คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 145 ความจริงที่รับไม่ได้
พิงกี้ที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียงได้แต่แอบกลืน น้าลาย เปิดปากก็พูดคําพูดที่ติดความสัมพันธ์
“คือว่า ขอบคุณมากค่ะ สําหรับความช่วย เหลือเมื่อคืนนี้
ส่วนสองครั้งเมื่อเช้านี้ก็ถือซะว่าฉันคืนหนี้ ให้คุณละกัน เอ่อ…เท่านี้แหละค่ะ ฉัน ฉันขอตัว กลับก่อน…”
แต่แล้ว เธอก็ไม่กล้าพอที่จะชิ่งหนีไป แต่ คำพูดของเควินกลับทำให้ขาที่กำลังก้าวเดิน มองเธอหยุดลง
“ณรงค์กรยังอยู่ในมือของฉัน เธอไม่อยาก จะเจอเขาหน่อยเหรอ”
เมื่อเห็นท่าทีของพิงกี้ที่ยังคงไม่หันกลับมา ก็ยิ่งใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ
“เธอไม่สงสัยว่าทำไมเขาถึงลงมือทำร้าย เธอหรือไง รวมถึงตัวตนและประวัติที่แท้จริง เป็นยังไง?”
“เพราะอะไร?”
ครั้งนี้ พิงกี้ยอมหันกลับมา ความเขินอายที่ อยู่บนใบหน้าก็หายไปด้วย
แต่กลับมีแต่ความรู้สึกโกรธที่ออกมาจาก สายตาของดวงตาคู่กลมสวย
“ประวัติของเขาเป็นยังไง?” เธอถาม ขึ้นอีกครั้ง “ใช่การทำงานเกี่ยวกับวิศวกรรม ชีวภาพหรือเปล่า”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” เควินมองมาทางพิง กี้อย่างเหนื่อยใจ
ดูเหมือนว่าเขากำลังสงสัยว่าทำไมเธอถึง ถามคำถามนี้ขึ้นมาได้
เควินลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาจับมือเธออย่าง
เป็นธรรมชาติ
“ฉันจะพาเธอไปหาเขาแล้วเรื่องทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง”
พิงกี้เม้มริมฝีปากแน่น
สถานที่ในการพบกับณรงค์กรในครั้งนี้ คือ ที่ LK crystal วิลล่า ของเควิน
วิลล่านี้เป็นการออกแบบที่พิงกี้เองก็ชอบ อย่างมาก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ล้วนเป็นเหมือน บ้านในฝันของเธอ
นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอได้เข้ามา แต่ยังคง หลงเสน่ห์สไตล์และความคลาสสิกของที่นี่อยู่ดี
เควินที่มองเธอการกระทำและท่าทางของ เธอที่แสดงออกมา สายตาที่เป็นประกายของ
เธอ
ทำให้เขาถึงกับยิ้มออกมาน้อยๆ
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเขาต้องนำตัวของ ณรงค์กรมาไว้ที่นี่
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องเล็กจึงผลักให้ เปิดออก แต่ในห้องที่ยังคงมีดอยู่จึงทำการกด เปิดสวิตช์ไฟ
ทันใดนั้นก็ทำให้เห็นใบหน้าอันซีดเซียว ของณรงค์กรที่อยู่เบื้องหน้า
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาไม่ได้รับการ ดูแลต้อนรับที่ดี
ในห้องเล็กๆที่กระจัดกระจาย มือของเขา ถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ แสงไฟสีขาวที่สาดส่องลง มา
ทำให้ใบหน้าของเขายิ่งซีดมากขึ้น เห็นถึง รอยช้ำฟ้าอ่อนๆที่บริเวณใต้ตา
เคราที่เริ่มขึ้นทำให้ความอ่อนโยนและ ความสง่างามของดูลดลงไปมาก
เมื่อเห็นว่าพิงกี้กำลังเดินเข้า สีหน้าของเขา ก็ยิ่งดูแย่มากขึ้น และพยายามก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตา
“ทำไมต้องทําแบบนี้กับฉัน ความจริงแล้ว นายเป็นใครกันแน่” พิงกี้ไม่พูดอะไรมากมาย
เพียงแค่ถามคำถามที่เธออยากรู้ไปตรงๆ
เท่านั้น
หลังจากที่เควินถามเธอว่าสงสัยในตัวตน ของเขามั้ย จึงทำให้เธอรู้ว่าประวัติของณรงค์ กรนั้นจะต้องมีปัญหาแน่ๆ
“ไม่ใช่ว่าเธอรู้แล้วเหรอ” ณรงค์กรยิ้ม
อย่างขมขื่น
“ฉันรู้อะไร ฉันจะไปรู้อะไรจากที่ไหน?” พิงกี้ได้แต่ถามกลับอย่างสับสน
“มันไม่ใช่ว่าถูกแพร่กระจายไปทั่วบนเว็บ อินเทอร์เน็ตแล้วเหรอ?”
