คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 2101 กลืนกิน
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 2101 กลืนกิน
เมื่อคลื่นยักษ์ทิ้งตัวลง ทั่วทั้งสระก็แยกออก น้ำสีเงินอ่อนถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ก้นสระสีขาวอ่อนๆ ก็ปรากฏออกมา
หานลี่ใช้นิ้วฟันเมื่อครู่ มีพลานุภาพนึกหลังจนไม่อาจวัดได้!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดัง โครม
น้ำจากทั้งสองฝั่งซัดเข้ามาตรงกลาง รวมผลก้นสระอีกครั้ง
ไม่เลว พลังอาคมเองก็เพิ่งขึ้นมาไม่น้อย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือปราณก่อกำเนิดดวงจิตแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าในตอนแรกอย่างน้อยก็หนึ่งในสาม ข้อดีอย่างอื่น คงได้แต่ค่อยๆ ทดลองภายหลัง หานลี่ใช้ดวงจิตกวาดส่องไปในร่างกาย พูดพึมพำด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นก็ผิวปากเสียงยาวออกมาหนึ่งที
ชั่วพริบตาเดียว ในเขตจำกัดทั้งสี่ด้านก็เกิดกระแสคลื่นขึ้น เงาสีทองร่างหนึ่งและแสงสีเขียวลูกหนึ่งก็พุ่งลอยเข้ามาจากทั้งสองด้าน ส่องแสงวูบหนึ่ง แล้วอยู่นิ่งอยู่ด้านหน้าหานลี่
นั่นก็คืออสูรมิคาทนและร่างวิญญาณเซียนจือเซียน!
ข้าได้ชำระไขกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นสำเร็จแล้ว พวกเจ้าก็ลงไปแช่สักหน่อยเถอะ หานลี่ออกคำสั่งโดยไม่ลังเล
อสูรเกล็กดวิญญาณได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง กล่าวคำขอบคุณเป็นเสียงมนุษย์ แล้วก็โผเข้าไปกลางสระวิญญาณโดยทันทีพร้อมกับร่างวิญญาณที่ควบคุมโดยทารกมารที่สอง
ด้านล่าง หานลี่ได้ปล่อยฉวี่เอ๋อร์ร่างจำแลงของโสมวิญญาณสลับฟันปลาและราชาแมลงกลืนทองสิบกว่าตัวออกมา ให้พวกมันลงไปในสระวิญญาณเช่นกัน
สุดท้ายเขายกมือข้างหนึ่งขึ้น แล้วเอาห่วงอสูรวิญญาณที่เก็บแมลงกลืนทองโตเต็มใบไว้จัดเต็มห่วงนั้นออกมา
จากนั้นก็ร่ายอาคม แมลงวิญญาณจำนวนนับหมื่นก็กรูกันออกมา เมื่อหานลี่ออกเสียงเบาๆ หนึ่งที แมลงเหล่านั้นไม่ได้บินไปยังสระล้างวิญญาณ แต่กลับรวมตัวกันกลายเป็นเมฆแมลงสิบกว่าลูก บินออกไปยังพุ่มไม้ใบหญ้าและต้นไม้ยักษ์ที่อยู่ด้านนอกเขตจำกัด
ทันใดนั้นที่ซึ่งเมฆแมลงเคลื่อนผ่าน ต้นไม้วิญญาณและต้นหญ้าวิญญาณก็ถูกกลืนกินจนเกลี้ยงเป็นวงกว้าง แม้แต่ศิลาวิญญาณและแร่วิญญาณที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวดินอยู่รำไร ก็หายวับไปไม่เหลือร่องรอย เหลือเพียงแต่พื้นดินว่างเปล่าที่มีกลิ่นสาบ เหมือนกับว่าพื้นดินถูกถางถากออกไปชั้นหนึ่ง
บรรยากาศรอบด้านที่เขียวชอุ่มในตอนแรก ชั่วพริบตาเดียวก็โล่งเตียน ทัศนียภาพรกร้างเช่นนี้กำลังแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อ
หานลี่เห็นดังนั้นก็ยิ้มหนึ่งที
