ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 333 เงามืด
ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างตกใจ “ลุงงูมาลาสเวกัสเหรอ?”
“ใช่แล้ว” จ่านป๋ายพยักหน้ายิ้ม “คุณรู้ว่าหูเยี่ยนตายแล้วใช่ไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจพลันพยักหน้าพูด “สวี่อี้หรานบอกฉันแล้ว”
“แสดงว่าหมอมองโกลก็รับสารมาไวเหมือนกันนี่ ตระกูลสวี่ทำธุรกิจตั้งหลายปี ทุกที่ทั่วโลกก็มีธุรกิจของพวกเขาทั้งนั้น มันก็ไม่น่าแปลกหรอก” จ่านป๋ายพูด “งั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าหูเยี่ยนตายได้อย่างไร?”
“ได้ยินว่าตายเพราะกล้ามเนื้อหัวใจตาย” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลาง อีกด้านก็เหยียบเท้าเขาข้างเดียวเบาๆ จงใจก่นด่า “คุณจะเอาใจใส่ขนาดนี้ไปเพื่ออะไร? หรือเห็นเธอสวยเข้าหน่อยเลยเสียดายงั้นเหรอ? ตอนที่เธอลอบฆ่าฉัน คุณไปอยู่ที่ไหน คุณอย่าลืมนะว่าคุณเป็นบอดี้การ์ดของฉัน ฮึ”
“ใช่” จ่านป๋ายยิ้มๆ “ถวายบังคมองค์หญิงของกระหม่อม กระหม่อมรู้ตัวว่ากระทำตัวบกพร่องต่อหน้าที่นี่ก็พยายามชดเชยอยู่ไม่ใช่เหรอขอรับ?”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วปล่อยหัวเราะคิกคักถามไปว่า “คุณจะชดเชยยังไง?”
“เสด็จพ่อของคุณท่านนั้นมีปัญหานิดหน่อย” จ่านป๋ายถอนหายใจอย่างหมดปัญญา
ซีเหมินจินเหลียนมึนงง ทันใดนั้นยิ้มออกมา “เขาทำอะไร?”
“การตายของหูเยี่ยนเป็นฝีมือของลุงงู เห็นได้ชัดว่าคุณหูกับลุงงูท่านนั้นคืนดีกันเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งคู่ไม่รู้แอบวางแผนอะไรลับๆ แผนการนี้ชี้ชัดว่าพวกเขาพยายามปิดบังคุณอยู่” จ่านป๋ายพูดพลางก็รีบนำบทสนทนาจากสายโทรศัพท์ที่แอบฟังทั้งคู่รายงานแก่เธอ
“ที่แท้คุณก็แอบฟังพวกเขาคุยโทรศัพท์กันอยู่?” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจพูด “ฉันละสงสัย พ่อเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องขนาดนั้น ทำไมถึงได้ยอมรับเลี้ยงลูกสาวบุญธรรมที่ไหนก็ไม่รู้ รู้ทั้งรู้ว่าฉันต้องโกรธ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของของฉันแข็งแกร่งมาตลอด ฮึ โชคดีที่ลูกบุญธรรม ถ้าเป็นลูกที่เขาคลอดออกมาเอง ฉันรับรองว่าฉันจะไม่สนใจเขาอีกต่อไป”
จ่านป๋ายหัวเราะพรวด “เฒ่าหงส์คนนั้นไม่สนใจเสน่ห์สาวงามหรอก ฉะนั้นไม่ว่าน้องชายหรือน้องสาวก็ไม่มีทางผุดขึ้นมาได้ คุณวางใจได้เลย”
“แต่เขาอยากจะทำอะไรของเขานะ?” ซีเหมินจินเหลียนสองมือลูบคางเริ่มครุ่นคิด อยากหาเรื่องเจอ ซีเหมินน่งเยว่ ทำไมต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากขนาดนี้ด้วย? ซีเหมินน่งเยว่ไม่ใช่คนทึ่มไหมล่ะ?
