ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 294
จ่านป๋ายยื่นไข่หยกห้าสีในมือส่งต่อให้ซีเหมินจินเหลียน ซีเหมินจินเหลียนรับมาและกุมไว้กลางฝ่ามือ “น่าเสียดายเป็นแค่ไข่ ไม่อย่างนั้นคงได้เป็นเจี่ยเป่าอวี้ในเรื่องความฝันในหอแดง”
“ก็แค่ลูกไม่เอาไหน?” หูชีเยี่ยนยิ้ม “เหมาะสมเรียกว่าหินปิดฟ้าด้วยหรือ”
“ถ้าอย่างนั้นพ่อบอกหนูมาสิคะว่าหินปิดฟ้ามีลักษณะแบบไหนกันแน่?” ซีเหมินจินเหลียนจงใจถามขึ้น “พวกเราจะได้รู้เรื่องบ้าง”
“ไม่รู้” หูชีเยี่ยนส่ายหน้าพูด จังหวะที่พูดเขาพลอยหยิบไข่ฟองนั้นมาจากซีเหมินจินเหลียน
“นี่ พ่อคะ อย่าเที่ยวทำลายมันนะคะ ไข่หยกสวยงดงามขนาดนี้หนูจะเก็บไว้เล่นสักหลายๆ วัน!” ซีเหมินจินเหลียนรีบพูด จากนิสัยของหูชีเยี่ยนนั้น ของแบบนี้แน่นอนต้องทุบออกมาดูให้รู้แล้วรู้รอด
“ของแบบนี้มีอะไรน่าสนุกกันf?” หูชีเยี่ยนถาม “ไม่สู้ผ่าออกมาดูดีกว่า”
“อย่านะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนรีบแย่งมาไว้ในมือ “หนูยังไม่เคยเจอไข่ที่ไหนสวยขนาดนี้มาก่อน พ่อคะ พ่อว่านี่เป็นไข่อะไร?”
“ไข่นก” หูชีเยี่ยนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ผมดูแล้วเหมือนไข่หงส์” จ่านป๋ายยิ้ม “แม้จะไม่ใหญ่แต่ก็สวยมาก”
“นายกวนบาทาเหรอ?” หูชีเยี่ยนมองหน้า “ไม่มีอะไรทำหรือไง? ไปผ่าหินก้อนใหญ่นั้นให้ฉันเสียดีๆ!”
จ่านป๋ายนิ่งอึ้ง ไม่เข้าใจว่าตนไปทำอะไรให้คุณลุงท่านนี้ไม่พอใจ เมื่อย้อนคิดกลับไป ก็คิดถึงสิ่งที่ซีเหมินจินเหลียนเคยพูด…ชีเยี่ยนชังอู๋ก็คือหงส์ไม่ใช่เหรอ? ตนบอกว่าไข่ฟองนี้เป็นไข่หงส์ เขาเลยมีพิรุธ
แต่ซีเหมินจินเหลียนไม่กลัวหูชีเยี่ยนเลยสักนิด เธอยิ้มและพูดว่า “พ่อคะ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นไข่หงส์จริงๆ ก็ได้ พ่อลองดูสิคะ สวยมากเลย อีกอย่างหยกต้นไม้น่าจะเป็นต้นชังอู๋หรือเปล่า?”
“ไข่หงส์อยู่ที่นี่!” หูชีเยี่ยนใช้นิ้วมือเคาะไปที่สมองของเธอ “แค่ไข่ร้ายๆ ฟองนี้ก็เป็นไข่หงส์ด้วยหรือ? ทำไมลูกไม่บอกว่าเป็นไข่มังกรเลยล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นพ่อว่านี่เป็นไข่อะไรล่ะคะ” ซีเหมินจินเหลียนยกยิ้มมุมปาก
“เรื่องนี้…” หูชีเยี่ยนคิดๆ ดูแล้วก็พูดขึ้น “บางทีอาจจะเป็นแค่ไข่นกธรรมดาฟองหนึ่งก็ได้! เพราะถูกกลบฝังไว้ใต้ดินเป็นเวลานานเลยกลายเป็นฟอสซิลหยก ลักษณะแบบนี้น่ะเหรอ? ไม่สู้พวกเราทุบเปลือกออกมาดูล่ะ”
จ่านป๋ายที่กำลังผ่าหยกอยู่ถามอย่างสงสัย “คุณหู สมัยโบราณเคยได้ยินว่ามีแค่ไดโนเสาร์ ไม่เคยได้ยินว่ามีประเภทนกด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นก็คือไข่ไดโนเสาร์!” หูชีเยี่ยนยิ้ม “ไม่ใช่ว่ามีไดโนเสาร์สายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่าเทอโรซอร์หรอกเหรอ? ไม่แน่อาจจะเป็นไข่ของมันก็ได้”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าห่างไกลจากความจริง ได้แต่ยิ้มและส่ายหน้า ไข่ไดโนเสาร์ก็ดี ไข่หงส์ก็ดี ของแบบนี้ต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนราชาหยกทั้งนั้น…เพียงแต่ข้างในราชาหยกมีแค่ของเหลวสีใสเหนียวหนืดอยู่ ในไข่ฟองนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไร จะทุบออกมาดูดีไหม?
