ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 292
ซีเหมินจินเหลียนจงใจเบ้ปากพูดขึ้น “คุณจะแหกปากร้องโวยวายทำไม?”
“จินเหลียน นี่เป็นของดีเชียวนะ” หูชีเยี่ยนเดินเข้ามาดูพร้อมยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าหินหยกก้อนนี้ตรงกลางจะว่างเปล่า หรือจะเป็นโพรงของหนู”
“หนูตัวนั้นคงเป็นหนูที่พ่อเลี้ยงไว้สินะคะ” ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาขใส่เขาอย่างเคืองๆ “ไม่อย่างนั้นหนูตัวไหนจะเก่งกาจ กล้าเจาะเข้าไปในหินจนเป็นโพรงขึ้นมากัน?”
“ทำไมหนูตัวนั้นถึงเป็นหนูที่พ่อเลี้ยงล่ะ หรือว่าเห็นพ่อเลี้ยงหนูเก่งเหรอไง?” หูชีเยี่ยนถลึงตาใส่เธอ ถามขึ้น
เพียงแต่สายตาของหูชีเยี่ยนตอนนี้ ไม่มีพลังเข่นฆ่าอำมหิตต่อซีเหมินจินเหลียนสักนิด ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้นั่งฟุบอยู่บนเก้าอี้เหมือนเคยแต่ยิ้ม “พ่อเก่งกาจเสียขนาดนี้ หนูที่พ่อเลี้ยงก็ต้องเก่งกาจตามคนด้วยสิคะ!”
“ฮ่า…” หูชีเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เสียดายที่ทั้งชีวิตนี้พ่อไม่ได้เลี้ยงหนู เลี้ยงแค่ลูกสาวคนเดียว…”
“พ่อคะ!” ซีเหมินจินเหลียนเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้และกำหมัดน้อยๆ ปล่อยเข้าไป “หนูไม่ใช่หนู…ไม่ใช่หนูสักหน่อย”
หูชีเยี่ยนกอดเธอและกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่รีบพูดขึ้น “ใช่ๆๆ ลูกเป็นเจ้าหญิงหยกของพ่อ ไม่ใช่หนู…”
“พ่อยังจะพูดอีก!” ซีเหมินจินเหลียนพูดน้ำเสียงกระเส่า
“ไม่พูดแล้ว” หูชีเยี่ยนเงียบปากไว้
จ่านป๋ายยิ้มอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่หูชีเยี่ยนมาเซี่ยงไฮ้ ซีเหมินจินเหลียนก็เป็นคนร่าเริงสดใสขึ้นมาก มักจะเหมือนเด็กน้อยที่ชอบออดอ้อนคลอเคลียหูชีเยี่ยน ไม่เหมือนคนที่จืดชืดเหมือนเมื่อก่อน และมีบุคลิกที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เขาเริ่มกังวลขึ้นมาแล้ว ถ้าหูชีเยี่ยนอยู่ด้วยตลอดก็คงดี แต่ถ้าหูชีเยี่ยนเล่นหายตัวไปดื้อๆ อีกครั้ง เธอจะแบกรับเรื่องที่เข้ามาถาโถมเช่นนี้ได้อย่างไร?
“จินเหลียน ต่อไปจะให้ผ่ายังไงดีครับ” จ่านป๋ายยิ้มให้ซีเหมินจินเหลียน “ผมไม่เคยเจอหินก้อนไหนแปลกเท่านี้มาก่อนเลย พวกคุณว่าหินก้อนนี้ทำไมตรงกลางถึงได้ว่างเปล่าล่ะครับ”
“หนูในสมัยโบราณคงเก่งกาจมากไปมั้ง” หูชีเยี่ยนยิ้ม
“พ่อยังจะพูดถึงหนูอีก!” ซีเหมินจินเหลียนลุกขึ้นมาร้องขึ้นอย่างไม่ยอมความ
“โอเค ไม่พูดถึงหนูแล้ว” หูชีเยี่ยนรวบรัดมือเธอและทำไม้ทำมือกำกับอยู่หน้าหินหยกดิบและยิ้ม “ตัดจากด้านนี้แล้วกัน ผ่าออกมาดู”
จ่านป๋ายพยักหน้ารับ ทำตามมุมที่หูชีเยี่ยนพูด วาดเส้นกำกับตัดมันในแนวตั้งจากตรงนี้ สภาพข้างในของหินหยกดิบก้อนนี้มองดูครั้งเดียวก็เข้าใจหมด ความจริงเขาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เพียงแค่หินหยกดิบก้อนนี้ไม่ใช่ของเขา เขาจึงไม่กล้าเสนอตัวออกความเห็น
เมื่อเห็นซีเหมินจินเหลียนกลับลงไปฟุบตัวเก้าอี้อีกครั้ง หูชีเยี่ยนลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งดูอีกฝั่ง จ่านป๋ายเริ่มทำเปิดเปลือกหยกอีกรอบ
