CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality - ตอนที่ 2402 ผู้แข็งแกร่งตะเภาเกราะ

  1. Home
  2. คัมภีร์วิถีเซียน A Record of a Mortal’s Journey to Immortality
  3. ตอนที่ 2402 ผู้แข็งแกร่งตะเภาเกราะ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
Click to Hide Advanced Floating Content

Kingdom66

Brazil999
“ไม่มีอันใด แค่เจ้าพวกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงไล่ตามมา” หม่าเหลียงเอ่ยอย่างราบเรียบ
“คาดไม่ถึงว่าจะมีเจ้าโง่ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มอบให้ข้าน้อยจัดการเถิด” หยางลู่เอ่ยอย่างนอบน้อม
“ผู้มามีพลังยุทธ์ไม่อ่อนแอ เจ้าน่าจะเอาชนะได้ไม่ง่ายนัก” หม่าเหลียงกลับสั่นศีรษะขณะตอบกลับ
“คาดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะมีพละกำลังขนาดนี้ หรือว่าเป็นคนของเผ่าตะเภาเกราะ นั่นพอดีเลย” หยางลู่ได้ยินคำนี้ก็พลันตกตะลึง แต่ทันใดนั้นก็นึกอันใดขึ้นมาได้ จึงเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
“อ่อ เจ้ารู้ว่าผู้ที่ตามมาด้านหลังคือใครแล้วหรือ?” หม่าเหลียงมองหยางลู่แวบหนึ่ง ท่าทางสนอกสนใจ
“หากข้าน้อยเดาไม่ผิดล่ะก็ คนผู้นั้นน่าจะเป็นผู้อาวุโสอันดับหนึ่งของเผ่าตะเภาเกราะที่มีชื่อเสียง ว่ากันว่าพละกำลังแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าจิตวิญญาณเที่ยงแท้อย่างพวกเรา ชื่อเสียงของเขาจัดอยู่ในหนึ่งในห้าอันดับต้นๆ ของแดนวิญญาณ” หยางลู่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“ห้าอันดับต้น? มิน่าล่ะถึงได้กล้าไล่ตามมาลำพัง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เตรียมรับมือให้ดีเถิด เอาวิญญาณของเขามาหลอมเป็นวิญญาณหลักของหยกโลหิตหมื่นวิญญาณ” หม่าเหลียงหัวเราะอย่างเย็นชา
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ตราประทับสีโลหิตขนาดสองสามชุ่นพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกลายเป็นลำแสงสีโลหิตจมหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย
หยางลู่ที่อยู่ด้านข้างเห็นตราประทับโลหิตก็อดที่จะหน้าเปลี่ยนสีเล็กๆ ไม่ได้
ความร้ายกาจของสมบัติชิ้นนี้ ก่อนหน้านี้ที่เขาร่วมมือจิตวิญญาณเที่ยงแท้อื่นๆ อีกสองตนสู่กับหม่า
เหลียง ก็เรียนรู้อย่างลึกซึ้งแล้ว
หากไม่ใช่เพราะทั้งสามร่วมมือกันแล้วไม่อาจต้านทานความน่ากลัวของตราประทับนี้ได้ จะถูกบีบให้ใช้โซ่ตรวจทำร้ายตัวเองได้อย่างไร
ในยามที่หยางลู่กำลังรู้สึกหวาดกลัวนั้น ท้องฟ้าด้านหลังก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น รถเหาะกระดูกสีขาวความยาวสิบกว่าจั้งปรากฏขึ้นพร้อมกับประจุไฟฟ้าสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากกะพริบวาบๆ สองสามครั้ง ก็ส่งเสียงร้องแล้วปรากฏตัวห่างออกไปร้อยจั้งเศษ เสียงหวีดดังขึ้นแล้วหยุดลงกลางอากาศ
ด้านหน้ารถเหาะกระดูกสีขาวมีชายชราเผ่าตะเภาเกราะร่างกายผอมบางคนหนึ่ง
ชายชรามีเรือนผมสีเทาขาว ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีเขียวมรกต สามง่ามทั้งสองอยู่บนแขนทั้งสองข้าง สวมกำไลกระดูกขนาดน้อยใหญ่สิบกว่าวง หัวไหล่ทั้งสองข้างมีธงกระดูกสูงสองสามฉื่อลอยล้อเล่นกับสายลมอยู่ บนธงมีลำแสงสีเทาๆ แต่แฝงไว้ด้วยเงาภูตผีจำนวนนับไม่ถ้วนลางๆ และมีเสียงกรีดร้องของภูตผีดังลอยมาเป็นระยะๆ
“จิตวิญญาณเที่ยงแท้?”