สวยขนาดนี้ ถ้าจะทุบก็คงเสียดายแย่ ลักษณะภายนอกของไข่หยกฟองนี้เป็นซากฟอสซิลหยกอย่างแท้จริง เหมือนหยกทั่วไปอย่างกับแกะ แต่แค่มีสีห้าสีที่แบ่งกันอย่างลงตัว เมื่ออยู่กลางฝ่ามือเธอ สวยงดงามจริงๆ
เปลือกไข่ไม่ได้หนา อีกอย่างยังเป็นชนิดเนื้อแก้ว ดังนั้นซีเหมินจินเหลียนจึงมองอย่างละเอียด และแอบเห็นว่าข้างในก็มีของเหลวบางอย่างเหมือนกัน…ดูแล้วหายากเหมือนของราชาหยก
“พ่อคะ ของสิ่งนี้ไม่ได้เหมือนกับราชาหยกเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“พ่อจะรู้ได้อย่างไร?” หูชีเยี่ยนพูด “พ่อแค่บอกให้ทุบออกมาดู แต่ลูกอยากจะเก็บไว้เล่น”
“ไม่เอาหรอกค่ะ เก็บไว้เล่นดีกว่า!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มกริ่ม “พรุ่งนี้ให้หลินเสวียนหลานมาออกแบบสร้อยทองคำขาว เอามันไปฝังบนนั้นแล้วไปแขวนไว้ที่คอด้วย น่าจะสวยไม่หยอกเลย”
หูชีเยี่ยนได้ยินแล้วไม่ได้ดึงดันต่อ รับไข่ฟองนั้นมาจากมือเธอและวิเคราะห์ดูอย่างละเอียด ก่อนพยักหน้าพูดว่า “สีกับชนิดของหยกไม่เลว จุดเด่นอยู่ที่หยกห้าสีสดใส แถมสียังปรองดองได้ดีอีก ทำเป็นเครื่องประดับคงดีอย่างที่ว่า ถ้าลูกชอบก็เก็บไว้เถอะ!”
“โอเคค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด
“พรุ่งนี้นำหยกลายน้ำมาผ่ากัน” หูชีเยี่ยนพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“โอเคค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “คุณพูดอยู่ตลอดว่าอยากจะผ่าราชางูหนูก็ให้ไปแล้ว หนูไร้ซึ่งหนทางใดๆ ใครใช้ให้คุณเป็นพ่อของหนูล่ะ!”
“ฮะๆ…” หูชีเยี่ยนยิ้ม “พ่อจะออกไปดื่มชาสักจอก เสี่ยวป๋าย นายรีบหน่อย รีบผ่าหยกก้อนใหญ่นั้นออกมา”
“รับทราบครับ!” จ่านป๋ายพยักหน้ามองไปทางหูชีเยี่ยนที่เดินออกจากห้องใต้ดิน เช็ดเม็ดเหงื่อที่ไหลอยู่ทั่วศีรษะ ส่ายหน้าพูด “จินเหลียน คุณจะทำตามใจเขาเหรอครับ?”