เมื่อจับด้ามจับของเครื่องตัดอย่างกระชับมือ จ่านป๋ายรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าหินหยกดิบก้อนนี้ตรงกลางน่าจะว่างเปล่า ใบมีดตัดลงไปไม่ได้แข็งมาก แต่ก็ให้ความรู้สึกว่ากำลังผ่าหยกอยู่ นี่มันก็แปลกจริงๆ
แน่นอนในหินหยกเป็นโพรงนั้นไม่ใช่เรื่องหายาก เพราะผ่านกระแสน้ำกัดเซาะ หินข้างในจึงเห็นจนชินตา แต่แค่ไม่เคยเห็นตรงกลางของหยกมีรูปร่างแบบนี้ อีกอย่างเปลือกผิวของหินหยกก้อนนี้ยังถูกห่อหุ้มไว้หนาแน่น ไม่เห็นมีร่องรอยกระแสน้ำกัดเซาะแม้แต่น้อย
เพราะตรงกลางหินหยกว่างเปล่า จ่านป๋ายจึงไม่อยากสิ้นเปลืองเวลา รีบผ่ามันจากนั้นแยกหน้าหยกออกมาดูพร้อมส่งเสียง “หือ” ออกมา
ซีเหมินจินเหลียนสงสัย แม้ว่าตัวเองจะดูไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เวลาเปิดเปลือกหินจริงๆ เธอก็รอคอยเหมือนกัน
“นี่เหมือนอะไรล่ะเนี่ย?” ซีเหมินจินเหลียนเจตนาถาม
จ่านป๋ายถอยหลังสองก้าวและยิ้ม “คล้ายต้นไม้!”
“พ่อดูแล้วก็ว่าคล้ายเหมือนกัน” หูชีเยี่ยนโอบไหล่ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “ไม่รู้ว่าจะมีหนอนหรือเปล่า”
“เหอะ!” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงใส่ “พ่อก็คิดแต่ของสะอิดสะเอียนพวกนี้”
“จินเหลียน ลูกรู้อะไร?” หูชีเยี่ยนไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี เมื่อสักครู่เขาตั้งใจจะแหย่เธอเล่น แต่ประโยคนี้เขาพูดกำกวม “เห็นได้ชัดว่านี่คือหยกต้นไม้ ตอนนี้หยกต้นไม้ในตลาดเป็นของหายาก ราคาก็มหาศาล แต่…หากหยกต้นไม้มีหนอน ราคายิ่งเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว!”
“เรื่องจริงเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนกะพริบดวงตากลมโตปริบๆ “หนอนก็ขายทำเงินได้?”
“พวกขี้นกในยุคโบราณยังขายเป็นเงินได้เลย” หูชีเยี่ยนพูดอย่างเสียอารมณ์
จ่านป๋ายยิ้มออกมา และไล่สายตาทอดมองไปที่หยกต้นไม้อย่างละเอียด สีแดงเข้ม ความโปร่งใสไม่สูง มากสุดก็แค่ชนิดเนื้อน้ำแข็ง จุดเด่นอยู่ที่สีสันไม่เลว จากที่เขาดูลวดลายบนนั้นน่าจะเป็นต้นไม้แห้งต้นหนึ่ง ด้านบนมีกิ่งก้านแตกแขนงอยู่ประปราย
“เอ๋…ด้านบนมีหนอนจริงเหรอเนี่ย?” จ่านป๋ายสายตาเฉียบคม จู่ๆ ก็ยื่นมือแตะไปที่พื้นผิวภายนอกของต้นไม้แห้ง ในส่วนของตรงกลางของต้นไม้เหมือนมีตัวอะไรเกาะอยู่ มีสีเขียวอ่อนๆ แต่เพราะว่าส่วนใหญ่มีต้นไม้แห้งปกคลุมไว้ เลยดูไม่ออกว่าเป็นหนอนหรือเปล่า หรือว่าอย่างอื่น…
หูชีเยี่ยนหยิบน้ำสะอาดมากวักใส่บนพื้นผิวด้านบน จากนั้นใช้ไฟฉายส่องดูและยิ้ม “ดูแล้วเหมือนหยก เพียงแต่สีอ่อนไปหน่อย ไม่อย่างนั้นลองขุดเจาะออกมาดูไหม”
“แต่ถ้าขุดออกมาดู หยกต้นไม้นี่คงได้เสียหายเป็นครึ่งแน่ครับ” จ่านป๋ายพูดด้วยความเสียดาย
หูชีเยี่ยนยิ้มๆ ซีเหมินจินเหลียนเอื้อมมือไปทาบสัมผัส รู้สึกถึงความแปลกจริงๆ เหมือนกับสิ่งมีชีวิต แต่ใครจะไปรู้สิ่งที่เรียกกันว่าสิ่งมีชีวิตอาจจะเป็นพวกของเหลวก็ได้? สุดท้ายพอทุบเปลือกไข่แตกหูชีเยี่ยนอาจจะเอามาทาบนมือหรือหน้าเธอกลายเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไปอีกอย่างหนึ่งก็ได้?
