ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 120 รังเกียจเงินเขามากขนาดไหน
เมื่อปอกแอปเปิลเสร็จแล้วหนูก็จะไป เพียงแต่ที่นี่มีคนเดินเข้าออกอยู่ตลอด คุณแม่แน่ใจหรือคะว่าจะแสกงพฤติกรรมเช่นนี้ให้คนอื่นได้เห็น ? เชอร์รีนพูดเบา ๆ อย่างเย็นชา
สิ่งนี้เป็นการโจมตีจุดอ่อนของสุนันท์เข้าอย่างจัง ความโกรธนั่นจึงถูกระงับอยู่ภายในอก ไม่อาจระบายออกมาได้ ทำให้ทุกข์ทรมานใจเป็นอย่างมาก
หลังจากปอกแอปเปิลเสร็จ เชอร์รีนก็วางลงบนจานผลไม้ที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นจึงลุกขึ้น และเตรียมตัวจะเดินจากไป
ในที่สุดความขุ่นเคืองที่อัดแน่นอยู่ภายในใจก็ผ่อนคลายลง สุนันท์เอนกายลงบนเตียงผู้ป่วย จากนั้นจึงตบหน้าอกของตนเองเบา ๆ แต่ปากของเธอก็ยังคงขยับขึ้นอีก : รีบไสหัวไป ! ยิ่งเร็วยิ่งดี ทางที่ดีไม่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก ไม่ต้องให้ฉันเห็นหน้าเธออีก !
เพราะเธอ เลอแปงจึงไปอเมริกา ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าของเชอร์รีนเลยสักนิด
เมื่อได้ยินดังนั้น เชอร์รีนก็รู้สึกขำ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ? เธอคิดว่าใคร ๆ ก็อยากไปปรากฏตัวต่อหน้าเธออย่างนั้นหรือ ?
เธอรนหาที่จริง ๆ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมเธอเสียด้วยซ้ำ ทำไมจะต้องหาเหาใส่หัวด้วยนะ ?
เธอปฏิบัติต่อสุนันท์อย่างมีมารยาทและมีน้ำใจไมตรี แต่สุนันท์กลับไม่เห็นค่าของสิ่งเหล่านี้เลย ครั้งนี้ เธอตัดสินใจผิดจริง ๆ !
ขณะที่เธอกำลังเดินก้มหน้าก้มตาไปยังห้องพักผู้ป่วย กลับถูกคนคนหนึ่งเข้ามายืนขวางทางเอาไว้ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าออกัสกำลังยืนอยู่ด้านหน้า
บทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เธอรู้ว่าเขาเองก็คงได้ยินเกือบทั้งหมด
เธอมองผ่านเขาไปโดยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงเดินผ่านเขา และมุ่งตรงไปด้านหน้า
แววตาของออกัสดูลึกซึ้ง ทั้งราบเรียบและดำสนิท ดูราวกับกระจกที่ถูกเคลือบด้วยเทคนิคขั้นสูง เขาก้าวขายาวตามไปทันที
เมื่อเห็นดังนั้น สุนันท์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก็ขมวดคิ้วแน่นทันที เธอจงใจแสร้งส่งเสียงร้องครวญครางเพื่อดึงดูดความสนใจของออกัส
แต่ทว่า รูปร่างสูงโปร่งของออกัสกลับหายลับไปจากห้องผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว เขาเดินตามเชอร์รีนไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้ยินเสียงร้องครวญครางของสุนันท์
สุนันท์โกรธจัดจนปวดท้องขึ้นมาและหายใจเหนื่อยหอบ
ตอนนี้ หยาดฝนเดินเข้ามาพอดี ภาพที่ปรากฏขึ้นเมื่อครู่เธอเห็นอย่างชัดเจน เมื่อเห็นเธอ สุนันท์ก็พูดขึ้นว่า : อาการเป็นอย่างไรบ้าง ?
ดีขึ้นมากแล้วค่ะ พี่สะใภ้ล่ะคะ ? หยาดฝนยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบ
ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่เกือบจะโมโหจนตายอยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้ว สุนันท์ส่งเสียงฟึดฟัดด้วยความโมโห
หนูว่าเชอร์รีนเองก็ดูเป็นคนดีนะคะ เธอไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักนิด แล้วทำไมพี่สะใภ้จะต้องโมโหเธอขนาดนั้นด้วยล่ะคะ ? หยาดฝนเอ่ยปากอย่างนุ่มนวล แต่แววตาฉาบไปด้วยประกายแวววับ
สุนันท์ถอนหายใจ : หยาดฝนเอ๋ย เธอจิตใจดีเกินไป เธอยังไม่ได้ทำอะไรทุกอย่างก็เป็นเช่นนี้แล้ว หากเธอลงมือทำล่ะก็ตระกูลสิริไพบูรณ์ไม่ต้องลุกเป็นไฟหรืออย่างไร ?
