คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 1799 จานอาคมหมื่นพฤกษาและสำเภาค้ำฟ้า
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 1799 จานอาคมหมื่นพฤกษาและสำเภาค้ำฟ้า
ในเมื่อเป็นงานประมูลของทั้งสองเผ่ายามนี้ สมบัติที่อยู่รั้งท้ายรายการหลังจากนี้จึงเป็นของหายาก ทุกชิ้นล้วนเป็นวัตถุดิบที่ผู้บำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปใฝ่ฝันถึง
ทว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่สิ่งที่หานลี่ต้องการ
หลังจากประมูลสินค้าที่อยู่รั้งท้ายรายการเสร็จ เทียนเหยียนจื่อก็เรียกสาวใช้อีกกลุ่มขึ้นมา เริ่มประมูลวัตถุดิบสมุนไพรรวมทั้งยาลูกกลอนชนิดต่างๆ ที่หายากในงานประมูลธรรมดาๆ
ของเหล่านี้ย่อมเข้าตาหานลี่ได้ยาก
จนถึงยามที่สมุนไพรที่ปลุกได้แค่ในเผ่าวิญญาณปรากฏตัว หานลี่ก็ใจเต้นทันที
แต่ว่ากันว่าสมุนไพรเหล่านี้ต้องใช้พลังปราณแท้ที่บริสุทธิ์ของเผ่าวิญญาณบ่มเพาะถึงจะเติบโตเต็มวัยได้ จึงล้มเลิกความคิดนี้
สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ย่อมมีประสิทธิภาพที่น่าตกตะลึง ใกล้เคียงกับยาลูกกลอนศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน แต่แปดเก้าส่วนล้วนไม่ใช่สิ่งที่ของเหลวสีเขียวในขวดลึกลับจะกระตุ้นการเจริญเติบโตได้
สำหรับเขาแล้วยาลูกกลอนพวกนี้ย่อมไม่อาจกระตุ้นการเจริญเติบโตได้ ต่อให้ล้ำค่าแค่ไหนก็ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก
หลังจากที่การประมูลสมุนไพรเหล่านี้จบลง ก็มีเคล็ดวิชาคาถา อาวุธสมบัติอาคมจำนวนมากถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
ของเหล่านี้เหมาะกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพแปลงและระดับหลอมสุญตา ดังนั้นเมื่อเอาออกมาก็ทำให้ทั้งงานประมูลเกิดความครึกครื้นไม่ธรรมดา
แทบจะทุกชิ้นล้วนถูกสิ่งมีชีวิตทั้งสองเผ่าแย่งชิงกัน
ระหว่างนั้นก็มีสมบัติที่อยู่รั้งท้ายรายการอีกสองสามชิ้นเข้ามาแทรกในงานประมูล
หนึ่งในนั้นมี ‘ยาลูกกลอนอาทิตย์’ ที่สามารถพัฒนาพลังปราณของผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์อยู่ด้วยสิบกว่าขวด รวมทั้งคัมภีร์เคล็ดวิชาของผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์นิรนามที่เพลี่ยงพล้ำไปเมื่อสองสามหมื่นปีก่อน ยังมีสิ่งที่เรียกว่าสมบัติอาคมระดับสมบัติวิญญาณอีกสองชิ้น
ของเหล่านี้ย่อมทำให้ทั้งงานประมูลตกอยู่ในช่วงที่คึกคักที่สุด
แต่จนถึงยามนี้สิ่งมีชีวิตระดับผสานอินทรีย์ที่อยู่บนชั้นสามเหล่านั้นก็ยังคงไม่มีผู้ใดลงมือแย่งชิงอันใด บางครั้งก็เมื่อมีคนหนึ่งลงมือ คนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยเข้าไปแย่งชิง ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ล้วนเก็บสะสมเงินเอาไว้เพื่อรออันใดบางอย่าง
เมื่อหุ่นเชิดสงครามขนาดยักษ์ความสูงสิบจั้งสิบกว่าตัวถูกคนลึกลับนิรนามคนหนึ่งประมูลไปรวดเดียวด้วยราคาสิบล้านศิลาวิญญาณ ในที่สุดทั้งงานประมูลก็มาถึงช่วงสุดท้าย
ยามนี้เทียนเหยียนจื่อกลับคารวะทุกคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“สินค้าต่อจากนี้เป็นสองชิ้นสุดท้ายของงานประมูลแล้ว และเป็นสมบัติสองชิ้นที่ล้ำค่าที่สุด ตาเฒ่ามีพลังจำกัด จึงไม่อาจควบคุมงานประมูลสมบัติชิ้นนี้ได้ ดังนั้นสินค้าสองชิ้นสุดท้ายจะให้ท่านอาวุโสราชามังกรวารีหลีหั่วและเจ้าของเดิมของพวกมันแขกลึกลับจากชนนอกเผ่ามาอธิบายและทำการประมูลมันด้วยตัวเอง”
