คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 1864 ราชาแห่งแมลงกลืนทอง
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 1864 ราชาแห่งแมลงกลืนทอง
“อาจกล่าวได้ว่ามีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ก็ได้ นี่ต้องดูเจตนาของผู้ครอบครองแมลงวิเศษนี้แล้ว” ซวีหลิงเปลี่ยนสีหน้าเย็นชาก่อนหน้า ทั้งยังเอ่ยออกมาพร้อมหัวเราะ
“เจตนารึ” หานลี่เกิดประกายในแววตา เขาสงสัยเล็กน้อย
“ไม่ผิด หากสหายหานอยากจะบ่มเพาะแมลงวิเศษให้เป็นตัวเต็มวัย อย่างนั้นน้ำนมศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำยมโลกแน่นอนว่าต้องไม่มีผลอะไรต่อแมลงวิเศษเหล่านี้ แต่หากประสงค์จะต่อยอดไปอีกล่ะก็ น้ำนมศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำยมโลกกลับเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้เลย” ผู้อาวุโสเอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ
“ต่อยอดหรือ” หานลี่ราวกับนึกถึงสิ่งใดได้ สีหน้าปรากฏอารมณ์ประหลาดใจออกมา
“ไม่ผิด ส่วนรายละเอียดอีกสักครู่ข้าจะบอกอย่างละเอียด คิดไม่ถึงเลยว่าในมือของเจ้าก็มีแมลงกลืนทองด้วย หากเป็นอย่างนี้ น้ำนมศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำยมโลกเหล่านี้กลับถือเป็นเรื่องรองไปเลย ข้าอยากเสนอข้อต่อรองอีกอย่างกับเจ้า แต่การแลกเปลี่ยนอันนี้ค่อนข้างลับ ต้องเจรจาตามลำพังถึงจะดี จินเยี่ยน ชิงหยวนจื่อ เจ้าทั้งสองคนไม่รังเกียจใช่ไหม” อาวุโสซวีหลิงเอ่ยภาษางดงามกับหานลี่ สุดท้ายกลับเอ่ยต่อพวกชิงหยวนจื่อทั้งสองอย่างเย็นชา
แม้ว่าจะสีหน้าสงบนิ่ง แต่คำกล่าววาจากลับเต็มไปด้วยเจตนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ขอเพียงสหายไม่ได้บังคับขู่เข็ญค้าขาย ผู้น้อยแน่นอนว่าไม่มีทางสนใจ” ชิงหยวนจื่อมองไปยังแววตาเย็นชานั้นในสายตาของผู้อาวุโส ในใจประหวั่นก่อนเอ่ย
“ข้าเองก็ไม่ถือ พี่ซวีหลิง ตามสะดวกเลย” จินเยี่ยนโหวเอ่ยพลางหัวเราะ
“อย่างนั้นก็ดี อย่างนั้นข้าก็ต้องเสียมารยาทแล้ว” อาวุโสซวีหลิงเห็นได้ชัดว่าพอใจในคำตอบของทั้งสอง หลังจากพยักหน้าทันที ก่อนอ้าปาก หลังจากนั้นเกิดแสงสีดำวาบผ่าน ห้องใต้หลังคาขนาดเล็กสูงครึ่งฉื่อถูกพ่นออกมา
ร่างทั้งหมดของห้องใต้หลังคานี้เป็นสีดำสนิท โดยมีอักษรหลากสีสันอยู่บนพื้นผิวอยู่ด้านล่างอย่างหนาแน่น และห่อหุ้มด้วยชั้นของไอดำรางๆ
ดูแล้วลึกลับเป็นหมื่นส่วน
