ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคชะตาจริงๆนะ - ตอนที่ 33
กล่าวโดยสรุป ชายชุดดำดูไม่แปลกใจที่พบว่าเขาถูกค้นพบ
มันทำให้ เซิ่นเทียนรู้สึกว่าเป้าหมายของที่แท้จริงของชายชุดดำไม่ไช่เสี่ยวหลิงเซียนแต่เป็นเขาตั้งหาก
ขันทีกุ้ยเยาะเย้ย: “เจ้าโจจ เจ้ากล้ามากที่กล้าลบหลู่ฝ่าบาท!”
“ตาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ขันทีกุ้ยได้กลายเป็นเงาสีแดงแล้วและพุ่งตรงไปทางบุคคลนั้น
คร้ง!
คราวเร็วของกระบี่อ่อนสีม่วงมาถึงจุดสูงสุดจนกลายเป็นแสงสีม่วง
ชายชุดดำถูกล้อมด้วยเงาสีแดงและแสงกระบี่สีม่วง
ราวกับเรือพายกลางพายุ
อย่างไรก็ตาม!
แม้ว่าการจู่โจมของขันทีกุ้ยจะรวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ
แต่เขาล้มเหลวในการสร้างความเสียหายแม้แต่น้อยให้กับชายชุดดำและเขาราวกับถูกบางอย่างที่มองไม่เห็นสะท้อนจนกระเด็นกลับ
ชายชุดดำยืนนิ่งอย่างภาคภูมิใจในโล่ที่มองไม่เห็น
ราวกับว่าแสงกระบี่นับไม่ถ้วนรอบตัวเขาเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน ไม่มีอันตรายใดๆ
…
“มันหายากมากที่กลั่นฉัขั้น7จะมีพลังทำลายล้างมากขนาดนี้”
ชายชุดดำมองไปที่ขันทีกุ้ยใบหน้าของเขาร้อนผ่าว “วิชาที่เจ้าฝึกต้องดีมาก!”
“จงออกมา เทพผู้นี้จะทำให้เจ้าได้ตายเร็วๆนี้!”
ทันทีที่สิ้นเสียง แสงสีทองก็ออกมาจากบริเวณตันเถียนของชายชุดดำ
เม็ดยาสีทองขนาดเท่าลำไยปรากฏขึ้นอย่างจาง ๆ
ในเวลาเดียวกันการพลังมหาศาลก็หลั่งไหลออกมาเก่อเกิดลมแรงและคลื่นขนาดใหญ่
ขันทีกุ้ยก็บินถอยหลังราวกับการโจมตีที่ทรงพลัง
ทันใดนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
…
“ขอบเขตแกนทองคำ ที่แท้เจ้าเป็นเป็นผู้ฝึกตนแกนทองคำ!”
ขันทีกุ้ยแสดงท่าทีสิ้นหวังและพยายามยืนขึ้น: “ฝ่าบาท หนีไป ทาสชราจะยื้อเขาให้ท่าน!”
เซิ่นเทียนส่ายหัวช้าๆ
พระแกนทองคำสามารถแผ่สนามพลังออกมาได้
ต่อหน้าพลังระดับนี้ การหนีเป็นแค่เรื่องตลก
ไม่ต้องพูดถึงว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขาจงใจซ่อนฐานการฝึกตนของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนมาเป็นเวลานาน
ชายชุดดำเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม: “ไม่ต้องดิ้นรนหรอก ตั้งแต่วินาทีที่เจ้าออกจากสวนว่านหลิง ชะตากรรมของเจ้าก็ถูกกำหนดไว้แล้ว!”
