คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 2142 ผู้มาเยือนที่เหนือความคาดหมาย
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 2142 ผู้มาเยือนที่เหนือความคาดหมาย
ข้างในอากาศว่างเปล่า ทันใดนั้นจุดแสงสีฟ้านับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มันรวมตัวกัน บริเวณรอบๆ ใกล้เคียงหานลี่และนักพรตปูก็เกิดการรวมตัวกันของร่างเงาวาวใสที่เหมือนกับทั้งแปดร่างก่อนหน้านี้ขึ้นมา ในความอัดแน่นนั้น มีมากกว่าร้อยร่างแบบนี้
เป็นไปไม่ได้!
หานลี่ที่เห็นดังนี้ เกิดความตกตะลึงร้องดังขึ้นในใจย่างเงียบๆ
ถ้าหากว่าร่างเงาที่โผล่ขึ้นมาใหม่พวกนี้ มีพลังเหมือนกับแปดร่างก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ นั่นหมายความว่าตนเองนั้นต้องเผชิญหน้ากับศัตรูในระดับจอมมารเกือบร้อยตนเลยทีเดียว
แม้ว่าหยวนชาจะเป็นถึงเผ่ามารศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่มีอำนาจท้าทายสวรรค์เช่นนี้อย่างแน่นอน
หลังจากที่หานลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ คราบเลือดที่อยู่ระหว่างหน้าผากร่างวานรยักษ์แตกแยกออก กลุ่มอากาศสีดำก็ทะลักออกมาจากข้างใน ดวงตาคู่หนึ่งก็พลันเปลี่ยนเป็นดวงตาปีศาจสีดำสนิทขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์ เป็นเนตรอาคมสูญสลายนี่เอง!
เพียงแค่นัยน์ตาดำขลับของสายตาปีศาจเคลื่อนไหวเล็กน้อยเท่านั้น ฉับพลันสายตาอันน่าสะพรึงกลัวก็กระพริบหันไปรอบร่างเงารอบทั้งสี่ทิศ ขณะเดียวก็กวาดสายตามองไปพร้อม
เป็นเช่นนี้จริงๆ
เสียงคำรามดังลั่นออกมาจากปากของวานรยักษ์ ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็คว้าไปยังอากาศว่างเปล่าด้านหน้า
ช่องว่างมีการผันผวนเกิดขึ้น จากนั้นครึ่งหนึ่งของแขนก็เลือนราง และจมหายเข้าไปในความว่างเปล่ามองไม่เห็นแล้ว
ในขณะเดียวกันนั้น ก่อนที่ร่างเงาใสหนึ่งร่างที่เพิ่งจะรวมตัวกันเสร็จและออกมา แสงสีทองพลันประกายขึ้น มือใหญ่ขนปุกปุยก็ยื่นออกมาจากความว่างเปล่า และจับมันไปอย่างเร็วราวกับสายฟ้าทั้งห้า
เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นแล้ว!
ใบหน้าเดิมที่ไร้ความรู้สึกของร่างเงาใส ฉับพลันบนใบหน้าก็ปรากฏสีหน้าตื่นตระหนกออกมาให้เห็น ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างก็ไขว้ไปด้านหน้าตัวพร้อมกัน แสงสีฟ้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น เกิดการรวมตัวกันเป็นโล่น้ำแข็งสีฟ้าอ่อนขึ้น หมุนลอยอยู่ต่อหน้า จากนั้นก็ได้กระทืบเท้าอีกครั้งทันที ทั้งร่างก็พุ่งไปด้านหลังอย่างรุนแรงราวกับลูกธนู
ร่างเงาใสร่างนี้ไม่เหมือนกันกับแปดร่างเงาก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ไม่กล้าเข้าใกล้ลิงยักษ์ในการจับกุมครั้งนี้เหมือนเดิม
หานลี่ในร่างลิงยักษ์ฉับพลันเปล่งเสียงร้องตะโกนออกมา ดังสะท้านหึ่งไปทั่วทั้งความว่างเปล่าใกล้เคียง อีกด้านหนึ่งมือใหญ่ขนสีทองพลันเปลี่ยนเป็นมือที่แข็งแกร่งไม่มีใครทำลายได้ หลังจากที่ทั้งห้านิ้วนั้นได้กางออก ก็คว้าไปที่ไปที่โล่น้ำแข็งสีฟ้าอ่อนและทุบทำลายจนแตกละเอียด
หลังจากแขนที่ดังอู้อี้ขึ้น ไม่นานก็พุ่งสูงขึ้นตัดไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ร่างเงาใสนั้นก็หนีเตลิดไปข้างหลัง หลังรู้สึกว่ามือใหญ่ขนสีทองนั้นเลือนราง ฉับพลันหน้าอกก็ร้อนขึ้นมา เจ็บปวดรุนแรงราวกับฉีกขาดแผ่ซ่านเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณ เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาก็ดังออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ใบหน้าเดิมที่เหมือนกับหยวนชาราวกับแกะในพริบตาหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดหูแหลมเหมือนลิงเหมือนเทพเจ้าสายฟ้าลุ่ยกง ก้มหัวลงอย่างยากลำบาก ที่มองไปที่มือใหญ่ขนสีทองก็ทะลุผ่านด้านหน้าอกไปในทันที
ปัง เสียงดังขึ้น!