“สหายหาน นำหนอนกลืนทองมาด้วย มาพักที่หอวายุทมิฬของข้าก่อนเถิด” อาวุโสเปลี่ยนห้องใต้หลังคาให้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยมือข้างเดียว ก่อนหันศีรษะเพื่อพูดออกมา
ไม่ว่าหานลี่จะตกลงหรือไม่ เขาก็หอบเอาแมลงกลืนทองมาไว้ในนั้นภายใต้การสะบัดแขนเสื้อทั้งสองข้าง จากนั้นย่อตัวลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นร่างขนาดเล็ก กายสูงเพียงหนึ่งนิ้ว ก่อนหายตัวไปในหอนั้นในพริบตา
“อาวุโสทั้งสอง ผู้น้อยต้องขอล่วงเกิน” หานลี่หวั่นใจ แต่ก็ทราบดีว่าหากไม่ตามไปก็เป็นไปไม่ได้ เพียงเอ่ยอย่างขมขื่นต่อชิงหยวนจื่อ
“อืม สหายหานวางใจไปเถอะ ในเมื่อพี่ซวีหลิงมีคำสัญญาก่อน แน่นอนว่าจะไม่มีทางทำเรื่องที่ทำให้เสียชื่อเสียงอีก แต่ว่า หากเงื่อนไขไม่เกินเหตุไปล่ะก็ ทางที่ดีสหายน้อยก็รับปากเสียเถอะ” ชิงหยวนจื่อคิ้วขมวด ก่อนกำชับสองประโยค
“ขอบคุณคำแนะนำจากท่านอาวุโสเจียง ผู้น้อยทราบดีว่าควรทำอย่างไร” หานลี่ตอบด้วยเสียงเคร่งขรึม รวบรวมหนอนสีทองจำนวนหนึ่งไว้ข้างหน้าเขา พวกมันกลายเป็นเส้นไหมสีเงินและยิงพวกมันเข้าไปในห้องใต้หลังคา
ในวินาทีที่หานลี่เข้าไปนั้น ทั้งหอนั้นก็กลายเป็นไอสีดำก่อนพลิกตลบไปมา ตัดขาดความเชื่อมโยงจากภายนอกเสีย
“พี่เจียง ท่านไม่กังวลจริงหรือ สัตว์ประหลาดเฒ่านี้แม้จะสติไม่ดีไปบ้าง แต่พลังเวทนั้นไม่ใช่ของปลอม เกิดเล่นตุกติกอะไรกับหานลี่ในนั้นล่ะก็ เจ้าและข้าคงขวางไม่ได้” จินเยี่ยนโหวจู่ๆ ก็ขยับมุมปาก ก่อนส่งเสียงไปยังชิงหยวนจื่อ
“สหายจินเยี่ยนคิดมากไปแล้ว แม้ว่าสัตว์ประหลาดเฒ่าจะรุนแรงไปหน่อย แต่ตั้งแต่ที่พวกเราคบหากันมา ก็ยังไม่เคยมีปรากฏเรื่องการผิดคำพูดนะ ข้อนี้น่าจะสามารถวางใจได้ อีกอย่างเพราะข้าติดค้างสหายหานข้อหนึ่งที่ไม่น้อยเลย แม้ว่าอยากจะดูแลให้มากหน่อย แต่ก็ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำได้ด้วย และก็ไม่อยากจะโทษสัตว์ประหลาดเฒ่านั้นนะ ไม่อย่างนั้น เกรงว่าผู้น้อยก็คงไม่มีที่อยู่แม้ในแม่น้ำยมโลกหรอก” ชิงหยวนจื่อเอ่ยตอบอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ก็จริงนะ พลังเหนือธรรมชาติของสัตว์ประหลาดเฒ่า เกรงว่ามันจะปกป้องตัวเองได้แม้ต้องเผชิญกับวิญญาณเที่ยงแท้ก็ตาม พวกข้าห่างชั้นกว่าเยอะเมื่อเทียบกับสิ่งนี้แล้ว แต่ถึงแมลงกลืนทองจะหายากในโลก ก็คงไม่ต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงอย่างนี้กระมัง อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้มีแมลงวิเศษเช่นเดียวกันหรือ พี่เจียงเดาถึงสิ่งใดได้หรือไม่” หลังจากที่จินเยี่ยนโหวพยักหน้าก็เอ่ยถามอีกครั้ง
