คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 157.สวัสดีครับ ผมคือเจษฎา
พิงกี้เองก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะมัวแต่ฟังสิ่งที น้ำหวานกำลังเป่านกเป่ากาอยู่ โดยคิดซะว่าเธอ กำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่ ก็เลยพลาดคำพูดที่ กําลังระเบิดออกมาของนํ้าหวาน
กับคำพูดที่ป่าเถื่อนและทะเยอทะยาน ที่ ต่อว่าเตชิตเธอไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ
แอบหลบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องน้ำเสร็จ สีหน้าของพิงกี้ถึงไม่ค่อยเศร้าโศกขนาดนั้น ใน ที่สุดก็โล่งอกไปที
ไม่ว่าใครที่ต้องหลบอยู่ที่ลานจอดรถเป็น เวลาสองชั่วโมง แถมยังอยู่ในสภาพที่เสื้อผ้า ขาดรุ่งริ่ง ไม่มีใครจะรู้สึกผ่อนคลายได้หรอก
ยังดีที่วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่อย่างน้นคงไม่กล้ารบกวน หวานให้วิ่งมารอบหนึ่ง เพราะทุกคนก็มีเรื่องและธุระส่วนตัวด้วยกันทั้ง
“วันนี้เธอเป็นอะไรอีก?
รอเมื่อพิงกี้เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว น้ำ หวานจึงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจปนอยาก รู้อยากเห็น
“ก็เป็นเพราะเควินไอ้คนที่สมควรตายคน นั้นน่ะสิ?!” พิงกี้พูดพลางกรอกตาขาวไปมา แล้วจัดผมอยู่ตรงหน้ากระจก “ครั้งหน้าถ้าฉัน เจอหน้าเขา คอยดูฉันจะจัดการเขายังไง! ‘” เธอยังจะจัดการเขายังไงอีก? ฉันดูแล้ว น่าจะเป็นเขามากกว่าที่จัดการเธอ” น้ำหวาน อดหัวเราะไม่ได้ เธอกระซิบไปที่ข้างหูเธออย่าง ต่ำช้า “พูดความจริงมาะดีๆ ครั้งนี้เกือบจะถูก ข่มขืนแล้วใช่มั้ยล่ะ? ฉันดูพวกเธอนี่เล่นดุเดือด เชียวนี่! ”
“ไสหัวไปเลย ฉันเหมือนคนที่ยอมปล่อย ให้คนอื่นมาขย้ำเล่นหรอ?”
“แหมๆๆ ขาเล่นหรอ? ขยี้ตรงไหน? นวดตรงไหน? แล้วสบายมั้ย?” น้ำหวานที่ยังคง หัวเราะอยู่ ดวงตาที่หยอกล้อและไม่หวังดีมอง ลงมายังหน้าอกของพิงกี้ สายตาที่เต็มไปด้วย รอยยิ้ม มองจนพิงกี้เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา
“ยัยน้ำหวาน เธอหุบปากไปเลยนะ!”
“ไม่ย่ะ! นอกจากเธอจะบอกฉันว่าถูกข จนเสียวมากใช่มั้ย?!
“เธอมีปัญญาก็ไปหาผู้ชายเองสิ
“ก็ฉันไม่มีปัญญาเนี่ยแหล่ะ ขอร้องล่ะแม่ นางพิงกี้เสกผู้ชายให้ข้าสักคนเถอะนะ….………
“ยัยบ้า ไปให้พ้นเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า …”
สองหยอกล้อกันไปมา อารมณ์ของพิงกี้ก็ดี
ขึ้นไม่น้อย
แต่ว่า ในขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่ในรถไฟฟ้า ใต้ดินอยู่นั้น กลับนึกถึงสายตาของเควินที่เย็น ชาและไม่แยแสคู่นั้น มันทำให้เธอแอบเกิด ความรู้สึกที่ไม่สบายใจขึ้นมาทันที
เขาบอกว่าต่อจากนี้จะไม่ข้องเกี่ยวกับเธอ
อีก………..
งั้นก็ไม่ต้องข้องเกี่ยวกันเถอะ!
เธอก็พิศวาสที่จะมีอะไรข้องเกี่ยวกับเขาหรอก!
เมื่อกลับถึงห้อง พิงกี้ถึงพบว่าในมือถือของ เธอมีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านขึ้นอยู่
จิ้งจอกลับเป็นคนส่งข้อความมา
ก่อนหน้านี้เธอให้เขาช่วยตรวจสอบการ
ติดต่อระหว่างยายสมศรีกับลิสา ข้อความที่เขา ส่งมาก็คือการสังเกตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
เขาคอยติดตามมาหลายวัน กลับไม่พบว่าพวกเธอได้มีการติดต่อกัน เพียงแต่สิ่งที่ผิด สังเกตุก็คือหลังจากวันที่นายสมศรีกับพิงกี้เปิด ใจคุยกัน ไม่นานสมศรีก็รีบโทรหาลิสา ดูไปแล้ว เหมือนจะกินปูนร้อนท้องเล็กน้อย แต่เวลาใน การพูดคุยทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้นาน
นอกจากนี้ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ก่อนและหลังก็ไม่ได้มีการติดต่อกันบ่อย เท่าไหร่? ถ้าจะบอกว่ายายสมศรีสมรู้ร่วมคิดกับ ลิสาวางแผนเรื่องของณรงค์กร ดูเหมือนก็จะ เลยเถิดไป
แต่ว่า หากเพราะสิ่งนี้ทำให้ไม่เกิดความ สงสัยต่อลิสาล่ะก็ พิงกี้ดูแล้วมันเหมือนจะง่าย เกินไป
ยังมีจุดไหนที่เธอมองข้ามไปรึเปล่า?
หรือว่าจะเป็น…
หรือว่าจะเป็นอย่างที่เควินพูด ว่าคนที่อยู่ เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดคือเตชิต?
จะเป็นไปได้ยังไง!
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา พิงกี้เองก็ปฏิเสธ ออกไปในทันที อีกอย่างกลับมีความรู้สึกผิดต่อ เตชิต รู้จักกับเขามาก็นาน ตอนนี้ก็ถือว่าเป็น เพื่อนที่ดีต่อกันอีกด้วย เธอรู้ว่าเตชิตเป็นคนนิสัยแบบไหน
เขาดูเหมือนชั่วร้ายเหิมเกริม อารมณ์ยัง แปรปรวน แต่กับคนข้างกายแล้วเขาดีจนไม่มีที่ ติ
หากไม่พูดถึงเรื่องอื่น แค่นับหลังจากที่ เธอเป็นเพื่อนกับเตชิตมา ธีระที่ซื่อสัตย์กับลิสา เหมือนหมาที่จงรักภักดีก็ไม่เคยโผล่มาที่ตรง หน้าเธออีกเลย
พอมานั่งคิดในตอนนี้ นั่นจะต้องไม่ใช่เรื่อง บังเอิญ คาดว่าน่าจะเป็นเตชิตที่สกัดกั้นเขาไว้
หลังจากคิดเรื่องในใจเสร็จ พิงกี้จึงตอบ ข้อความกลับไปยังจิ้งจอกลับ (ขอบคุณมาก นะคะ ใช้เวลาไม่นานก็เช็คออกมาได้แล้ว ต้อง ยกนิ้วโป้งให้คุณเลย
ก็ไม่รู้ว่าจิ้งจอกลับจะนั่งเฝ้ามือถืออยู่ข้างๆ ตลอด ความเร็วในการตอบข้อความนี่เร็วจนน่า ตกใจ (อย่าคิดว่ากรอกยาเสน่ห์ใส่ผมแล้ว ผม ก็จะลืมว่าคุณยังค้างผมมื้อนึงนะ ยังไงคุณก็หนี ไม่พ้นหรอก
“ฮ่า ฮ่า ” พิงกี้อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
เธอนั่งลงบนโซฟา แล้วตอบข้อความกลับ ไปอย่างรวดเร็ว (คุณวางใจได้เลย ฉันได้ ทําการจองสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้วด้วย นี่ค่ะคือตรงนี้………
เมื่อส่งสถานที่ไปแล้ว พิงกี้กลับมีความคิด อย่างหนึ่ง นี่เป็นการเจอกันในครั้งแรกของ พวกเรา มันคงจะดูน่าเบื่อหากเราเปิดเผยตัว ง่ายเกินไป หรือว่าเราจะทำเป็นรหัสลับในการ ส่งสัญญาณลับให้กันดี? ]
[สัญญาณลับอะไร?] จิ้งจอกลับถาม
กลับ
(เราต่างก็ใส่กระโปรงกัน โอเคมั้ย?] พื้ งกี้จึงเสนอขึ้น
(เหอะๆ) จิ้งจอกลับ
“” ไม่ประสบความสําเร็จ พิงกี้อด หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายไม่ได้ เธอก็ไม่ได้เอา มาใส่ใจ
ผู้ชายที่ปกติไม่มีทางที่จะตอบรับสัญญาณ ลับบ้าบอแบบนี้หรอก เธอแค่ล้อเล่นกับจิ้งจอก ลับเท่านั้นเองใครใช้ให้เขาไม่มีอารมณ์ขันใน เวลาส่วนใหญ่แบบนี้ล่ะ
(งั้นเอาแบบนี้ละกัน ฉันจะสวมชุดเดรส สีฟ้า และติดดอกลิลลี่ไว้บนผมด้วย ส่วนคุณก็ สวมเสื้อสีฟ้าเหมือนกัน ถือหนังสือพิมพ์หนึ่งชุด กับกาแฟหนึ่งแก้วไว้ในมือ แบบนี้เป็นไง? พิงกี้พูดเสนอขึ้น
(….ได้) จิ้งจอกลับตอบ
ในระหว่างเครื่องหมายจุดไข่ปลา เห็นได้ ชัดถึงความจนปัญญาของจิ้งจอกลับ พิ้งกี้แกล้ง เขาได้อย่างมีความสุข จนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ออกมา
วิลล่าที่ดูหรูหราหลังหนึ่งของใจกลางเมือง ชายหนุ่มรูปหล่อที่จ้องมองอยู่กับโทรศัพท์ พบ ว่าไม่มีแสงสว่างจากการแจ้งเตือนขึ้นมาอีก จึง ส่ายหัวเบาๆ เกิดเป็นรอยยิ้มบางๆขึ้นที่มุมปาก
วันถัดมา
พิงกี้ก็ได้มาถึงสถานที่ที่ได้นัดกับจิ้งจอก ลับแต่เช้า
เธอเลือกร้านอาหารจีนแบบส่วนตัว แม้ชื่อ เสียงจะไม่โด่งดังเท่าไหร่ แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดี ในละแวกนี้ ไม่เพียงแค่การตกแต่งและความ เงียบสงบ รสชาติก็ถือว่ายอดเยี่ยมด้วย
เพื่อการเลี้ยงอาหารในมื้อนี้ ถึงกับทำเอา กระเป๋าเงินแฟบลงไม่น้อยเลย แต่เธอก็ถือว่าได้ เอาความจริงใจออกมาแล้ว
เลือกนั่งอยู่กับโต๊ะริมหน้าต่าง พิงกี้ยังคง มองไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว สายตาที่มอง ดูเวลาแล้วเห็นว่ายังเหลืออีกสิบนาที แต่กลับมี ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงทรง หลวมสีขาวที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพิงกี้
รูปร่างที่สูงและดูดีในแบบผู้ชาย บนใบหน้า มีรอยยิ้มน้อยๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และละเอียดอ่อน เหมือนงานแกะสลักสามมิติที่ สมบูรณ์แบบ และเหมือนจะเป็นลูกครึ่งเสียด้วย
จนทำให้ยากที่ต้านทานไหวคือบุคลิกภาพ ที่เงียบและสุขุมของเขา เหมือนกับเจ้าชายที่ หลงยุคออกมาจากภาพวาด ดูดีมีชาติตระกูล แต่ไม่หยิ่ง
ตั้งแต่แรกเริ่มพิงกี้ก็รู้สึกทึ่งมาก แต่ว่า เมื่อ มองไปเห็นสิ่งที่ชายตรงหน้าจับไว้ในมือ ถึงกับ อดไม่ได้ที่จะทําลายบรรยากาศตรงหน้า ด้วย การหัวเราะออกมาจนน้ำตาซึม
“ต้องขอโทษด้วย…” ชายหนุ่มที่ตอนนี้ ได้เดินมาหยุดอยู่ด้านข้างของเธอ มองดูความ ตลกที่หยุดไม่อยู่ของเธอ จึงยกของในมือแกว่ง ไปมาอย่างจนปัญญา “พอดีหาร้านกาแฟไม่เจอ ก็ได้แต่ซื้อชานมมาแทนครับ”
ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่หนังสือพิมพ์ก็หาซื้อ
ไม่ได้
ดังนั้น ในมือของเขาจึงถือกระดาษขาวไว้ หนึ่งม้วน และบนกระดาษก็เขียนตัวใหญ่ๆไว้ว่า‘หนังสือพิมพ์’ ส่วนมืออีกข้างก็ถือชานมไข่มุก ไว้หนึ่งแก้ว ซึ่งด้านข้างของแก้วก็ติดกระดาษสี ขาวไว้เช่นกัน โดยมีคำว่า กาแฟ ติดอยู่
เดิมทีชายหนุ่มรูปหล่ออย่างไร้ที่ตินี้ เพราะ เรื่องนี้ทำให้รู้สึกมีความซื่อบือเล็กน้อย
พิงกี้ได้แต่อดทนและอดทน ทีนี้ถึงได้ลุก ขึ้นอย่างไม่เหลือภาพลักษณ์ เธอลูบบนแก้ม ที่หัวเราะจนเมื่อย และพยายามยื่นมือออกไป อย่างกุลสตรี “สวัสดีค่ะ ฉันคือพิงกี้ค่ะ”
ชายคนนั้นก็ยื่นมือออกมาเช่นกัน พร้อม ทั้งมีประกายความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นในสายตา “สวัสดีครับ ผมเจษฎาครับ”