“ฉันลองโทรไปหาลุงงูดู” ซีเหมินจินเหลียนตรึกตรองดูครู่หนึ่ง ถามหูชีเยี่ยนไม่น่าเชื่อถือเท่าถามลุงงู ลุงงูไม่พูดก็คือไม่พูด อย่างน้อยไม่มีทางแต่งเรื่องราวมาหลอกเธอ แต่หูชีเยี่ยนไม่ยอมปริปากพูด ไหนจะชอบแต่งเรื่องหาข้ออ้างมาหลอกเธอด้วยท่าทางจริงจังอีก
“คุณจะหาลุงงูทำไม?” จ่านป๋ายถาม
“สารพิษในตัวอวิ๋นเจียกำเริบ ทำให้คนก็ไม่ใช่คน ผีก็ไม่ใช่ผี ตอนแรกลุงงูก็เคยใช้ยาตัวนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันเลยอยากถามหนทางการรักษาจากเขาน่ะสิ?” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจเบาๆ “ช่วยชีวิตคนคนหนึ่งก็ถือว่าสร้างคุณงามความดี”
“คุณไม่มียาถอนพิษยาตัวนั้นเหรอ?” จ่านป๋ายถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่ใช่หมอมองโกลสักหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนโคลงศีรษะพูด “จะเอายาถอนพิษมาจากไหนล่ะ?”
“ยานั่นมาจากตระกูลหูของคุณไม่ใช่เหรอ?” จ่านป๋ายถามแปลกใจ
“ตระกูลพวกเราต้องใช้ยาแบบนั้นด้วยเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายศีรษะถามกลับ
จ่านป๋ายมึนงง คิดมาตลอดว่ายาเวทมนตร์ระดับนั้นต้องมาจากตระกูลหู ตอนนี้ดูแล้วคนละเรื่องเลย บางทียาตัวนี้อาจมาจากตระกูลอวิ๋น เพราะย่าของซีเหมินจินเหลียนก็เป็นคนตระกูลอวิ๋นอย่างชอบธรรม เธอรู้สูตรการปรุงยา ไม่มีอะไรน่าแปลกก็เหมือนที่อวิ๋นอวิ้นรู้เรื่องปรุงยาเหมือนกัน
ซีเหมินจินเหลียนต่อสายหาลุงงู โทรศัพท์ดังอยู่นานถึงมีคนรับสาย “จินเหลียน ดึกขนาดนี้โทรหาลุงมีธุระอะไรเหรอ?”
“ลุงงูคะ ลุงอยู่ที่ไหนคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม ถามประโยคนี้จบเธอก็นิ่งงัน จ่านป๋ายพูดไม่ผิด ลุงงูอยู่ลาสเวกัสจริงๆ ถึงไม่อยู่เขาก็น่าจะอยู่ประเทศทางตะวันตก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางพูดประโยคที่ว่าดึกขนาดนี้ เวลาของจีนตอนนี้น่าจะช่วงกลางวัน
“อยู่บ้านหลังถัดไปจากหนู” ลุงงูถอนหายใจ “ลุงมาลาสเวกัสและอยู่กับพ่อหนูด้วยกัน จะเรียกเขาให้มารับสายไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูมีเรื่องอยากจะให้ลุงช่วยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนรีบพูด
“จินเหลียน ลูกยังโกรธพ่ออยู่เหรอ?” ในสายมีเสียงของหูชีเยี่ยนแว่วเข้ามา เห็นได้ชัดว่าลุงงูเปิดสปีกเกอร์โฟนอยู่
“พ่อคะ หนูไม่ได้โกรธค่ะ หนูมีธุระต้องคุยกับลุงงู ความจริงคุยกับพ่อก็ได้ แต่หนูกลัวว่าพ่อจะแต่งเรื่องหลอกหนูอีก” ซีเหมินจินเหลียนพูดจากระเง้ากระงอด
“หา…” หูชีเยี่ยนตกใจ “ทำไมพ่อถึงได้เป็นคนแต่งเรื่องหลอกลูกแล้วล่ะ?”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มรีบพูด “ลุงงู คือว่าอย่างนี้ค่ะ ลุงงูเคยใช้ยางูพวกนั้นใช่ไหมคะ? หนูเลยอยากจะถามลุงว่าลุงพอมียาถอนพิษพวกนั้นอีกไหม?”
