คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 167:ปลาใหญ่ติดเบ็ดแล้ว !
เมื่อเข้าสู่เวลาพลบค่ำ
ยืนอยู่ในห้องที่กว้างใหญ่แล้วมองลงนอก หน้าต่าง ที่สูงจรดพื้นเพดานด้านล่างจากชั้นที่ ยี่สิบแปด บ้านที่ยังคงมีแสงไฟเหมือนแสงจาก ดวงดาวคอยส่องอยู่เต็มพื้นหลังของห้อง โดยมี ความมืดที่ดูหนาและเข้มขึ้นเริ่มเข้าปกคลุมไป ทั่วในเวลากลางคืน แสงไฟจากรถยนต์ที่เต็มอยู่ บนท้องถนนขับผ่านไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จน ดูเหมือนดวงดาวที่อยู่ท่ามกลางกาแลคซี ซึ่งก็ เป็นเหล่าดวงดาวที่นับไม่ถ้วนที่ถูกแยกออกเป็น สองทาง
แต่เมื่อเงยหน้ามองบนท้องฟ้า กลับมีแต่ แสงไฟที่ทำให้มองไม่เห็นดวงดาวสักดวง จนดู กลายเป็นความน่าเบื่อขึ้นเล็กน้อย
แม้ทิวทัศน์ตรงหน้าจะอยู่ในสายตา แต่ก็ไม่ สามารถเข้ามาในใจได้
เพื่อให้เวลาผ่านไปพิงกี้จึงยืนมองดูฉาก เบื้องหน้า อยู่ที่ริมหน้าต่างในยามค่ำคืนนี้ นอกจากนี้ยังกำลังเดาอยู่ว่าคนบางคนจะกลับ มาเมื่อไหร่……แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่ามัน เปล่าประโยชน์ เพราะมองไม่เห็นแม้แต่เงารถ ของเขา
แต่เธอจะทำยังไงได้ล่ะ?
เธอทนรอไม่ไหวนี่นา!
เพราะเธอยังคงตั้งตารออย่างคาดหวัง!
ดึงสายตาลงมาในมือที่ถือน้ำไว้แก้วหนึ่ง พิงกี้มุมปากยิ้มขึ้น แล้วดึงม่านขึ้นเบาๆ
เพิ่งจะหมุนตัวกลับไปทางหน้าต่าง ประตู ห้องก็ถูกเปิดออก
ชายที่ดูดีร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตู และยังหยิบรองเท้าผู้ชายของเขาที่เคยใส่แล้ว เปลี่ยนมันกับคู่เก่าที่ตั้งอยู่ แล้วค่อยเบนสายตา มายังเธอ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ลึกและนุ่มนวล “ร่างกายเป็นไงบ้าง?
“ก็โอเค แต่แค่คืนนี้ร่วมรักไม่ได้ ทำให้คุณ ต้องเสียเที่ยวเปล่าๆ
เควินมองผู้หญิงตรงหน้าที่สีหน้ายิ้มแย้ม ยิ้ม แต่ดวงตากลับมีเปลวไฟเล็กๆสองดวงกำลัง ลุกไหม้อยู่ รู้สึกเธอเหมือนดอกกุหลาบที่เต็มไป ด้วยหนามกำลังเบ่งบาน เธอก็ไม่ปิดบังอาการ ที่เยาะเย้ยและโอ้อวดต่อเขาเลย ราวกับว่า สามารถเจาะรูที่ร่างกายของเขาให้เลือดไหล บได้ทุกเมื่อ
เธอที่เป็นแบบนี้ก็ดูปกติดี และดูมีชีวิตชีวา
มาก
“กินอะไรหรือยัง ?” เขาถาม
“กินแล้วค่ะ”
“กินอะไร ?”
“ก็ที่คุณให้พายุส่งมาให้ฉันไง คุณไม่รู้ว่า เป็นอะไรเหรอ ยังจะมาถามฉันอีก ?”
ดวงตาทั้งคู่ของเควินที่ส่องประกายของ ความเขินอายออกมา เขาไม่คำพูดแต่พยายาม หาคำพูดจริงๆ
“รสชาติเป็นไงบ้าง?” เขากระแอมทีหนึ่ง
แล้วถามต่อ“เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังมังกรหยกเป็นคน ที่คอยขูดเลือดขูดเนื้อซะจริง ราคาแพงจะตาย อยู่แล้ว ถ้ารสชาติไม่ได้เรื่องอีกก็คงเจ๊งไปตั้ง นานแล้วมั้ง?”
