหมด

นางเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอบอบบางคนหนึ่ง อีกทั้งมือยังได้รับบาดเจ็บ

แม้ป๋ายซูจะมีวิทยายุทธ์แต่ก็หาใช่คนใจดำอำมหิต

ดังนั้นหลงเทียนอวี้จึงสงสัยเป็นอย่างมาก

หลินเมิ้งหยาครุ่นคิดก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมา

ขวดทรงกลมขนาดเล็กไม่ต่างจากขวดแป้งที่หญิงสาวใช้ประหน้า

หากมิบรรจุไว้เช่นนี้เกรงว่าคงมิอาจนำเข้าวังหลวง

“นี่คือยาพิษเลาะเนื้อลอกหนังเพคะ ท่านอาจารย์ป๋ายหลี่รุ่ยเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา หากของสิ่งนี้สัมผัสถูกผิวกายของมนุษย์จะทำให้เกิดอาการคันจนถึงกระดูก พิษชนิดนี้จะแทรกซึมไปทั่วทุกอณูรูขุมขนจึงทำให้ผู้ถูกพิษเสียสติ เมื่อองค์หญิงหมิงเยว่ถูกพิษชนิดนี้เข้า นางจึงเกิดอาการคลั่งและเฉือนเนื้อตัวเองออกเพคะ”

เอื้อนเอ่ยสรรพคุณของยาพิษด้วยท่าทางสงบนิ่ง ดวงตาของหลินเมิ้งหยาไร้ซึ่งความโอ้อวด

ราวกับว่าของชิ้นนี้เป็นเพียงยาพิษธรรมดาแต่เพียงเท่านั้น

หัวใจของหลงเทียนอวี้บีบเข้าหากัน ของที่สามารถทำให้มนุษย์เสียสติจนเฉือนผิวหนังของตนเองทิ้งจะต้องร้ายแรงขนาดไหนกัน

“ยาชนิดนี้ถอนพิษง่ายหรือไม่?”

หลงเทียนอวี้รับขวดเล็กขวดนั้นมาด้วยความระมัดระวัง มองสำรวจเล็กน้อยแต่มิได้เปิดออก

หลินเมิ้งหยาพยักหน้า

“ใช้น้ำล้างก็เพียงพอแล้วเพคะ แม้ยาชนิดนี้จะรุนแรงแต่มิอาจทนน้ำได้”

นี่จึงเป็นสาเหตุที่นางยอมพกติดตัวเพื่อป้องกันตัวเอง

หากทำร้ายคนผิดเข้าเพียงใช้น้ำล้างก็เพียงพอ

แต่ของแบบนี้อย่าให้คนอื่นรับรู้จะดีเสียกว่า

“เพราะเหตุนี้หมิงเยว่จึงกระโดดลงน้ำ แม้นางจะไม่ได้เจ็บปวดจนตาย แต่นางกลับจมน้ำตาย”

หลงเทียนอวี้ครุ่นคิด ก่อนจะส่งขวดคืนหลินเมิ้งหยา

ทว่าหลินเมิ้งหยากลับดันออก

“หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องเป็นยอดฝีมือผู้เก่งกาจ แต่ก็อาจจะตกหลุมพรางของคนอื่นได้ ของชิ้นนี้หาใช่ยาพิษร้ายแรง ท่านอ๋องเก็บเอาไว้ป้องกันตัวเถิดเพคะ”

คำพูดของหลินเมิ้งหยามีเหตุผลจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้

เก็บเข้าไปในแขนเสื้อ ช่วงนี้เหตุการณ์ในเมืองหลวงไม่ปกติเหมือนก่อน เก็บเอาไว้ป้องกันตัวก็ไม่เลว

“ท่านอ๋อง เกรงว่าหากฮ่องเต้หมิงรู้ความจริงเข้า ความร่วมมือของพวกเรากับเขาคงจบสิ้นแล้วเพคะ”

หมิงเยว่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของฮ่องเต้หมิง หากมิใช่เพราะแบบนี้ฮ่องเต้หมิงจะมอบความสนใจให้กับนางทำไม

นางรู้ดีว่าผู้หญิงที่ซีฟานเป็นเพียงบาทบริจาริกาของผู้ชายแต่เพียงเท่านั้น

แม้แต่พระชายาเอกของฮ่องเต้หมิง แม้จะมีฐานะสูงส่งอีกทั้งยังมีอำนาจในมือแต่สุดท้ายแล้วนางก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของฮ่องเต้หมิง

ดังนั้นจึงไม่เคยมีการแทรกแซงอำนาจของฮองเฮามาก่อน

ทว่าหมิงเยว่ที่มีฐานะเป็นองค์หญิงสามารถติดตามบิดาของนางมาเชื่อมสัมพันธไมตรีกับต้าจิ้นได้ แสดงว่าตำแหน่งที่ซีฟานของนางจะต้องสูงมากอย่างแน่นอน

