ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 282
จ่านป๋ายแอบหัวเราะเยาะในใจ หูชีเยี่ยนเป็นเฒ่ามันฝรั่ง ทำไมเขาถึงได้เข้าใจผิดขนาดนั้น? เมื่อคิดถึงหูชีเยี่ยนที่อยู่ที่พม่าทำตัวกำเริบเสิบสานและเบ่งอำนาจอิทธิพล เขาก็ส่ายศีรษะไม่อธิบายอะไร มองไปที่ซีเหมินจินเหลียนและถามว่า “คุณลุงหูล่ะ?”
“เขาออกไปจัดการธุระข้างนอก อีกสักพักน่าจะกลับมา” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“ที่นี่คือเซี่ยงไฮ้ อย่าให้เขาก่อเรื่องเด็ดขาดนะครับ ไม่อย่างนั้นเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วจะจัดการยาก” จ่านป๋ายพูดอย่างร้อนอกร้อนใจ จากนิสัยลำพองตัวอย่างหูชีเยี่ยนแล้ว ถ้าเขาออกไปก่อเรื่องข้างนอก ที่แห่งนี้ก็ไม่เหมือนที่พม่านะ?
“เขาไม่ใช่คนพม่าสักหน่อย ไม่มีอะไรหรอก” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด
“นี่ พวกคุณสองคนอย่ามัวแต่พูดคุยกันอยู่สิ รีบปล่อยผมลงไปเถอะ!” จ่านมู่ฮวาพูด
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มอ่อนๆ แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ส่วนจ่านป๋ายก็ยิ้มกริ่มถามว่า “ไม่ใช่ว่านายชอบถูกคนเฆี่ยนตีหรอกเหรอ? แพศยาตั้งแต่เกิด แค่นี้จะทำอะไรนายได้!”
“แกหุบปากไปเลยนะ!” จ่านมู่ฮวาด่า “รีบปล่อยฉันลงไป ไม่อย่างนั้นฉัน…”
“ไม่อย่างนั้นนายจะทำอะไรได้?” จ่านป๋ายขมวดคิ้วถาม “คนที่จับนายแขวนขึ้นไปด้านบนไม่ใช่ฉัน ทำไมฉันต้องปล่อยนายด้วย?”
“ตาเฒ่ามันฝรั่งนั่นสมควรตาย!” จ่านมู่ฮวาสบถด่า ในใจเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน รอให้เขากลับไปจะหาโอกาสจ้างคนสักกี่คนมาลักพาตัวเขา ใช้กระสอบป่านคลุมหัวแล้วก็ตีเขาให้เหมือนตีหัวหมูซะให้เข็ด แล้วเล่น sm ไม่ยั้ง เขารู้จัก sm ดีไม่ใช่หรือ? เอาไปให้ครูฝึกผู้เชี่ยวชาญที่คลับหยกสั่งสอนให้สักรอบ…
“แล้วนายล่ะเป็นอะไร พริก? มะเขือ?” สองวันมานี้จ่านป๋ายไปแต่ตลาดสด เขาเลยคิดได้เรื่องพวกนี้
“ถ้าฉันจับตาเฒ่ามันฝรั่งนั่นมาได้ ฉันจะเอาตัวไปที่คลับหยกแล้วจะโยนพริกมะเขือเข้าไป เหอะ!” จ่านมู่ฮวาเกลียดจนถึงขั้นจองเวรจองกรรม
ซีเหมินจินเหลียนฟังจนเวียนหัวไปหมด แต่ในระหว่างนั้นก็คิดถึงคำหยอกล้อครั้งหนึ่งของจ่านป๋ายได้ จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมา ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนเปลวไฟ แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “เสี่ยวป๋าย หาอะไรมาอุดปากเขาไว้เถอะ เขาจะได้ไม่พูดจาเหลวไหลอะไรอีก!”
“เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว!” จ่านป๋ายมองจ่านมู่ฮวา คิดไม่ถึงว่าเขาก็มีวันนี้ จู่ๆ จิตใจที่อยากจะแกล้งคนก็แวบขึ้นมา เลือกมะเขือยาวขนาดใหญ่ลูกหนึ่งที่เพิ่งซื้อกลับมาในถุงจ่ายตลาด
“นี่…แกจะทำอะไร?” จ่านมู่ฮวาถามร้อนรน
“คำสั่งของจินเหลียน นายไม่ได้ยินเหรอไง?” จ่านป๋ายยิ้ม ระหว่างที่พูดเขาก็ไม่สนใจว่าจ่านมู่ฮวาจะคิดอย่างไร ออกแรงบีบจมูกของเขา จ่านมู่ฮวาเปิดปากสูดลมหายใจ จ่านป๋ายฉกฉวยโอกาสนี้นำมะเขือยาวยัดเขาไปในปากเขาอย่างเต็มแรง
ซีเหมินจินเหลียนเห็นแล้วก็น่าสนุกดีนะวิธีนี้
ไม่รู้ว่าจ่านป๋ายคิดได้อย่างไร ใบหน้าของจ่านมู่ฮวาเดือดดาล พยายามดิ้นให้หลุดจากการผูกมัด แต่ก็จนปัญญาเพราะเชือกเส้นนั่นปกติเอาไว้ใช้มัดหินหยกดิบ แข็งแรงทนทาน เขาจะดิ้นหลุดได้อย่างไรกัน
“โลกสงบสุขขึ้นแล้วสินะ!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มและเริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ เปิดไปเจอพาดหัวข่าววงการบันเทิงและข่าวเหตุการณ์ปัจจุบันต่างๆ…
จ่านมู่ฮวาใจเย็นลง ความจริงเขาก็อยากจะด่าคนให้รู้แล้วรู้รอด จ่านป๋ายเข้าในห้องครัวเริ่มจัดการกับผักพวกนั้น แม้ว่าฝีมือทำอาหารของเขาจะไม่โดดเด่น แต่ก็จัดการล้างเรียบร้อยเสร็จสรรพ รอให้หูชีเยี่ยนกลับมา ไม่อย่างนั้นใครจะไปรู้เกิดหูชีเยี่ยนหาข้ออ้างเล่นงานเขาอีก
มองจ่านมู่ฮวามีสภาพอนาถเช่นนั้น จ่านป๋ายก็ตัวหดลง เขาไม่ได้เป็นคนถูกทำร้ายสักหน่อย และไม่อยากถูกคนนำไปแขวนแล้วใช้แส้ฟาด ลองย้อนคิดทบทวนดู จ่านป๋ายก็รู้สึกแปลกใจทำไมจ่านมู่ฮวาถึงเข้าใจผิดแบบนั้น? ทำไมเขาถึงยืนกรานหนักแน่นว่าหูชีเยี่ยนเป็นเชฟของซีเหมินจินเหลียน ไหนจะพูดว่าซีเหมินจินเหลียนชอบชายเฒ่าอีก? สมควรแล้วที่ถูกเฆี่ยนตี!
ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลสิ?
หูชีเยี่ยนบอกว่าจะออกไปทำธุระหนึ่งชั่วโมง เขาก็กลับมาตอนที่เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงพอดี ไม่มีขาดเกินสักวินาที มองไปยังมะเขือยาวที่ถูกยัดในปากจ่านมู่ฮวา เสื้อผ้าที่เดิมทีเป็นเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำเงินพื้นขาว ตอนนี้มีรอยคราบเลือด เห็นแล้วรู้สึกพอใจ
“วันนี้กินมะเขือยาวเหรอ?” หูชีเยี่ยนเจตนาถาม
“มะเขือยาวผัดน้ำมันหอย ใส่เนื้อน้อยหน่อยนะครับ จินเหลียนชอบ” จ่านป๋ายโผล่หน้าออกมาจากในครัวพร้อมส่งเสียงดัง
“อ้อ?” หูชีเยี่ยนพยักหน้าพับแขนเสื้อเดินเข้าไปในครัว สักครู่จ่านป๋ายแอบออกมาจากห้องครัวและส่งสัญญาณมือให้จ่านมู่ฮวา กระซิบพูดขึ้นว่า “นายอย่าพูดจาเหลวไหล ไม่อย่างนั้น…” เขาเหล่สายตาไปในห้องครัว
คนฉลาดเมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบากก็ต้องยอมถอยทัพออกมาเพื่อจะไม่ให้เสียผลประโยชน์ ตรรกะนี้จ่านมู่ฮวาเข้าใจดี แม้จะชอบที่ถูกซีเหมินจินเหลียนเฉี่ยนตี แต่เขาก็ไม่ยินดีที่จะถูกผู้ชายเฮงซวยตบตี โดยเฉพาะชายเฒ่า
ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงบนโซฟาสองมือลูบคางและมองไปทางจ่านป๋ายและจ่านมู่ฮวา
จ่านป๋ายนำมะเขือยาวในปากของจ่านมู่ฮวาออกมา จ่านมู่ฮวาสูดลมหายใจยกใหญ่และถลึงตาดุดันใส่จ่านป๋าย
“ใครบอกนายว่าเขาคือเชฟที่จินเหลียนเชิญมา?” จ่านป๋ายยิ่งคิดก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จ่านมู่ฮวาเป็นคนระมัดระวังตัวตลอด ทำไมถึงเข้าใจผิดถึงขั้นเลวร้ายขนาดนี้? ในขณะที่พูดเขาก็ทำท่าทางสื่อถึงในครัว