“ผู้แซ่เจียงมีความสามารถอย่างนั้นที่ไหนกันเล่า แม้แต่ความคิดของสัตว์ประหลาดเฒ่าก็คาดเดาได้หรือ คงเป็นเพราะแมลงกลืนทองของสหายหานน่าจะยังมีประโยชน์อื่นอยู่กระมัง” ชิงหยวนจื่อเกิดประกายในแววตา แต่กลับหาวก่อนเอ่ยออกมาอย่างคลุมเครือ
“จริงหรือ” หลังจากที่จินเยี่ยนโหวยกมุมปากหน่อย ราวกับยกยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ยกยิ้ม
ชิงหยวนจื่อกลับยิ้มออกมาน้อยๆ ไม่ได้เอ่ยอันใดตอบกลับไป
ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางห้องโถงใหญ่ในชั้นนั้นที่ในหอสีทมิฬ หานลี่ที่ร่างกายย่อส่วนลงและผู้อาวุโส กลับเอาแต่เจรจากันอยู่
“สหายหานนั่งเถอะ หอวายุทมิฬก็คือว่าเป็นสถานที่ล้ำค่าของครึ่งพิภพแล้ว ไม่เพียงสามารถปรับใหญ่เล็กได้ตามใจ ทั้งยังสามารถตัดขาดการสอดส่องจากช่วงเวลาภายนอกได้อีกด้วย ไม่มีดวงจิตที่สามสามารถล่วงล้ำเข้ามายังที่แห่งนี้ได้แน่นอน” อาวุโสทำท่าทางโอ่อ่าก่อนย้ายสะโพกไปนั่งที่ตำแหน่งประมุข เขายกยิ้มพลางเอ่ยต่อหานลี่
“ขอบคุณท่านอาวุโสมาก ผู้น้อยจะไม่เกรงใจแล้วนะขอรับ” หานลี่คำนับด้วยสีหน้าแห่งความเคารพ และก็นั่งลงบนเก้าอี้ในตำแหน่งถัดจากผู้นำ
“ก่อนหน้าที่จะเจรจากับท่าน ข้าต้องยืนยันเรื่องหนึ่งเสียก่อน สหายหาน แมลงกลืนทองระดับตัวเต็มวัยในมือเจ้ามีเท่าใดกัน บอกจำนวนที่แน่ชัดกับข้าได้หรือไม่” ผู้อาวุโสถามออกมาหนึ่งประโยคด้วยอดใจที่เบิกบานไว้ไม่ไหวแล้ว
“จำนวนที่แน่ชัดหรือ……” หานลี่เมื่อได้ฟัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะสงสัย
“อ้อ ที่ข้าถามไปอาจจะฟังดูบุ่มบ่ามไปบ้าง ระดับความน่ากลัวของแมลงกลืนทองนั้นก็คงต้องดูที่จำนวนของพวกมันแล้ว จำนวนที่แน่ชัดเปิดเผยไม่ได้เท่าใดนัก เอาอย่างนี้แล้วกัน ขอเพียงสหายบอกข้าว่าจำนวนของแมลงกลืนทองที่ท่านมีนั้นเกินกว่าห้าพันหรือไม่ก็พอ” อาวุโสหลังกที่ตกตะลึงแล้วก็กระวนกระวายใจ ก่อนจะแก้ไขคำพูดตนแล้วถามออกมา
แต่เมื่อคำกล่าวนี้ถามออกมา ซวีหลิงก็มองไปยังแววตาของหานลี่ ทั้งยังปรากฏสีหน้าตื่นเต้นออกมาทันที
เห็นได้ชัดว่าคำตอบของหานลี่ไม่เหมือนกันและสถานะอื่นก็มีความสัมพันธ์กันมาก
“ใช่แล้ว” หานลี่เมื่อได้ยินคำถาม ความนึกคิดมากมายก็ไหลออกมา แต่ยังคงตอบไปตามความเป็นจริง
แม้ว่าเขาจะยินดีที่จะตอบว่า “ไม่” มากกว่า แต่หากทำให้คนต่างเผ่าตรงหน้าไม่ได้รับคำตอบที่พอใจแล้ว ผู้ใดจะทราบได้เล่าว่าอีกฝ่ายจะพลิกสีหน้าหรือไม่ หรือจะหยุดเขาเพื่อตรวจสอบในสิ่งที่เอ่ยไปหรือไม่