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะบนรถเหาะกระดูกขาว กวาดสายตาไปยังผู้ที่อยู่ตรงข้ามสองคน ทันใดนั้นรูม่านตาก็หดเล็กลงแล้วหยุดลงที่เรือนร่างของหยางลู่ และร้องออกมาด้วยความตกตะลึง
“อ่อ นายท่านมีสายตาเฉียบแหลมยิ่ง คาดไม่ถึงว่าจะรู้ประวัติความเป็นมาของข้า” หยางลู่เห็นเช่นนี้ก็ประหลาดใจ แต่พลันตอบกลับด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
“ในเมื่อสหายคือจิตวิญญาณเที่ยงแท้ เหตุใดถึงทำการสังหารในเขตต้องห้ามของเผ่าข้า แม้กระทั่งทำร้ายเขตอาคมส่งตัวข้ามแดนของเผ่าเรา” ชายชราเผ่าตะเภาเกราะมีสีหน้าบัดเดี๋ยวเคร่งขรึมบัดเดี๋ยวสดใสอยู่ชั่วครู่ ถึงได้เอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายลง
“ไม่มีอันใด แค่เผ่าของเจ้าไม่มีตา คาดไม่ถึงว่าจะกล้าล่วงเกินนายท่านของข้าน้อย จึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาชดใช้ด้วยความตาย” หยางลู่ตอบกลับอย่างราบเรียบ
“นายท่าน?”
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะพลันตกตะลึง หลังจากเลื่อนสายตาไป ชั่วขณะนั้นก็กลับไปที่เรือนร่างของหม่าเหลียง
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะผู้นี้สวมชุดคลุมสีดำ หลังจากกวาดสายตาไปบนใบหน้าที่ซีดขาวเล็กน้อย ในหัวก็มีลำแสงสว่างวาบ ชั่วขณะนั้นก็นึกถึงข่าวที่เพิ่งได้รับมาไม่นาน ชั่วขณะนั้นใจพลันเต้นตึกตัก แต่ใบหน้ากลับไม่เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเลยสักนิด กลับเผยรอยยิ้มขณะตอบกลับ
“ที่แท้ชนรุ่นหลังในเผ่าก็ล่วงเกินทั้งสองท่าน ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าน้อยก็ขอประทานอภัยกับทั้งสองท่าน เรื่องนี้ก็ถือว่าช่างมันเถิด ข้าน้อยยังมีธุระ คงไม่รั้งอยู่นาน ขอตัวก่อน”
สิ้นเสียงชายชราเผ่าตะเภาเกราะผู้นี้ก็แตะเท้าเบาๆ ชั่วขณะนั้นรถกระดูกใต้เรือนร่างก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ประจุไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นแล้วถอยร่นไปด้านหลัง
“หึๆ ในเมื่อมาแล้วเช่นนั้นก็อย่าไปเลย” หยางลู่กลับหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม สาวเท้ามาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งก็ตะปบไปกลางอากาศ นิ้วทั้งห้ามีขวานยักษ์สีดำปรากฏขึ้น และสะบัดไปตรงหน้าอย่างแรง
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น
ใบมีดลำแสงสีดำเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นบนขวานสีดำ แล้วกลายเป็นระลอกคลื่นสีดำม้วนวนไปทางรถกระดูก
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะบนรถกระดูกเห็นสถานการณ์เช่นนั้นพลันมีสีหน้าเคร่งขรึม แขนข้างหนึ่งแค่พลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นวงแหวนกระดูกก็พุ่งออกมา และส่งเสียงหึ่งๆ ขยายใหญ่จนมีขนาดสองสามหมู่ ผิวมีอักขระยันต์สีเทาขาวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปปะทะกับใบมีดลำแสงสีดำ
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น
กำไลกระดูกหดเล็กลงแล้วดีดกลับมา ใบมีดลำแสงสีเทาถูกโจมตีจนแหลกสลายออก
แต่รถเหาะกระดูกสีขาวที่ถอยร่นไปอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด เปล่งแสงสว่างวาบแล้วอยู่ห่างออกไปพันจั้งเศษ