“เธอชอบก็ดีแล้ว
“ฉันไม่ชอบ แต่ไม่กินไม่ได้นี่ ถูกคนบาง คนทําจนไม่สามารถลงจากเตียงได้ และยังต้อง พึ่งยาแก้ปวดถึงจะหลับลงได้ไม่กี่ชั่วโมง อย่าง นี้แล้วจะให้ฉันลงจากเตียงไปทำอาหารให้ตัว เองกินได้ยังไงล่ะ?”
เควิน” ”
ผู้ชายที่เงียบขรึมมาโดยตลอดเจอกับผู้ หญิงที่ปากดีปากจัดแบบนี้ยากที่จะได้อยู่เหนือ กว่าจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะ ตกอยู่ในข้อพิพาทนี้ด้วย
อยากจะหาพื้นที่อื่นเพื่อมาเป็นสนาม ใน การสั่งสอนให้เธอรู้ว่าต้องทำตัวยังไง แต่เมื่อ วานเขาทำมันรุนแรงเกินไป จนวันนี้เธอก็ยังไม่ หาย …..
ครั้งนี้ เควินกลับเม้มริมฝีปากบางอยู่อย่าง
เงียบๆ
ผู้ชายที่จ้องกลับมาด้วยสายตาคมเฉี่ยวอัน มืดมน ทำให้อวัยวะภายในของพิงกี้เกิดความ สั่นไหวไปทั้งตัว จนเธอต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “คุณจะทำ อะไร ?”
“สิ่งนี้…… ” เควินเบือนหน้าไปหยิบเอา กล่องที่วางอยู่บนตู้รองเท้าลงมา “เธอลองดู
“นี่คืออะไร ?”
“เปิดออกก็รู้เอง”
พิงกี้วางแก้วในมือลงด้วยความสงสัย เปิด กล่องที่ห่อได้อย่างสวยงามออกมา ด้านในยังมี กล่องเล็กอีกอันพร้อมกับโลโก้ที่คุ้นเคย นี่เป็น โทรศัพท์มือถือของแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์รู้จักกันดี
“โทรศัพท์ ?”
“อืม”
ทีนี้พิงกี้เข้าใจแล้ว
เมื่อคืนมีคนบางคนได้เขยี้วงมือถือเธอ ตอนนี้เลยนำมาชดใช้คืนให้เธอ
โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างหนังจริงๆ วันนี้เธอเหมือนคนโง่ เซ่ออยู่ในห้อง คนเดียว ไม่มีมือถือให้เล่น ทีวีก็ไม่อยากดู วันนี้ ว่างจนจะขึ้นราอยู่แล้ว….แต่เมื่อต้องเจอกับมือ ถือรุ่นใหม่ล่าสุดแบบนี้ เธอก็ปฏิเสธไม่ลงจริงๆ
ของที่ถึงมือแล้ว คนโง่เท่านั้นที่จะยอมคาย มันออกมา !
แต่ว่า…..
“คุณเติมเงินให้ฉันหรือยัง ?” เธอถาม อย่างได้ บจะเอาศอก
“…..เปล่า” คิดไม่ถึงว่าเธอจะถามแบบนี้ เควินนิ่งไปครู่นึงจึงพูดขึ้น “ฉันจะให้พายรีบไปจัดการเอง เธออยากเติมเท่าไหร่?”
“ห้า? อ่า….เหอะๆ นั่นก็ต้องดูความจริงใจ
ของคุณแล้วล่ะ”
เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น หากเธอบอกยอดเท่า ไหร่เขาก็เติมให้เท่านั้น อีกอย่างทำให้ดูเหมือน ว่าเขาเป็นคนใจกว้าง หากเธอบอกน้อยไปก็ เท่ากับขาดทุน แต่หากบอกมากไปก็จะดูเป็นคน โลกที่ไม่ยอมพอ หากเธอไม่พูด….เขาไม่มีทาง ที่จะให้น้อยหรอก
นี่ก็คือสงครามจิตวิทยายังไงล่ะ!
“ได้” เควินพยักหน้า
บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูค่อนข้างจะ แปลกไปสักหน่อย เพราะตอนนี้ต่างคนก็ต่างไม่ พูดอะไร จนเริ่มจะรู้สึกอึดอัดกันขึ้นมา
พิงกี้กะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วทำลาย ความเงียบนี้
เธอหยิบแก้วน้ำที่เพิ่งวางลงบนตู้รองเท้า ขึ้นมา แล้วยื่นไปให้เควิน “ให้ จะดื่มน้ำหน่อย มั้ย? ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่พูดฉอดๆ คงจะใช้ คำพูดของทั้งเดือนออกมาหมดแล้วมั้ง คุณไม่ คอแห้งบ้างเลยหรือไง ?”
