คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 1851 ความเปลี่ยนแปลงของการทะลวงอากาศ
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 1851 ความเปลี่ยนแปลงของการทะลวงอากาศ
หานลี่พลันตกตะลึงไปเล็กน้อย ในที่สุดแววตาก็เปล่งประกายมองเห็นสถานการณ์ในหลุมด้านล่างอย่างชัดเจน
เห็นเพียงกรงเล็บนกยูงห้าสีชี้ฟ้าขณะนอนอยู่ในหลุม แม้ว่าปีกบนร่างจะยุ่งเหยิง ดูเหมือนถูกสับทิ้งไปไม่น้อย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
และยิ่งไปกว่านั้นครู่ต่อมาปากของนกยูงก็พ่นคำบริกรรมคาถาลึกลับภาษามนุษย์ออกมา
รัศมีห้าสีที่เดิมพันรัดร่างของมันส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา คาดไม่ถึงว่าจะทยอยกันรวมตัวกันกลางอากาศ
เขตอาคมลำแสงขนาดเล็กนับร้อยเขตหมุนคว้าง คาดไม่ถึงว่าจะรวมตัวกันกลายเป็นเขตอาคมลำแสงห้าสีเส้นผ่าศูนย์กลางสองสามร้อยจั้ง
เสียงภาษาสันสกฤตดังออกมาจากเขตอาคมลำแสง และแผ่ลำแสงห้าสีที่น่าตกตะลึงออกมา
หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น แววตาพลันฉายแววเย็นเยียบ ฝ่ามือยักษ์ของวานรยักษ์ประกบกันตรงหน้า
ลำแสงสีทองเจิดจ้าเปล่งแสงวาวโรจน์ พริบตานั้นกระบี่ยักษ์สีทองสองเล่มกลายเป็นหนึ่งเดียว
กระบี่ยักษ์ที่กลายเป็นหนึ่งเดียวมีความยาวประมาณสามสิบสี่สิบจั้ง เปล่งแสงสีทองระยิบระยับออกมา ตัวกระบี่มีมังกรวารีสีเขียวตัวหนึ่งเลื้อยโคจรไปมาอยู่ด้านใน ราวกับว่าสามารถพุ่งกระโจนออกมาได้
เสียงดัง “สวบ” อันเย็นชาดังออกมาจากปากของวานรยักษ์!
กระบี่ยักษ์พลิ้วไหวแล้วสับลงมา
พริบตานั้นกระบี่ลำแสงสีเขียวพลันสับลงมา เปล่งแสงสว่างวาบ แล้วมีขนาดร้อยจั้งเศษ สับลงบนรัศมีลำแสงยักษ์อย่างแรงท่ามกลางเสียงพายุอัสนี
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น!
หลังจากที่ลำแสงสีเขียวสว่างวาบในเขตอาคมลำแสงยักษ์ ก็ถูกฉีกออกราวกับกระดาษ แต่หลังจากหมุนวน หมอกห้าสีก็เปล่งแสงสว่างวาบแล้วฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิมทันที
การสับลงมาเมื่อครู่ราวกับไม่มีผลต่อเขตอาคมลำแสงนี้เลยสักนิด
แววตาของวานรยักษ์ฉายแววประหลาดใจออกมา แต่พลันหัวเราะอย่างเย็นชา กระบี่ยักษ์ในมือสั่นเทา สับลงมาอีกครั้งอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
จากประสบการณ์ของหานลี่ย่อมรู้ว่า เขตอาคมลำแสงนี้ไม่มีทางไม่ได้รับความเสียหายได้ ขอแค่สับลงมากหน่อยก็ต้องมีผล
แต่ลำแสงสีเขียวที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมระลอกที่สอง พออยู่ห่างจากกระบี่ยักษ์ เสียงสวดมนต์จากปากของนกยูงห้าสีก็หยุดลง จากนั้นกรงเล็บข้างหนึ่งก็ชี้ไปยังจุดหนึ่งกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดก็ดังมาจากอีกแห่ง
หานลี่ใจหายวาบ เลื่อนสายตาไป อดที่จะกวาดมองไปทางเสียงร้องคำรามไม่ได้
เห็นเพียงอสูรอัสนีที่กำลังต่อสู้พัวพันกับร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ในยามนี้เต็มไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เสียงอัสนีบนผิวมันดังขึ้น ประจุไฟฟ้าสามสีทะลักออกมา ร่างทั้งร่างถูกตาข่ายอัสนีห่อหุ้มเอาไว้ ร่างกายพลิ้วไหวอีกครั้ง แล้วสลัดร่างทองที่พัวพันอยู่ทิ้ง กลายเป็นลำแสงอัสนีสามสีพุ่งไปยังเขตอาคมลำแสงยักษ์
แม้ว่าหานลี่จะไม่รู้ว่าอสูรตนนี้กระทำเช่นนี้เพราะเหตุใด แต่ก็ร้องคำรามมาตามความรู้สึก กำปั้นที่มีขนปุกปุยข้างหนึ่งโจมตีไปยังลำแสงอัสนี
ในเวลาเดียวกันทารกวิญญาณที่ควบคุมร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ก็ส่งเสียงผิวปากยาวๆ กลายเป็นลำแสงสีทองเช่นกัน พลางไล่ตามไปราวกับสายฟ้า
เสียง “ปัง” ดังสนั่นขึ้น!