เขาก่อนหน้านี้ได้ใช้ดวงจิตกว่าสำรวจพื้นที่แห่งนี้แล้วรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้พบสมุนไพรหายากใดๆ เมื่อคิดดูแล้วที่แห่งนี้คงไม่มีโอสถวิญญาณประเภทนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะถูกเผ่าพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ช่วงชิงไปได้ก่อนจนหมด
แต่ถึงแม้เช่นนั้น ด้วยระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณในพื้นที่แห่งนี้ ต่อให้เป็นเพียงต้นไม้ใบหญ้าธรรมดา อายุอันยาวนาน ก็มีคุณค่าเสียยิ่งกว่าหญ้าโอสถวิญญาณที่หาได้ยากในโลกภายนอก เขามีขวดอัศจรรย์ใบน้อย ถึงแม้ไม่ได้รู้สึกว่าของสิ่งนี้สลักสำคัญอะไรนัก แต่ถ้าจะให้ตัดใจจากสิ่งที่มีพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์จำนวนมากอยู่ภายในถึงเพียงนี้เสียเฉยๆ นั่นก็ช่างน่าเสียดายอย่างยิ่ง ไม่สู้ให้แมลงคืนทองเหล่านี้กลืนกินให้หมดสิ้น เพื่อที่จะเพิ่มพลานุภาพขึ้นมาสักหน่อยเสียยังดีกว่า
และด้วยดวงจิตของเขาในเวลานี้ สามารถสั่งใช้ส่งแมลงทั้งหมดได้อย่างเป็นปกติแล้วในช่วงเวลาหนึ่ง เวลาเพียงไม่กี่นาทีไม่ได้สิ้นเปลืองแต่อย่างใด
มิหนำซ้ำ พื้นที่แห่งนี้ตั้งแต่แรกก็กว้างไม่เกินร้อยกว่าลี้ ด้วยความสามารถในการกลืนกินของแมลงกลืนทองโตเต็มวัย คงใช้เวลาไม่นานเท่าไร ก็สามารถกลืนกินทุกสิ่งได้จนหมดสิ้น
ในช่วงเวลานี้ หานลี่ไม่ว่างที่จะรอ แต่รวบรวมอิทธิฤทธิ์หมุนพลิกฝ่ามือ ขวดใบเล็กสีทองม่วงที่มีอักขระยันต์ปิดผนึกแปะไว้ใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ
ประคองขวดใบเล็กขึ้น แล้วอ้าปากเป่าลมไปยังมันเบาๆ ยันต์ก็หลุดออกอย่างเงียบๆ
หานลี่ตวัดข้อมืออีกครั้ง ขวดใบน้อยก็หมุนกลับหัวทันที ทันทีที่ปากขวดเปิดออก เสียงดังกังวานก็ดังออกมาจากด้านใน
แสงสีทองสว่างวาบ!
วิหคเพลิงสีทองขนาดเท่ากำปั้นตัวหนึ่งก็บินออกมา หมุนวนอยู่รอบหนึ่ง จากนั้นก็สยายปีกทะยานขึ้นสูง
หานลี่เห็นได้ชัดว่าเตรียมพร้อมไว้แล้ว ใช้อุ้งมือขวาไปในอากาศ ทันใดนั้นพลังแอบแฝงที่ไร้รูปร่างก็หมุนม้วนออกมา ครอบตัววิหคเพลิงสีทองเอาไว้ด้านใน
ต่อให้วิหคเพลิงจะพยายามกระพือปีกทั้งสองสักเท่าไหร่ แต่เมื่อกำลังอันมหาศาลบีบเคล้น แสงก็ดับวูบลง กลายเป็นลูกกลอนโอสถสีทองเป็นประกายขนาดเท่าหัวแม่โป้งเม็ดหนึ่ง ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศเงียบๆ
โอสถทองเม็ดนี้ บนผิวมีลายโอสถอันประณีตอยู่เต็มไปหมด นั่นก็คือ โอสถวิญญาณสูญ
หานลี่เห็นเช่นนั้น ก็งอนิ้วทั้งห้าเบาๆโดยไม่ลังเล
เสียงดัง พรึ่บ โอสถวิญญาณสูญก็กลายเป็นแสงสีทองลูกหนึ่งพุ่งเข้ามา แล้วร่อนลงมาอยู่นี่กลางฝ่ามือ
หานลี่มองไปยังลูกกลอนโอสถอันนั้น สีหน้าลังเลเล็กน้อย
ในม้วนหยกที่เขาได้รับมาจากเป่าฮวา ไม่ได้บอกไว้ว่าโอสถวิญญาณสูญต้องกินเมื่อใดหลังชำระไขกระดูกแล้ว