“พื้นที่ตรงนี้ถูกวางค่ายกลซ่อนเร้นไว้แล้ว และจะไม่มีใครเห็น”
ชายชุดดำหยิบกล่องหยกจากแขนของเขา หยิบยาเม็ดหนึ่งออกมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ยิ้มแย้ม
“เหอะๆ เซิ่นโอวเทียน? ความสามารถในการค้นหาแร่วิญญาณของเจ้าค่อนข้างดี แต่ฐานการฝึกตนอ่อนแอเกินไป”
“ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญซ่อนเร้นจริงๆ”
“แต่ที่จริงแล้วฐานการฝึกตนของเจ้ากลับอ่อนแอมากๆ”
“ในเมื่อเจ้าบอกว่าที่เทพผู้นี้ไม่มีโชคชะตากับเจ้า ดังนั้นเทพผู้นี้จึงทำได้เพียงบังคับเจ้าเท่านั้น”
“ตราบใดที่เจ้ากลืน ‘โอสถควบคุมใจ’ นี้เข้าไป เจ้าจะกลายเป็นทาสของเทพผู้นี้”
“ในเวลานั้น พลังของนิกายศักดิ์สิทธิ์ในราชอาณาจักรเพลิงจะขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อมองไปที่ชายชุดดำที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เซิ่นเทียนครุ่นคิด
เขาจำได้แก่นทองคำตัวจริงทที่ชื่อเฮ่ยซวี่(โลหิตทมิฬ)เข้ามาตื้อกเขาไม่รู้จบ ยืนกรานที่จะให้เขาหาหินให้
แต่ที่ด้านบนของหัวของเขานั้น ไม่มีโอกาสอะไรเลย
ดังนั้น เซิ่นเทียนจึงปฏิเสธ
ขาไม่เคยคิดว่า ผู้ชายคนนี้จะกล้าเสี่ยงและจะทำให้เขากลายเป็นหุ่นเชิด
…
“นิกายศักดิ์สิทธิ์?”
เซินเทียนถามอย่างสนใจมาก: “อาณาเขตของอาณาจักรเพลิงยิ่งใหญ่ของข้าอยู่ภายใต้เขตอำนาจของถ้ำสวรรค์สีขาว และถ้ำสวรรค์สีขาวอยู่ภายใต้อำนาจของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพพิรุณ”
“ภายในรัศมีหนึ่งล้านลี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่านิกายศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อได้ยิน เซิ่นเทียนถามถึงการมีอยู่ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ใบหน้าของเฮยซวี่ก็มืดมน
เขาพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา: “ถ้ำสวรรค์สีขาวจะนับเป็นอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้านิกายศักดิ์สิทธิ์ของข้า? “
”ในวันที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเสด็จลงมา แม้แต่ดแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ก็จะไม่มีอะไรมากไปกว่าไก่และสุนัข และมันจะถูกทำลายทันที!”
คำพูดของเฮยซวี่ทำให้ใบหน้าของขันทีกุ้ยน่าเกลียดยิ่งขึ้น
“นิกายศักดิ์สิทธิ์หรือ มันคือนิกายวิญญาณชั่วร้าย?”
“ชายคนนี้เป็นสมาชิกของนิกายวิญญาณชั่วร้ายจริงๆสินะ!”
มีนิกายมากมายในโลกของการฝึกตน และดินแดนรกร้างตะวันออกเพียงแห่งเดียวก็มีแดนศักดิ์สิทธิ์สิบสองแห่ง 36ถ้ำสวรรค์ และตำหนักศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสิบสองแห่ง
นิกายเหล่านี้อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนภายใต้กฏ และความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังต่างๆ นั้นซับซ้อน
ผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์ของคือสหายเต๋าของผู้อาวุโสถ้ำสวรรค์
ผู้อาวุโสในครอบครัวข้า เป็นลูกรักของถ้ำสวรรค์
ฉากหน้ามีความกลมกลืนและความสามัคคี
…
แต่นอกเหนือจากนิกายที่ฝึกตนอย่างชอบธรรมเหล่านี้แล้ว ยังมีกองกำลังชั่วร้ายบางส่วนที่ฝังแน่นอยู่ในความมืด
นิกายวิญญาณชั่วร้ายเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดในหมู่พวกเขา