เอ่ยจบชายชราชุดขาวก็คารวะรอบด้าน แล้วเดินลงมาอย่างไม่สนใจปฏิกิริยาของทุกคน
แม้ว่าผู้ที่อยู่ในตำหนักจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินว่าในงานประมูลครั้งนี้จะมีชนต่างเผ่าปรากฏตัว ทว่ายามนี้ได้ยินดังนั้นแล้วก็อดที่จะเกิดเสียงอื้ออึงไม่ได้
ถึงอย่างไรเสียความสัมพันธ์ของทั้งสองเผ่ากับเผ่าข้างเคียงก็ไม่นับว่าสามัคคีได้ แม้กระทั่งสองสามร้อยปี ยังเพิ่งจะทำสงครามสุดท้ายกับเผ่าสามง่ามราตรีและเผ่าอื่นๆ อยู่เลย
ทว่าเมื่อราชามังกรวารีหลีหั่วที่สวมชุดคลุมยาวสีแดงพาหญิงสาวสวมชุดคลุมสีเหลืองเดินขึ้นมาบนแท่น ทุกคนก็หยุดซุบซิบนินทา
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น สายตาของทุกคนตกอยู่บนเงาร่างอรชรอ้อนแอ้นที่ยืนเคียงไหล่อยู่กับราชามังกรวารีหลีหั่วผู้นั้น
เห็นเพียงหญิงสาวสวมชุดสีเหลือง มีใบหน้ากลมมน ผิวเนียนละเอียด ดูเหมือนมีอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดปี ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มหวานหยดย้อย ทำให้ผู้คนที่พบเห็นอดที่จะรู้สึกดีไม่ได้
สิ่งที่เรียกว่า ‘ชนต่างเผ่า’ คาดไม่ถึงว่าจะมีรูปร่างเช่นนี้ คนจำนวนไม่น้อยเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
มีเพียงผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาลับ ถึงจะกวาดจิตสัมผัสผ่านร่างของหญิงสาวผู้นั้น แล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แตกต่างจากเผ่ามนุษย์ของอีกฝ่ายพบจางๆ
หานลี่กลับไม่ได้แผ่จิตสัมผัสออกไป แค่ลืมตาที่เดิมหลับตาทำสมาธิอยู่ รูม่านตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ พบจุดที่ผิดปกติบนเรือนร่างของหญิงสาวสวมชุดสีเหลือง หลังจากที่ใบหน้าฉายแววประหลาดใจก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติทันที
ยามนี้หญิงสาวชุดเหลืองที่ยืนอยู่ข้างกายราชามังกรวารีหลีหั่วพลันเอ่ยปาก
“ข้าคงไม่ต้องแนะนำตัวเองแล้ว ส่วนสตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวเผ่าอาวุธวิญญาณที่อยู่ข้างกาย น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยเคยได้ยินชื่อเสียงของนาง สมบัติสองชิ้นสุดท้ายในงานประมูลครั้งนี้เป็นสิ่งที่สหายเชียนชิวพกมาด้วยจากเผ่าอาวุธวิญญาณ”
เสียงของราชามังกรวารีหลีหั่วแหบพร่าเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยอำนาจ
หญิงสาวสวมชุดสีเหลืองพลางคารวะแล้วเอ่ยด้วยเสียงรื่นหู
“ข้าเชียนชิว ยามนี้รับตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าอาวุธวิญญาณ คารวะสหายทุกท่าน”
แม้ว่านางจะมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่ท่าทางกลับไม่เหมือนกับอยู่ในเขตของชนต่างเผ่าเลยสักนิด
“สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิว! เผ่าอาวุธวิญญาณ! นั่นไม่ใช่เผ่าอาวุธวิญญาณหนึ่งในสี่เผ่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หรือ เป็นสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับระดับผสานอินทรีย์งั้นหรือ!”
“มีชนต่างเผ่าปรากฏตัวในงานประมูลจริงด้วย คาดไม่ถึงว่าข่าวลือจะเป็นความจริง!”