“ดื่มสิ” เควินรับแก้วมา
ในตอนที่ดื่มน้ำ ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขา มองไปที่ริมฝีปากของพิงกี้ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ความปรารถนาที่แจ้งเตือนขึ้นในสายตาของ เขา ทำให้พิงกี้ไม่สามารถเมินเฉยต่อไปได้ เธอ จ้องไปที่เขาอย่างโหด แต่ใบหน้าที่ขาวสวยของ เธอกลับเริ่มแดงระเรื่อ
รู้สึกอารมณ์ดีมาก ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วย ความสุข จึงทำให้มุมปากของเควินโค้งขึ้นด้วย องศาที่มีแต่ความพอใจ
โดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว ก็ดื่มน้ำจนหมดแก้วไป
แล้ว
“เอาให้ท้องแตกตายไปเลย!” จากนั้นพิงกี้ จึงแย่งแก้วกลับ จ้องอย่างเนืองๆไปทางเขาแล้ว หันเดินไปอีกด้าน ด้วยท่าทางที่ดูเหมือนกำลัง โกรธ
แต่พอหันหลังกลับ เธอกลับกัดที่ริมฝีปาก
แล้วยิ้มขึ้น
เยี่ยมมาก !
ปลาใหญ่ติดเบ็ดแล้ว !
“ตื่นๆ ตื่น ตื่น !”
พิงกี้ตบไปบนแก้มของผู้ชายโดยที่ไม่เก็บ แรง แต่ผู้ชายคนนี้กลับสลบไปเหมือนคนตาย ไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด
“ให้ตายสิ ใส่ยานอนหลับมากเกินไปหรือ เปล่า ทำไมฤทธิ์ยาถึงได้รุนแรงขนาดนี้?” เธอขมวดคิ้วขึ้น และซุบซิบเสียงเบา ว่างจน กระวนกระวายและหยิกใบหน้าของผู้ชายไปมา “แต่ว่าผู้ชายคนนี้ก็หนังหนาอยู่แล้ว ตั้งแต่ยัง เด็กก็ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ แต่ถ้าใส่ ในปริมาณที่น้อยก็คงล้มเขาไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ ได้สิ…….
“ตื่นๆ…นี่ เควิน คุณตื่นสิ !”
“นี่คุณ….”
แต่ครั้งนี้ ยังไม่ทันที่มือของพิงกี้จะตบเข้า ที่หน้าของชายร่างสูงคนนี้ ทันใดนั้นกลับพบกับ ดวงตาของเหยี่ยวที่ดำลึกเปิดตากว้างขึ้น ถูก สายตาที่เยือเย็นทิ่มแทง เธอกลืนน้ำลายไปที่ หนึ่ง ทันใดนั้นพูดจาติดขัด
นี่ นี่เขาตื่นแล้วจริงๆเหรอ!
อาจเป็นเพราะเขาที่มีพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ ทำให้พิงกี้เกิดเป็นความกลัวในใจจากการ ถูกกดขี่มาเป็นเวลานานจากเควิน แม้ว่าจาก สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้เธอจะอยู่เหนือ กว่าก็ตาม แต่ในใจของเธอก็เต้นระรัวอย่างไม่ ยอมหยุด จนเกือบจะกระโดดออกมาด้านนอกได้อยู่แล้ว
วางมือที่ไม่มีร่องรอยของการก่อการร้าย ลงมา เธอยิ้มแห้งๆ “คุณเควิน ตื่นแล้วเหรอ คะ ?”
“อืม” เควินตอบกลับ
วินาทีต่อมา เขากลับตกใจเมื่อพบว่าตัวเอง ได้สูญเสียอิสรภาพไป
อารมณ์แห่งการทำลายล้างที่เกิดขึ้นใน สายตา เขาเงยหน้ามองไปยังสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่ ตรงหน้า แล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เธอเป็นคนทํา?”
น้ำเสียงที่ฟังไม่ออกว่าโกรธหรือดีใจ ดวงตาที่นิ่งราวกับสายน้ำ เดาไม่ออกด้วยซ้ำว่า ในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่
แต่พิงกี้กลับรู้สึกได้ใจมากๆ เธอยิ้มเยาะ ขึ้น “ใช่ ฉันเป็นคนทำ !
“เพราะอะไร?”
เควินพยายามใช้เรี่ยวแรง แต่กลับไม่ สามารถหลุดพ้นได้ทันใดนั้นในใจกลับรู้สึกเงียบขึ้นมา
เขามองไปยังผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังยิ้มเย็น อย่างไม่คาดคิด ถามซ้ำขึ้นมาอย่างเยือกเย็น “เพราะอะไร ?”