คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 2374 พลังภูตอันน่าสะพรึงกลัว
- Home
- คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
- ตอนที่ 2374 พลังภูตอันน่าสะพรึงกลัว
เพียงลมหายใจเดียวก็กลืนกินกำปั้นลูกบอลลำแสงทั้งหมดลงไป ราชาซยงซือยังคงเอ่ยท่องบางอย่าง อ้าปากกว้างขึ้น แล้วพ่นเอาเลือดสีเขียวมรกตออกมา จากนั้นก็หายเข้าไปในใบหน้าของภูตเพียงพริบตา
ทันใดนั้นใบหน้าภูตเหนือแผ่นโล่นั้นส่งเสียงเรอดังออกมา ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นมา และหลังจากที่กะพริบตาขึ้นไม่กี่ครั้ง ก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตยักษ์ราวกับเนินเขาพุ่งกัดอย่างแรงไปยังที่หานลี่
ท้องฟ้ามืดครึ้ม!
ใบหน้าภูตนั้นดูเหมือนว่าจะกัดลงไปธรรมดาๆ แต่กลับให้ความรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่ากลืนกินภูเขาเข้าไปทั้งลูก
“กลืนกินสวรรค์และโลก”
สีหน้าของวานรสามหัวหกแขนเปลี่ยนไป แล้วส่งเสียงใช้อิทธิฤทธิ์ร่ายคาถาออกมายังใบหน้าภูต แต่ในทันใดนั้นก็ส่งเสียงคำรามต่ำออกมา มือทั้งหกยกขึ้นมาพร้อมกัน อักษรรูนสีทองหลั่งไหลออกมาแล้วกลายเป็นลูกบอลลำแสงสีทองพุ่งออกมา
ลูกบอลสีทองทั้งหกเมื่อเคลื่อนไหวก็ปรากฏตรงปากของใบหน้าภูตนั้น พริบตาเดียวก็พุ่งตรงไปยังที่แห่งนั้น
เสียง “ปัง” ดังอู้อี้ออกมา!
ลูกบอลสีทองทั้งหกระเบิดออกมาพร้อมกัน อักษรรูนนับไม่ถ้วนม้วนตัวออกมากลายเป็นกระแสน้ำวนสีทอง
กระแสน้ำวนนี้เพียงแค่หมุนวนไปมา แล้วกลายเป็นขนาดใหญ่นับไร่ ด้านในนั้นมีเสียงภาษาสันสกฤตดังลอยออกมา อักขระสีทองนับไม่ถ้วนปะทุออกมาจากตรงกลางนั้น
เสียง “ปัง” ดังออกมา
เพียงแค่ครู่เดียวปากใหญ่ยักษ์ของใบหน้าภูตก็กัดลงไปยังกระแสน้ำวนสีทอง ทั้งสองฝ่ายระเบิดแสงออกมา ทันใดนั้นพลังสองอย่างที่แตกต่างกันก็ปะทุออกมา กลายเป็นลำแสงสีทองดำก่อตัวอยู่บนใบหน้าภูตและกระแสน้ำวนอย่างบ้าคลั่ง
ราชาซยงซือเมื่อเห็นสถานการณ์นี้เข้า ใบหน้าเผยท่าทีเคร่งขรึมออกมา แต่จู่ๆ เขาก็ก้าวออกมา ทั่วทั้งกายคนก็สั่นไหวหายลับออกไปจากตรงจุดเดิม
วินาทีถัดมา กลางอากาศเหนือวานรยักษ์เกิดระลอกคลื่นขึ้น ฝ่าเท้าสีดำสนิทขนาดยักษ์ก้าวออกมาพร้อมกลับลำแสงโลหิตจากกลางอากาศ
ดวงตาทั้งหกของวานรยักษ์หรี่เล็กลง มือข้างหนึ่งขยับขึ้น ไม่พูดพล่ามทำเพลงก็พุ่งขึ้นสู่เหนืออากาศสูง
ตะวันสีทองกลุ่มหนึ่งระเบิดเปิดออกมา
หลังจากที่เท้าขนาดยักษ์สีดำชงักงันลงแล้ว ก็ถูกพลังของแสงตะวันสีทองทำให้ตื่นตกใจขึ้นมา
แต่ในวินาทีถัดมา ระลอกคลื่นกลางอากาศที่สูงกว่านั้น ราชาซยงซือก็ปรากฏกายขนาดใหญ่ยักษ์นับพันจั้งออกมา ส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันลงมายังเบื้องล่าง ในตอนที่แขนทั้งสองข้างเคลื่อนไหวออกมาพร้อมกันนั้น ก็พุ่งออกไปคว้ายังกลุ่มก้อนเมฆดำมืดสองก้อนอย่างแรง
เปลวเพลิงสีโลหิตท่ามกลางเมฆดำสาดกระเซ็นออกมา แล้วมีกลิ่นเหม็นลอยคละคลุ้งออกมา
“ดี”
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามได้แปลงกลายเป็นร่างขนาดใหญ่ยักษ์แล้ว ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ก็พุ่งตรงเข้าโจมตีทันที หานลี่ที่แปลงกายเป็นวานรขนาดใหญ่ยักษ์นอกจากจะไม่ตื่นตกใจแล้วกลับส่งเสียงร้องยินดีออกมา มือข้างหนึ่งบริกรรมคาถาออกมา กายก็ขยายใหญ่ขึ้นนับร้อยจั้งเช่นกัน พร้อมทั้งผิวกายปรากฏลวดลายสีเงินน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนออกมา แขนทั้งหกเปล่งลำแสงดาบออกมาในทันที เคียว กระบอง ค้อน อาวุธทางทหารสีทองต่างๆ เพียงพริบตาเดียวก็ปรากฏออกมาหลังจากที่เขาโบกสะบัดมือ แล้วกลายเป็นกลุ่มพายุสีทองทั้งหกพุ่งโจมตีออกไปยังกลางอากาศสูง
เสียงคำรามดังสนั่นลอยขึ้นทั่วทั้งท้องฟ้า
หลังจากที่กายของวานรยักษ์สั่นไหวขึ้นแล้ว อาวุธทางทหารสีทองทั้งหกถูกทำลายลงจนแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ แล้วถอยกลับด้านหลังสองก้าวโดยที่ไม่เต็มใจนัก
ส่วนราชาซยงซือที่แปลงร่างขนาดใหญ่ยักษ์หลังจากที่เมฆดำสลายลงแล้ว ก็เผยร่างเงาที่แขนทั้งสองข้างได้กลายเป็นหมอกโลหิต ราวกับว่าจะดูอเนจอนาถยิ่งกว่าวานรยักษ์ยิ่งนัก
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้แล้ว ราชาซยงซือดูเหมือนว่าจะยิ่งได้รับการกระตุ้นจากความดุร้ายในใจเขา ไม่ได้ถอยหลังออกมาแต่กลับก้าวไปข้างหน้าอย่างดุร้าย
“ฟั่บ” ดังออกมา เส้นสีดำนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาบนขาเล็กๆ ตามมาด้วยระเบิดออกจนกลายเป็นกลุ่มก้อนไอพลังสีดำ แล้วกลิ้งออกมาจนกลายเป็นมังกรสีดำยาวนับสิบจั้ง พุ่งจู่โจมออกไปอย่างดุร้าย
ขณะเดียวราชาซยงซือเองไหล่สั่นไหวขึ้น อ้าปากกว้างขึ้น
ชั่วพริบตาเดียว หนามแหลมคมบนเกราะบนตัวมันก็พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง และหลังจากที่พร่ามัวแล้วก็กลายเป็นกรวยแหลมสีโลหิตส่งเสียง “ซี่ซี่” ออกมา
ส่วนร่างกายใหญ่ยักษ์กลับอ้าปากออกมา พ่นเอาเมฆสีแดงโลหิตแปลกประหลาดออกมา
ท่ามกลางเมฆหมอกสีแดงโลหิตส่งเสียงดังหึ่งๆ ออกมา จู่ๆ ก็มีแมลงสีดำหนาขนาดเท่ากับหัวแม่มือนับไม่ถ้วนออกมาจากในนั้น
แต่ละตัวต่างก็มีขนาดสั้นยาวเท่ากับตะเกียบ ผิวกายมีกระดองสีดำปกคลุมอยู่ ด้านหลังเป็นปีกคู่สีแดง ปากแหลมคมราวกับกรรไกร แต่ละตัวเคลื่อนไหวรวดเร็วราวสายฟ้า ทั้งฝูงบินโฉบลงมา
วานรยักษ์เมื่อเห็นสถานการณ์นี้เข้า ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างยินดี แขนทั้งหกยกขึ้นสู่กลางอากาศสูงพร้อมกัน
เสียงฟ้าร้องดังขึ้น ประจุสายฟ้าสีทองหนาหกสายหมุนวนออกมาจากแขนของเขา เสียงดังกึกก้องลอยออกมา แล้วกลายเป็นงูเหลือมสีทองหกตัวออกมา ล้อมรอบมังกรสีดำที่โจมตีออกมาไว้ตรงกลาง
งูเหลือมหกและมังกรหนึ่งกัดกันอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลานี้ กรวยสีแดงโลหิตแหลมคมพุ่งตรงไปยังพื้นที่ใกล้ด้านหน้าของวานรยักษ์
สีหน้าของวานรยักษ์ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย หัวทั้งสามทำเพียงแค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพ่นออกไปยังกลางอากาศสูง
เพียงชั่วลมกรรโชกแรง สายลมสีฟ้าสามสายพัดออกมา และหลังจากที่พัดขึ้นสู่กลางอากาศแล้ว ก็พัดเอากรวยแหลมคมนั้นสีแดงโลหิตเหล่านั้นกระจายออกไปรอบๆ เพียงชั่วครู่ก็ไม่รู้ว่าพัดไปที่ใดเสียแล้ว
ฝูงแมลงด้านหลังเมื่อเผชิญหน้ากับสายลมสีฟ้าแล้วกลับเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เสียงหึ่งๆ ดังขึ้นในทันที จากนั้นก็พากันกระจายออกไปกลายเป็นเคียวหมุนวนออกไปแล้วลอยโจมตีเข้ามาจากทางทิศทางอื่น
วานรยักษ์ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจต่อเหตุการณ์ตรงหน้านี้ จนกระทั่งเสียงหึ่งๆ ของฝูงแมลงนี้อยู่ห่างออกไปไม่กี่จั้งแล้ว ผิวกายเกิดเสียง “ตึ้ง” ดังออกมา เปลวเพลิงสีเงินปรากฏออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็แผ่ออกไปทั่วทุกทิศ แล้วห่อหุ้มเอาแมลงที่บินวนอยู่เข้าสู่กลางทะเลเพลิง เพียงแค่ครู่เดียวก็พากันกลายเป็นฝุ่นเถ้าลอยกระจัดกระจายออกไป
แต่ในเวลานี้นั้น ไอพลังสีดำด้านหลังกายของวานรยักษ์ปรากฏออกมา กรงเล็บภูตบางก็โผล่ออกมาจากด้านในนั้น หลังจากที่สำรวจเงียบเชียบอย่างรวดเร็วแล้ว และดูเหมือนว่าจะทะลุผ่านลำแสงวิญญาณที่ปกป้องกายอย่างเปลวเพลิงสีเงินไปโดยไม่ใส่ใจ เพียงแค่ครั้งเดียวก็คว้าหมับเข้าด้านหลังของวานรยักษ์ในทันที
เสียงดัง “ปัง” อึกทึกออกมา
ลวดลายสีเงินสว่างวาบขึ้นมาด้านหลังของวานรยักษ์ กรงเล็บภูตคว้าลงบนนั้นได้อย่างพอดิบพอดี
ดูเหมือนว่ากรงเล็บภูตบางนี้จะมีพลังมหาศาล พลังขนาดมหาศาลพุ่งออกมา แล้วคว้าเอากายขนาดใหญ่ของวานรยักษ์เดินโซเซไปยังด้านหน้า
แต่ลวดลายสีเงินเพียงแค่กะพริบวาบออกมา ยังคงติดอยู่ด้านหลังของวานรยักษ์ ไม่พบร่องรอยของความเสียหายแม้แต่น้อย
และในขณะที่กายของวานรยักษ์กำลังจะล้มลงนั้น ก็พลิกฝ่ามือออกไปโดยที่ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา
ใบมีดส่องแสงสีทองประกายออกมา ไอพลังสีดำที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแยกออกเป็นสองส่วนจากตรงกลาง เผยให้เห็นสัตว์ประหลาดสูงราวสามฉือที่ดูเหมือนไม่เชิงว่าจะเป็นลิงอยู่ในนั้น
บนหัวของสัตว์ประหลาดนี้มีเขาข้างหนึ่งอยู่ ดวงตาทั้งสองข้างขาวโพลนไร้รูม่านตา ตั้งแต่หน้าผากลงมาด้านล่างมีร่องรอยคราบเลือดจางๆ อยู่ ไหลปะทุออกมาจากด้านในนั้น
สัตว์ประหลาดนี้ถูกใบมีดผ่าครึ่งจนกลายเป็นสองส่วน
แต่วานรยักษ์ที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ไม่คิดที่จะหยุดโจมตีเพียงแค่นี้ และเมื่อแขนทั้งห้าเคลื่อนไหวออกมาเหมือนกัน ขณะนั้นประจุสายฟ้าสีทองนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงปึงปังพุ่งออกมาอีกครั้ง กลายเป็นตาข่ายไหมสีทองปกคลุมไปยังด้านหลัง
เสียง “ปัง” ดังออกมา กายทั้งสองส่วนของสัตว์ประหลาดกลายเป็นไอพลังสีดำทยานพุ่งออกไปสองข้างทาง เพียงพริบตาเดียวก็ทะลุผ่านตาข่ายสีทองไป ราวกับว่าไม่นับสายฟ้าวิเศษในมือนั้นเป็นอะไร
คราวนี้ แม้แต่หานลี่เองก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ มือที่เคลื่อนไหวของวานรยักษ์นั้นชะงักงันโดยไม่รู้ตัว
อาศัยช่วงโอกาสนี้ ไอพลังสีดำทั้งสองด้านก็พากันพุ่งสู่ท้องฟ้า และหลังจากที่กลิ้งไปหลอมหลวมกันแล้ว ก็แปลงกายเป็นสัตว์ประหลาดที่เหมือนไม่เชิงว่าจะเป็นลิงออกมาอีกครั้ง
สัตว์ประหลาดนี้มองมายังหานลี่ด้วยสายตาเย็นชา กะพริบวาบออกมา แล้วเคลื่อนไหวไปปรากฏอยู่ข้างกายใหญ่ยักษ์ ส่งเสียงปึงปังแล้วระเบิดออกมา กลายเป็นไอพลังสีดำเข้าสู่จมูกของกายยักษ์นั้นอีกครั้ง
แขนทั้งสองข้างของกายยักษ์ที่หายในตอนต้นนั้น ถูกไปพลังสีดำที่กลิ้งออกมากลายเป็นแขนคู่ใหม่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนอีกครั้ง
“ปราณก่อกำเนิดที่สอง ไม่ ควรจะเรียกว่าปราณวิญญาณที่สองถึงจะถูก”
ดวงตาของวานรยักษ์เกิดลำแสงเย็นเยียบแวบผ่าน ส่งเสียงหึ่งๆ แล้วเอ่ยออกมา
“เจ้าช่างมีความรู้ที่ไม่ธรรมดาเสียจริง ถึงกับมองเพียงครู่ก็รู้ถึงที่มาของพวกมันได้ทันที ปราณวิญญาณดวงที่สองของข้านั้นใช้ซากของสัตว์อสูรโบราณหลอมรวมมา ไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวได้อย่างเงียบเชียบแล้ว พลังที่แม้แต่ข้าเองยังเอาชนะได้เพียงแค่สามส่วนเท่านั้น ลวดลายด้านหลังของเจ้านั้นคืออะไรกันแน่ ถึงกับสามารถป้องกันพลังการโจมตีจากมันได้ ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาลับของสมบัติล้ำค่าธรรมดาๆ คงไม่อาจทำอันตรายกายเนื้อของเจ้าได้แม้แต่น้อย คงจะไม่ใช่อิทธิฤทธิ์จากแดนเบื้องล่างสินะ” ราชาซยงซือเขย่าแขนคู่ใหม่ทั้งสองไปมา ในตอนแรกที่ตกตะลึงอยู่เล็กน้อย แต่ในทันใดนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ใช่หรือไม่ไช่ เจ้าลองดูด้วยตาของตัวเองก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” หลังจากที่วานรยักษ์สูดลมหายใจเข้าแล้ว เผยท่าทีไม่ใส่ใจออกมา
ในเวลานี้ กลางอากาศสูงเห็นเสียงฟ้าร้องดังออกมา งูเหลือมอัสนีสีทองทั้งหกบินวนไปรอบๆ แล้วก็ฉีกมังกรดำออกเป็นชิ้นๆ
ส่วนปากใหญ่ยักษ์ของใบหน้าภูตนั้นและกระแสน้ำวนสีทองจนถึงตอนนี้นั้นยังคงส่งเสียงดังปึงปังออกมา
อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็สลายหายไป
ราชาซยงซือเงยหน้าขึ้นมองไปยังม่านลำแสงสองชั้นบนฟ้าแล้ว จู่ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะเฮ่อเฮ่อเอ่ยออกมา
“ในเมื่อเจ้ามีเคล็ดวิชาลับเช่นนี้คอยปกป้องกายอยู่ คาดว่าวิธีการธรรมดาทั่วไปคงจะไม่อาจทำอะไรเจ้าได้ เฮ่อเฮ่อดูเมือนว่าหากเปิ่นหวังไม่ใช้อิทธิฤทธิ์ของข้าเองคงจะไม่ได้เสียแล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงลง ปากของกายยักษ์ส่งเสียงร้องคร่ำครวญดังออกมา
กลุ่มต่อสู้อีกกลุ่มหนึ่งนั้น ปีศาจภูตทั้งห้าที่กำลังพ่นเอาอัสนีเพลิงสีดำออกมาและราชาแมลงกลืนทองต่อสู้กันจนยากจะแยกแยะได้ว่าเสียงร้องโหยหวนนั้นเป็นของฝ่ายใด แล้วจู่ๆ อีกฝ่ายก็หนีห่างจากคู่ต่อสู้ไป กลายเป็นลูกบอลกระดูกสีทองทั้งห้าพุ่งเข้าสู่ราชาซยงซือ หลังจากนั้นเพียงพริบตา ก็หายเข้าสู่กายยักษ์ไม่เห็นแม้เงา
ตรงลำคอของกายยักษ์เกิดลำแสงสีทองประกายวาบขึ้นมา หัวกะโหลกทั้งห้าปรากฏออกมาอย่างน่าประหลาดใจ ปากทั้งห้าอ้าออกส่งเสียงที่เหมือนจะไพเราะหรือแหบแห้งออกมา ต่างก็ส่งเสียงบริกรรมคาถาแตกต่างกันไปออกมา
เมื่อเสียงบริกรรมคาถายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ฉากอันน่าตื่นตกใจผู้คนก็ปรากฏขึ้น
ร่างของกายยักษ์เต็มไปด้วยเปลวเพลิงโลหิต ตรงผิวหนังมีลวดลายวิญญาณนับไม่ถ้วนโผล่ขึ้น หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ก็กลายเป็นก้ำปั้นใหญ่กว่าใบหน้าภูตนับพันเท่า
ใบหน้าภูตเหล่านี้แต่ละใบดูเหมือนจริง ดวงตาทั้งคู่ปิดแน่น บ้างก็กรุ่นโกรธบ้างก็เผยความยินดีแตกต่างกันออกไป ปกคลุมไปทั่วทุกกระเบียดนิ้วของกายใหญ่ยักษ์
ราชาซยงซือที่แปลงกายเป็นกายยักษ์ยื่นมือข้างหนึ่งบริกรรมออกมา ปากก็หัวเราะเสียงต่ำออกมา ใบหน้าภูตทั้งหมดบนกายเขาต่างก็ทยอยกันเปิดเผยออกมา
ลำแสงสีทองสว่างวาบขึ้น!
ดาบลำแสงสีทองราวกับว่าเซียนบินออกมาจากสรวงสวรรค์พุ่งตรงออกมาจากกลางอากาศบริเวณใกล้เคียง แล้วล้อมรอบศีรษะของกายยักษ์เอาไว้ราวกับสายฟ้า แล้วสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้งไปปรากฏยังกลางอากาศไกลออกไปนับสิบจั้ง
เมื่อลำแสงดาบมาบรรจบกัน ร่างกายคนตัวเล็กสีทองสูงเพียงแค่หนึ่งฉือกว่าๆ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์เผยให้เห็นออกมา
เสียง “ตึงตึง” ดังขึ้น หัวของกายยักษ์ก็กลิ้งหลุดออกมาจากคอ
คนตัวเล็กกายสีทองเมื่อเห็นเช่นนี้ ไหล่สั่นไหวขึ้นส่งเสียงดัง “ซี่ซี่” ออกมา ในเวลานี้พลังดาบที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากกายของเขา มุ่งตรงไปยังกายยักษ์ที่ไม่มีหัวแล้วจากทั่วทุกทิศทาง ราวกับว่าต้องการจะบดให้เป็นเนื้อสับในทันที