เปลวไฟสีเงินหมุนกลิ้งเหนือฝ่ามือสีทอง เพียงครู่หนึ่งก็พาพวกปีศาจเข้าไปข้างใน
หลังจากที่พวกปีศาจร้องโอดครวญด้วยเสียงอันน่าเวทนาอยู่หลายครั้ง ก็พลันหยุดลงอย่างกะทันหัน
ในตอนนี้ ขณะที่มือใหญ่ขนสีทองสั่นไหว พวกมันก็หายไปในชั่วพริบตา
วานรยักษ์ขนสีทอง ค่อยๆ ยื่นแขนออกไปรับมันกลับคืนมา
เกือบจะในเวลาเดียวกันที่พวกปีศาจนั้นได้ถูกฆ่าตาย ร่างเงาใสร่างอื่นๆ ก็ล้วนแต่ระเบิดแตกกระจายร่วงลงมาในอากาศเองทั้งสิ้น กลายเป็นแสงสีฟ้าเล็กๆ และ หายไปในอากาศ
หยวนชาที่อยู่ด้านล่างที่ได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ สีหน้าในตอนแรกก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
ปีศาจผลึกใสพวกนั้นเป็นสัตว์ดุร้ายคล้ายกับผลึกซึ่งเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ไม่เพียงแต่สามารถขับพลังแห่งความหนาวเย็นได้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอิทธิฤทธิ์สวรรค์ประทานที่เก่งกาจสามารถแยกร่างได้เป็นร้อยพันร่าง ในสถานการณ์ปกติ ขอเพียงแค่ให้ไม่ให้คู่ต่อสู้แยกร่างที่แท้จริงออกได้ อาศัยวิธีการแยกร่างหลายร่าง ก็สามารถกวาดล้างคู่ต่อสู้บรรพชนศักดิ์สิทธิ์ได้เกือบจะทั้งหมด
และก็ไม่รู้ว่าหยวนชาอาศัยเจ้าสัตว์ร้ายนี้ฆ่าทำลายศัตรูที่แข่งแกร่งไปมากเท่าไรแล้ว แต่ว่าตอนนี้เพิ่งใช้เวลาปลดปล่อยไม่กี่ลมหายใจ ก็ถูกหานลี่มองทะลุไปถึงจุดอ่อน และทำการฆ่าสังหารได้อย่างง่ายได้
สิ่งนี้เกินความคาดหมายของหยวนชาไปมาก เดิมทีเกียรติที่มีเพียงอยู่เล็กน้อยนั้น ก็ถูกเหยียดหยามหายไปแล้วกว่าครึ่ง
แต่ว่าแก่นหัวใจมารสัตว์ร้ายคล้ายผลึกใสนี้ได้ถูกฝึกฝนการรวมจิตวิญญาณเดิมของตัวเองไปก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเนื้อหนังมังสาจะหายไปแล้ว แต่เพียงแค่กลับไปใช้การฝึกวิชาลับสักพักหนึ่ง สัตว์ร้ายนี้ก็ยังคงสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้
ดังนั้นถึงแม้ว่าในใจของหยวนชาจะเกิดความระแวงมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้แสดงความขุ่นเคืองออกมามากนัก
ที่จริงแล้วเรื่องมันก็เป็นเช่นนี้เอง มิน่าล่ะเมื่อครู่นี้ถึงได้หายใจเฮือกใหญ่ แต่ว่าท่านคิดว่าจะพึ่งอิทธิฤทธิ์นี้ต่อสู่กับบรรพชนศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ นั้นมันคือความผิดครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว ข้าไม่รู้ว่าท่านเคยพบบรรพชนศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ในเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนหรือไม่ มีความหวาดกลัวและข้อจำกัดอะไรหรือไม่ ทว่าในตอนนี้ ที่นี่ ด้วยกำลังและความสามารถทั้งหมด ท่านไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่หยวนชาได้เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาออกมาไม่กี่ประโยค มือหนึ่งข้างก็ทำท่าสวดเต้าหยินใช้หัวแม่มือจับที่ข้อนิ้ว แสงสีฟ้าประกายขึ้นทางด้านหลัง และทันใดนั้นลำแสงสีฟ้าพลันก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าไป