“ไม่หรอก ฮ่องเต้หมิงเป็นมหาบุรุษ อีกทั้งยังเป็นผู้ปกครองซีฟาน ความตายของลูกสาวมิอาจทำให้เขาเสียใจจนทำให้เสียการเสียงาน”

ราชวงศ์ไม่มีความสัมพันธ์รักใคร่ปรองดองเช่นนั้นหรอก ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนเสมอ

“เสด็จพ่อ ศพนั้นคือหมิงเยว่ไม่ผิดแน่พ่ะย่ะค่ะ”

ภายในพระราชวัง ฮ่องเต้หมิงเหลือบมองหูเทียนเป่ยที่เพิ่งกลับมาจากการตรวจสอบศพด้วยใบหน้าแข็งทื่อ

มาต้าจิ้นในคราวนี้ เขาต้องเสียทั้งลูกชายและลูกสาว

แก้วชาราคาแพงแหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ กระจายเต็มพื้น

แม้แต่เก้าอี้ไม้สีแดงยังมีรอยมือจางๆ

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ความโกรธเกรี้ยวของฮ่องเต้หมิงจึงปะทุขึ้นมา

สีหน้าของหูเทียนเป่ยไม่น่ามอง แม้หมิงเยว่จะเอาแต่ใจทว่าเขาเอ็นดูน้องสาวคนนี้มาก

คิดไม่ถึงเลยว่านางจะต้องตายอย่างอเนจอนาถ

สายตาเย็นชาจับจ้องมองหน้าไท่จื่อ หากหมิงเยว่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชายคนนี้ นางจะพบจุดจบเช่นนี้ได้อย่างไร

“ฮองเฮาจะอธิบายเรื่องนี้กับกระหม่อมอย่างไร?”

ฮองเฮาลืมตาขึ้นช้าๆ ชำเลืองทางฮ่องเต้หมิง ยังคงรักษาท่าทางสงบเยือกเย็น

“เปิ่นกงจะหาคำอธิบายให้กับฮ่องเต้หมิงอย่างแน่นอน แต่ก่อนหน้านั้นพระองค์ควรอธิบายกับหม่อมฉันก่อนหนึ่งเรื่องมิใช่หรือ?”

จู่ๆ ฮองเฮาก็ผุดลุกขึ้น รัดเกล้าบนศีรษะส่องแสงแวววาว ใบหน้างดงามเย็นชาดุจน้ำแข็ง

นางโยนจดหมายพับที่ถืออยู่ในมือลงแทบเท้าฮ่องเต้หมิง

แม้จะเป็นเพียงสตรี แต่กลับมีความหยิ่งผยองน่าเกรงขาม ฮ่องเต้หมิงจึงราวกับว่าถูกรัศมีของนางกลืนกิน

“นี่คืออะไร?”

สีหน้าเคร่งขรึม ก้มลงหยิบจดหมายพับบนพื้น

ทว่าเพียงเหลือบตามองเพียงสองสามประโยค แววตาโหดเหี้ยมพลันจางหายไป

“ซีฟานเป็นประเทศภายใต้การปกครองของต้าจิ้น ทหารมิควรมีเกินห้าหมื่น สรรพาวุธยุทโธปกรณ์ล้วนถูกจำกัด ท่านลองดูข้อความในจดหมายพับฉบับนี้เถิด ทหารม้าแห่งซีฟานมีมากถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นคน หรือท่านกำลังคิดที่จะก่อสงครามกับต้าจิ้น!”

คำพูดของฮองเฮาทำให้ฮ่องเต้หมิงพูดไม่ออก

ยิ่งไปกว่านั้นในจดหมายฉบับนี้มีการลงรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจน แม้แต่ความลับของซีฟานก็มีเขียนเอาไว้

เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ทว่าการที่ฮองเฮานำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยแสดงว่านางจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน

“อย่าได้พูดจาโยกโย้เลย ฮองเฮามีเงื่อนไขอันใดจงรีบพูดออกมาเถิด”

ภายในตำหนักมิมีผู้อื่นดังนั้นฮ่องเต้หมิงจึงไม่สงวนท่าทีที่แสดงออก

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของฮองเฮาจึงเลื่อนกลับมามองพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ

“เปิ่นกงรู้ว่าฮ่องเต้หมิงกำลังโศกเศร้าเพราะความตายขององค์หญิงหมิงเยว่ เรื่องนี้เปิ่นกงไม่มีทางปัดความรับผิดชอบและจะตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่เปิ่นกงหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ป่าวประกาศออกไป ถึงอย่างไร ราชวงศ์ก็มิเหมือนประชาชนธรรมดา เรื่องเหล่านี้อาจสร้างความเสื่อมเสียต่อราชวงศ์ได้ ฮ่องเต้หมิงคิดเห็นเช่นไร?”

ฮ่องเต้หมิงกำหมัดแน่น สายตาคับแค้น

หูเทียนเป่ยเองก็เม้มปากสนิท จ้องมองสตรีผู้เย่อหยิ่งตรงหน้าด้วยความเย็นชา

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "เล่มที่ 6 บทที่ 180 ตายยังดีกว่าอยู่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์