แต่โดยทั่วไป โอสถยาสลายประเภทนี้ กินยิ่งเร็วยิ่งดี ประสิทธิผลถึงจะชัดเจน
เมื่อทำเช่นนั้น คงจะไม่สามารถหลอมโอสถทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น แต่กินโดยเร็วอย่างไรเสียก็มีคุณมากกว่าโทษ
หานลี่ครุ่นคิดในใจดังนั้น ก็เอาลูกกลอนในมือโยนเข้าไปในปากอย่างไม่ลังเล แล้วกลืนลงท้องไป
ฤทธิ์ยาในทันใดก็แผ่กระจายไปทั่ว จากนั้นกระแสอบอุ่นก็ค่อยๆ ไหลไปทั่วตามรยางค์ทั้งสี่
ฤทธิ์ยาครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับสรรพคุณอันรุนแรงของกลีบดอกบัวชำระวิญญาณนั้นอย่างเทียบไม่ติด แต่เมื่อกระแสอบอุ่นไหลผ่านระยะทางทั้งสี่แล้ว ก็ทำให้หานลี่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกสบายผ่อนคลายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างน่าประหลาด
หานลี่รู้สึกยินดี ได้รู้ว่าโอสถวิญญาณสูญมีประโยชน์อย่างมากต่อสภาพการณ์ของเขาในตอนนี้ตามคาด เขานั่งขัดสมาธิลงข้างสระทันที แล้วค่อยๆ หล่อหลอมฤทธิ์ของโอสถทีละน้อย
ไม่รู้ว่าหายไปนานเท่าใด ฝูงแมลงกลืนทองสิบกว่ากลุ่มที่บินออกไป ในที่สุดก็ส่งเสียงอื้ออึงบินกลับมา แล้วรวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนือสระน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆแมลงสีทองลูกหนึ่ง
หานลี่หนังตากระตุก ลืมตาทั้งคู่ขึ้น แล้วกวาดมองไปรอบด้าน จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
ในเวลานี้ พื้นที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ได้กลายเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าไปทั้งหมดโดยสิ้นเชิง เมื่อเงยหน้ามองขึ้น สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาล้วนแต่เป็นพื้นดินสีเหลือง ราวกับทะเลทราย
แต่ทว่าพลังวิญญาณที่อยู่ในอากาศ ยังคงบริสุทธิ์อย่างมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายร้อยปี ที่แห่งนี้ก็คงจะกลับมาเชียวชอุ่มดังเดิมทั้งหมด
แต่ทว่าพลังวิญญาณอันมหาศาลที่อยู่ในต้นไม้ใบหญ้า ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่หมื่นปีถึงจะเพาะเลี้ยงออกมาได้
และฝูงแมลงกลืนทองที่กลืนกินทุกสิ่งที่มีพลังวิญญาณมหาศาลแอบแฝงอยู่ในชั่วพริบตา แสงสีทองที่ผิวกาย ก็ดูสว่างขึ้นกว่าตอนแรกอยู่เล็กน้อย
แมลงวิญญาณเหล่านี้ยังไม่ได้หล่อหลอมสิ่งที่เพิ่งกลืนกินเข้าไปเมื่อครู่โดยทั้งหมด เมื่อคิดถึงผลที่จะได้หลังจากนี้ คงไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เห็นในตอนนี้
หานลี่ไม่ได้คิดที่จะเรียกฝูงแมลงกลับมา และเมื่อคำนวณว่าอิทธิฤทธิ์ของตนสามารถยืนหยัดได้อีกนานสักเท่าไหร่ รวมไปถึงเวลาที่ตนสามารถอยู่ยังพื้นที่แห่งนี้แล้ว ก็ผิวปากเสียงต่ำออกมาทันที
ทันใดนั้นเมฆแมลงสีทองก็นอนลงไปยังสระน้ำ จากนั้นก็ครูกันดังติงลงไปกลางสระจนหายลับตาไป
และสำหรับหานลี่ในเวลานี้ ไม่ได้หลอมหล่อโอสถวิญญาณสูญต่อ แต่มองไปยังน้ำในสระสีเงินอ่อนกลางสระวิญญาณ ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย ท่าทีดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
เพียงชั่วครู่เดียว ทันใดนั้นหานลี่ก็ยกมือขึ้นกวัก พริบตาเดียวกลางฝ่ามือก็ส่องแสงสีเหลืองวาบ น้ำเต้าสีเหลืองลูกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ
หานลี่ใช้ฝ่ามือประคองน้ำเต้าลูกนี้ แล้วหันไปยังน้ำในสระสีเงินอ่อนแล้วเขย่าเบาๆ
พริบตาเดียวน้ำเต้าก็ส่องสว่างเล็กน้อย ขนาดขยายใหญ่มหึมาขึ้นในทันที กลายเป็นวัตถุขนาดยักษ์สูงนับจั้ง
หานลี่ขว้างน้ำเต้าออกไปกลางอากาศ พร้อมกันนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งร่ายอาคม แล้วใช้นิ้วข้างหนึ่งแตะไปยังมัน
เสียงดัง พรวด !
ทันใดนั้นเองไอสีดำขาวลูกหนึ่งก็พุ่งออกมา หมุนวนหนึ่งรอบแล้วเทลงไปผิวน้ำ
แสงทั้งสองสีส่องสว่างอย่างคลุ้มคลั่ง เสาน้ำสีเงินอ่อนเสาหนึ่งก็ถูกม้วนขึ้นมา แล้วไหลเข้าไปในน้ำเต้าขนาดยักษ์นั้นอย่างแม่นยำ
ทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดประหลาดขึ้นมาที่จะเอาน้ำในสระนี้บรรจุเอาไว้ ในอดีตจะเคยมีคนทำเรื่องเช่นเดียวกันนี้หรือไม่ คงเป็นเรื่องที่มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้
หานลี่เอามือทั้งสองข้างหลังยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาจดจ้องไปยังน้ำเต้าขนาดยักษ์ที่กำลังสูบเอาน้ำในสระ สีหน้าสงบนิ่งหลายอารมณ์
เพียงชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป ทันใดนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อไปยังน้ำเต้ายักษ์ ยันต์สีน้ำเงินอันหนึ่งก็พุ่งออกไป ส่องสว่างแล้วดับวูบ ซึมแทรกหายวับเข้าไปในน้ำเต้าไร้ร่องรอย
ทันใดนั้นน้ำเต้าขนาดยักษ์ก็เขย่าสั่น ไอสีขาวดำที่ถูกพ่นออกมาก็หายวับไปกับตา พร้อมกันนั้นเองขนาดของมันก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาก็กลับคืนสู่สภาพเล็กจิ๋วดังเดิม
เขากวักมือข้างหนึ่ง น้ำเต้าที่หดเล็กลงทันใดนั้นก็ค่อยๆลดลงกลางฝ่ามือ
หานลี่ใช้เพียงดวงจิตกว่าส่องเข้าไปภายใน ทันใดนั้นสีหน้าก็นิ่ง เขาพลิกฝ่ามือ ปากน้ำเต้าก็คว่ำลง
ทันใดนั้น ของเหลวสีใสก็ทะลักไหลออกมาจากกลางน้ำเต้า กลับเป็นเพียงน้ำเปล่าสะอาดที่ไม่มีพลังวิญญาณใดๆ แม้แต่น้อย
กล้ามเนื้อบนหน้าของหานลี่กระตุก เขายิ้มแหยออกมา
สระล้างวิญญาณแห่งนี้มีความลับยิ่งใหญ่บางอย่างตามที่คิด น้ำในสระที่สุดแสนจะลึกลับเมื่อออกจากสระน้ำ กลับไม่มีสรรพคุณใดๆ แม้แต่น้อยขึ้นมาโดยทันที