ราชาหยกก็ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามของซีเหมินจินเหลียนแล้ว ถ้าผ่าหินลายน้ำออก บางทีหยกพวกนี้อาจจะสูญพันธ์ไม่เหลือซากเลยก็ได้ อย่างน้อยจ่านป๋ายก็ไม่เคยเห็นหยกชนิดนี้จากที่ไหนมาก่อน ไม่สิ…แม้แต่ได้ยินเขายังไม่เคยได้ยินเลย
“เขาเป็นพ่อของฉัน ขอแค่เขามีความสุข แม้จะต้องล้มละลายฉันก็ยอม” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจพูดขึ้น “หลายปีมานี้ไม่รู้ว่าเขาต้องใช้ชีวิตอยู่มายังไง อีกอย่างหลังจากนี้…ฉันก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง เพราะอย่างนั้นฉันจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้คุ้มค่าที่สุด ฉันไม่อยากที่จะต้องมานั่งเสียใจทีหลัง”
พูดถึงเท่านี้ ซีเหมินจินเหลียนขอบตาแดงก่ำ
จ่านป๋ายถอนหายใจออกมาเบาๆ ความรู้สึกเดียวกัน เขาก็คิดมกมุ่นหมุนกลับมาอยู่ที่เดิม เพียงแต่เวลานี้เขาพูดออกมาไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจพูดขึ้น “จินเหลียน…คุณคิดมากไปแล้ว คุณใส่ใจเขามากเกินไป เลยมักจะกังวลว่าเขาจะตีตัวออกห่างจากคุณไป คุณลองคิดดูนะ โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ การคมนาคมสมัยนี้ยิ่งพัฒนาไปไกล เวลาเขาจะไปไหน คุณสามารถไปหาเขาได้เสมอ”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าจากนั้นก็ส่ายหน้าตามมาติดๆ นำไข่ฟองนั้นวางอีกฝั่งด้วยสติเหม่อลอย
“จินเหลียน ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณหูกับหินปิดฟ้าจะเกี่ยวข้องกันล่ะครับ?” จ่านป๋ายเห็นหูชีเยี่ยนไม่อยู่ห้องใต้ดิน ด้วยเสียงของเครื่องเจียรหินที่ดังกระทบกันก็พอที่จะกลบเกลื่อนได้ จึงถามด้วยความสงสัย
ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้ามองเขาอยู่นานก่อนพูดว่า “เขาเป็นพ่อของฉัน ฉันสงสัยในตัวเขามันก็ดูเกินไป แต่ถ้าหากซีเหมินน่งเย่ว์คนเลวนั่นพูดจริง พ่อก็น่าจะตายไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่รอดจนถึงวันนี้…”
“เพราะอย่างนั้น คุณเลยกังวลมาก?” จ่านป๋ายถอนหายใจ “ช่วงนี้คุณยิ้มบ่อยกว่าเมื่อก่อนมากนะครับ แต่คุณยิ่งเก็บความรู้สึกไว้ในใจมากขึ้นเช่นกัน!”
“ฉันกลัว” ซีเหมินจินเหลียนมองจ่านป๋ายอย่างน่าสงสาร “เดิมทีฉันเป็นคนไม่มีอะไรสักอย่าง ฉันเลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ตอนนี้ฉันมีพ่อแล้ว ฉันจะรับความเจ็บปวดในการสูญเสียเขาไปอีกครั้งได้ยังไง…หลายปีมานี้ฉันทุกข์ระทมอยู่ตลอด”
“ผมรู้” จ่านป๋ายถอนหายใจ “ตอนเด็กผมก็ไม่มีแม่ มีแค่พ่อคนนั้น คุณน่าจะรู้เขาคนนั้นเห็นผมก็เหมือนเห็นศัตรู บางทีถ้าผมตายไปเร็วๆ คงไม่ขัดหูขัดตาเขา…”
“เสี่ยวป๋าย ฉันยอมรับว่าในตอนแรกฉันก็โกรธเขาจริงๆ และชอบใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา…เขาไม่ให้ฉันตามหาหินปิดฟ้าแต่ฉันก็ดื้อรั้นอยากจะไปตามหา นี่อาจจะเป็นความรู้สึกต่อต้านภานในใจ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเยาะหยัน “แต่ตอนนี้ ฉันเพิ่งรู้ว่าขอแค่พูดถึงเรื่องหินปิดฟ้า เขาก็ไม่สนใจ ฉันไม่เข้าใจทำไมตระกูลพวกเราถึงมีคำพูดเล่าขานไว้ว่ายามเมื่อดอกบัวสีทองเบ่งบาน หินปิดฟ้าจะปรากฏตัว เห็นได้ชัดเขาน่าจะรู้ความลับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหินปิดฟ้านั่น แต่เขาไม่ยอมพูด”
“เขาน่าจะรู้เรื่องบางอย่างที่พวกเราไม่รู้แน่!” พูดถึงเรื่องนี้ จ่านป๋ายถอนหายใจ
“อีกอย่างคุณก็พูดถูก เขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับหินปิดฟ้า” จ่านป๋ายพูด “ยามเมื่อดอกบัวสีทองเบ่งบาน บางทีอาจจะไม่ได้หมายถึงคุณ…”
ซีเหมินจินเหลียนผงกศีรษะ นี่เป็นสาเหตุที่เธอกังวลมากที่สุด…ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ หูชีเยี่ยนไปอยู่ที่ไหน? คนที่เคยตายมาก่อน แต่กลับมามีชีวิตยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ที่ลุงงูวิเคราะห์ดูก็ไม่ผิดเลย นอกเสียจากคนคนนั้นจะไม่ใช่หูชีเยี่ยนตัวจริง ไม่อย่างนั้นบนร่างกายของเขาน่าจะต้องเกิดเรื่องที่เหลือเชื่อแน่
และเรื่องเหลือเชื่อพวกนี้ แน่นอนว่าต้องมีความข้องเกี่ยวกับหินปิดฟ้า นี่เป็นเหตุผลที่หูชีเยี่ยนพยายามห้ามปรามเธอไม่ให้ไปตามหามัน
“ฉันให้คุณไปรวบรวมหาข้อมูลมาเป็นยังไงบ้าง” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“อย่างช้าสุดก็คือคืนนี้ ทางพม่าจะส่งแฟกซ์มาให้ผม” จ่านป๋ายถอนหายใจ “คุณน่าจะรู้ พม่า เวียดนาม ไทยและลาวเป็นเพื่อนบ้านกัน สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่มั่นคง คนคนหนึ่งคิดที่จะหลบซ่อนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แถมสถานที่ไม่เป็นระเบียบแบบนั้น อยากจะตามหาเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนมันค่อนข้างยุ่งยาก”
ซีเหมินจินเหลียนผงกศีรษะเล็กน้อยถามจ่านป๋าย “กี่โมงแล้ว”
“ห้าโมงเย็นแล้วครับ ทำไมเหรอ?” จ่านป๋ายถามอย่างสงสัย
“คุณออกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ฉันยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เลย” ซีเหมินจินเหลียนพูด
จ่านป๋ายคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดมือและยิ้ม “จินเหลียน ครั้งที่แล้วเดทของเราถูกก่อกวนไม่เป็นท่า ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้ผมชวนคุณไปดูหนังดีไหม?”
“อืม…ได้สิ” ซีเหมินจินเหลียนใจลอยตอบรับไป
“ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ ผมจะเลี้ยงปิ้งย่างคุณเอง จากนั้นพวกเราไปดูหนังกัน!” จ่านป๋ายพูด
“ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อน” ซีเหมินจินเหลียนพูด ในระหว่างที่พูดก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องใต้ดิน
หูชีเยี่ยนยิ้มรื่นมองไปยังซีเหมินจินเหลียนที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วลงมาจากด้านบน “จินเหลียน แต่งตัวสวยขนาดนี้ ลูกจะออกไปข้างนอกเหรอ”
“ใช่ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า “พวกเราไม่กลับมากินมื้อเย็นนะคะ”
“มีนัดเดทกับลูกชายตระกูลจ่าน?” หูชีเยี่ยนเจตนาถามพร้อมยิ้มกรุ่มกริ่ม
ซีเหมินจินเหลียนใบหน้าแดงระเรื่อ ได้แค่ยิ้มพราย ไม่ได้อธิบายอะไร เดทอย่างนั้นเหรอ? คิดว่าเป็นเดทก็แล้วกัน ความจริงเธอแค่อยากออกไปหาอะไรระบายแก้เซ็งเท่านั้น หรือไม่ก็หาคนมาพูดคุยด้วย
เห็นจ่านป๋ายที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หูชีเยี่ยนก็พูดกำชับ “ระวังตัวด้วย รีบกลับมาเร็วๆ ล่ะ”
“ท่านวางใจได้ครับ!” จ่านป๋ายยิ้ม ในใจรู้ดีว่าหูชีเยี่ยนกังวลอะไร เขาเป็นห่วงว่าซีเหมินน่งเย่ว์จะหาเรื่องรังควาญซีเหมินจินเหลียน แต่สำหรับหูชีเยี่ยน เพราะว่าเขาเป็นพ่อของจินเหลียน จ่านป๋ายจึงต้องเสียสละก้าวออกมา ตบไม่แลกมัดคืน ด่าไม่สวนกลับ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีพลังต่อสู้เอาคืน
ถ้าลงมือจริง จ่านป๋ายก็รู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหูชีเยี่ยน แต่ก็ไม่มีทางเป็นเหมือนตอนนี้ ที่ถูกตีอยู่เสมอ
แน่นอนหากเปลี่ยนเป็นซีเหมินน่งเย่ว์ เขาไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ากล้ามา จ่านป๋ายก็ไม่เกรงกลัวเฒ่ามันฝรั่งนั่น!
“จินเหลียน หยกไข่หงส์ของลูกล่ะ” หูชีเยี่ยนถาม “เอามาให้พ่อศึกษาหน่อย วางใจได้พ่อไม่ทุบมันแตกหรอก”