……
ชั่วพริบตาที่ราชามังกรวารีหลีหั่วและหญิงสาวสวมชุดสีเหลืองเอ่ยจบ ทั้งตำหนักก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวของเผ่าอาวุธวิญญาณก็มีสีหน้าครุ่นคิด ไม่ได้เผยสีหน้าแปลกประหลาดใจอันใดออกมา เป็นราชามังกรวารีหลีหั่วที่ขมวดคิ้วร้องตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เงียบหน่อย สหายเชียนชิวมาปรากฏตัวที่นี่ เป็นเพราะได้รับอนุญาตจากสามจักรพรรดิและเจ็ดราชาปีศาจอย่างพวกเรา ส่วนเหตุผลจะอธิบายกับทุกท่านเมื่องานประมูลจบลง และสมบัติล้ำค่าที่สหายเชียนชิวผู้นี้นำออกมาประมูลในงานก็เป็นเครื่องหมายแสดงว่ามีเจตนาดีและจริงใจต่อพวกเราทั้งสอง ศิลาวิญญาณที่ประมูลไปจะถูกส่งมอบให้กับทั้งสองเผ่าของพวกเรา”
เมื่อได้ฟังคำพูดของราชามังกรวารีหลีหั่ว ทั้งสองเผ่าที่อยู่ใต้แท่นก็เงียบลง คนจำนวนไม่น้อยใช้สายตาขบคิดความหมายจากคำพูดของราชามังกรวารีผู้นี้!
ยามนี้หญิงสาวสวมชุดสีเหลืองกลับหัวเราะน้อยๆ ออกมา ฝ่ามือหยกพลิกฝ่ามือจานทรงกลมสีทองสลับเงินและคัมภีร์สีขาวปรากฏขึ้นในมือ
จากนั้นหญิงสาวพลันเอ่ยขึ้น
“สมบัติชิ้นแรกเรียกว่าจานหมื่นพฤกษาเป็นสมบัติสะท้านฟ้าที่มีชื่อเสียงในรายการสมบัติวิญญาณหุ้นตุ้น เดิมเป็นหนึ่งในสมบัติประจำเผ่าของเผ่าอาวุธวิญญาณของพวกเรา ครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของเผ่าอาวุธวิญญาณจึงได้นำออกมาประมูล และจานนี้ก็เลื่องชื่อว่าสามารถสร้างภาพลวงตาทุกสรรพสิ่ง หากมีจานอยู่ในมือก็สามารถสำแดงเคล็ดวิชาลวงตาที่ไม่เหมือนกันถึงแปดสิบเอ็ดชนิดได้ และหากมีพลังปราณเพียงพอ ก็สามารถแสดงเคล็ดวิชาลวงตาทั้งแปดสิบเอ็ดชนิดซ้อนพร้อมกันได้ แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ติดอยู่ในนี้ก็ยังหนีออกไปได้ยาก แต่แค่จานนี้เป็นการโจมตีที่โง่เขลา กว่าครึ่งล้วนทำให้พลังปราณในร่างของสิ่งมีชีวิตระดับผสานอินทรีย์ธรรมดาๆ หมดเกลี้ยง อีกเดี๋ยวสหายที่ประมูลสมบัติชิ้นนี้ไป ต้องระวังหน่อย”
“ส่วนสมบัติชิ้นที่สองเป็นแผนผังโครงสร้างสำเภารบค้ำฟ้าโบราณที่เผ่าอาวุธวิญญาณของพวกเราซื้อมาจากเผ่าอื่นด้วยราคาที่สูงลิบ สำเภานี้บรรทุกคนได้มากกว่าพันคน และวางเขตอาคมที่ร้ายกาจเอาไว้ ไม่ว่าการโจมตีหรือการป้องกันตัวก็ไร้ที่ติ ระดับความเร็วหาที่เปรียบ เป็นสมบัติระดับสุดยอดที่ใช้รักษาชีวิตในยามพิเศษ” ยามที่สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวผู้นี้เอ่ยประโยคสุดท้ายก็ฉีกยิ้มเบิกบาน คาดไม่ถึงว่าจะเจตนาชี้ช่องอันใดอยู่รางๆ
จากนั้นนิ้วของหญิงสาวที่กุมจานทรงกลมอยู่ก็เปล่งแสงสว่างวาบ บรรจุพลังปราณส่วนหนึ่งเข้าไป แล้วโบกสะบัดแขนเล็กน้อย
ชั่วขณะนั้นหมอกลำแสงสีชมพูก็หมุนวนออกมาจากจานทรงกลมสีทองเงิน พลางกระโจนไปหาทั้งสองเผ่าที่อยู่ด้านล่างแท่น
ทั้งสองเผ่าพลันตกตะลึง คนจำนวนไม่น้อยมีลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นที่ผิวกาย เครื่องป้องกันปรากฏขึ้นเป็นชั้นๆ
แต่ครู่ต่อมาพวกเขาก็รู้สึกว่ากลิ่นหอมโชยมาปะทะจมูก จากนั้นก็พบว่าตำหนักที่เดิมเปล่งแสงเรืองรองก็ถูกหมอกลำแสงสีชมพูม้วนวนเอาไว้ คาดไม่ถึงว่ารอบด้านจะทยอยกันมีบุปผาหลากสีสันปรากฏขึ้น