ยามที่ชายชราเผ่าตะเภาเกราะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ จิตใจก็ผ่อนคลายลงคิดจะกระตุ้นรถเหาะเต็มอัตราหันหัวหนีสุดชีวิต กลางอากาศมีเสียงอึกทึกดังขึ้น หยกสีโลหิตขนาดเท่าภูเขาปรากฏขึ้นและร่อนลงมาอย่างช้าๆ
ตราประทับนี้ดูเหมือนจะร่อนลงมาอย่างแช่มช้า แต่หลังจากเลือนรางก็ปรากฏขึ้นเหนือรถเหาะกระดูกสีขาวอย่างเงียบเชียบ ในเวลาเดียวกัน ระลอกคลื่นกฎเกณฑ์กลุ่มหนึ่งก็ม้วนวนมาก่อน
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะพลันใจหายวาบ ไหล่ทั้งสองรีบพลิ้วไหว ธงกระดูกสีขาวสองด้ามบินออกมา หลังจากขยายใหญ่ขึ้น ก็มีความยาวสิบจั้งเศษ ด้านในมีเสียงภูตผีร้องโหยหวน หน้าผีนับร้อยพันหน้าพุ่งออกมาทันที ทุกตนมีเขี้ยวยื่นออกมา เรือนกายมีกลิ่นอายที่น่าตกตะลึง พละกำลังน่ากลัวระดับผสานอินทรีย์
กำไลกระดูกสิบกว่าวงพุ่งออกมาจากแขนทั้งสองของชายชราพร้อมกัน และส่งเสียงร้องประหลาดๆ พลางหดเล็กลงไม่หยุด แยกออกทุบลงไปเงาลวงตาตราประทับโลหิตด้วยอานุภาพที่แตกต่างกัน
เสียงอึกทึกดังมาทันที
วงแหวนกระดูกสิบกว่าวงสัมผัสกับเงาลวงตาตราประทับ แล้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ภูตผีนับร้อยตัวถูกระลอกคลื่นแห่งกฎเกณฑ์ของตราประทับหยกโลหิตม้วนวนเข้าไป แล้วทยอยกันเปล่งแสงสว่างวาบสลายหายไป
เงาลวงตาตราประทับหยกโลหิตยังคงกดลงมาอย่างแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะเห็นเช่นนี้พลันหน้าเปลี่ยนสี มือหนึ่งร่ายอาคมอย่างไม่ต้องขบคิด ชั่วครู่พลังปราณมหาศาลก็ทะลักเข้ามาในรถเหาะใต้เรือนร่าง
ชั่วขณะนั้นผิวของรถเหาะกระดูกสีขาวก็มีสีเงินเปล่งแสงสว่างวาบแล้วเลือนราง คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นมังกรกระดูกห้ากรงเล็บที่มีประจุไฟฟ้ารายล้อมอยู่ ชูคอร้องคำรามด้วยความโกรธเกี้ยว เปล่งแสงสว่างวาบแล้วเคลื่อนย้ายไปจากที่เดิม
หม่าเหลียงที่อยู่ไกลออกไปเห็นสถานการณ์เช่นนี้กลับร้องหึ มือหนึ่งแค่ร่ายอาคม นิ้วชี้ไปที่ตราประทับโลหิต
เงาลวงตาตราประทับพลันพลิ้วไหว ผิวมีอักขระสีโลหิตเปล่งแสงสว่างวาบ
ในเวลาเดียวกันมังกรกระดูกด้านล่างก็มีเสียง “ปังๆ” ดังขึ้น หนวดสีแดงโลหิตสองสามสายดีดออกมาจากกลางอากาศ และรัดร่างมังกรกระดูกเอาไว้ราวกับโซ่ตรวน
เรือนร่างของมังกรกระดูกมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น แยกเขี้ยวตะปบเล็กสุดชีวิต แต่กลับไม่อาจหลุดพ้นจากหนวดได้เลยสักนิด
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะที่ยืนอยู่บนหัวของมังกรกระดูกพลันรู้สึกเย็นยะเยือก แต่ทันใดนั้นก็ร้องตะโกนต่ำๆ อ้าปากออกพ่นโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสองสามครั้งแล้วกลายเป็นหมอกโลหิตพ่นไปที่เรือนร่างของมังกรกระดูก
ชั่วขณะนั้นเหนือมังกรกระดูกพลันมีเสียงมังกรคำรามดังขึ้น ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นโดยมีประจุไฟฟ้าห่อหุ้มอยู่ ยามนั้นพลันสะบัดหัวสะบัดหางขยายใหญ่จนมีขนาดพันจั้งเศษ คาดไม่ถึงว่าจะใช้ร่างกายใหญ่โตทลายหนวดโลหิตออก
แต่สิ่งที่ทำให้ชายชรามีจิตใจหนักอึ้งพลันปรากฏขึ้น
หนวดโลหิตสิบกว่าสายขยายใหญ่ขึ้นตามตัวมังกรกระดูกไม่หยุดเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าจะพันรัดร่างกายของมังกรกระดูกราวกับแมลงเกาะกระดูก และสุดท้ายก็เปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นบ่อโลหิตกักมังกรกระดูกเอาไว้ข้างใน
ชายชราเผ่าตะเภาเกราะมีสีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง จิตสัมผัสกวาดไปยังพลังแห่งกฎเกณฑ์ที่แฝงอยู่ในตราประทับเล็กน้อย สีหน้าอดที่จะเผยความหวาดกลัวออกมาไม่ได้
“เยี่ยมๆ ดูแล้วตาเฒ่าไม่อยู่คงไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็ให้ตาเฒ่าเรียนรู้เคล็ดวิชาลับแดนเซียนของนายท่านเถิด” ชายชราเผ่าตะเภาเกราะตัดสินใจ จากนั้นพลันกัดฟันมือหนึ่งตบไปที่หน้าผาก หน้าผากเปล่งแสงสว่างวาบแล้วเปิดออกโดยอัตโนมัติ
เสียงสวดมนต์ภาษาสันสกฤตดังขึ้นที่หัวของเขา คนตัวเล็กที่ใบหน้าเหมือนกับชายชราพลันบินออกมา
คนตัวเล็กและชายชรานั้นไม่เหมือนกัน สวมชุดเกราะสีทองเรืองรอง มือหนึ่งถือทวนยาวสีแดงสด มือหนึ่งกุมระฆังกระดูกสีขาวเอาไว้ แต่ด้านหลังศีรษะกลับมีใบหน้าภูตผีที่หน้ากลัวอีกหน้าหนึ่ง
ส่วนคนตัวเล็กนั้นเมื่อบินออกมาร่างกายก็บิดพลิ้ว เลือนรางกลายเป็นเงาลวงตาคนตัวเล็กที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วสิบกว่าเงา
เงาลวงตาเหล่านี้ฉีกยิ้มชูทวนยาวสีแดงสดในมือขึ้นพร้อมกัน ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีแดงสดสิบกว่าสายพลันทะลักออกมา หลังจากรวมตัวกันที่ตรงกลาง กลับกลายเป็นงูเหลือมเพลิงตัวหนึ่งที่มีสิบกว่าหัว
หัวทั้งหมดของอสูรยักษ์ชูขึ้นแล้วส่งเสียงร้องซือๆ กระโจนไปหาเงาลวงตาตราประทับยักษ์กลางอากาศ
ในเวลาเดียวกันเงาลวงตาคนตัวเล็กก็โยนระฆังกระดูกสีขาวในมือออกไป ขยายใหญ่ขึ้นกลางอากาศจนมีขนาดสองสามจั้ง และพลิ้วไหว เรียงรายกลางอากาศทันทีจนเกิดเป็นเสียงระฆังดัง “เกร๊งๆ”
…
“น่าสนใจ คิดไม่ถึงว่าแผ่นดินใหญ่เฟิงหยวนจะมีคนที่คิดว่าลงมือก่อนได้เปรียบ และเรียกผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมาร่วมมือกันต่อกรกับข้า พันธมิตรเฮ่อเหลียนซาง ดูเหมือนผู้แข็งแกร่งของแผ่นดินใหญ่สวรรค์โลหิตที่ถูกข้าไล่สังหารจนกลายเป็นวิญญาณจะเป็นคนในพันธมิตรนี้ ในเมื่อคนในพันธมิตรนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เช่นนั้นข้าก็จะทำลายพันธมิตรของเจ้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หม่าเหลียงกางนิ้วทั้งห้า ซากศพของชายชราเผ่าตะเภาเกราะที่อยู่ในมือร่วงลงมาจากท้องฟ้า ในเวลาเดียวกันนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“พันธมิตรเฮ่อเหลียนซาง? พันธมิตรนี้มีพละกำลังไม่อ่อนแอ แม้กระทั่งพละกำลังไม่ด้อยไปกว่าเผ่าเขาแมลง นายท่านต้องระวังหน่อย” หยางลู่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างนอบน้อม
เมื่อเห็นว่าเซียนผู้นี้จัดการผู้แข็งแกร่งที่พละกำลังไม่ด้อยไปกว่าตนเองได้อย่างง่ายดาย เทพเซียนผู้นี้ก็ไม่กล้ามีใจอื่นอีก
“ยิ่งพละกำลังของพันธมิตรนี้แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมาะสมกับการเชือดไก่ให้ลิงดู มิเช่นนั้นรอจนพวกเขาเรียกผู้แข็งแกร่งของแผ่นดินนี้มา แม้ว่าข้าจะไม่หวาดกลัว แต่ก็ไม่อยากล่าช้าเพราะเรื่องนี้ แต่ก่อนจะลงมือข้าต้องใช้เคล็ดวิชาลับตรวจสอบสักหน่อย เป้าหมายของข้าในครั้งนี้ไม่ใช่แผ่นดินใหญ่นี้” หม่าเหลียงครุ่นคิดแล้วเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ " ตอนที่ 2402 ผู้แข็งแกร่งตะเภาเกราะ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์