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง แต่เพราะได้คาดการณ์ไว้แต่แรกในใจแล้ว จึงไม่ได้มีท่าทีผิดหวังอะไรมากมาย
หานลี่เดินวนรอบสระโดยพลัน ค่อยๆ เดินช้าๆ ดูราวกับกำลังพินิจพิเคราะห์อะไรบางอย่างในสระน้ำ
บนผนังสระที่โผล่พ้นผิวน้ำ มีลวดลายที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจำนวนหนึ่ง ดูคล้ายกับอักขระยันต์ และยังดูเหมือนกับอักษรโบราณลึกลับ
แน่นอนว่า เขาแอบคิดคำนวณเวลาที่ตนยังที่แห่งนี้ วางแผนไว้ว่าเมื่อครบสามวัน ก็จะไปจากที่แห่งนี้โดยทันที
เขาไม่รู้ว่าที่พวกเป่าฮวาบอกว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้เพียงสามวันนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เขาไม่อยากพิสูจน์ความจริงด้วยตนเองแม้แต่น้อย
เวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปเช่นนี้ พลังปราณบนตัวพวกอสูรมิคาทนในสระแก่กล้าสลับอ่อนแอไปมาเห็นได้ชัดว่าต่างเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านเวลา พวกมันไม่สามารถที่จะดำเนินการชำระไขกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นได้อย่างสมบูรณ์เหมือนอย่างหานลี่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่จะพบได้สักครั้งในรอบหมื่นปี
ผ่านไปกว่าครึ่งวัน หานลี่ที่กำลังก้มหน้าสำรวจจากบนสระ ทันใดนั้นก็ขยับสีหน้าเงยศีรษะขึ้น แล้วพูดกับตนเองอย่างรู้สึกเสียดายว่า
ต้องไปแล้ว! คราวนี้น่าเสียดาย หากสามารถอยู่ที่นี่ได้สักเดือน ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถบรรลุอะไรบางอย่างออกมาจริงๆ ก็ได้
ทันทีที่พูดจบ เสียงดังกังวานใสราวกับมังกรคำรามก็ดังออกจากปากเขา
สระน้ำที่สงบนิ่งในตอนแรก ทันใดนั้นก็เกิดขึ้นกระเพื่อม เงาหลายร่างก็พุ่งออกมาจากตรงกลาง ตามด้วยห่าฝนแมลงกลืนทองที่สาดพุ่งมาอย่างแน่นหนา เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ก่อตัวเป็นเมฆแมลงสีทองอีกครั้ง
หานลี่ยกมือข้างหนึ่งกวักไปยังอสูรมิคาทนหนึ่งที แขนเสื้อใหญ่ข้างหนึ่งสะบัด
ทันใดนั้นอสูรน้อย ฉวี่เอ๋อร์ และร่างวิญญาณก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็วทั้งหมด พร้อมกับกรูกันมุดเข้าไปในแขนเสื้อขนาดใหญ่
แต่ทว่าเมื่อสายตาของเขากวาดมองไปยังเมฆแมลงสีทองที่อยู่กลางอากาศและน้ำในสระสีเงินอ่อนที่ยังคงเต็มล้นสระน้ำ คิ้วของเขาก็กระตุกขึ้นมาทันที พร้อมกันนั้นก็ใช้ดวงจิตขับเคลื่อนเมฆแมลง
เมฆแมลงสีทองทันใดนั้นก็ส่งเสียงอื่นขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นก็ร่อนลงไปกลางสระน้ำอีกครั้ง ชั่วพริบตาเดียวก็ดำดิ่งลงไปกลางสระจนหายลับ
ราชาแมลงที่รอคัดเลือกสิบกว่าตัวนั้น ก็อยู่ในนั้นเช่นกัน
หานลี่สีหน้านิ่งเฉย สายตาจดจ้องไปยังน้ำในสระนิ่งไม่ขยับ
เวลาเพียงชั่วหนึ่งก้านธูป ฉากอันน่าตะลึงก็ปรากฏขึ้นตามคาด!