คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 2103 หลุดรอด
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 2103 หลุดรอด
จากนั้นหานลี่ก็เอามือไพล่หลัง แล้วรออยู่กลางอากาศเงียบๆ
เพียงไม่กี่อึดใจ ไกลออกไปยังขอบฟ้าก็มีกะพริบวูบวาบ ดูเหมือนมีแสงสว่างปรากฏขึ้น
หานลี่หรี่ตาทั้งคู่ลง ไกลออกไปหลายสิบจั้ง ทั้งสองฝั่งมีกระแสคลื่น แสงสว่างสีชมพูลูกหนึ่ง และไอสีดำลูกหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกันโดยไร้สุ้มเสียง
กลางแสงสีชมพู มีเงาจำแลงต้นดอกไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งกะพริบแล้วหายไป เป่าฮวาและเฮยเอ้อร์ก็ปรากฏตัว
ไอสีดำลูกนั้นหมุนวนรอบหนึ่ง แล้วกลายเป็นชายหนุ่มในชุดสีดำหน้าตาเยือกเย็น งั้นก็คือบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยน
พวกเขาปรากฏตัวต่อหน้าหานลี่ มองด้วยสายตาคะเนโดยไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด
สักครู่หนึ่ง เป่าฮวาก็ทำสีหน้าประหลาด และหัวเราะออกมาเบาๆ
สหายออกมาช้าถึงเพียงนี้ ข้าเป็นห่วงเสียจริง แต่ตอนนี้จะหายสีหน้าดูดีเช่นนี้ คงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสระล้างวิญญาณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็วางใจ
ที่ผู้อาวุโสเป่าฮวาเป็นห่วงคงไม่ใช่ผู้น้อย แต่เป็นโอสถวิญญาณในมือผู้น้อยหรอกกระมัง หานลี่ยิ้มบาง แล้วพูดตอบอย่างสุขุม
แล้วมันจะอะไรกันเล่า หากเจ้าติดอยู่ในสระล้างวิญญาณออกมาไม่ได้จริงๆ โอสถวิญญาณก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เป่าฮวายิ้มอย่างเย้ายวน แล้วพูดตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ท่านผู้อาวุโสช่างพูดตรงเสียจริง! หานลี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มแหย
ไม่ต้องพูดจาน่าความแล้ว! เจ้าเด็กเผ่ามนุษย์ ตอนนี้ในเมื่อเจ้าออกมาแล้ว ก็มอบโอสถวิญญาณมาเสีย อาจคิดคืนคำ อย่าหาว่าข้าลงมือโดยไม่ปรานี ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำจ้องไปยังหานลี่ แล้วพูดขึ้นด้วยดวงตาทั้งคู่ที่เปล่งประกายอำมหิต
ทั้งสองท่านวางใจได้ ผู้น้อยไม่มีทางทำลายสัญญา! หานลี่ขยับมุมปากขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นก็พลิกฝ่ามือกลับ ตลับหยกสองใบก็ปรากฏออกมา เขาสะบัดข้อมือ แล้วโยนไปยังมารทั้งสองโดยไม่ลังเล
ไม่ว่าจะเป็นเป่าฮวาที่หน้าฉาบด้วยรอยยิ้ม หรือจะเป็นบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนที่สีหน้าบึ้งตึง เมื่อเห็นเช่นนั้น ก็ต่างหัวใจเต้นรัว
แทบจะโดยสัญชาตญาณ ตนหนึ่งสะบัดแขนเสื้อม้วนออก อีกตนหนึ่งใช้ฝ่ามืออันใหญ่คว้าไปกลางอากาศ
ตลับหยกเปล่งแสงวาบ แล้วค่อยๆ ร่อนสู่กลางมือทั้งสอง
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นยินดีได้อีก ถึงกับอดใจรอที่จะเปิดฝาไม่ได้ จึงใช้ดวงจิตกวาดส่องเข้าไปภายใน สักครู่หนึ่ง อารมณ์บนหน้าก็กลายเป็นความลิงโลด
ฮ่าๆ เป็นหญ้าหลอมมารของจริง! ค่าหลบอยู่ยังดินแดนทุรกันดารคอยเพาะเลี้ยงหญ้าชนิดนี้อยู่หลายหมื่นปีก็ไม่ออกผล คิดไม่ถึงว่าจะมาได้ผลผลิตสำเร็จของจริงเอาที่นี่…เอ๊ะ ไม่ใช่ ที่เจ้าเอาไว้บนนั้นคืออะไร
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนหัวเราะร่าอย่างเต็มเสียง จู่ๆ ก็ชะงักหยุดไปในทันที แล้วกลายเป็นสีหน้าแปลกใจและโกรธจัด