จ่านมู่ฮวาลังเลอยู่ครู่ถึงได้ปริปากพูด “สวี่อี้หรานหมอมองโกลนั่นโทรมาหาฉัน บอกว่าจินเหลียนชอบเชฟชายเฒ่าคนนึง…ดังนั้น…” ดังนั้นเขาเลยไม่ถูกชะตากับหูชีเยี่ยน โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นหูชีเยี่ยนรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ยุคนี้ผู้หญิงต่างก็ชอบผู้ชายรุ่นลุงที่อายุแก่กว่าทั้งนั้น เขาเลยเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง จากนั้นก็มาหาเรื่องโจมตีหูชีเยี่ยนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ๆ
จ่านป๋ายแอบยิ้มไม่หยุด หมอมองโกลสมควรตายนั่นไม่ยักรู้ว่าจะชอบกลั่นแกล้งแบบนี้ด้วย? วันนี้จ่านมู่ฮวาถูกเฆี่ยนตีไปฟรีๆ เสียแล้ว
“นี่ มู่หรง ชายเฒ่าคนนั้นเป็นใครกันแน่” จ่านมู่ฮวาถามอีกรอบ
“พ่อของจินเหลียน!” จ่านป๋ายกระซิบพูด
“อะไรนะ?” จ่านมู่ฮวาไม่ได้สติอยู่นาน พ่อของซีเหมินจินเหลียน? ไม่น่าล่ะ เธอถึงได้โกรธขนาดนั้น? เมื่อสักครู่เลยเกิดภัยพิบัติใหญ่…
“ไม่ใช่ว่าจินเหลียนเป็นลูกกำพร้าหรอกเหรอ? แล้วพ่อมาจากไหนกัน” จ่านมู่ฮวาถามอย่างไม่เข้าใจ “หมอมองโกลคนนั้นรู้หรือเปล่า?”
“รู้ เมื่อวานเขาก็เข้ามาและจากกับจินเหลียนไปไม่สวยสักเท่าไหร่ จินเหลียนโกรธจนทุบแจกันดอกไม้ทิ้ง!” จ่านมู่ฮวาอธิบาย
“ทำไมล่ะ?” จ่านมู่ฮวาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เหมือนทั้งสองฝ่ายจะมีความแค้นบางอย่าง…นายก็รู้ดีมากกว่าฉันอีกไม่ใช่เหรอไง?” จ่านป๋ายยิ้มเยือกเย็น “ถ้านายไม่รู้ว่าตัวตนของจินเหลียนเป็นใคร พ่อนายจะยอมให้นายเล่นบ้าบอแบบนี้เหรอ จะยอมให้นายแต่งกับเธออย่างนั้นสิ? พ่อพูดง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน จากนั้นเมื่อจินเหลียนปฏิเสธ เขาก็แกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นไร?”
จ่านมู่ฮวาเงียบปากลงอย่างเจียมตัว จ่านป๋ายพูดเยือกเย็น “นายถูกตีไปหลายรอบก็สมควรแล้วล่ะ!” พูดจบเขาก็บีบไปที่จมูกเขาแล้วบังคับให้เขาอ้าปาก จากนั้นนำมะเขือยาวยัดเข้าปากต่อ
จ่านมู่ฮวาโกรธจนข้างในดวงตามีเพลิงไฟลุกโชนราวกับฝืนทนอย่างหมดปัญญา
ซีเหมินจินเหลียนนั่งพิงบนโซฟา คิดถึงประโยคที่จ่านมู่ฮวาพูดเมื่อสักครู่ ที่แท้เขาก็ถูกหมอมองโกลนิสัยไม่ดีคนนั้นหลอกเข้าให้? เขาโกรธกับเธอ เลยไม่อยากให้จ่านมู่ฮวามีชะตากรรมดีและยังยุแยงตะแคงรั่วว่าเธอชอบชายเฒ่าอีก?
หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไป ซีเหมินจินเหลียนต้องไปดูจินอ้ายหัวที่คลินิคของจินอ้ายกั๋ว เพิ่งแต่งงานได้ไม่นานทำไมถึงได้อยากหย่าร้างกันได้? สำหรับปัญหาเลือดของจ่านป๋าย เธอเองไม่ได้กังวลเท่าไหร่ วิทยาศาสตร์สมัยนี้มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้ตั้งมากมาย จ่านป๋ายก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่เหรอ มีชีวิตรอดก็ดีแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ
“พ่อ พ่อปล่อยเขาลงเถอะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนมองดูภาพหดหู่ใจ ไม่เหมือนจ่านมู่ฮวาตอนแรกที่เบ่งอำนาจและยิ้มเยาะหูชีเยี่ยนคนนั้นเลย
“อืม” หูชีเยี่ยนพยักหน้าพูด “ได้ยินว่าเขาอยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่?”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา หูชีเยี่ยนมองจ่านมู่ฮวาแวบหนึ่งถึงได้ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องสั่ง สอนเขาสักหน่อย ให้เขารู้ว่าใครกันที่เป็นนายท่านของที่นี่!”