ในเวลาต่อมา ภาพมายาของหมาป่ายักษ์ตัวหนึ่งที่สูงกว่าสิบจั้ง ก็ปรากฏออกมากลางอากาศเหนือตำหนักหลังใหญ่ แสงสีฟ้าสลัวทั่วทั้งร่าง ดวงตาทั้งสองข้างมีเปลวไฟสีม่วงกลิ้งอยู่
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวที่ทำให้ผู้คนเกือบจะหายใจไม่ออก แผ่ซ่านออกมาจากภาพมายาหมาป่ายักษ์ ฉับพลันก็กระจายเต็มไปทั่วทั้งท้องฟ้า เข้ามาใกล้หานลี่และคนอื่นๆ
หานลี่ในร่างของลิงยักษ์ที่ถูกต้อนรับด้วยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามา ร่างกายสั่นสะท้าน ตึงตึง ถอยหลังกลับไปเพียงไม่กี่ก้าว
ถึงแม้ว่าหานลี่จะอยู่ในระดับผสานอินทรีย์ที่ไม่อาจมีศัตรูใดสามารถสู้ได้ แต่ถ้าเผชิญหน้ากับความกดดันจากคนที่อยู่ในระดับมหายานอย่างเต็มกำลังจริงๆ ก็จำเป็นที่จะต้องล่าถอยไป
นักพรตปูที่อยู่อีกด้านหนึ่ง สีหน้ายังคงนิ่งไม่เปลี่ยน ทันใดนั้นแขนเสื้อข้างหนึ่งก็สะบัดไปด้านหน้า ม่านแสงสีทองชั้นหนึ่งก็ปรากฏประกายขึ้นมาให้เห็น บดบังร่างของทั้งเขาและจูกั่วเอ๋อร์ที่อยู่อีกด้าน
กลิ่นอายความน่ากลัวก็มาประชิดนักพรตปู ม่านแสงสีทองข้างหน้าก็กระพริบเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
จูกั่วเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ก็ดูจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
นี่ก็คือแก่นมารที่แท้จริงของหยวนชา น่ากลัวมากจริงๆ! พี่ปู ตอนนี้พลังยุทธ์ของท่านกลับคืนมาเท่าใดแล้ว สามารถออกฝีมือได้เต็มกำลังไหม? หานลี่มองไปหมาป่ายักษ์ตัวสีฟ้าที่อยู่ไกลออกไป ร่างวานรยักษ์รู้สึกหวาดกลัวแวบขึ้นมาเล็กน้อย หันหน้าไปทางนักพรตปู พร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
ตอนนี้ข้ายังเหลือระดับอีกบางส่วน ถึงจะสามารถกลับคืนสู่ระดับมหายานเหมือนเดิม ลำพังพลังของข้าคนเดียวนั้นคงไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ นักพรตปูตอบกลับไปอย่างไร้ความรู้สึก
ไม่ใช่แค่พี่ปูคนเดียว ยังมีหานลี่คนนี้อยู่ ครั้งนี้ ถ้าเราไม่ขับไล่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนชาคนนี้ นางไม่ปล่อยพวกเราจากไปง่ายๆ แน่นอน สหายเต๋าเราแค่แสดงฝีมือกันอย่างสุดความสามารถแค่นี้ก็ได้แล้ว ลิงยักษ์เสียงหึ่งๆ เอ่ยขึ้น
หากร่วมมือกันแล้วล่ะก็ ยังอาจมีโอกาสที่จะเอาชนะได้ หลังจากที่สายตาของนัพรตปูกระพริบเล็กน้อย ในที่สุดก็พยักหน้าตอบกลับ
หานลี่ที่ได้ยินดังนั้นก็สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ร่างวานรยักษ์ใช้มือทั้งสองข้างทุบลงกลางหน้าอกอย่างไม่ลังเลทันที ทันใดนั้นก็มีกลุ่มแสงหลากสีจำนวนมากลอยออกมาจากร่าง หลังจากที่ลอยวนอยู่พักหนึ่ง พลันก็แยกออกจากกันและกลายเป็นมังกรสวรรค์ หงส์หยก วิหคสวรรค์และวิญญาณอาคมที่แท้จริงอื่นๆ จำนวนมาก
และในตอนนี้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ร่างทองที่อยู่ด้านข้าง ก็โผเข้าใส่บนร่างวานรยักษ์และจมหายไปในนั้น
และในเวลาต่อมา ร่างวานรยักษ์ขนสีทองก็ขยายขึ้นไปกว่าสิบเท่า กลายเป็นเนินเขาขนาดใหญ่ราวกับยักษ์ ในขณะเดียวกันหลังจากที่สีทองบนผิวกายสลัวลง เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการกลายร่างในลักษณะที่มีสามหัวหกแขน
นักพรตปูก้าวเท้ายาวตรงไปข้างหน้า ท่ามกลางแสงสีทองขนาดใหญ่ ก็ปรากฏร่างของปูยักษ์สีทองใหญ่ราวกับภูเขายักษ์ เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ประกายไฟสีเงินนับไม่ถ้วนก็ยิงออกไป ผสานรวมกันเป็นตาข่ายสายฟ้าขนาดใหญ่ ปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง
หลังจากที่หยวนชามองเห็นการกลายร่างของวานรยักษ์และปูยักษ์สีทอง รูม่านตาหดลงเล็กน้อย ไม่พูดมากความฝ่ามือก็พลิกขึ้น ทันใดนั้นค้อนสีขาวขุ่นหนึ่งด้ามก็ปรากฏออกมา
ยาวประมาณสามจั้ง รูปลักษณะภายนอกประดับด้วยลวดลายสีทองดุจดวงตากระจายอัดแน่นไป ทั่ว ซึ่งมีมากกว่าร้อย
ข้อมือของหยวนชาสั่นเล็กน้อย ไม่นานค้อนเล็กทั้งด้ามก็ส่องแสงขึ้นมา และดวงตานับร้อยก็เบิกขึ้นพร้อมกัน เผยให้เห็นนัยน์ตาสีทองอ่อน ที่ค่อยเคลื่อนไหว
ทำให้คนที่ได้มองนั้น รู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้!
หยวนชาพ่นลมใส่หานลี่อย่างเยือกเย็น ค้อนเล็กในมือขยับ และโยนออกไปยังอากาศว่างเปล่าทันที
เสียงสะเทือนดังลั่น เงาของค้อนขนาดใหญ่สีขาวขุ่นปรากฏออกมาจากชั้นอากาศสูง และตกกระแทกลงอย่างแรง
เสียงพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงระเบิดออกมาจากเงาของค้อน
ดวงตาของหานลี่เป็นประกาย เผยให้เห็นสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา
ตำแหน่งที่เงาค้อนสีขาวขุ่นนั้นโจมตี ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาและปูยักษ์สีเหลืองทองอยู่ แต่กลับเป็นภูเขาขนาดเล็กอีกด้านหนึ่งที่ไม่ได้สะดุดตานัก
เนื่องจากอนุภาพความน่าสะพรึงกลัวของเงาค้อนยักษ์นี้ ถ้าหากเกิดการกระทบจริงๆ ไม่ว่าภูเขาจะไกลออกไปหลายร้อยจั้งก็กลัวว่าอาจจะกลายเป็นผุยผงได้ภายในพริบตา
ในขณะนั้นเอง ฉับพลันก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมาเบาๆ จากบนยอดเขา
สหายหยวน สมกับที่เป็นบรรพชนมารศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะค้นพบผู้เฒ่าเร็วถึงเพียงนี้!
ทันทีที่สิ้นเสียงลง สายรุ้งสีเงินก็ม้วนขึ้นมาเหนือยอดเขา หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วพริบตา ก็กระทบลงตรงบนเงาค้อน
เสียงดังสนั่นของแผ่นดินไหวภูเขาสั่นสะเทือน!