ในเวลานี้ เป่าฮวาเองก็ใช้ดวงจิตสำรวจหญ้าวิญญาณในตลับหยกอีกใบหนึ่งเสร็จสิ้นพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าเหือดไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า
สหายหาน นี่เจ้าหมายความว่าอะไรกัน เจ้าว่าเล่นลูกไม้ตุกติกกลับโอสถวิญญาณ จะปกปิดสายตาข้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ
ดวงตาของทั้งสองทั้งสองมองไปยังหานลี่ เต็มไปด้วยความไม่ประสงค์ดี
ผู้อาวุโสทั้งสองท่านอย่าได้เคืองโกรธ ผู้น้อยขอถามสักหน่อยว่า โอสถวิญญาณในตลับมีอะไรผิดหรือไม่ หานลี่ไม่ได้มีความรู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับถามขึ้นยังไม่ลนลาน
ฮึ โอสถวิญญาณนี้เป็นของจริง แต่อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้เล่นลูกไม้อะไร ดวงตาชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำถลึงมองยังหานลี่ ตะคอกขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
โอสถวิญญาณไม่ใช่ของปลอม แต่ข้าเองก็ต้องการคำอธิบายเช่นกัน หาไม่แล้ว เกรงว่าสหายคงไม่อาบสามารถไปจากเกาะแห่งนี้ได้
ในเมื่อของไม่ใช่ของปลอม ผู้น้อยเองก็ได้ส่งมอบพวกมันให้กับผู้อาวุโสทั้งสองกับมือ ก็ถือว่าบรรลุตามสัญญาที่ให้ไว้แต่แรกแล้ว! หานลี่พูดต่อด้วยใบหน้านิ่งเฉย
ถึงจะจริง แต่จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร! เจ้าเด็กเผ่ามนุษย์ เจ้าคงไม่คิดว่าเล่นคำสับปลับ แล้วก็จะรอดไปได้หรอกนะ! บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนหัวเราะขึ้นด้วยความโกรธ แล้วสาวเท้าเข้าไปข้างหน้าโดยพลัน ชั่วพริบตาเดียวไอดำบนร่างกายก็ม้วนออกมา จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวคละคลุ้งขึ้นมาทันที
ความว่างเปล่าที่อยู่รายรอบ ต่างส่งเสียงอื้ออึงเลือนรางขึ้นมาพร้อมกัน
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามารผู้นี้โกรธจัดขึ้นมา คิดที่จะลงมือโดยไม่พูดจาอะไร
ท่านผู้อาวุโสเข้าใจผิดแล้ว! สิ่งที่ผู้น้อยเอาไว้บนโอสถวิญญาณหาใช่อาคมจำกัดอะไรไม่ เป็นเพียงดวงจิตที่แบ่งออกมาชั่วคราวสองดวงเท่านั้น ไม่นานนะ ดวงจิตทั้งสองก็จะสลายหายไปด้วยตัวของมันเอง ไม่เป็นอันตรายต่อโอสถวิญญาณ หานลี่ส่ายมือ แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่งอย่างมาก
ดวงจิตแบ่งชั่วคราว! เจ้าหมายความว่า… เป่าฮวาเอาโอสถวิญญาณในตลับหยกมาตรวจสอบหลายรอบ ในที่สุดก็เชื่อได้ว่าคำพูดของหานลี่ไม่ใช่ความเท็จ จึงเปลี่ยนสีหน้าแล้วถามขึ้น
ผู้น้อยไม่มีประสงค์อื่นใด ผู้น้อยไม่กล้าที่จะเอาชีวิตของตน ไปเดิมพันกับโอสถวิญญาณที่ทั้งสองท่านได้รับ เพื่อที่จะได้ออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย ดังนั้นมีเพียงดวงจิตแบ่งดวงหนึ่งเกาะไว้อยู่ที่โอสถวิญญาณแต่ละต้น ขอเพียงแต่ออกไปพ้นทะเลสายฟ้าได้ โอสถวิญญาณก็จะไม่ได้รับความเสียหาย หากทั้งสองท่านคิดจะทำอะไรแผลงๆ แล้วละก็ ไม่แน่ว่าเมื่อดวงจิตแบ่งทั้งสองสัมผัสได้ ก็อาจจะระเบิดตัวเองขึ้นมา จากนั้นโอสถวิญญาณจะอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ ก็คงแล้วแต่ลิขิตสวรรค์ หานลี่ดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย พูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ
เจ้าบังอาจข่มขู่ข้า! ไม่ทันที่เป่าฮวาจะตอบอะไร หยวนเหยี่ยนกระโจนขึ้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า
มิบังอาจ ผู้น้อยเพียงแต่คิดที่จะรักษาชีวิตเท่านั้น เมื่อผู้น้อยไปจากทะเลสายฟ้า ดวงจิตแบ่งก็จะสลายไปในทันที ทั้งสองท่านอย่าได้กังวล ว่าผู้น้อยจากไปแล้วจะระเบิดดวงจิตที่แบ่งออกมาทำให้โอสถวิญญาณเสียหาย อย่างไรเสียผลร้ายหากทำเช่นนี้ ก็คงทำให้ทั้งสองท่านถูกใจอาฆาตอย่างแน่นอน และคงจะไล่ฆ่าผู้น้อยให้ถึงที่สุด ผู้น้อยคงไม่อาจทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น หานลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าคงเดิม
ฮึ หากเจ้าระเบิดดวงจิตแบ่งอันน้อยนิดของเจ้าจริง คิดว่าจะสามารถทำลายโอสถวิญญาณในตลับยกได้เชียวหรือ โอสถวิญญาณนี้คือสิ่งหายากในโลก ต่อให้อาวุธกระบี่ซัดดาบบินก็ยากที่จะทำให้เสียหายได้แม้แต่น้อย เป่าฮวาได้ฟังคำพูดของหานลี่จบ แสงประหลาดก็สว่างวาบขึ้นในดวงตาคู่งาม นางแค่นเสียงหนึ่งที แล้วพูด
จะสามารถทำลายได้จริงหรือไม่นั้น ข้าพนันว่าทั้งสองท่านคงไม่กล้าที่จะลอง หนำซ้ำแล้ว ผู้อาวุโสเป่าฮวาคิดว่าดวงจิตที่แบ่งออกมาชั่วคราวที่ข้าใส่เอาไว้ เป็นเพียงดวงจิตธรรมดาอย่างนั้นหรือ หานลี่หัวเราะเบาๆ หนึ่งที แล้วพูดขึ้นโดยมีนัยแอบแฝง
คำพูดนี้ ในที่สุดก็ทำให้เป่าฮวาและหยวนเหยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้งพร้อมกัน
ได้ ดีมาก ข้าหลายหมื่นปีมานี้ เป็นครั้งแรกที่ถูกทำให้จนมุมต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ ไสหัวไปเสีย หากหลังจากนี้เจ้ากล้าที่จะทำให้หญ้าหลอมมารสูญเสียแม้แต่นิดเดียว ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรคือตายทั้งเป็น! หานลี่รู้สึกผิดคาดอยู่บ้าง มองไปยังชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำที่ดูจะโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นสีหน้าก็กลับมาสงบดังเดิม แล้วเก็บตลับหยกในมือ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับว่าความโกรธเกรี้ยวก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
เจ้ามารเฒ่า ช่างเล่นละครเก่งเสียจริง!
หานลี่ใจเต้นกระตุก แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา เขาพยักหน้า แล้วถามเป่าฮวา
ผู้อาวุโสเป่าฮวา ข้า…
ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าก็ตกลงเช่นกัน อย่างที่เจ้าบอก ขอเพียงมีความเป็นไปได้ที่โอสถวิญญาณจะเสียหายแม้เพียงน้อยนิด ข้าก็ไม่อยากที่จะเสียง เจ้าไปได้ แต่เมื่อไปจากทะเลสายฟ้าแล้ว ดวงจิตแบ่งที่อยู่บนโอสถวิญญาณยังไม่หายไปละก็ อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมไร้ความปรานีแล้วกัน เป่าฮวานิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วพยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ขอบคุณทั้งสองท่าน เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อน หานลี่หรี่ตาทั้งคู่ แล้วกำหมัดคำนับ จากนั้นก็กระทืบเท้า กลายร่างเป็นโค้งรุ้งสีน้ำเงินแหวกผ่าอากาศจากไป
เพียงส่องกะพริบไม่กี่ครั้ง แสงสว่างก็หายลับไปที่ขอบฟ้า
ชั่วพริบตาเดียว ณ ที่แห่งนั้นก็เหลือเพียงมารสามตนเท่านั้น
ใต้เท้าเป่าฮวา จะให้ข้าน้อยตามไปหรือไม่ เฮยเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเป่าฮวามาโดยตลอดตั้งแต่แรก อดไม่ได้ที่จะก้าวขึ้นมา แล้วถามไปยังหญิงสาวในชุดสีขาวอย่างระมัดระวัง