อย่างไรเสียคำโป้ปดเมื่ออยู่ต่อหน้าความจริง ก็นับว่าอ่อนแออย่างหาใดเทียบได้
“มีห้าพันตัวขึ้นไปหรือ ดี ดีมาก หากเป็นเยี่ยงนี้ ข้าก็จะทำการแลกเปลี่ยนใหญ่กับท่าน” ซวีหลิงที่กำลังเบิกบาน เอ่ยคำว่า “ดี” ออกมาติดๆ กัน
“การแลกเปลี่ยนที่ท่านผู้อาวุโสเอ่ยถึง คงมิได้เกี่ยวข้องกับจำนวนแมลงกลืนทองของผู้น้อยกระมัง” หานลี่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนถาม
“แน่นอนว่าต้องเกี่ยว เนื่องจากข้าต้องการแมลงกลืนทองตัวเต็มวัยห้าพันตัว ในส่วนของสมบัติแลกเปลี่ยน ขอเพียงเป็นของที่ข้ามี จงเอ่ยออกมาได้เต็มที่ ข้าจะไม่มีทางต่อรองแน่นอน” ผู้อาวุโสเฒ่าลูบมือไปมา ดวงตาสองข้างเกิดประกายก่อนเอ่ยคำที่ทำให้หานลี่ตกใจออกมา
“แมลงกลืนทองห้าพันตัวรึ?” แม้ว่าในใจจะราวกับคาดเดาได้ แต่เมื่อได้ฟังอีกฝ่ายเอ่ยออกมาจริงๆ หานลี่ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ยังคงปรากฏแววตาตกใจออกมา
“การแลกเปลี่ยนนี้ของผู้อาวุโส มันจะทำให้ข้าลำบากใจไปกระมัง แมลงกลืนทองตัวเต็มวัยห้าพันตัวนี้แม้จะไม่ใช่ข้าที่บ่มเพาะพวกมันมา แต่ก็มีเก้าในสิบส่วนที่ข้าได้ดูแลแน่นอน ผู้น้อยยังหวังว่าภายภาคหน้าหากได้เลื่อนขั้นสู่ระดับมหายาน แมลงกลืนทองเหล่านี้ก็จะสามารถเป็นมือสังหารในการต่อกรกับศัตรูได้
“อืม มูลค่าที่สูงของแมลงกลืนทองตัวเต็มวัยที่มากเพียงนี้ ช่างหาได้ยากนัก แต่ขอเพียงมีคุณค่า ก็แลกเปลี่ยนได้แน่นอน อย่างอื่นไม่ว่า แมลงกลืนทองที่ข้ายังไม่ได้นำออกมานั้น ในนั้นมีสองสามประเภทที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ไม่ด้อยไปกว่าแมลงกลืนทองของเจ้าแน่นอน อีกอย่างของมีค่าผุพังของสวรรค์ทมิฬ คุณค่าเกรงว่าจะสูงกว่าแมลงกลืนทองห้าพันตัวกระมัง” ผู้อาวุโสเก็บสีหน้า ก่อนเอ่ยออกมาด้วยแววตาเย็นชา
“ผู้อาวุโสพูดเล่นแล้ว หนอนวิเศษที่ยังไม่ได้นำออกมาล้วนเป็นหนอนวิเศษที่มีวาสนาของผู้อาวุโส ในส่วนของสมบัติที่ผุพัง ผู้น้อยแม้ว่าจะหวั่นไหวไปกับมัน แต่ข้าไม่กล้าเอาแน่นอน ไม่อย่างนั้นหากผู้น้อยได้ของมีค่าระดับนั้นไป ต่อไปเกรงว่าคงไม่มีวาสนาจะได้ใช้กระมัง เอาอย่างนี้แล้วกัน ผู้อาวุโสโปรดเปิดเผยสักหน่อยได้หรือไม่ว่าจะเอาหนอนกลืนทองมากมายถึงเพียงนี้ไปทำอะไรรึ แล้วผู้น้อยค่อยตัดสินใจดีหรือไม่ ผู้น้อยยังประหลาดใจเล็กน้อย อีกทั้งหนอนกลืนทองเหล่านี้ได้นับถือผู้น้อยเป็นนายมาแล้วหลายปี ต่อให้ผู้อาวุโสเอาไป เกรงว่าก็คงไม่ได้นำมาบงการศัตรูกระมัง แต่ในเรื่องของจำนวน ยังเจาะจงว่าต้องการห้าพันอีก นี่ยิ่งทำให้ข้าไม่เข้าใจเลย” หานลี่พึมพำ ทั้งยังเอ่ยออกมาช้าๆ อย่างจนใจ