“ไม่มี ไม่มีอยู่แล้ว” ลุงงูยังไม่ทันได้พูดจา หูชีเยี่ยนก็แย่งพูดขึ้นมาก่อน
“พ่อ…” ซีเหมินจินเหลียนลากเสียงท้ายให้ยาว
“จินเหลียน พ่อพูดจริงๆ ยางูตัวนั้นไม่มียาถอนพิษ” หูชีเยี่ยนน่าจะแย่งโทรศัพท์ไปได้สำเร็จ “นี่ก็ดึกแล้ว รีบไปอาบน้ำเข้านอนเถอะ อย่ามัวแต่คิดเรื่องฟุ้งซ่านเลย ใช่สิ วันนี้พ่อชนะไปตั้งห้าสิบล้าน พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวลูกเอง” พูดจบก็ไม่รีรอให้ซีเหมินจินเหลียนพูดต่อชิงตัดสายไป
ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจใส่โทรศัพท์ “ชนะห้าสิบล้านดอลลาร์ แค่เลี้ยงหนูกินข้าวเหรอคะ?” เธอรู้เจรจาเรื่องพวกนี้กับหูชีเยี่ยน ไม่ได้หมายถึงเจรจาเลยสักนิด เรื่องที่เขาไม่ยอมพูด ใครก็อย่าคิดที่จะให้ดอกพิกุลร่วงหลุดออกจากปากเขาเลย ยิ่งตอนที่ลุงงูกับเขาอยู่ด้วยกันอีก
จ่านป๋ายมองเธอเอาแต่ถอนหายใจ ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิดดูแล้วจนปัญญา พยายามหาทางไปถามลุงงูเป็นการส่วนตัว บางทีอาจจะได้เค้ามูลอะไรมาบ้าง ฝากความหวังไว้กับหูชีเยี่ยนไม่ได้แล้ว
“จินเหลียน” จ่านป๋ายพูดเสียงต่ำ “ผมรู้สึกว่าคุณหูกำลังมีแผนใหญ่บางอย่าง ผมคิดไม่ออกจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องทางธุรกิจ ทำไมเขาต้องปิดบังคุณด้วย?”
ซีเหมินจินเหลียนนิ่งอยู่นานถึงพูด “หินซ่อมฟ้า”
พูดไปเธอก็ส่ายศีรษะ ลุกขึ้นเดินขึ้นไปด้านบน เพิ่งเดินถึงข้างบนได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงบรรเลงเพลงขลุ่ยดังขึ้นอีกครั้ง
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นเบอร์โทรศัพท์มีชื่อฉินเฮ่า รีบกดปุ่มรับสาย ในโทรศัพท์มีเสียงลุกลี้ลุกลนของฉินเฮ่าพูดขึ้น “จินเหลียน…”
“พี่ฉินคะ พี่เป็นอะไรไปคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามแปลกใจ ฉินเฮ่าไม่ใช่คนผลีผลาม
“เจียเจียกระโดดตึกฆ่าตัวตายแล้ว” ฉินเฮ่ารีบพูด
“อะไรนะ?” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกเหมือนหัวหมุนไปหมด อวิ๋นเจียกระโดดตึกฆ่าตัวตาย? ในหูฟังมีเสียงอื้อฉาวดังกันให้ลั่น ราวกับทางนั้นมีคนอยู่มากมาย
ซีเหมินจินเหลียนสงบจิตสงบใจให้นิ่งลงไม่ง่ายเลย ถามกลับไปว่า “พี่ฉินคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คะ? หรือยาของสวี่อี้หรานไม่ได้ผลเลย?”
ฉินเฮ่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถึงพูดไป “จินเหลียน ยาของคุณสวี่เห็นผล หลังจากที่พวกคุณไปได้ไม่นาน เกล็ดงูบนใบหน้าของอวิ๋นเจียก็เริ่มจางหายไป เธอก็ไม่อยากเจ็บปวดแบบนั้น บอกว่าอยากไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยปล่อยเธอไปและพูดกับเธอว่าพรุ่งนี้พวกเรากลับประเทศกัน ไปให้หมอที่ดีที่สุดช่วยดูอาการให้ เธอก็ตอบตกลงเป็นมั่นเป็นเหมาะ…แต่ผมคิดไม่ถึงว่าเธอจะอาศัยจังหวะที่ผมเข้าห้องน้ำ เปิดหน้าต่างและกระโดดออกไป…”
ซีเหมินจินเหลียนกุมโทรศัพท์ไว้ อวิ๋นเจีย…ที่ชอบร้องไห้ ผู้หญิงที่ใสสะอาดเหมือนน้ำ ทำไมถึงต้องมาตายแบบนี้? กระโดดตึก ถ้าเธอจำไม่ผิดหวังเซียงฉินก็ดูเหมือนตายเพราะกระโดดตึก
“เกิดเรื่องขึ้นทางผมนิดหน่อย…” ฉินเฮ่าส่งเสียงดังเข้ามา “ผมเลยอยากเชิญคุณจ่านมู่หรงมาช่วย”
“พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้” ซีเหมินจินเหลียนรีบพูด