ทุกดอกล้วนมีขนาดเท่ากำปั้น แต่กลิ่นหอมหาที่เปรียบแผ่กระจายไปทั่วทั้งตำหนัก
แต่ผู้ที่มีพลังปราณยอดเยี่ยมก็พบว่าทุกอย่างเป็นแค่ภาพลวงตาทันที ปากก็ร้องอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
“เพราะข้าไม่ได้สำแดงจานหมื่นพฤกษาออกมา ดังนั้นยามนี้จึงกระตุ้นอานุภาพของเคล็ดวิชาลวงตาได้แค่หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นเคล็ดวิชาลวงตาเมื่อครู่ก็เป็นแค่หนึ่งในแปดสิบเอ็ดชนิดที่ไม่สะดุดตาที่สุด” หญิงสาวสวมชุดสีเหลืองเอ่ยสิ่งที่ทำให้ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์บนชั้นสามใจเต้นออกมา
“ส่วนแผนภาพโครงสร้างสำเภาสงครามค้ำฟ้า ภาพวาดสำเภายักษ์ที่อยู่ด้านใน น่าจะเคยเป็นสำเภาสงครามระดับสุดยอดของเผ่าเถี่ยเลยที่เคยครอบครองยุทธภพเมื่อหลายร้อยพันปีก่อน แม้ว่าการหลอมสำเภายักษ์ระดับนี้จะต้องเสียเงินมูลค่ามหาศาล แต่หากหลอมสำเร็จ นอกจากข้อดีที่กล่าวไปก่อนหน้า สำเภาลำนี้ก็เพิ่มพลังการรบของคนพันกว่าคนเป็นสองสามเท่าได้ พาลูกศิษย์ในสำนักเข้าสู้หรือล่าถอยในภัยพิบัติบางอย่างได้อย่างอิสระ น่าเสียดายสิ่งนี้ต้องเสียทรัพยากรล้ำค่าเยอะมาก ผลิตจำนวนมากไม่ได้ มิเช่นนั้นหากมีแผนภาพนี้ก็เพิ่มพลังของเผ่าก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้แล้ว” ครั้งนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวของเผ่าอาวุธวิญญาณหัวเราะคิกคักพลางเอ่ยคำพูดอย่างตรงไปตรงมาออกมา
“สหายเชียนชิวแนะนำประวัติความเป็นมาของทั้งสองสิ่งนี้เสร็จแล้ว อานุภาพของจานหมื่นพฤกษาก็สำแดงออกมาให้เห็นแล้ว ส่วนแผนภาพสำเภาสงครามค้ำฟ้าข้าได้หาคนมายืนยันแล้วว่าเป็นของจริง ข้าน้อยรู้ว่าสหายจำนวนมากที่อยู่ที่นี่กว่าครึ่งล้วนมาเพื่อแผนภาพสำเภาสงครามค้ำฟ้า ทว่าข้ายังต้องแนะนำสักหน่อย สำเภาสงครามนี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่ แต่ทรัพยากรที่ต้องเสียในยามสร้างก็มากมายเกินจินตนาการจริงๆ สหายที่กระเป๋าไม่หนัก อย่าสนใจแผนภาพนี้จะดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ทำให้มันเป็นเพียงแค่กระดาษ แต่กลับไม่อาจสร้างสำเภารบได้ เอาละ จากนี้เริ่มประมูลจานหมื่นพฤกษา ราคาเปิดประมูลแปดสิบล้าน!” ราชามังกรวารีหลีหั่วเอ่ยอย่างราบเรียบอยู่ด้านข้าง แล้วประกาศราตาต่ำสุดของจานหมื่นพฤกษาออกมา เริ่มทำการประมูลสมบัติชิ้นนี้!
จัดอยู่ในอันดับสมบัติวิญญาณหุ้นตุ้นได้ ทั้งแดนวิญญาณก็มีอยู่แค่เล็กน้อย ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญเพียรที่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเท่าไหร่ ถึงจะพัฒนาระดับขึ้นไปสู่ระดับเทพแปลงและหลอมสุญตา แต่ก็ยังไม่เคยพบกับสมบัติสะท้านฟ้าของจริง ตกลงมันมีหน้าตาอย่างไรกันแน่
แต่ราคาเปิดประมูลแปดสิบล้านก็ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ชั้นหนึ่งและสองยกเลิกความคิดที่จะเสนอราคา ในใจรู้ว่าสมบัติระดับนี้ย่อมตกเป็นของตัวประหลาดเฒ่าระดับผสานอินทรีย์ที่ชั้นสาม ดังนั้นจึงไม่เสียแรงอันใดอีก
ส่วนภายในห้องต่างๆ ของชั้นสามก็เงียบสงัดไป ไม่มีผู้ใดเสนอราคาออกมา