ตอนนั้นสาเหตุที่เธอไม่ลังเลที่จะซื้อหินหยกดิบก้อนนี้ อย่างแรกเป็นเพราะว่ามันเป็นหยกต้นไม้ อย่างที่สองในหยกต้นไม้มีบางอย่างที่แปลกประหลาด
ตอนนี้ก็กำลังเปิดเปลือกหินอยู่ ทำไมถึงไม่ดูให้รู้ไปเลยล่ะว่าเป็นอะไรกันแน่ ทันใดนั้นรีบเอ่ยปากกับจ่านป๋าย “ผ่าออกมาดูเถอะ”
จ่านป๋ายได้ยินซีเหมินจินเหลียนพูดเช่นนั้น ก็วิเคราะห์อ่านหยกว่าจะผ่าอย่างไรที่จะปกป้องหยกต้นไม้นี่ได้ ไหนจะต้องเอาของแปลกประหลาดที่อยู่ตรงกลางพวกนั้นออกมาอีก สุดท้ายเขาก็ใช้วิธีของหูชีเยี่ยน…ขุดเจาะตรงกลางก้อนนั้นออกมา โชคดีที่ไม่ใหญ่ หลังจากเจาะออกมาเลยไม่ทำให้เนื้อเดิมเสียหาย ซีเหมินจินเหลียนคำนวณเล็กน้อย หยกต้นไม้ก้อนนี้ก็ยังสามารถขายได้ราคาสูงอยู่ดี
เฮ้อ พวกเขาทำธุรกิจค้าขายหยก จะเอาหยกทุกก้อนมาผ่าเล่นบ่อยๆ ไม่ได้หรอก
ขุดเจาะตรงกลางส่วนนั้นออกมา รวมถึงส่วนที่ห่อหุ้มหยกต้นไม้ไว้อยู่ จากนั้นจ่านป๋ายก็ไม่รีรอให้ซีเหมินจินเหลียนพูดอะไร หยิบเครื่องเจียระไนค่อยๆ เจียรลงไป
หูชีเยี่ยนสนอกสนใจหยกต้นไม้ก้อนใหญ่นี้เหมือนกัน ศึกษาอ่านหยกไปทั่วทั้งก้อน สุดท้ายก็หันไปพูดกับซีเหมินจินเหลียนว่า “จินเหลียน ลูกว่านี่คือต้นอะไร”
ซีเหมินจินเหลียนมองหยกต้นไม้แห้งขนาดใหญ่เป็นเวลานาน แต่ก็โคลงศีรษะในที่สุด “พ่อคะ พ่อถามอะไรแปลกๆ บนโลกนี้มีต้นไม้หลากหลายชนิด อย่าว่าแต่ต้นไม้ในสมัยโบราณเลย แม้แต่พันธุ์ต้นไม้ในยุคปัจจุบันนี้หนูก็ไม่รู้จัก ยิ่งไปกว่านั้นมันกลายเป็นฟอสซิลหยกไปแล้ว”
“พ่อไม่เข้าใจเลย พืชพรรณต้นไม้โบราณกาลแบบนี้กลายเป็นฟอสซิลหยกได้ยังไง” หูชีเยี่ยนส่ายหน้า
“ในเมื่อหินยังกลายเป็นหยกได้ ทำไมต้นไม้จะเป็นไม่ได้ล่ะคะ?” ซีเหมินจินเหลียนตอบคำถามไปตามสัญชาตญาณ
จ่านป๋ายที่เจียรหินอยู่ได้ยินก็แหงนหน้าขึ้นมองไปยังหูชีเยี่ยน จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเจียรหินต่อไป หูชีเยี่ยนยิ้ม “หินกลายเป็นหยกเป็นเพราะว่าถูกเทพธิดาหนี่วาฝึกมาก่อน ไม่เห็นเคยได้ยินว่าเทพธิดาหนี่วาฝึกวิชาเล่นต้นไม้ด้วย?” ในระหว่างที่พูดเขาพลันส่งเสียงหัวเราะ
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ทันใดนั้นก็เผยยิ้มออกมา “พ่ออย่ามัวอ้อมค้อมไปมาเลยค่ะ ถ้าพ่ออยู่ข้างกายหนูตลอด หนูคงไม่ต่อต้านความปรารถนาของพ่อ ไม่เที่ยวไปตามหาหินปิดฟ้านั่น แต่ถ้า พ่อเล่นหายตัวไปอีกครั้ง หนูจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินพม่าให้หมด หนูจะไปตามหาหินปิดฟ้าและหาพ่อให้เจอ!”