ไม่ต้อง คนผู้นี้มีอีกหรือแรงกล้า แทบจะไม่ได้ไปกว่าข้าและสหายหยวนเหยี่ยน เพียงแค่เคล็ดวิชาอำพรางกายของเจ้าแค่นี้ คงติดสายตาเขาไม่ได้เป็นอันขาด เป่าฮวาส่ายหน้า พูดน้ำเสียงเรียบ
อย่างไรกันหรือ เจ้าขี้ขลาดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน! ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำได้ยิน ก็กลอกตาพูดขึ้น
สหายหยวนเหยี่ยนมีความกล้าไม่น้อย หากกล้าตามไป ข้าน้อยก็จะนับถือมากขึ้นอีกหมื่นเท่า หญิงสาวในชุดสีขาวเหลือบตามองบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนปราดหนึ่ง แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ฮึ คนรับใช้ที่เป็นกำลังที่สุดของข้าไม่อยู่ข้างกาย หาไม่แล้ว จะปล่อยเจ้าเด็กเผ่ามนุษย์ผู้นี้จากไปแต่โดยง่ายได้อย่างไร ชายหนุ่มในชุดสีดำหน้าบึ้ง กัดฟันพูดขึ้น
เจ้าคงหมายถึงเต้าอิ่งซาสินะ หากนางอยู่ที่นี่จริง เจ้าคงกล้าที่จะลองเสี่ยงสินะ เป่าฮวาดวงตาเป็นประกาย บนใบหน้าฉายแววเย้ยหยัน
เจ้าพูดถูก ข้าอย่างไรก็กลัวเจ้านั่นลงมือ หญ้าหลอมวิญญาณสำคัญต่อข้ายิ่งนัก ข้าคงยอมให้มีอันตรายไม่ได้ ใบหน้าของชายหนุ่มในชุดดำกระตุกแล้วยิ้มแห้ง
ข้าก็เช่นกัน คนผู้นี้เห็นจุดอ่อนของข้าและเจ้า จึงทำให้ข้าแล้วเจ้าจนมุมเช่นนี้ เป่าฮวาตอบ
ปล่อยให้เจ้าเด็กแซ่หานหนีไปได้ไม่เป็นไร แต่ดวงจิตที่เขาเหลือทิ้งไว้บนโอสถวิญญาณ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกกระมัง ชายหนุ่มในชุดดำพยักหน้า ทันใดนั้นก็พูดขึ้นด้วยความกังวลสงสัย
เจ้าเห็นอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ เป่าฮวากะพริบตาแล้วถามกลับ
มันก็ไม่มีอะไร เห็นอะไรเข้า ยอมไม่มีทางให้เจ้าเด็กนั่นจะไปเช่นนี้ หยวนเหยี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับด้วยความสัตย์
ข้าเองก็ไม่ต่างกัน ไม่เห็นว่าดวงจิตแบ่งที่อยู่บนโอสถวิญญาณดวงนี้ จะมีอะไรพิเศษอันใด ด้วยสายตาของเจ้ายังมองไม่เห็นปัญหาใดๆ คิดแล้วคงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน พวกเราอีกสักครู่ก็ไปกันเถอะ! เป่าฮวาถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นช้าๆ
หากเจ้าชายอิทธิฤทธิ์ แล้วขจัดดวงจิตแบ่งที่อยู่บนโอสถวิญญาณ มีโอกาสเป็นไปได้สักเท่าไร หยวนเหยี่ยนยังดูเหมือนไม่พอใจ เขาถามขึ้นในทันที
พลังอาคมของข้ายังไม่ฟื้นฟู หากเป็นดวงจิตทั่วไป ก็เป็นไปได้สักหกส่วนที่จะสำเร็จก่อนมันจะระเบิด เป่าฮวาไม่ได้รู้สึกผิดพลาด นางตอบกลับเสียงเบา
หกส่วน น้อยเสียจริง ข้ากลับมั่นใจถึงแปดส่วน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงอยู่ดี หยวนเหยี่ยนขยับสีหน้า แล้วพูดขึ้นอย่างสุดวิสัย
เป่าฮวาหัวเราะเบาๆ สองสามที กำลังคิดที่จะพูดอะไรสักอย่าง ทันใดนั้นเสียงอันชราแหบพร่าเสียงหนึ่งก็ดังอื้ออึงขึ้นในหูมารทั้งสองตนพร้อมกัน
ฮึ ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็ให้ข้าจัดการแทนแล้วกัน โอสถวิญญาณอย่างอื่นบนตัวเท่าเด็กคนนี้ ข้าก็ขอรับไว้โดยไม่เกรงใจแล้วกัน
เสียงนี้มัน…
นิพพาน เจ้าเฒ่านิพพานนั้นมาถึงแล้ว
เป่าฮวาและบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนทันทีที่ได้ยิน ก็หลุดปากพูดออกมาด้วยความตกตะลึงพร้อมกัน