เธอแอบคิดในใจว่า จะให้เรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินต่อไปเช่นนี้ไม่ได้อีกต่อไป
จำเป็นจะต้องมีมาตรการบางอย่าง……
ออกัสก้าวขายาวเพียงสองก้าวก็ตามเชอร์รีนได้ทัน เขาเรียกเบา ๆ แต่นุ่มนวลว่า : คุณหญิงเชอร์รีน……
อารมณ์ของเชอร์รีนยังคงเป็นปกติ เธอไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะการกระทำหรือคำพูดของสุนันท์ เมื่อได้ยินดังนั้น เธอก็เหลือบไปมอง : สัญญาสำคัญของบริษัทฉบับนั้น จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือคะ ?
เมื่อได้ยิน ก็มีประกายหม่นหมองปรากฏขึ้นมาในแววตาของเขา ใบหน้าอันหล่อเหลาของออกัสยังคงเรียบเฉย เขาทำเพียงแค่ตอบเราเบา ๆ หนึ่งคำ และไม่ได้พูดอะไรให้มากความนัก : อืม แล้วตอนนี้คุณหญิงเชอร์รีนกำลังจะไปที่ไหนต่อ ?
ไปห้างสรรพสินค้าค่ะ เธอเองไม่ได้คิดอะไรมาก
ไปด้วยกันเถอะ…… เขาพูดออกมาเบา ๆ
เชอร์รีนเหลือบมองเขา แล้วขานรับออกมาเบา ๆ : ได้ค่ะ
เมื่อไปถึงห้างสรรพสินค้า เชอร์รีนง่วนอยู่กับการเดินไปเดินมาในแผนกแม่และเด็ก เธอเลือดเสื้อผ้าที่เหมาะสมอย่างจริงจัง
ออกัสเหลือบตามองที่ท้องของเธอ ตอนนี้เขาเพิ่งจะสังเกตอย่างละเอียดว่า ท้องของเธอนั้นใหญ่กว่าแต่ก่อนเล็กน้อย จนทำให้เสื้อผ้าคับลง
เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาคุณแม่ตั้งครรภ์คนอื่น ๆ ดูเหมือนว่าท้องของเธอจะเล็กที่สุด แต่กลับดูกลมกลึงและแหลมเล็กน้อย จนดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด
ในท้องมีชีวิตน้อย ๆ อีกหนึ่งชีวิต ความรู้สึกนี้ช่างน่าประหลาดและอัศจรรย์อย่างยิ่ง
เขาเดินตรงเข้าไปแล้วใช้มือใหญ่ของเขาเลือกสรรเสื้อผ้าเหล่านั้น จนในที่สุดสามารถช่วยเธอเลือกออกมาได้สองชุด ชุดหนึ่งเป็นชุดกระโปรงยาว ส่วนอีกชุดเป็นเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ
ถึงไม่ใช่สินค้าแบรนด์ดัง แต่ก็มีสัมผัสที่นุ่มสบาย หลังจากคิดเงินเสร็จ เชอร์รีนก็รีบแย่งจ่ายเงินให้แคชเชียร์
ใบหน้าหล่อเหลาของออกัสหมองหม่นลงทันที เขาหรี่ตาลงแน่น เธอรังเกียจเงินของเขาขนาดไหนกัน ?