“หึ เจ้านี่มีความกล้าไม่เบา ถึงกับกล้าย้อนกลับมาสืบเรื่องของข้าเลยหรือ อาวุโสซวีหลิงพ่นเสียงหึอย่างเย็นชา หัวคิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน เกิดไอเย็นขึ้นปกคลุมทันที
“ท่านผู้อาวุโสโปรดให้อภัย กว่าแมลงกลืนทองมากมายเพียงนี้จะบ่มเพาะจนถึงระดับตัวเต็มวัย ผู้น้อยไม่รู้ว่าทุ่มเทไปกับมันไปมากมายเท่าใด ตามปกติแล้วแทบจะมองมันเห็นดั่งราวกับชีวิต หากไม่แน่ชัดว่าท่านผู้อาวุโสจะเอาพวกมันไปทำสิ่งใด ผู้น้อยเก่งว่าคงมอบพวกมันให้แก่ผู้ใดไม่ได้ง่ายๆ เป็นแน่” ครั้งนี้หานลี่เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นผิดปกติ
“เหอะๆ ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่หลายส่วน เอาเถอะ ข้าจะบอกเป้าประสงค์คร่าวๆ ของแมลงกลืนทองนี้แล้วกัน แต่เมื่อฟังแล้ว ก็ห้ามปฏิเสธการแลกเปลี่ยน ไม่อย่างนั้น……” อาวุโสซวีหลิงกลอกลูกตาไปมา ก่อนจะเผยยิ้มก่อนตอบ
“ย่อมได้ ผู้น้อยรับปาก” หานลี่สีหน้าดำมืดไปพักใหญ่ สุดท้ายก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนรับปาก
“ฮ่าๆ สหายหาน นี่สิถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เจ้าฟังให้ดีล่ะ ข้าต้องการแมลงกลืนทองเหล่านี้ของเจ้า เพราะอยากจะบ่มเพาะราชาแห่งแมลงกลืนทองในตำนานออกมาให้ได้ และวิธีการที่จะต่อยอดราชาแห่งแมลงนี้ก็ต้องการแมลงกลืนทองที่ตัวเต็มวัยจำนวนมากถึงจะได้ ในส่วนที่ว่าเหตุใดต้องการจำนวนห้าพัน ก็เพราะว่าในมือข้าเองก็มีแมลงกลืนทองอยู่แล้วห้าพันตัว หากรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วล่ะก็ เพียงพอที่จะต่อยอดบ่มเพาะราชาแห่งแมลงแบบเหลือเฟือเลย หากมากเกินไป ข้าเอามาก็ไม่มีประโยชน์” อาวุโสในที่สุดก็เอ่ยเหตุผลที่ทำให้หานลี่สงบใจลงได้ออกมา
“ราชาแห่งแมลงกลืนทอง อย่างนั้นน้ำนมแห่งแม่น้ำยมโลกก่อนหน้าคือ……” สีหน้าของหานลี่เปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะหลุดปากถามออกมาว่า
“น้ำนมจากแม่น้ำยมโลก แน่นอนว่าก็เป็นหนึ่งในวิธีการบ่มเพาะราชาแห่งแมลงกลืนทอง แต่หากมีแมลงกลืนทองแบบตัวเต็มวัยอย่างเพียงพอ เงื่อนไขนี้ก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป” อาวุโสซวีหลิงตอบอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย