ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 300
หูหวังจ้องไปที่หูชีเยี่ยนอยู่นานถึงได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความโกรธในใจ “บอกเหตุผลฉันมาสักข้อ ทำไมแกต้องไล่ฉันออกจากพม่าด้วย?”
“ผมไม่อยากให้ใครไปตามหาสิ่งที่เรียกว่าหินปิดฟ้า ก็แค่นั้น!” หูชีเยี่ยนพูดโดยพยายามใช้ลมปราณสงบจิต
“แก…” หูหวังง้างมือตบไปยังใบหน้าของหูชีเยี่ยนอย่างหนักหน่วงหนึ่งฉาด
หูชีเยี่ยนไม่ได้หลบหนีหรือต่อต้าน ได้แต่นั่งสงบเงี่ยมเจียมตัวยอมให้เขาตบโดยดี อีกทั้งยังอาศัยจังหวะนี้เช็ดเลือดสดที่มุมปาก พร้อมกับยิ้มออกมา “ผมรู้ว่าคุณจะต้องตบตี หลายปีมานี้ทุกครั้งที่เจอกัน คุณก็มักจะเป็นอย่างนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ? ผมล่ะดีใจสุดซึ้งเหลือเกินที่แม่ของผมพาผมหนีตามไปด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าเธอได้แต่งกับคุณจริงๆ คงได้ถูกคุณตบตีตายตั้งแต่แรก!”
ประโยคนี้หูชีเยี่ยนเคยพูดกับซีเหมินจินเหลียนเป็นการส่วนตัวมาก่อน ซีเหมินจินเหลียนคิดเสียว่ามันเป็นเรื่องตลกเลยหัวเราะจนน้ำตาไหล แต่เมื่อมาได้ยินตอนนี้ก็รู้ว่าแย่แล้ว ประโยคนี้ไปพูดกับใครที่ไหนคงไม่เป็นไร คนอื่นคงคิดว่าเป็นมุขตลก
แต่สำหรับหูหวังไม่เหมือนกัน ลูกแท้ๆ ของตัวเองพูดแบบนี้ต่อหน้าเขา…ดีใจที่ภรรยาของตนหนีตามไปกับคนอื่นอย่านั้นเหรอ!
หูหวังยกเท้าขึ้นมาถีบหูชีเยี่ยนอย่างรุนแรง หูชีเยี่ยนก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนไปไหนและยอมรับแรงถีบจากเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“ทำไมฉันถึงได้มีลูกเวรแบบนี้ได้!” หูหวังควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ไม่ไหว ยกเท้าขึ้นถีบง้างมือขึ้นตบไปที่เรือนร่างของหูชีเยี่ยน
หูชีเยี่ยนมึนงงไม่ขยับไปไหน ปล่อยให้เขาตีตามสบาย! ซีเหมินจินเหลียนร้อนอกร้อนใจ จ่านป๋ายยิ่งกระวนใจกว่าเข้าไปห้ามหูหวังและพูดขึ้น “คุณปู่หูครับ คุณระงับอารมณ์หน่อยนะครับ เห็นแก่จินเหลียนเถอะครับ”
หูหวังก็อายุปูนนี้แล้ว เมื่อถูกจ่านป๋ายควบคุมตัวจึงขยับไปไหนไม่ได้ ซีเหมินจินเหลียนรีบเข้าไปพยุงหูชีเยี่ยนขึ้นมา ก่อนจะเห็นว่าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว จึงร้อนรนถามขึ้น “พ่อคะ พ่อไม่เป็นอะไรนะคะ?”
“ไอ้หนูตระกูลจ่าน รีบปล่อยฉัน!” หูหวังโกรธ “วันนี้ถ้าฉันไม่ได้ตีไอ้ลูกเวรนี่ให้ตาย ฉันคงต้องละอายใจแก่บรรพบุรุษ ในอนาคตตายไปจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอบรรพบุรุษล่ะ!”
หูชีเยี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผละมือของซีเหมินจินเหลียนออกและมองจ่านป๋าย “เสี่ยวป๋าย ปล่อยเขา!”
“พ่อคะ!” ซีเหมินจินเหลียนกระวนกระวายใจ “พ่ออย่าทำให้คุณปู่หูโกรธได้ไหมคะ หนูขอร้องพวกคุณล่ะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ มานั่งพูดคุยกันดีๆ ได้ไหมคะ?”
“จินเหลียน ไม่มีอะไรต้องคุย หนูอยู่ห่างจากเขาไว้จะดีที่สุด!” หูหวังโมโห “หนูลองถามมันว่ามันทำอะไรที่พม่าไว้บ้าง? ขับไล่พวกเราออกไปไม่พอ ยังห้ามไม่ให้พวกเราเข้าพม่าตลอดชีวิต มันคิดว่าเหมืองหยกในพม่าเป็นทรัพย์สินของมันทั้งหมดคนเดียวหรือไง?!”
“ก็ผมคิดแบบนี้จะทำไม?” หูชีเยี่ยนขมวดคิ้วพูด “ใช่ ผมไม่ให้พวกคุณเข้าไปในพม่า คุณ…รวมถึงจินเหลียนด้วย!”
“แก….แก” หูหวังโมโหจนสีหน้าถอดสี มือชี้ไปยังหูชีเยี่ยนอย่างสั่นเทา “ไอ้ลูกเวร! ไอ้เวร!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเป็นคนชอบได้แล้วทิ้งตั้งแต่แรก ก็ไม่มีไอ้ลูกเวรอย่างผมคนนี้หรอก!” หูชีเยี่ยนไม่ลืมที่จะพูดจาเสียดสีเขา
ซีเหมินจินเหลียนมองหูชีเยี่ยน จากนั้นเหลือบไปทางหูหวังอีกครั้ง เธอเข้าใจความรู้สึกของหูหวังได้ดี เพราะถ้าหากเป็นเธอที่ถูกไล่ออกจากพม่า คงได้โกรธเป็นอย่างมากแน่ ครั้งแรกที่เจอหูชีเยี่ยน เธอกับเขาสร้างเรื่องที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ จนถึงขั้นแตกหักกันไปข้าง
เรื่องราวความขัดแย้งของหูหวังกับหูชีเยี่ยนเริ่มกลายเป็นรากฐานที่ฝังลึก ถ้าหูชีเยี่ยนตายไปจริงๆ หูหวังคงไม่อาจหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดเสียใจได้ แต่เวลาเจอหน้ากันจะให้พวกเขาหยุดทะเลาะกัน ปล่อยความเคียดแค้นในอดีตยังพอทำได้ เพียงแต่ตอนนี้หูชีเยี่ยนทำเกินไปหน่อยจริงๆ
เห็นหูหวังโมโหจนลงไม้ลงมือตบตีคน จ่านป๋ายจึงรีบเข้าไปจับเขาและกดเขานั่งลงบนโซฟา หูหวังส่ายหน้าถอนหายใจไม่หยุด…
ซีเหมินจินเหลียนเองก็พยุงหูชีเยี่ยนนั่งลงโซฟาตรงข้าม ถอนหายใจพูดขึ้นว่า “พวกคุณคุยกันดีๆ ไม่ได้เหรอคะ? พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ ขอร้องเถอะค่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว!” ในระหว่างที่พูดน้ำตาก็คลอเบ้ามองไปทางหูชีเยี่ยน เธอรู้ว่าขอแค่เธอร้องไห้ หูชีเยี่ยนก็ไม่มีทางทำอะไรเธอได้ ขอแค่ไม่ใช่เรื่องหินปิดฟ้าเรื่องทุกอย่างก็เจรจากันง่ายขึ้น
เป็นอย่างที่คิด เมื่อหูชีเยี่ยนเห็นเธอร้องไห้จึงกระอักกระอ่วนรีบพูดปลอบขึ้น “ไม่เป็นไร จินเหลียน ไม่เป็นไรแล้ว!”
“พ่อคะ พ่อยอมให้กับคุณปู่หูไม่ได้เลยเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนอึดอัดใจพูดออกมา
จ่านป๋ายทำได้แค่ยิ้มขมขื่น ถ้าเป็นเรื่องอื่นเขายังพอยื่นมือเขาไปช่วยได้บ้าง แต่เรื่องครอบครัวของซีเหมินจินเหลียน เขาก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี ความจริงช่วยทางไหนก็เหมือนจะยิ่งยุ่งยากกว่าเก่า ไม่สู้นิ่งเฉยและรอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน!
หูชีเยี่ยนมองหูหวังพร้อมส่ายหน้าพูด “จินเหลียน นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องยอมหรือไม่ยอม พวกเราผิดใจกันตั้งแต่แรก หลังจากนั้น…ก็ไม่ใช่แล้ว ตอนนั้นที่พ่อแย่งของเขา เมื่อพ่อรู้จึงมาขอโทษถึงหน้าประตูและคุกเข่าต่อหน้าพวกเขาทั้งคืน แต่ในเมื่อเขาไม่ให้อภัยพ่อแล้วเรามีอะไรต้องพูดกันอีกล่ะ?”
“ถ้าฉันไม่รู้ว่าแกเป็นลูกชายฉัน ตอนนั้นฉันก็คงสับแก่จนเละเป็นซอสเนื้อแล้ว!” หูหวังเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็โกรธจัด คิดถึงตอนนั้นที่ดูสินค้าอยู่ที่พม่า โดยที่ไม่รู้ตัวก็บังเอิญเจอกับชายหนุ่มผ่านโลกมาไม่มากทั้งสองคน และหลังจากที่รู้มาว่าเขาเก็บสะสมแผนที่เกี่ยวกับหินปิดฟ้าไว้แผ่นหนึ่ง ทำให้เกิดเรื่องอุตลุดขึ้น ตีเข้าไปที่ท้องเขาอย่างสาหัสและแย่งแผนที่มาจากมือ
เรื่องนี้ช่างเถอะ ต่อมาเขาก็เพิ่งรู้ว่าชายหนุ่มที่หน้าต่อหลาเหลาอีกคนนั้น ที่แท้ก็คือลูกชายของเขากับผู้หญิงคนนั้น…
หลังจากเกิดเรื่องไม่ว่าหูชีเยี่ยนจะคุกเข่าต่อหน้าเขา ขอร้องให้เขาให้อภัยขนาดไหน แต่เขาก็ไล่ออกไปอย่างไร้เยื่อใย แม้ภายหลังจะเจอที่พม่าสองหน แต่ทุกครั้งหูชีเยี่ยนก็จะโกรธจนอารมณ์พลุ่งพล่านแทบจะกระอักเลือด ไม่มีข้อยกเว้นแม้สักครั้งเดียว อีกทั้งยังแยกกันแบบจบไม่สวยอีกต่างหาก!
นิสัยของหูชีเยี่ยนเหมือนฉายาของเขา…ที่แปลว่าหิน นิสัยหนักแน่นและแข็งกร้าว ใครพูดอะไรก็แสดงเป็นบทบาทไม่รับฟังใครทั้งนั้น
“คุณน่ะหรือ?” หูชีเยี่ยนเย็น “มีคุณสมบัติพอเหรอไง?”
“แก…” หูหวังเดือดและแผดเสียงใส่พลันดีดตัวยืนขึ้น ซีเหมินจินเหลียนรีบส่งสายตาให้จ่านป๋าย จะให้พวกเขามาต่อสู้กันที่นี่อีกครั้งไม่ได้นะ เฮ้อ…ไม่รู้ว่าช่วงนี้ดวงซวยหรืออย่างไร คฤหาสน์จินเหลียนของเธอถึงได้ต่อสู้สองครั้งต่อวัน?
นับจากหูชีเยี่ยนย้ายเข้ามาอยู่คฤหาสน์จินเหลียน ชีวิตของเธอก็เหมือนหยกที่หลากหลายมีชีวิตชีวา
“โกรธอะไรขนาดนั้นกัน คุณก็อายุปูนนี้แล้ว ไม่ไปพม่าก็ดีแล้วนี่ คุณจะใช้ชีวิตให้ลำบากไปทำไม?” หูชีเยี่ยนนั่งไขว่ห้าง เหลือก็แต่ไม่ได้กระดิกสองเท้า “เงินทองก็หามามากแล้ว คุณก็แค่หาสถานที่เขาสวยน้ำใสใช้ชีวิตไปจนแก่เฒ่าไม่ได้งั้นเหรอ? ถ้าคุณหาเงินไม่พอใช้ที่ผมก็มี!”
ประโยคนี้ความจริงก็ไม่ได้ถือว่าไม่น่าฟังอะไร เกรงว่าผู้เฒ่าส่วนใหญ่คงหวังที่จะฟังลูกหลานพูดประโยคนี้! แต่เมื่อหูหวังฟังแล้ว ในใจก็ไม่ได้มีรสชาติหอมหวานสักเท่าไหร่ แต่กลับพูดดุดัน “แกคงอยากจะบอกว่าให้ฉันหาฮวงจุ้ยทำเลดีๆ หน่อย และเตรียมซื้อหาโลงศพให้ดีสินะ?”
ซีเหมินจินเหลียนมองจ่านป๋าย พอดีกับที่เขามองมาทางเธอ ทั้งคู่สบตากันยิ้มฝืดเฝื่อน เรื่องนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?
“ได้ยินว่า…จักรพรรดิราชวงศ์สมัยก่อนก็ทำกันอย่างนี้ เมื่อกุมพลังอำนาจไว้ในมือก็เริ่มที่จะเชิญให้ซินแสฮ้วงจุ้ยมาช่วยดูที่ทางสร้างสุสานหวังหลิง ถ้าคุณไม่ขัดข้องให้ผมช่วยสร้างก็ได้นะ!” หูชีเยี่ยนพยักหน้าพูด “เพราะยังไงคุณก็อายุปูนนี้แล้ว น่าจะคิดถึงเรื่องก่อนตายไว้บ้าง…”
หูหวังรู้สึกว่าถึงเขาไม่ตายก็เหมือนโกรธจนไฟเผาตัวตายทั้งเป็น แต่น่าจะเพราะข้ามผ่านความโกรธไปแล้ว เลยอดที่จะหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้
หูชีเยี่ยนเลียนแบบท่าทางของซีเหมินจินเหลียน แบมือยิ้ม “คุณลองดูสิ แม้ว่าคุณจะไม่สนใจไยดีผม แต่ผมก็ไม่มีอะไรที่จะพูดกับคุณถูกไหม? ลูกชายที่กตัญญูอย่างผม แม้แสงไฟจะส่องสว่างแค่ไหนก็หาไม่เจอหรอก!”
ซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายกลั้นไม่ไหว หัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
หูหวังก็โกรธจนเกินขีดจำกัดไปแล้ว อย่างไรเสียสำหรับหูชีเยี่ยนเขาจะโกรธหรือไม่มันก็เท่านั้น ถ้าตบเหรอ ลูกสาวเขาก็โตขนาดนี้แล้ว แถมยังยืนมองอยู่ข้างๆ อีก อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีเป็นความผิดของพ่อ แต่ลูกชายก็โตขนาดนี้แล้วก็เป็นดั่งไม่แก้ที่ดัดยาก ถ้าไม่ตบอยากจะใช้ปากพูดเกลี้ยกล่อมเขามันไม่มีทางเป็นไปได้
ดังนั้นหูหวังคิดๆ ดูถึงถอนหายใจพูด “ชีเยี่ยน…”
“หืม!” หูชีเยี่ยนพยักหน้า “ที่แท้คุณก็รู้ชื่อผมดีนี่นา?”
หูหวังรู้สึกว่าไม่ง่ายเลยที่จะดับไฟโกรธในตัวได้ แต่นี่มันจะกลับมาอีกครั้ง จึงพยายามทำใจให้สงบ “บางทีแกอาจจะพูดถูก อายุฉันก็ปูนนี้แล้ว ไปหรือไม่ไปพม่าก็ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แต่แกจะห้ามไม่ให้จินเหลียนไปไม่ได้หรอกนะ?”
“แน่นอนครับ!” หูชีเยี่ยนพยักหน้าพูด “ถ้าเธอไปเที่ยวชมพม่า จะไปเที่ยวเล่นอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น…ได้ยินว่าเพื่อนบ้านของพม่าคือไทย ที่นั่นสาวประเภทสองใช้ได้เลย ผมยังเตรียมที่จะซื้อตัวมาไว้เป็นเพื่อนเล่น ถึงเวลานั้นจินเหลียนจะได้ไปดูเหมือนกัน…”
จ่านป๋ายที่อยู่ข้างๆ ฟังจนมีเพลิงไฟลุกโชน ภายในโลกนี้ยังมีคนที่ยุยงให้ลูกสาวเล่นกับสาวประเภทสองด้วยเหรอ เกรงว่าคงมีแค่หูชีเยี่ยนคนวิปริตคนนี้แต่เพียงผู้เดียว
“แล้วถ้าเธอไปเดิมพันหินล่ะ!” หูหวังถาม สำหรับประเด็นสาวประเภทสองที่ไทย ถูกเขากลบเกลื่อนไปหมด ไม่อย่างนั้นขืนให้หูชีเยี่ยนพูดจาเหลวไหล ใครจะไปรู้ว่าจะเถลไถลไปถึงไหนอีก ไม่แน่อาจจะไถลไปไกลถึงช้างในแอฟริกาใต้หรือคนที่นั่นก็ได้…
“เธอจะไม่ไปเดิมพันหิน! อย่างน้อยถ้าผมยังมีชีวิตอยู่เธอก็ห้ามไปเดิมพันหิน!” หูชีเยี่ยนพูดลำพองใจ “หรือคุณไม่เชื่อสายตาของผมเหรอ?”
หูหวังมองซีเหมินจินเหลียน ซีเหมินจินเหลียนโคลงศีรษะ บอกเป็นนัยให้เขาอย่าทะเลาะกับหูชีเยี่ยน หูหวังพยักหน้าหันตัวมองหูชีเยี่ยน “ฉันไม่ทะเลาะกับแกแล้ว อย่างไรเสียทะเลาะไปก็ไม่ได้เรื่องอะไรขึ้นมา ฉันขอถามแกหน่อย แผนที่กับแจกันดอกบัวทองล่ะ? แกเอาของทั้งสองสิ่งนี้ให้จินเหลียนซะ เรื่องอื่นฉันจะถือว่าแล้วกันไป”
“ผมไม่เคยรู้เลยว่าแจกันดอกบัวทองที่คุณพูดถึงเป็นอะไรกันแน่!” หูชีเยี่ยนส่ายหน้าพูด “สำหรับแผนที่ แผ่นหนึ่งที่อยู่กับปีศาจงูเขาบอกว่าให้คุณไปแล้ว และระหว่างที่ผมหลบหนีเอาตัวรอดตอนนั้นมันก็หายไปในที่เหมืองหยกใต้ดิน เกรงว่าคงหาไม่เจอแล้วล่ะ! แล้วผมจะเอาให้คุณได้ยังไง? แต่คุณคงยังไม่ได้หาผู้สืบทอดใช่ไหมล่ะ? หรือจะเป็นตระกูลหลิน? ผมดูแล้วมันก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ เจี่ยหยวนฮวายิ่งไม่เหมาะเลย อย่างไรเสียตามกฎของตระกูลหูก็ถ่ายทอดมาให้ลูกคนโตในตระกูลไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อของสิ่งนั้นไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องตกเป็นของผมวันยังค่ำ ผมทำหายไปแล้วก็ช่างมันเถอะ!”
“แกรู้จักกฎบ้านของฉันดีเหลือเกินนี่?” หูหวังแค่นเสียงใส่
“แม่ของผมเคยบอกไว้!” หูชีเยี่ยนค่อยๆ พูดไม่หยุด
“แกไม่เคยแจกันดอกบัวทองจริงๆ เรอะ?” หูหวังถามอีกครั้ง