ศิษย์ของนิกายวิญญาณชั่วร้ายมักไม่ค่อยใช้หินวิญญาณ แต่เลือกใช้เลือด
พวกมันกลืนกินเลือดและวิญญาณของมนุษย์หรือผู้ฝึกตนคนอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
แต่ว่าวิธีการฝึกตนแบบนี้จะทำให้รากฐานไม่มั่นคงและพลังวิญญาณจะว่างเปล่า
แต่ความเร็วในการบ่มเพาะขั้นต้นนั้นเร็วมาก และการใช้หินวิญญาณก็น้อยมาก
หากเข้าปรับแต่งอุปกรณ์ที่ชั่วร้ายเช่น เช่น “ร่มทารกปีศาจ” หรือ “ธงหมื่นวิญญาณ”มันจะทำให้ผู้ตนในระดับเดียวกันต้องสูญเสียครั้งใหญ่
เนื่องจากวิธีการฝึกฝนของนิกายวิญญาณชั่วร้ายทำร้ายสวรรค์และความสามัคคี ทุกคนในโลกแห่งการฝึกตนจึงถูกด่าทอและถูกทุบตีอยู่เสมอ
ตราบใดที่ยังมีวิญญาณชั่วร้ายปรากฏอยู่ พวกเขาจะถูกสังหารโดยความร่วมกันของนิกายหลัก
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ฝึกตนที่เลือกเข้าร่วมนิกายวิญญาณชั่วร้ายอยู่เรื่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีฐานะไม่ดีและมีความเห็นแก่ตัวสุดโต่งสามารถชักจูงได้ง่าย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กองกำลังหลักเต็มไปด้วยปัญหาเหล่านี้
…
“งั้นเจ้าตงเป็นเหมือนคนคลั่งศาสนาสินะ”
เซิ่นเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “เป้าหมายของเจ้าคือข้า ถ้างั้นปล่อยลุงกุ้ยและเสี่ยวหลิงเซียนไป!”
เฮยซวี่เย้ยหยัน: “นี่ไม่ดี พวกเขารู้ตัวตนของเทพผู้นี้แล้ว”
“ยาเม็ดนี้มีเพียงเม็ดเดียว ยกเว้นเจ้า ทั้ง2ต้องตาย!”
หลังจากพูดจบ เฮยซวีก็เหลือบมองไปยังหลิงเซียนที่หมดสติไปข้างเขา พูดติดตลกว่า “ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
“เจ้าหนู ก่อนที่ข้าจะฆ่านาง ข้าควรทำอะไรมากกว่านี้ไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า!”
เฮยซวี่จ้องไปที่ เซิ่นเทียนดูเหมือนว่ากำลังรอคอยที่จะได้เห็นความโกรธบนใบหน้าของเซิ่นเทียน
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกผิดหวังทันที
ใบหน้าของ เซิ่นเทียนนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง: “เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่พิจารณาคำแนะนำของข้า?”
เฮยซวี่เย้ยหยัน: “เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อรองกับข้าตอนนี้พวกมันได้เวลาตายแล้ว!”
เซิ่นเทียนถอนหายใจและกล่าวด้วยความโล่งใจ: “แน่นอนว่านี่คือฏโลกผู้ฝึกตนในความคิดของ้ขา
“เสี่ยวเฮย(ดำน้อย) เจ้าทำให้ข้าโล่งใจมาก”
…
ทัศนคติที่สงบของ เซิ่นเทียนทำให้ เฮยซวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สังหรณ์ร้ายรุนแรงผุดขึ้นในหัวใจของเขา และเขาพึมพำอย่างเย็นชา: “แสร้งทำเป็นเป็นสลบเจ้าคิดว่าจะสามารถพลิกกระดานได้หรือ”
เซิ่นเทียนเดินช้า ๆ ไปข้างหน้า ขันทีกุ้ยและพยุงเขาขึ้น
เขายิ้ม: “เฮยซวี่ เจ้าไม่สงสัยหรือไงว่าผู้ติดตามอีกคนของข้าไปไหน”
เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของเซิ่นเทียน ใบหน้าของเฮยซวี่ก็เปลี่ยนไป
ใช่!
มีผู้ติดตามสองคนอยู่ข้างตัวเขา
ทำไมถึงเหลืออยู่คนเดียว!
เฮยซวี่เพิ่งคิดขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดผ่านท้องฟ้าในระยะไกลอย่างรวดเร็ว
ตู้มมม!
ชู้!
ชู้!
…
หน่วยคุมกฎสวมเสื้อคลุมสีขาว ปรากฏบนท้องฟ้าไม่ห่างไกล!