วานรยักษ์โจมตีไปกลางอากาศ แม้ว่าจะอยู่ห่างกันร้อยจั้ง แต่กำปั้นเงาสีทองขนาดเท่าหอคอยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าลำแสงอัสนี และเปล่งแสงสว่างวาบโจมตีไปยังร่างของอสูรอัสนี
เสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น แม้ว่าอสูรอัสนีจะมีประวัติเรื่องความแข็งแกร่ง แต่ภายใต้การโจมตีเต็มกำลังของวานรยักษ์ก็ไม่อาจรับได้ตรงๆ ตาข่ายอัสนีที่ห่อหุ้มร่างถูกกำปั้นเงาต่อยจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างสั่นเทาจนกระเด็นลอยไป
และพริบตาที่ล่าช้านั้น ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไล่ตามทัน ใบมีดสีทองหกเล่มที่อยู่ในมือหมุนวน คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นกระจกโบราณสีทองหกบาน พลิ้วไหว เสาลำแสงสีทองหกสายพ่นออกมาไปทางอสูรอัสนีพร้อมกัน
ชั่วพริบตานั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้น อสูรอัสนีถูกเสาลำแสงโจมตีจนไม่อาจทำให้ร่างกายมั่นคงได้ มันซวนเซแล้วกระเด็นลอยไปอีกครั้ง และส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดออกมา ราวกับได้รับบาดเจ็บเล็กๆ
จากนั้นเจ้าของร้านอวี๋ที่กลายเป็นนกยูงยักษ์เห็นเช่นนั้น ก็อดที่จะร้อนใจไม่ได้ ปากก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมา ราวกับว่ากำลังพยายามกระตุ้นอสูรอัสนีอยู่
เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังออกมาจากปากของอสูรอัสนี แผ่นหลังมีลำแสงอัสนีเปล่งแสงสว่างวาบ จากนั้นฉากที่น่าตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
แผ่นหลังของอสูรอัสนีส่งเสียง “พรึ่บ” สามครั้ง คาดไม่ถึงว่าจะมีปีกสามคู่ สีทอง สีเงิน และสีฟ้าปรากฏขึ้น ปีกทั้งหกกระพือพร้อมกัน ชั่วขณะนั้นเสียงอัสนีฟ้าฟาดพลันดังขึ้น อสูรตัวนี้ที่มีประจุไฟฟ้าสามสีพันรัดร่างกายอยู่ พลันหายวับไปอย่างแปลกประหลาด
ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ปล่อยเสาลำแสงออกมาอย่างต่อเนื่องแล้วก็ทยอยกันร่อนลงไป ชั่วขณะนั้นพลันโจมตีไปกลางอากาศ
หานลี่มองเห็นสถานการณ์นี้รูม่านตาพลันหดเล็กลง กลอกตาไปมาตามความรู้สึกทันที เขตอาคมลำแสงยักษ์ที่ร่อนลงมาด้านล่าง และยิ่งไปกว่านั้นหว่างคิ้วพลันเปล่งแสงสีดำสว่างวาบ ดวงตาสีดำสนิทดวงหนึ่งพลันปรากฏขึ้นอย่างแปลกประหลาด
ดวงตาขยับเสาลำแสงสีดำสายหนึ่งพ่นออกมา แต่ทันใดนั้นก็เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายวับไป
เขตอาคมลำแสงขนาดยักษ์ส่งเสียงฟ้าร้องออกมา อสูรอัสนีหกปีกปรากฏกายขึ้นท่ามกลางเสียงฟ้าผ่า
ในเวลาเดียวกันเสาลำแสงสีดำหนาเท่าปากชามสายหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากกลางอากาศ ระยะใกล้แค่นี้ แม้ว่าอสูรอัสนีที่เปลี่ยนร่างแล้วจะมีอิทธิฤทธิ์การหนีที่น่าตกตะลึง แต่ก็ไม่อาจหลบหลีกได้
มองเห็นมันเปล่งแสงสว่างวาบ เสาลำแสงสีดำโจมตีไปยังอสูรอัสนีเต็มๆ
แต่พริบตานั้นเขตอาคมลำแสงขนาดยักษ์พลันส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา ลำแสงวิญญาณห้าสีเปล่งแสงเจิดจ้า เสาลำแสงสีดำหยุดชะงัก คาดไม่ถึงว่าจะหักเลี้ยว แฉลบผ่านข้างกายของอสูรอัสนีไป
ครู่ต่อมาอสูรอัสนีกลับกระพือปีกอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด กระโจนเข้าไปในเขตอาคมลำแสง
หานลี่อดที่จะตกตะลึงไม่ได้
ทุกอย่างดูเหมือนจะซับซ้อน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นแค่ชั่วลมหายใจเท่านั้น!