ผ่านไปอยู่นานหูชีเยี่ยนถึงได้เงยหน้าพูดกับซีเหมินจินเหลียน “พ่อไม่ได้ข้องเกี่ยวกับหินปิดฟ้าสักหน่อย”
ซีเหมินจินเหลียนมองอย่างแปลกใจ “พ่อคะ ถ้าพ่อพูดแบบนี้ ดูเหมือนยิ่งพูดก็ยิ่งกลบเกลื่อนไม่มิดเลยนะคะ?”
หูชีเยี่ยนไม่ได้ใส่ใจและไม่ได้ว่าอะไร จ่านป๋ายเงยหน้ามองซีเหมินจินเหลียน หูชีเยี่ยนมีความข้องเกี่ยวกับหินปิดฟ้า เธอมีความคิดไร้สาระพวกนี้มาจากไหน? ไม่ใช่ว่ายามเมื่อดอกบัวสีทองเบ่งบาน หินปิดฟ้าจะปรากฏตัวไม่ใช่เหรอ? หรือหูชีเยี่ยนจะหาหินปิดฟ้าเจอแล้ว?
แล้วมันเป็นของแบบไหนกันแน่?
“จินเหลียน เหมือนมีไข่อยู่ฟองหนึ่ง!” จ่านป๋ายรีบพูดเบี่ยงประเด็น “แปลกจริง ไม่สนว่าเป็นหินหรือไม้แต่ทำไมข้างในถึงได้หุ้มเปลือกไข่ทั้งนั้น?”
“มีไข่ตรงไหนเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนรีบเดินเข้าไปดู แม้เธอจะรู้ว่าในหยกต้นไม้มีไข่ฟองหนึ่งอยู่ข้างใน แต่ไข่ฟองนี้ก็ไม่เหมือนกับไข่ในหยกราชางูอย่างสิ้นเชิง
“ดูแล้วเหมือนมาก ผมยังไม่ได้เจียรออกหมด คุณรอเดี๋ยวนะ!” จ่านป๋ายยิ้ม
“ไอหนูร้องตะโกนโหวกเวกซะขนาดนั้น!” หูชีเยี่ยนสบถด่า “รีบเจียรออกมาเลย”
“ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับ แต่ของสิ่งนี้ผมออกแรงเจียรได้หรือครับ ถ้าไม่ระวังแล้วทำมันพังจะเกิดอะไรขึ้น?” จ่านป๋ายยิ้ม ถึงแม้ปากเขาจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่ในใจก็สงสัยไม่หยุด รีบเพิ่มความเร็วของฝ่ามือ
หูชีเยี่ยนเบื่อหน่ายไม่มีอะไรทำ ในระหว่างที่รอจ่านป๋ายเปิดเปลือกหิน อีกด้านก็เริ่มสัมผัสหินหยกทั้งหมดในนั้น สุดท้ายเขาก็นั่งไปบนหินหยกก้อนใหญ่ยักษ์ก้อนหนึ่ง พลันถามซีเหมินจินเหลียนว่า “จินเหลียน นี่เป็นของที่ไอ้สารเลวนั่นให้ลูกเหรอ”
“หินก้อนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อหรือคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลาง อีกด้านก็ปีนขึ้นไปบนหินก้อนนั้น หินหยกก้อนนี้ถูกเจียงเจิ้นตัดไปสิบสามครั้ง สามารถพูดได้ว่าตัดจนอนาถไม่เหลือชิ้นดี
หูชีเยี่ยนได้ยินซีเหมินจินเหลียนพูดเช่นนั้น จู่ๆ ก็ครุ่นคิดดูและส่ายหน้าออกมา “หินหยกใหญ่ก้อนนี้ ไม่ใช่ของพ่อแน่! อย่างไรเสียพ่อก็ไม่มีทางตัดหินหยกดิบแบบนี้หรอก ถ้าพ่อจะเปิดเปลือกหินแน่นอนว่าต้องให้ใบมีดตัดลงจากตรงกลาง” เขาพูดพลางอีกด้านก็ทำมือประกอบอยู่ข้างบนหินหยกใหญ่ก้อนนั้น
ซีเหมินจินเหลียนได้แค่ยิ้ม ตำแหน่งที่หูชีเยี่ยนคิดไว้พอดีกับที่จะเผยหยก ไม่เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่เธอไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเธอถึงได้พลังพิเศษมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วหูชีเยี่ยนอาศัยอะไรมาพนันหิน? ทำไมถึงได้แม่นยำไร้ข้อผิดพลาดแบบนี้ เธอไม่เชื่อว่าดูแค่เปลือกหินหยกดิบก้อนหนึ่งแล้วสามารถอ่านหรือชี้ขาดหยกได้อย่างถูกต้อง