ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 331 อวิ๋นเจียเปลี่ยนไป
หลินเสวียนหลานคิดๆ ดูแล้วถึงถาม “เธอติดต่ออาจารย์ของคุณทำไม?”
“เธอรายงานความเคลื่อนไหวของหูชีเยี่ยนให้อาจารย์รู้หมด ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ลุงอยู่เคียงข้างคุณหูตลอด เกรงว่าอาจารย์คงนั่งไม่ติดแล้ว” สวี่อี้หรานถอนหายใจพูด “ผมไม่เข้าใจจริงๆ ระหว่างอาจารย์กับพ่อคุณมีความแค้นเคืองอะไรที่ชำระกันไม่ได้?”
“แม้พ่อเห็นด้วยที่จะสะสางแค้น แต่ฉันไม่ยินดี” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วเหอะเสียงใส่อย่างเลือดเย็น “คุณไปบอกอาจารย์ของคุณด้วย ทางที่ดีให้เขาหดตัวอยู่ที่ตงไห่ หรือไม่ก็ไปซ่อนตัวตามหลุมฝังศพให้ดี ไม่อย่างนั้นถ้าตกอยู่ในมือฉัน ฉันจะให้เขาลิ้มลองรสชาติของมือและตาที่พิการ”
สวี่อี้หรานมองซีเหมินจินเหลียนด้วยสีหน้าแปลกประหลาดมากเหมือนกัน ผ่านไปครู่หนึ่งถึงพูด “จินเหลียน ความจริงตอนนั้นพ่อคุณเป็นคนเริ่มก่อนเอง”
ซีเหมินจินเหลียนมึนงง มองสวี่อี้หรานด้วยความไม่เข้าใจถามขึ้น “หมายความว่าไง?”
สวี่อี้หรานเห็นจ่านมู่ฮวากับหลินเสวียนหลานจ้องเขม็งมองแต่เขา ก็ลังเลพูดอยู่นาน “ผมกลับไปครั้งนี้ก็ถามอาจารย์อยู่นาน เขาถึงอ้ำอึ้งพูดออกมา ตอนนั้นป้าของผมเป็นคนนิสัยรุนแรง อาจารย์ของคุณกับย่าของคุณหนีตามกันไปแล้วยังพาอาจารย์ลุงไปด้วยอีก…”
“คุณพูดชื่อมาตรงๆ พูดอะไรให้ยุ่งยาก?” จ่านมู่ฮวาพูด “เคารพไปก็ไม่อยู่ที่นี่”
สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “อย่างไรเสียซีเหมินน่งเยว่ก็รู้ว่าพ่อของเขา…อืม ก็คือซีเหมินเหล่าเอ๋อร์ที่พวกคุณพูดถึงยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์จึงรีบไปหาเขา จากนั้นก็เจอกับพวกหูชีเยี่ยน ต่อจากนั้นไม่พูดไม่จาก็ลงมือเลย หูชีเยี่ยนไร้ยางอายหาเรื่องทะเลาะกับลุงงูพวกเขาทั้งสอง อาจารย์ไม่ใช่คู่แข่งของพวกเขา ไม่เพียงแต่ครึ่งตาย แต่ยังถูกพวกเขาดูถูกดูแคลนอย่างรุนแรงไปรอบหนึ่ง”
ความสนใจของจ่านมู่ฮวาลอยมาทันทีพลันรีบถาม“คุณหูกับลุงงูทำอะไรซีเหมินน่งเยว่เหรอ เอสเอ็ม?”
“คุณรู้จักเอสเอ็มด้วยเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วกลอกตาขาวใส่จ่านมู่ฮวาอย่างเ**้ยมเกรียม เขาโรคจิตเอง ยังคิดว่าคนอื่นจะโรคจิตเหมือนเขาเหรอ?
แต่สีหน้าของสวี่อี้หรานแปลกประหลาดเหลือเกิน ไม่นานถึงพูด “แม้ว่าไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง อย่างไรเสียงอาจารย์ก็เกือบจะตายในมือของคุณหูแล้ว ต่อมาเป็นแค่เพราะลุงงูทนดูไม่ได้เลยแอบปล่อยเขาออกมา”
ผู้คนเห็นสีหน้าอารมณ์บนใบหน้าของสวี่อี้หรานก็แอบเข้าใจได้ เกรงว่าหูชีเยี่ยนคงทำเรื่องอะไรเกินไปจริงๆ แต่ใบหน้าซีเหมินจินเหลียนยังคงไม่เข้าใจ มองจ่านมู่ฮวาและหวังให้เขาช่วยอธิบายสักหน่อย
จ่านมู่ฮวาเห็นดังนั้นแล้วเข้ามากระซิบข้างหูเธออยู่หลายประโยค แต่เสียงดังฟังชัดจนทำให้คนอื่นได้ยินกันหมด
“เหลวไหล” ซีเหมินจินเหลียนโกรธ
“คุณซีเหมิน มันเป็นเรื่องจริง” สวี่อี้หรานถอนหายใจพูด “มันเป็นขั้นตอนของโทษประหารชีวิตที่เก่าแก่และโหดร้ายเรียกว่าวั่งเทียน คุณหูบอกว่าเคยเห็นในหนังสือโบราณมาก่อน ดังนั้นเลยอยากหาคนมาทดลอง ดูว่าคนนั้นจะทนได้กี่วันก่อนตาย และอาจารย์ก็เลยเป็นผู้โชคร้ายคนนั้น อาจารย์เกลียดโทษประหารชีวิตที่โรคจิตนี้ของคุณหูมาก เขาร้องขอชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งเกลียดซีเหมินเหล่าเอ๋อร์คนนั้น รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังแกล้งเลอะเลือน…ต่อมาลุงงูทนไม่ไหวเลยปล่อยเขาไป และใช่ฝีมือแพทย์ขั้นสูงช่วยฟื้นชีวิตเขากลับมา ต่อจากนั้นเขาก็เกลียดเคียดแค้นพ่อของคุณไปตามที่เห็น”
ครั้งนี้ซีเหมินจินเหลียนไม่พูดจา เพราะหูชีเยี่ยนเคยพูดเองกับปากว่าถ้าตอนนั้นลุงงูไม่มาขวางไว้ เขาคงทำร้ายซีเหมินน่งเยว่ให้พิการไปตั้งแต่แรกแล้ว ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคำพูดโกหก
สวี่อี้หรานพูดขมขื่น “นี่ยังไม่นับ ต่อมาบาดแผลของอาจารย์ฟื้นตัวดีขึ้น เลยตามหาคุณหูเพื่อแก้แค้น ผลสุดท้ายคุณหูก็ยกหมากขึ้นสูงกว่าเขา เอาเขาไปขายให้กับศัตรูคู่แค้นของเขา ศัตรูคนนี้ทำให้เขาอับอาย แถมยังโรคจิตแขวนเขาไว้ในหลุมมูลข้างใน…”
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่เขาก็หาเรื่องเอง” หลินเสวียนหลานไม่เห็นแก่ที่สวี่อี้หรานช่วยรักษาสองมือของเขาไว้ รีบพูดไปตรงๆ เพื่อยืนหยัดแน่วแน่วปกป้องหูชีเยี่ยน
“ได้ๆ ตระกูลพวกคุณมีคนปกป้องซื่อสัตย์ที่สุดอย่างเขา ผมพูดกับคุณ พูดไปก็ไม่เข้าใจ” สวี่อี้หรานพูด
“อย่างไรเสียความเคียดแค้นระหว่างซีเหมินน่งเยว่กับคุณหูก็มาถึงขั้นที่หมดหนทางสะสาง ดังนั้นคุณหูคงไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเอาข้อมูลทุกอย่างของเขาไปขายให้กับซีเหมินน่งเยว่ถูกไหม?” จ่านมู่ฮวาพูดวิเคราะห์ด้วยความใจเย็น
“ใช่” สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “เรื่องนี้มันแน่อยู่แล้ว เหมือนกับอาจารย์ ถ้าเขารู้ว่าผมกับพวกคุณพูดถึงเรื่องพวกนี้ กลับไปผมคงต้องถูกจัดการตามกฎของสำนัก แต่เขาไม่มีทางทำอะไรผมได้ มากสุดก็แค่ด่าไปชุดหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นการกระทำของหูเยี่ยนจึงผิดปกติอย่างมาก”
“พูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้ ไม่คิดว่าสายไปเหรอครับ?” หลินเสวียนหลานส่ายศีรษะพูด “หูเยี่ยนตายไปแล้วจะพูดอะไรอีกล่ะครับ?”
“ความหมายของผมก็คือ หวังว่าคุณซีเหมินจะช่วยเกลี้ยกล่อมคุณหู เขาไม่มีทางวางแผนทำร้ายผู้อื่น ความจริงแค่อยากจะล่อให้อาจารย์ออกมาแก้แค้นเรื่องราวในครานั้นต่างหากล่ะ” สวี่อี้หรานส่ายศีรษะพูด “อาจารย์เกลียดเขาเข้ากระดูก ขอแค่มีโอกาสก็ไม่สนขิงข่าอะไร คิดอยากจะแก้แค้นเขาเท่านั้น”
“พ่อก็เกลียดเขาเหมือนกันนั่นแหละ” ซีเหมินจินเหลียนเหอะเสียงใส่
จ่านมู่ฮวากำลังจะพูด จู่ๆ โทรศัพท์ของซีเหมินจินเหลียนพลันดังขึ้น ซีเหมินจินเหลียนสับสน เวลานี้ใครยังจะโทรมาหาเธออีก? หรือจ่านป๋ายเห็นเธอไม่กลับไปเลยโทรศัพท์มาถาม?
ควานหาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าข้างใน เป็นเบอร์โทรของฉินเฮ่า รีบกดปุ่มรับสายทันที….
“จินเหลียน…” สายโทรศัพท์จากฉินเฮ่ามีความลนลานเล็กน้อย
“อืม ฉันเอง พี่หลินมีธุระเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“จินเหลียน คุณอยู่กับพวกคุณสวี่หรือเปล่า?” ฉินเฮ่าสงบอารมณ์ไม่ให้สะทกสะท้านถามออกไป
“อืม ใช่แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนเหลือบมองสวี่อี้หราน “คุณมีเรื่องอยากเจอเขาเหรอคะ?”
สายโทรศัพท์มีช่วงหนึ่งเงียบไป จากนั้นฉินเฮ่าถึงพูดขึ้น “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยกับอวิ๋นเจีย ผมอยากให้เขาช่วยดูให้หน่อย ไม่รู้ว่าสะดวกหรือเปล่าครับ?”
“คุณพูดกับเขาเองเถอะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลาง อีกด้านก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้สวี่อี้หรานพร้อมยิ้ม “หมอมองโกล ธุรกิจมาถึงหน้าประตูแล้ว”
“โอ้?” สวี่อี้หรานแอบได้ยินพร้อมยิ้ม “หาผมเหรอ?”
“ยุคนี้สัตวแพทย์หอมหวานเสียจริง” จ่านมู่ฮวาพูดจาเสียดแทง
“กูไม่ใช่สัตวแพทย์” สวี่อี้หรานรับโทรศัพท์มาจากซีเหมินจินเหลียน อีกด้านก็ตะคอกใส่จ่านมู่ฮวา
“งั้นก็เป็นภูตผี?” จ่านมู่ฮวารีบพูดจาถากถางอีกครั้ง
ครั้งนี้สวี่อี้หรานกลับไม่สนใจเขา กุมโทรศัพท์มือถือและพูดกี่ประโยคใส่ฉินเฮ่าแล้ววางสายไป จากนั้นยื่นโทรศัพท์ให้ซีเหมินจินเหลียน
“เกิดอะไรขึ้น?” ซีเหมินจินเหลียนถามใจจดใจจ่อ “คุณอวิ๋นเป็นไรไปคะ?”
“อาการกำเริบ บอกให้ผมเข้าไปดู แต่ผมไม่ออกตรวจคนไข้” สวี่อี้หรานเงยหน้าพูด
“คุณสวี่คะ ในเมื่อคนเขาเจ็บป่วยขอร้องคุณ คุณก็ว่างไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เข้าไปดูมันจะยุ่งยากอะไร? รักษาหายแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องค่ารักษาหรอก แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รับบุญกุศลนี้” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วพูด สำหรับเงื่อนไขในการออกตรวจที่มากมายของสวี่อี้หรานนั้น จากที่เธอดูมันเหมือนไม่มีอะไรแล้วไปหาเรื่อง ไม่สอดคล้องกับจริยธรรมขั้นพื้นฐานของคนเป็นแพทย์เลย
“มันก็ใช่” สำหรับปัญหาของหูชีเยี่ยน หลินเสวียนหลานมุ่งเป้าไปที่สวี่อี้หรานทางเดียว เวลานี้ก็ตอบกลับอย่างสุภาพเหมือนทุกที “หมอเปรียบดั่งหัวใจพ่อแม่”
“จินเหลียน ถ้าคุณไปเป็นเพื่อนผม ผมก็จะไปดู” สวี่อี้หรานยิ้มหน้าบาน
“ฝันหวานไปแล้ว” จ่านมู่ฮวาพูดอย่างหมดอารมณ์ “เวลานี้แล้วยังให้จินเหลียนไปกับคุณ คุณยังกล้าพูดอีก?”
“ฉันไปกับคุณเอง” ซีเหมินจินเหลียนลุกขึ้นยืน คิดถึงผู้หญิงเปราะบางเหมือนน้ำอย่างอวิ๋นเจียแล้ว ก็แค่สติฟั่นเฟือนไหม? มีอาการโรคจิตเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้ตัวอยู่นอกบ้านเกิด ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่ควรพึงกระทำ ไปเป็นเพื่อนกับหมอมองโกลแล้วจะทำไม?
“ผมไปด้วย” จ่านมู่ฮวาจดจ้องสวี่อี้หรานอย่างเ**้ยมเกรียมเช่นกัน พูดกำชับหลินเสวียนหลาน “คุณรีบนอนไวๆ ล่ะ ผมจะไปกับจินเหลียนแล้วจะกลับมา”
หลินเสวียนหลานตอบรับ ซีเหมินจินเหลียนถือกระเป๋าแล้วเดินตามหลังสวี่อี้หรานเดินไปทางประตูใหญ่
“คุณดูเป็นห่วงเขามากเหมือนกันนะ” สวี่อี้หรานรอออกจากประตูใหญ่ถึงพูด
“หา?” ซีเหมินจินเหลียนมึนงงไม่เข้าใจคำถาม “คุณพูดว่าอะไรนะ?”
“ผมพูดว่าคุณชายจ่านดูห่วงใยคุณหลินมากนะครับ” สวี่อี้หรานยิ้มมีเลศนัย
“สมองของนายคิดเรื่องอะไรเนี่ย?” จ่านมู่ฮวาจ้องมองเขาอย่างดุดันแวบหนึ่ง
“พูดยาก สองวันก่อนผมจองห้องพักไม่ได้ อยากจะมาพักที่คุณสักคืน แต่คุณกลับปฏิเสธผมยังไงแล้วนะ?” สวี่อี้หรานยิ้ม “ทำไมแค่พริบตาเดียว คุณก็ลากคุณหลินมาอยู่ด้วยกันล่ะ?”
“นอนพักใต้ชายคาเดียวกับคนอย่างคุณ ผมจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้” จ่านมู่ฮวาพูดจบและถือวิสาสะเปิดประตูรถให้ซีเหมินจินเหลียน
“คุณซีเหมินนั่งรถผม” สวี่อี้หรานเงยหน้าพูด “ไม่งั้นผมก็ไม่ไปแล้ว”
“คุณ…” จ่านมู่ฮวาโกรธจนกำมัดอยากต่อยคน
ซีเหมินจินเหลียนไม่พูดสักประโยค ถือกระเป๋าเดินไปที่หน้ารถของสวี่อี้หราน สวี่อี้หรานยิ้มร่าและเปิดประตูรถให้เธอ มิหนำซ้ำยังเลียนแบบวัฒนธรรมของคนตะวันตกด้วยการดึงมือเธอมาแล้วบรรจงจูบ
ซีเหมินจินเหลียนโกรธจนเกือบตบเข้าบ้องหูเขา แต่คิดๆ แล้วก็กลั้นใจไว้
“รู้ว่าพวกเขาพักที่ไหนไหม?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“รู้ พวกเขาสองคนพักที่โรงแรมXX” สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “เมื่อกี้ผมถามแล้ว” เขาพูดระหว่างสตาร์ทรถ
โรงแรมXX ชั้นยี่สิบเก้า พวกเขาทั้งสามคนเคาะประตูห้องสามหนึ่งสี่ พลันได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของอวิ๋นเจียดังแว่วมา
“เธอเป็นอะไรคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามฉินเฮ่าที่เปิดประตูให้
สีหน้าของฉินเฮ่าอึมครึมอยู่นานถึงพูด “พวกคุณเข้าไปดูเองเถอะ ก่อเรื่องวุ่นวายมาทั้งคืนเลย ผมจนปัญญาจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โทรไปหาพวกคุณ”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย รีบเดินเข้าไปข้างใน ห้องดีลักซ์สุดหรูหราของลาสเวกัสกลายเป็นสงครามรกหูรกตาไปหมด
สาวงามเมืองเจียงหนานที่สวยดั่งน้ำในอดีต ตอนนี้ผมเผ้าพะรุงพะรัง มือเท้าถูกมัดไว้แน่นกับขาเตียง แม้แต่ปากยังถูกผ้ายัดไว้ รัดจนเธอร้องแสดงความเจ็บปวดเหมือนดั่งสัตว์ประหลาด น่ากลัวจริงๆ…
“พี่ฉินคะ ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับคุณหนูอวิ๋นคะ?” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลาง อีกด้านก็หลบหลีกแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้นอย่างระมัดระวัง เดินไปถึงข้างหน้าเตียงแล้วเปิดผมที่ปกปิดบนใบหน้าของอวิ๋นเจียออกมาอย่างระวังตัว แต่ในขณะนั้นเธอก็ตกใจกลัวไม่หยุด และก้าวเท้าถอยหลังไปหลายก้าวจนจ่านมู่ฮวาต้องเข้ามาประคองเธอไว้