แสงสีเงินและแสงสีขาวประสานรวมกันภายในชั่วพริบตา กลายเป็นกลุ่มลูกแสงขนาดมหึมากลุ่มหนึ่ง และในระหว่างที่มันกำลังพองตัวหดตัวอยู่นั้นก็เกิดการระเบิดแตกออก ระลอกคลื่นที่รุนแรงก็พลันกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่พัดออกไปทุกทั่วสารทิศ
บริเวณโดยรอบยอดเขาและป่าทึบ ในระลอกคลื่นก็ทยอยกลายเป็นผุยผงจนครบถ้วน ทำให้พื้นดินบริเวณใกล้เคียงกลายเป็นพื้นดินราบเรียบอย่างไร้ที่เปรียบ
และในที่สุดเมื่อพายุไต้ฝุ่นได้สลายไป บนท้องฟ้าเหนือยอดเขาก็เหลือเพียงแค่ร่างเงาสองร่างที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน
หานลี่ตกอยู่ในความตกใจ รีบรวมสายตาหันไปมอง จิตใจก็พลันสั่นไหวขึ้นมาในทันที
ร่างเงาสองร่างนั่นเป็นหญิงหนึ่งชายหนึ่ง ชายนั้นอยู่ในชุดคลุมสีเงิน ผมดำตรงยาวมาถึงกลางระหว่างเอว ใบหน้าราวกับพรหมจารี และบนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ
ส่วนหญิงนั้นรูปร่างอรชร ผิวขาวราวกับหิมะ ผมเส้นเล็กเหยียดตรงยาวมาถึงกลางหลัง แสงสีเงินสว่างไสว ราวกับว่าทำมาจากเงินบริสุทธิ์ ใบหน้าปรากฏความงดงามออกมาอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าบริสุทธิ์งดงามและละเอียดอ่อน!
ทันทีที่หญิงสาวปรากฏตัวออกมา ใช้ดวงตาคู่สวยสีเขียวอ่อน จ้องมองหานลี่ที่อยู่ในร่างวานรยักษ์อย่างลึกซึ้ง สีหน้าก็แสดงออกถึงความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
หยวนชาครั้งแรกที่หมองเห็นชายผู้นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ใบหน้าเยือกเย็นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
อ่าวเสี่ยว เจ้านี่คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าแอบเข้ามาที่นี่คนเดียว เจ้าไม่กลัวว่าจะตกลงมาที่นี่จริงๆ เหรอ?
ชายผู้นั้นเป็นเผ่าปีศาจเพียงผู้เดียวที่อยู่ในระดับมหายานที่ยังคงเหลืออยู่ ปรมาจารย์อ่าวเสี่ยวผู้นั้นเดิมคืออิ๋นเย่ว์เผ่าหมาป่า!
เขาเป็นถึงปรมาจารย์ระดับมหายานของเผ่าปีศาจ เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะมาปรากฏตัวในอาณาเขตเผ่าพฤกษาแห่งนี้
ส่วนหญิงผมสีเงินที่อยู่ข้างเขานั้น แท้จริงก็คืออิ๋นเย่ว์ที่หลังจากหานลี่ได้ลาจากเขาคุนอู๋ในแดนมนุษย์ปีนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย และ ‘เทพธิดาหลิงหลง’ จากแดนวิญญาณผู้นั้น
ทันทีที่หานลี่ได้พบกับอิ๋นเย่ว์ก็พลันชะงักนิ่ง แต่ไม่ทันไรก็ดีใจจนแทบบ้าขึ้นมา ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามสิ่งใด ปรมาจารย์อ่าวเสี่ยวก็หัวเราะก่อนจะเอ่ยปาก
หยวนชา ถ้าหากเจ้ามีความสามารถเก็บคนแก่อย่างข้าไว้ได้จริงๆ แล้วล่ะก็ ผู้เฒ่าจะไม่มาปรากฏ ณ ที่แห่งนี้อีก แต่ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ ผู้เฒ่ามีสหายเต๋าเพิ่มมาอีกสองคนแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้ายังมีโอกาสที่จะชนะมากน้อยเพียงใด ไม่ต้องรอให้ถึงเวลาที่จะเก็บผู้เฒ่าไว้ล่ะ กลับเป็นตัวเจ้าจะทนไม่ได้เสียเอง