นกยูงห้าสีที่อยู่ในหลุมด้านล่างเห็นทุกอย่าง กลับส่งเสียงเพรียกด้วยความยินดี ลำแสงห้าสีที่ผิวพลันทะลักไปทางเขตอาคมลำแสงยักษ์ราวกับคลื่นน้ำ แม้กระทั่งปีกทั้งสองก็กระพือ ร่างเดิมกลายเป็นลำแสงดวงหนึ่งจมหายเข้าไปข้างใน
พริบตากลางอากาศด้านล่างนอกจากเขตอาคมลำแสงยักษ์แล้วก็ไม่มีสิ่งใดอีก!
เขตอาคมลำแสงยักษ์กลับเริ่มบิดเบี้ยว และส่งเสียงหึ่งๆ ออกมาเป็นระลอกๆ ลำแสงเจิดจ้าขึ้น เสาลำแสงห้าสีจำนวนยี่สิบถึงสามสิบสายพ่นออกมา
ทุกต้นล้วนมีขนาดยักษ์เท่าหนึ่งคนโอบ และพ่นออกมาพลางจมหายเข้าไปในหมอกสีขาวกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย
หานลี่กวาดตามองเล็กน้อยพบว่าเสาลำแสงยักษ์เหล่านี้มีมากกว่าแปดสิบเอ็ดต้น
เขายังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง เสาลำแสงแปดสิบเอ็ดต้นก็พ่นอักขระห้าสีจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา และหมุนวนสุดชีวิต
ชั่วขณะนั้นเสาลำแสงห้าสีขนาดยักษ์ก็พ่นออกมาจากใจกลางเขตอาคมลำแสง เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย
ครู่ต่อมาระลอกคลื่นรุนแรงก็ปรากฏขึ้น เสาลำแสงต้นนั้นสลายหายไป
จากนั้นรูสีเงินก็ปรากฏขึ้นด้านบนเขตอาคมลำแสง!
ตอนแรกมีขนาดแค่เท่ากำปั้น แต่พอกะพริบวาบ ก็มีขนาดสองสามจั้ง และไอวิญญาณที่บริสุทธิ์มากก็ทะลักออกมา
“เอ๋ นี่คือ…”
หานลี่สัมผัสได้ถึงไอวิญญาณบริสุทธิ์ คาดไม่ถึงว่าจะแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคย ความคิดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ถึงได้นึกขึ้นได้ความบริสุทธิ์ของไอวิญญาณนี้คล้ายกับในแดนกว้างเย็นมาก
เขามองรูที่ยังขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ในใจมีความรู้สึกว่าแย่แล้วทะลักออกมา มือหนึ่งโบกสะบัด กระบี่ยักษ์สีทองในมือโบกสะบัดไปมา
ชั่วขณะนั้นเสียงแหวกอากาศดัง “สวบๆ” พลันดังขึ้น!
กระบี่ลำแสงสีทองขนาดเท่าฝ่ามือจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักไปทางหลุมสีเงิน และพยายามหาวิธีทำลายหลุมนั้น
แต่สิ่งที่ทำให้หานลี่รู้สึกจิตใจหนักอึ้งก็ปรากฏขึ้น!