“เกิดอะไรขึ้น?” จ่านป๋ายประคองเธอทางด้านหลังพร้อมถาม
“อวิ๋นเจียตายแล้ว ฉินเฮ่ามีปัญหานิดหน่อย อยากเชิญคุณเข้าไปช่วย” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“งั้นผมไปก็พอแล้ว คุณไม่ต้องไปหรอก ดึกขนาดนี้ สถานที่ที่เพิ่งมีคนตายมันแปดเปื้อนไปหมด” จ่านป๋ายพยายามหาข้ออ้างเส็งเคร็ง พูดจบก็ไม่รอให้ซีเหมินจินเหลียนตอบรับรีบหมุนตัวเดินออกไปนอกประตู
ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ตัวเองไม่รู้ภาษาอังกฤษ ขืนไปไม่เพียงแต่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ คงได้ไปเป็นภาระเสียเปล่า สู้ให้จ่านป๋ายเข้าไปจัดการดีกว่า
“อีกเดี๋ยวคุณโทรหาฉันนะ” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ
“โอเค” จ่านป๋ายพยักหน้า
ซีเหมินจินเหลียนรอให้จ่านป๋ายออกไปก่อนถึงขึ้นไปด้านบนนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง คืนเดียวมีผู้หญิงสองคนต้องมาตาย หูเยี่ยนช่างมันเถอะ เพราะเธอไม่ใช่คนคุ้นเคยอะไร แต่อวิ๋นเจีย…กระโดดตึกฆ่าตัวตายนี่นะ?
ใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ มีเกล็ดขึ้นมาแบบนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอเกรงว่าคงรับไม่ไหวเหมือนกัน
ลุงงูรักษาตัวยังไงให้หาย? เพราะตอนนี้ลุงงูเหมือนคนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใบหน้าเรียบเนียนเหมือนไม่เคยเป็นโรคมาก่อน อีกอย่างยังสามารถเดินองอาจใต้แสงของดวงอาทิตย์ได้ สัญญาณทั้งหมดมันชี้ชัดว่าเขาหายดีแล้ว
จู่ๆ ในใจซีเหมินจินเหลียนพลันสว่างวับ เธอพอคาดเดาอะไรได้แล้ว ทำไมลุงงูถึงหายดี…คาลซิโดนีโบราณไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพช่วยเสริมความงาม แต่ยังช่วยถอนพิษได้ด้วย
คิดถึงเท่านี้ ซีเหมินจินเหลียนก็ถอนหายใจเขย่าเท้าไม่หยุด ทำไมตนถึงโง่เช่นนี้ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วบอกอวิ๋นเจีย บางทีเธอคงไม่คิดตื้นๆ แบบนี้ แต่อวิ๋นเจียเป็นโรคจิตเล็กน้อย ใครจะไปรู้ว่าเธอรับแรงจู่โจมแบบนี้ได้ไม่ได้ล่ะ?
ล้างหน้าหวีผมเสร็จเรียบร้อย นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ในห้องมีแสงไฟสว่างเปิดอยู่…คิดถึงคำพูดของจ่านป๋ายและสวี่อี้หราน หูชีเยี่ยนคิดจะทำอะไรกันแน่? เขามีเรื่องอะไรปิดบังเธออยู่?
เรื่องที่ปิดบังเธอ คิดแล้วมีแค่เรื่องเดียวนั่นก็คือหินซ่อมฟ้าในตำนาน แต่หูชีเยี่ยนเป็นคนคัดค้านการตามหาหินซ่อมฟ้าอย่างสุดกำลัง โดยเฉพาะเธอ
ในขณะนั้นใจของซีเหมินจินเหลียนรู้สึกรวนเรไปหมด
กอดหมอนอิงพิงอยู่บนเตียงแล้วงีบหลับไป จนถูกเสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่น กดปุ่มรับสาย…
“จินเหลียน ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว คดีนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเป็นคดีใหญ่เกี่ยวกับชีวิตคน ตำรวจเลยต้องซักถาม” จ่านป๋ายพูดอธิบายในสาย “อีกไม่นานผมก็กลับแล้ว คุณนอนหรือยัง?”
“นอนตั้งนานแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกหนาวเล็กน้อย ดึงผ้าห่มมาห่มตัวพร้อมถาม “อวิ๋นเจียหมดหนทาง…ช่วยแล้วเหรอ?”
“กะโหลกศีรษะแหลกอยู่ที่พื้น ใบหน้าไม่เหลือชิ้นดี ตายในที่เกิดเหตุ จะช่วยได้ที่ไหนกันล่ะ?” จ่านป๋ายถอนหายใจพูด “เด็กสาวแสนสวยที่น่าสงสาร”