เว็บอินเทอร์เน็ต ?
.….….” พิง หันหน้ากลับมามองที่เควิน
ใบหน้าที่เงียบขรึมของเขากลับไม่มีความ แปลกใจใดๆ
ดวงตาที่เฉียบคมเหมือนเหยี่ยวของเขายัง คงเงียบสงบเหมือนทะเลอันกว้างใหญ่ในเวลา กลางคืน
แล้วพูดขึ้นอย่างปกติ “เรื่องบน
อินเทอร์เน็ตฉันจัดการไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เธอ เลยไม่รู้
แทนที่เธอจะมัวแต่ไปดูข่าวบนอินเทอร์เน็ต ทำไมไม่ฟังคำตอบที่ถูกต้องจากปากของเขา เองล่ะ”
ที่พูดมาก็ถูก
พิงกี้จึงหันกลับไปมองณรงค์กรต่อ “ไม่ใช่ ว่านายทํางานด้านวิศวกรรมชีวภาพเหรอ?”“อะไรคือจุดประสงค์ของนายที่ต้องเข้าหา
ฉัน?”
“ใช่ลิสาที่ส่งนายให้คอยมาสอดส่องอยู่ ข้างๆฉันใช่มั้ย?”
“นายให้แม่ตัวเองเข้าโรงพยาบาล ก็เพื่อที่ จะตีสนิทกับยายของฉัน ให้ยายมาจับคู่พวกเรา สองคนใช่มั้ย”
“ที่นายลงมือวางยาใส่ฉัน เป็นเพราะลิสาบ อกให้นายทําใช่มั้ย
เมื่อถามไปเป็นชุด ณรงค์กรกลับไม่ตอบ สักอย่าง พิงกี้เองก็หมดอารมณ์ที่จะถามต่อจึง เริ่มสงบลง
แต่ยิ่งทำให้รู้สึกโกรธ สุดท้ายจึงตะโกน ออกมา “ณรงค์กร ฉันเชื่อใจนายมากขนาดนี้
ขนาดตอนอาบนํ้ายังให้นายรออยู่ในห้อง แต่นายกลับทำกับฉันแบบนี้ เธอเสนออะไรให้ นายเหรอ
แม้แต่จิตใต้สำนึกสักนิดก็ไม่มี
ตอนอาบน้ำ ให้ไอ้ณรงค์กรนี่อยู่ในห้องงั้น
เหรอ?
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้เควินเองก็ลืม นึกถึงเรื่องนี้ไปเลย ในสายตาและภายในใจ ของเขามีแต่พิงกี้
คิดแต่เรื่องเดียวว่าอยากจะอยู่กับเธอไป จนแก่เถ้า แต่ตอนนี้กลับหรี่ตาจ้องเขม็งไปยัง ณรงค์กรที่เสื่อมทรามนี้
กลับคิดได้ในทันทีว่าการที่มัดไว้ที่นี่ดู เหมือนจะง่ายเกินไป!
“ฉันไม่ใช่คนที่ดี เป็นแค่คนหนึ่งที่ใช้ ร่างกายตัวเองเพื่อการแสดงบทบาทเล็กๆ
หลังจากที่เงียบไปนาน ในที่สุดณรงค์กร
พูดขึ้น
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เหนื่อยล้าของเขา จ้องไปยังพิงกี้ “ฉันขอโทษที่ทําให้เธอต้องเจ็บ
และยังเป็นการทำร้ายที่ถูกวางแผนไว้ล่วง หน้า แต่…ฉันเองก็ไม่มีทางเลือก ต้องขอโทษ จริงๆ”
การขอโทษแบบนี้ พิงกี้เองก็ไม่สามารถ ยอมรับได้
ในเมื่อณรงค์กรยอมที่จะเปิดปากพูดแล้ว เธอจึงเริ่มถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้อีกครั้ง
เมื่อถามคำถามสุดท้ายเสร็จ พิงกี้กลับรู้สึก เหนื่อยเป็นอย่างมาก ทั้งทางกายและจิตใจ
“ถามเสร็จแล้วก็ขึ้นไปกันเถอะ” เควินพูด
เสนอขึ้น
“ค่ะ” พิงกี้พยักหน้ารับ
ก่อนจะเดินไป เธอไม่แม้แต่จะเหลียวมา มองณรงค์กรสักนิด กลับหันเดินไปอย่างเต็ด
ขาด
พิงกี้ที่นั่งอยู่บนโซฟา ในมือยังถือน้ำผลไม้ คั้นสดไว้หนึ่งแก้ว พลางคิดทบทวนกับคำตอบที่ ณรงค์กรพูดมา
ณรงค์กรเป็นชายขายบริการ หรือว่าอยู่ใน แวดวงของคนที่มีชื่อเสียงที่โด่งดัง
แต่ก็ไม่ใช่คนที่คอยปรนนิบัติต่อผู้หญิง ร่ำรวยที่ต้องการปลดปล่อยทางร่างกาย
แต่กลับเป็นผู้ชายที่รับทำบางงานที่เน้น
เฉพาะเจาะจง
เพราะตรงจุดนี้แหละ ที่ทำให้พิงกี้เองรับไม่
ได้
ดังนั้น หลายวันมานี้ เธอกับชายขายบริการ ก็ได้มาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และจากความ สัมพันธ์ที่ดีนี้
เธอก็เลยถูกใช้ประโยชน์จากมัน คนรัก ร่วมเพศนั้นไม่เลือกปฏิบัติ
แต่เธอเองก็เกือบที่จะถูกชายที่รักร่วมเพศ รังแกเข้าแล้วเหมือนกัน
เธอใส่ใจเป็นอย่างมากและมากที่สุดจริงๆ กับความรู้สึกแบบนี้ เพราะสำหรับเธอแล้ว
เรื่องแบบนี้มันน่าขยะแขยงมากกว่าการถูก ข่มเหงรังแกซะอีก
ในตอนแรกเธอคิดว่าณรงค์กรจะไม่ลงมือ กับเธอ เป็นเพราะเขายังพอมีมโนธรรมอยู่ แต่ สุดท้ายก็ยังถูกบังคับ
อย่างน้อยก็ยังคงคิดถึงมิตรภาพที่มีต่อ กัน…แต่ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าเขาเพียงไม่ชอบที่ต้องลงมือกับผู้หญิง
จึงเกิดความลังเลใจขึ้นมา
นี่เป็นความเข้าใจผิดที่น่าอายจริงๆ และยิ่ง ทำให้เธอรู้สึกละอายใจมากขึ้น
ส่วนตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังของณรงค์กรนั้น เขาบอกว่าเป็นพวกนอกรีตคนหนึ่ง
เพราะว่าน้องชายในบ้านของเขาติดหนี้ นอกระบบ คนนอกรีตนั้นจึงใช้เรื่องนี้มาบังคับ ให้เขาต้องเข้าร่วม
หากเขายังไม่ยอมตกลงและช้าไปหนึ่งวัน ก็จะตัดนิ้วของน้องชายออกหนึ่งนิ้ว
เมื่อถูกบังคับจนทำอะไรไม่ถูก ทางเลือก เดียวคือต้องเข้าหากับเธอ
ยาก็เป็นคนนอกรีตนั่นให้มา เขาเพียงแค่ ต้องหาโอกาสและเวลาที่เหมาะแก่การลงมือแล้วผสมยาให้เธอดื่ม
ทุกอย่างถูกทําให้กระจ่างหมดแล้ว แต่ว่า ความจริงแล้วได้ถูกทำให้กระจ่างแล้วจริงๆน่ะ เหรอ
พิงกี้ไม่คิดอย่างนั้น ในทางตรงกันข้าม กลับมีเรื่องที่น่าตลกเกิดขึ้น
คือคนนั้นที่อยู่ห้องผู้ป่วยร่วมกับยายสมศรี แจ่มใสที่จับคู่ให้ลูกชายตัวเองกับพิงกี้อย่าง กระตือรือร้น
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือนักแสดงที่ถูกรับเชิญ มาจากคนนอกรีตนั้นสินะ
แจ่มใสมีทักษะการแสดงที่ดีมาก ดูแล้วอีก
หน่อยคงจะรุ่งน่าดู
แต่แค่ว่ากลับมาสะกิดเธอเข้าแล้วแบบนี้ เธอเองก็คงไม่ปล่อยให้แจ่มใสผ่านไปอย่างราบ รื่นนักหรอก
พิงกี้ที่อยู่ในระหว่างที่กำลังคิดจนเหม่อ ลอยอยู่นาน จนในที่สุดก็ได้สติกลับคืนมา
หลังจากดื่มน้ำผลไม้สดไปคำหนึ่ง เควินจึง ถามเธอขึ้น “เธอคิดจะจัดการยังไงกับ ณรงค์ กรและแจ่มใส”
….เอ่อ?” พิงกี้เหมือนมีความสับสนเล็ก น้อย จึงส่งคำถามไปให้เควิน “แล้วคุณว่าจะทำ ยังไงล่ะ?”
เธอมองไปยังเควิน เหมือนมีความคาดหวัง
บางอย่าง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่คอยแต่ระแวง และเกรงใจเขาแล้ว