พอปล่อยให้ลำแสงสีทองตวัดผ่านรูสีเงินอย่างรุนแรง แต่แค่อากาศบิดเบี้ยวไม่มีผลเลยสักนิด
และยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่เสียงที่ดังสนั่นกลางหลุมรู ยังมีเสาลำแสงสีเงินสายหนึ่งพ่นออกมาจากรูนั้นอีกด้วย เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายเข้าไปในเขตอาคมขนาดยักษ์ด้านล่าง
เขตอาคมลำแสงที่เดิมส่งเสียงอึกทึกพลันมีลำแสงสว่างวาบ อักขระหลากสีสันทยอยกันปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันเขตอาคมลำแสงทั้งเขตก็ขยายออกไปรอบด้านอย่างบ้าคลั่ง
เสาลำแสงสีเงินหยุดชะงัก และยิ่งไปกว่านั้นรูสีเงินพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป เขตอาคมยักษ์ขยายใหญ่ขึ้นสิบเท่า ลำแสงห้าสีที่พ่นออกมาปกคลุมกว่าครึ่งท้องฟ้า ทำให้ผู้คนดูเหมือนตกอยู่ในดินแดนห้าสีที่วิจิตรงดงาม
ในเวลาเดียวกันกลางเขตอาคมลำแสงพลันมีเสียงกรีดร้องประหลาดๆ ดังขึ้น ทำให้ผู้คนได้ยินแล้วรู้สึกใจลอย คล้ายกับตกอยู่ในเขตมาร
หานลี่ได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสี
แต่เขาไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเสียงประหลาดนี้ แต่ชั่วพริบตาที่เสียงกรีดร้องดังขึ้น ความรู้สึกขนลุกซู่ก็ทะลักเข้ามาในจิตใจ คาดไม่ถึงว่าจะให้ความรู้สึกว่าอาจจะเพลี่ยงพล้ำจนถึงชีวิตได้
“แย่แล้ว!”
หานลี่ร้องอยู่ในใจ สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
ครุ่นคิดแผนการทันใด ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์สามเศียรหกกรพลักพลิ้วกาย เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไปจากที่เดิม แต่ทันใดนั้นก็เปล่งแสงสีทองสว่างวาบ ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ หานลี่
จากนั้นมันก็ขยับแขนทั้งหกพร้อมกันโดยไม่ปริปาก ฝ่ามือทั้งหกมีลำแสงสีทองหมุนวนไปมาไม่หยุด แล้วประกบเข้าหากันที่ทรวงอก ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองหกดวงพลันรวมตัวกัน กลายเป็นระลอกคลื่นสีทองขนาดเท่าศีรษะ
แทบจะในเวลาเดียวกันร่างทองสามเศียรหกกรก็มีลำแสงไหลวนที่ดวงตา เสียงบริกรรมคาถาที่ไม่เหมือนกันสามเสียงดังออกมา
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นกลางระลอกคลื่น เสียงสวดมนต์ดังมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วมีขนาดยักษ์สองสามเท่า พลางไหลวนโคจรอย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าจะมองเห็นดวงดาราที่ดูเหมือนลำแสงวิญญาณได้รางๆ
“ไป” วานรยักษ์ที่อยู่ด้านข้างพลันร้องตะโกนภาษามนุษย์ออกมา
ร่างทองได้ยินระลอกคลื่นสีทองในมือก็โยนไปทางเขตอาคมลำแสงด้านล่างทันที
เสียงอัสนีดังขึ้น ชั่วพริบตาที่ลำแสงสีทองอยู่ห่างจากมือไปสองสามจั้ง ก็ขยายใหญ่ขึ้น พริบตาก็มีขนาดสิบกว่าจั้งและยิ่งไปกว่านั้นยังพยายามขยายใหญ่ขึ้น
รอจนเห็นมันสัมผัสกับเขตอาคมลำแสงห้าสี ระลอกคลื่นก็กลายเป็นทะเลสีทองเส้นผ่าศูนย์กลางร้อยจั้ง พลังมหาศาลไร้รูปร่างแผ่ออกมาจากระลอกคลื่น แม้กระทั่งทำให้บรรยากาศรอบๆ บิดเบี้ยวไป
นี่คือระลอกคลื่นลำแสงสีทองที่ร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์สำแดงออกมาเต็มกำลังครั้งแรก หลังจากที่หานลี่พัฒนามาอยู่ในระดับผสานอินทรีย์ขั้นกลาง อานุภาพของมันพูดได้ว่าเหนือกว่าที่หานลี่คาดคิดเอาไว้
หลังจากเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ระลอกคลื่นสีทองก็ปะทะเข้ากับใจกลางของเขตอาคมลำแสงยักษ์อย่างแรง!