เขาไม่ได้แสดงท่าทีออกมา ยังคงจ้องมองเชอร์รีนนิ่งที่กำลังเก็บเงินทอนจนเรียบร้อย และรับถุงสินค้ามา
เสื้อผ้าสองชุดราคารวมสองร้อยยี่สิบ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพหรือเนื้อสัมผัสล้วนนุ่มนวลอย่างยิ่ง
อีกทั้ง เชอร์รีนเองก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก เพราะเธอตั้งครรภ์อีกเพียงไม่กี่เดือน จึงไม่จำเป็นจะต้องซื้อของดีนัก
เสื้อผ้าเหล่านี้ ก็น่าจะได้ใส่เพียงแค่สักระยะ ต่อไปก็คงไม่มีโอกาสได้ใส่อีก
บรรยากาศด้านข้างของเธอดูเงียบลงไป เธอจึงหันไปมองด้วยความประหลาดใจ กลับพบว่าชายหนุ่มกำลังจับจ้องมาที่เธอโดยไม่พูดอะไร
มีอะไรหรือคะ ? เชอร์รีนคิดว่าตนเองนั้นมีบางอย่างผิดปกติ จึงมองสำรวจขึ้นลง
ทำไมถึงไม่ยอมใช้บัตรเครดิตที่ผมให้ ? ออกัสหรี่ตาลง แล้วจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง
เธอผงะไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มมุมปากออกมา จากนั้นจึงเขย่าถุงสินค้าที่อยู่ในมือ แล้วหันไปพูดกับเขาอย่างช่วยไม่ได้ : คุณออกัสคะ นี่มันแค่สองร้อยเองนะคะ ต้องถึงขนาดรูดบัตรเครดิตด้วยหรือ ?
คิ้วโก่งได้รูปของเขาขมวดขึ้น แววตาของเขาก็ค่อย ๆ ดูลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ : ถ้าอย่างนั้น เจ็ดแสนนั่นล่ะ ?
มือของเธอที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่หยุดนิ่งลง ในตอนแรกเธอยังรู้สึกสงสัย แต่เมื่อคิดถึงคำถามที่ยู่ยี่เอ่ยถามเธอเมื่อคืน เธอจึงเข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที
เรื่องที่เธอยืมเงินยู่ยี่เจ็ดแสน เขาต้องรู้แล้วแน่นอน……
ตอนนั้นต้องใช้เงินด่วน ก็เลยยืมเธอเจ็ดแสน มีอะไรหรือเปล่าคะ ?
เธอยังคงตอบกลับอย่างเรียบเฉย มีอะไรหรือเปล่าอย่างนั้นหรือ ?
ความโมโหที่อดกลั้นเอาไว้กำลังจะปะทุออกมา เขากัดริมฝีปากเรียวบางของเขาแน่นจนเป็นเส้นตรง แล้วพูดว่า : ทำไมถึงไม่รูดจากบัตรเครดิตที่ผมให้คุณ ?
เชอร์รีนยังคงยิ้มเล็กน้อย เธอหรี่ตาลงแล้วถามกลับไปว่า : ฉันยืมเงินยู่ยี่ ทำให้คุณออกัสรู้สึกขายหน้าอย่างนั้นหรือคะ ?
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าอันหล่อเหล่าของออกัสก็มืดมนลงทันที มือทั้งสองข้างที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขากำแน่น อยากจะยกขึ้นไปตีก้นของเธอแรง ๆ สักสองสามครั้ง
ไม่เพียงไม่ยอมพูด สีหน้ายังมืดมนขนาดนี้อีก ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูกแล้วนะ เธอหันหน้าเล็กน้อย แล้วจ้องมองสีหน้าของเขาอย่างละเอียด เมื่อได้ข้อสรุป แววตาของเธอก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก
คำพูดประโยคนี้ยั่วโมโหออกัสได้สำเร็จ แววตาของเขาดุดันขึ้นมา ราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว แม้แต่น้ำเสียงก็เค้นออกมาจากไรฟัน : คุณหญิงเชอร์รีน ผมเป็นอะไรกับคุณ ?
เชอร์รีนไม่ลังเลเลยสักนิด เธอตอบกลับไปทันทีว่า : สามีไงคะ
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหญิงเชอร์รีนจะรู้ว่าผมเป็นอะไรกับคุณ……
ทันทีที่พูดจบ เขาก็ไม่หันมองเธออีก แต่กลับหันตัวแล้วก้าวเท้ายาวเดินตรงไปด้านหน้าทันที
เดิมทีเขามีรูปร่างที่สูงโปร่ง เมื่อประกอบกับขาที่เรียวยาว ทำให้แต่ละก้าวของเขาไปได้ไกลเช่นนี้ เพียงครู่เดียว เขาก็ทิ้งห่างเชอร์รีนไปไกล
เมื่อเห็นดังนั้น เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที นี่เขากำลังโมโหเธออย่างนั้นหรือ ? ดูเหมือนจะอารมณ์ร้ายไม่เบา !
เชอร์รีนไม่ได้เดินตามไป เธอยังคงถือถุงสินค้าแล้วเดินตรงไปข้างหน้าอย่างสบาย ๆ เธอเตรียมใจที่จะต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้านเองเรียบร้อยแล้ว