จ่านมู่ฮวาพูดอย่างลำบาก ในใจก่นด่าไม่ยั้ง รอให้เฒ่ามันฝรั่งกลับไปฉันค่อยย้ายเข้ามาก็ไม่สาย ตอนนี้มีเฒ่าวิปริตคนนั้นอยู่จะย้ายมาทำอะไรกัน? คิดว่าเขาคันเนื้อคันตัวมากหรือไง?
ซีเหมินจินเหลียนเปลี่ยนเสื้อผ้าออกนอกบ้าน เมื่อเดินไปหน้าประตูแล้วก็พลันคิดได้ว่าลุงงูนัดเจอเธอตอนเย็น รีบพูดว่า “พ่อคะ หนูไม่กลับมากินข้าวนะคะ ไม่ต้องเตรียมมื้อเย็นให้หนูนะ!”
“รู้แล้ว อย่ากลับดึกนักล่ะ” หูชีเยี่ยนเป็นพ่อที่จิตใจดีอย่างสมบูรณ์แบบ และทำให้ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกมีความสุข แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของลุงงู ในใจของเธอก็ว่างเปล่าและเป็นทุกข์เหลือเกิน…
ตามหลักแล้วเขาเป็นคนที่น่าจะตายตั้งนานแล้ว! แต่ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ดี บางทีสวี่อี้หรานหมอมองโกลคนนั้นอาจจะให้คำตอบเธอสักอย่าง
จ่านป๋ายขับรถไปคลินิคของจินอ้ายกั๋วเป็นเพื่อนซีเหมินจินเหลียน เมื่อถึงหน้าประตูซีเหมินจินเหลียนลงรถ “คุณไปเดินเล่นที่ไหนก่อนก็ได้ อีกเดี๋ยวฉันจะโทรหา แล้วคุณค่อยมารับฉันแล้วกัน”
“มีเรื่องอะไรที่คุณต้องปิดบังผมเหรอครับ?” จ่านป๋ายถาม
“อ้ายหัวกับสามีของเธอจะหย่ากัน ไม่แน่ใจว่าเหตุผลคืออะไร จินอ้ายกั๋วให้ฉันเข้ามาช่วยถาม ถ้าคุณอยู่ฉันจะถามอย่างไรล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ฉันไม่ได้ปิดบังคุณสักหน่อย”
“จริงเหรอ?” จ่านป๋ายทำทีสงสัย
ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาใส่เขา จ่านป๋ายจึงยิ้มออกมา “อีกเดี๋ยวคุณค่อยโทรหาผมล่ะกันครับ จริงสิ คืนนี้คุณจะไปกินข้าวที่ไหน คงไม่ใช่เดทหรอกนะ?”
“เดทกับหัวคุณน่ะสิ!” ซีเหมินจินเหลียนสบถด่าอย่างไม่สบอารมณ์
…
“จินเหลียน พี่กำลังรอเธออยู่เลย!” ซีเหมินจินเหลียนเพิ่งเดินถึงหน้าประตู จินอ้ายกั๋วรีบออกมาต้อนรับจากข้างในและถอนหายใจพูด “พี่รอเธอตั้งนาน รีบเข้ามานั่งก่อน!”
เมื่อถึงห้องทำงานของจินอ้ายกั๋ว ก็เห็นจินอ้ายกั๋วปิดประตูสนิท ซีเหมินจินเหลียนถึงพูดขึ้น “เกิดเรื่องอะไรกันแน่คะ?”
“จ่านป๋ายยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม” จินอ้ายกั๋วถาม
“พี่พูดไร้สาระอะไรกันคะ?” ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาใส่เขา
จินอ้ายกั๋วเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “จินเหลียน เธอกับอ้ายหัวรู้จักกันมาตั้งหลายปี พี่ก็ดูแลเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ตอนนี้เธอสุขสบายดี พี่ก็ดีใจ เพียงแต่…เรื่องนี้มันแปลกเกินไป ไม่สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ แน่นอนพี่ไม่ใช่คนบ้าวิทยาศาสตร์ เขามีชีวิตอยู่รอดเธอมีความสุขก็ดี พี่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร แต่ลองคิดถึงความสุขในชีวิตบั้นปลายบ้างสิ ผู้ชายแบบนี้อย่าได้แต่งงานด้วยจะดีที่สุด…”
“พี่บอกว่าเลือดของฉันมีปัญหาไม่ใช่เหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม