คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 189:กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อ
“ธุรกิจของตระกูลดำรงกูล” เควินบ่น พึมพำาเสียงต่ำ สีหน้าเคร่งขรึมเหมือนกำลังคน คิดอะไรอยู่
ว่าไปแล้วเรื่องที่เขากับชาตรีท่ามีวิธีที่ต่าง กันแต่ได้ผลเหมือนกัน
แต่ว่าเขาเอาโมเดิร์นกรุ๊ปเป็นสื่อกลางใน การดำเนินงานอยู่ในที่ลับ เรื่องบางเรื่องที่ข้าง บนไม่สะดวกออกหน้าโดยตรง เขาแสวงหาผล ประโยชน์ให้ประเทศชาติ พยายามรับประกันไม่ ให้สะเทือนสิ่งแวดล้อมของประเทศชาติ
ส่วนชาตรีได้หาผลประโยชน์โดยการ หลายประเทศชาติของตนเอง นี่มันชั่วช้า สามานย์สุดขีดเลย!
หลังจากรู้ถึงสถานการณ์แล้ว หน่วยสือลับ ได้เริ่มขยายการตรวจสอบเพื่อสืบหาหลักฐาน
แต่แล้ว ภายใต้การป้องกันตัวที่แน่นหนา ของชาตรี ทีมที่กองกำลังพิเศษส่งลักลอบ เข้าไปในบ้านดำรงกลก็หาเบาะแสใดๆไม่เจอ
เลยทั้งสิ้น สุดท้ายก็กลับมาอย่างสูญเปล่า
การสืบค้นที่นับครั้งไม่ถ้วนต่างก็ไม่ได้เบาะ แสใดๆกลับมา เขาจึงต้องลงมือทำด้วยตัวเอง
เพื่อไม่แหวกหญ้าให้ตื่น เข้าใกล้ชาตรี โดยไม่ทิ้งร่องรอย เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานที่ ตระกูลดำรงกูลขายประเทศชาติ และโทษฐาน ที่ร่วมมือกับศัตรูเพื่อลับลอบค้ามนุษย์ เขาจึง จำเป็นต้องได้รับความเชื่อใจจากตระกูลดำรง กูลก่อน เพื่อให้ตระกูลดำรงกูลเห็นเขาเป็นคน กันเอง
นี่ควรจะทำยังไงล่ะ?
คิดไปคิดมา เขารู้สึกว่าใช้ลิสาเป็นจุด ทะลวงเป็นวิธีที่ไวที่สุด นี่ก็เป็นสาเหตุที่เขา พายเรือตามน้ำและรับปากว่าจะหมั้นกับลิ สา…..เพราะว่าแบบนี้จะสามารถละทิ้งความ สงสัยของชาตรีได้มากที่สุด!
แต่ว่าพอเป็นแบบนี้ สามารถพูดได้เลยว่าผู้หญิงของเขาต้องเกลียดชังเขาเป็นอย่างมาก แน่ แต่เขากลับเพราะกฎที่เข้มงวดขององค์กร จึงไม่สามารถบอกความลับเหล่านี้ให้กับเธอ
เขาสามารถเข้าใจได้ ตอนที่ตระกูลมหา เจริญศิลป์ไปสู่ขอที่ตระกูลดำรงกูล ถึงสติของ เขาบอกเขาว่าทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับพิงกี้ แม้ กระทั่งเธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเตชิตคิดยังไง กับเธอ แต่เขาก็ยังโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้
เขาไม่ยอมให้คนอื่นคิดอะไรเกินเลยกับ เธอ เขาอยากให้ในสายตาเธอเห็นเขาแค่คน เดียวเท่านั้น!
ในขณะเดียวกัน เขาก็ย่อมเข้าใจตอนที่ เธอรู้ข่าวที่เขาหมั้นกับลิสาแล้ว ในใจเธอรู้สึก โกรธและผิดหวังเพียงใด
ก่อนที่เขายังหาวิธีแก้ไขปัญหาไม่เจอ ใน ใจเขาหงุดหงิดฉุนเฉียวเหมือนสัตว์ตัวนึงที่ ถูกขังไว้ อารมณ์ที่กังวลกับผลได้ผลเสียของ ตนเองและกรณียกิจกำลังต่อสู้กันอยู่ในใจ เขาลําบากใจเหมือนตกนรกทั้งเป็น
เขาหวังแต่อยากปกปิดไม่ให้เธอรู้ข่าวที่ เขาหมั้นกับลิสา สามารถปกปิดได้วันนึงก็วันนึง เวลาที่ไขว่คว้ามาได้จะสามารถทำให้เขาหาวิธี รับมือกับเรื่องนี้ได้
แต่ว่าความคิดของเขาก็ล้มเหลวจนได้ เธอ รู้ข่าวการหมั้นของเขา ท่าทีที่เธอมีต่อเขายิ่งอยู่ ยิ่งเย็นชาลง
เพราะเหตุนี้เขากระทั่งไม่กล้าสู้หน้าเธอ เป็นเวลาครึ่งเดือนที่เขาไม่กล้ากลับมาหาเธอ
ดีที่ภายใต้ความคลาดเคลื่อนในคืนนั้น การ เมาเหล้าทําให้เขาสองคนได้ใกล้ชิดกันมาก
ว่าไปแล้ว เขาอาจจะต้องขอบคุณเจษฎาที่ กระตุ้นเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ตอนนี้ทุกอย่างก็ได้กลับมาเป็นปกติแล้ว!
เควินลุกขึ้น เอาสมุดสมรสเล่มสีแดงแจ่ม เก็บใส่ในลิ้นชักอย่างดี ในแววตาลึกๆแฝงด้วย ความได้ใจ
ออกจากห้องสมุด และเดินเข้าไปที่ห้อง
พอเปิดประตูปุ๊บ เขาก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กน่า สงสารกำลังหลับลึกอยู่ ผมที่นุ่มลื่นแนบอยู่ข้าง ใบหน้าเธอใบหน้าที่สวยสดงดงามดูมีเลือดฝาด เหมือนกำลังกำลังฝันหวานอยู่ ริมฝีปากยังยิ้ม อยู่อ่อนๆ หน้าตาจิ้มลิ้มและน่าเอ็นดูทำให้หัวใจ
ของเขาอ่อนนุ่มลงมาทันที
ก้มหน้าจูบที่หน้าผากของผู้หญิงที่นึง เสียงทุ้มต่ำไพเราะของเขาดังขึ้น นำพามาด้วย อารมณ์ที่ซับซ้อนเล็กน้อย
“ขอโทษ ฉัน….รักเธอ”
เขาไม่ชินกับการกล่าวขอโทษ และไม่ถนัด
กับการเปิดใจตนเอง
นอน
อาจจะ มีแต่ตอนที่เธอหลับอยู่ เขาถึงกล้า ที่จะแสดงถึงความในใจของตนเองอย่างใช้
พิงกี้ตื่นมา ป้าเฉินก็มาเคาะประตูห้องพอดี “คุณพิงกี้คะ อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ คุณจะ ออกมาทานหน่อยมั้ยคะ?
“ได้ค่ะ” พิงกี้ตอบเสียงสูง
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วออกจากห้อง ตอน ที่ลงมาจากชั้นบนเธอมองซ้ายมองขวา แต่กลับ มองไม่เห็นร่างเงาที่คุ้นเคย
เธออดถามไม่ได้ “คุณเควินล่ะคะ?
“คุณเควินไปบริษัทแล้วค่ะ เห็นบอกว่าที่ บริษัทมีงานเร่งด่วนต้องไปเที่ยวนึง คุณเควิน เลยให้ดิฉันบอกคุณค่ะ” ป้าเฉินตักน้ำซุปให้ เธอถ้วยนึงด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นซุปปลาตุ๋นเต้าหู้ ขาวที่ตกม้ชายสั่งให้ดิฉันต้นโดยเฉพาะอยคะ บอกว่าคุณชอบดื่มน้ำซุป
พิงกี้เม้มปากยิ้มเล็กน้อย
นี่เป็นของโปรดเธอจริงๆ ตอนที่เธออยู่บ้าน บุญถาวรไม่เคยได้กินของดีๆ ในความทรงจำ อาหารที่เลิศรสที่สุดก็คือซุปปลาตุ๋นเต้าหู้ขาว ถ้วยนี้ที่ราคาไม่แพงแถมยังอร่อยด้วย ดังนั้น เธอจึงชอบมาตลอด
คิดไม่ถึงว่าคนที่เย็นซาแข็งกระด้างอย่าง เควิน จะสังเกตุเห็นรายละเอียดเล็กๆแบบนี้ด้วย
“เขาได้บอกมั้ยคะว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?” พิงกี้ถาม
“ไม่ได้บอกค่ะ ” ป้าเฉินส่ายหัว แววตามี การล้อเล่นด้วยความหวังดี “ถ้าร่างกายคุณพิง กี้ไม่ค่อยสบาย กลางคืนก็ไม่ต้องรอจนดึกมาก นะคะ ก่อนคุณเควินไปยังกำชับแล้วกำชับอีกว่า เมื่อคืนกับเย็นนี้คุณเหนื่อยมากแล้ว ให้ดิฉันดู เฝ้าดู ให้คุณหลับเช้าๆหน่อยค่ะ
พิงกี้ แ
ทานข้าวเสร็จอย่างหน้าแดงหูแดง เธอกลับ ไปที่ห้องเหมือนวิ่งหนีเลย หยิบหมอนข้างมา แล้วชกไปหมัดนึง เหมือนกับว่าชกใส่ที่ตัวของ เควินยังไงอย่างงั้น ในแววตาเต็มไปด้วยความ เขินอาย
ถึงความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองดีขึ้น แต่“ข้อห้าม” ของเธอยังไม่ได้ถูกปลดล็อก
ใช้มือถือไม่ได้ ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ แล้ว
ณ ตอนนี้พิงกี้ก็ไม่สามารถออกความคิด เห็นคัดค้านกับเควิน เธอได้แต่หาความบันเทิง ใส่ตัวเองไปพลางๆก่อนชั่วคราว
หาสมุดอ่านเล่มนึงอยู่ในห้องสมุด เธอก็ ถือว่าอารมณ์แจ่มใสและชิวๆ พออ่านก็นั่งอ่าน เพลินจนถึงเวลาห้าทุ่มเลย
พิงกี้เริ่มง่วงแล้วจริงๆ ก็ไม่คิดจะยืนหยัดรอ เควินต่อ แต่ตอนที่เธอกำลังจะปิดไฟนอนหลับ ประตูกลับมีเสียงลูกบิดหมุนดังขึ้น เธอหันไป มอง ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ได้ยืนอยู่หน้าประตู
เห็นพิงกี้ยังไม่นอน เควินรู้สึกตะลึงเล็ก น้อย แต่แววตาได้กลับมาอ่อนโยนในเวลาอัน รวดเร็ว “ทำไมยังไม่นอนอีก ไม่ใช่บอกให้ไม่ ต้องฉันหรอ?”
.” ผู้ชายคิดเอาเองฝ่ายเดียวขนาด นี้ พิงกี้รู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย เธอจึงพูดอย่าง คลุมเครือ “รอไปรอมาคุณก็กลับมาแล้วนี่คะ ที่ จริงก็ไม่ได้ถือว่าดึกหรอกค่ะ”
“อืม เอาเสื้อผ้าให้ฉันหน่อย” เควินถอด เสื้อสูทและยื่นให้ฟัง
นัยน์ตาคมลึกของเขาแฝงด้วยความคาด หวัง นี่ทำให้ในใจพิงกี้มีอารมณ์ที่บอกไม่ถูก รู้สึกเหมือน…..พวกเขาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้ว ทั้งสองต่างก็กำลังเข้าสู่บทบาทที่เป็นสามีภรรยากันยังไงอย่างงั้น
ไม่ ไม่ใช่รู้สึกเหมือน แต่ได้เป็นแล้ว…..
พิงกี้รับเสื้อสูทมาแล้วถาม “ให้ฉันไปเปิด น้ำในอ่างไว้ให้คุณมั้ยคะ?
“ไม่ต้อง” เควินกะจะพึ่งพาอาศัยตนเอง อย่างเห็นได้ชัดมาก เขาพูดอย่างไม่อาจปฎิเสธ “อากาศเริ่มเย็นแล้ว เธอไปนอนที่เตียงเร็ว อย่า มายืนเซ่ออยู่ที่นี่เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ฉันไม่ อยากเห็นหน้าตอนเธอเป็นหวัดขี้มูกไหล”
พิงกี้ “198515303_2973823476235381_3028678409707995258_n
ใช้สายตาส่งผู้ชายไปห้องน้ำคนเดียว เธอ อดพึมพำไม่ได้ ตอนนี้เพิ่งจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ถึงอากาศจะเย็นกว่าตอนที่ร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นแค่ลงจากเตียงก็จะไม่สบายเอา ได้ ผู้ชายคนนี้…..ก็ไม่รู้ว่าเพราะยุ่งกับเธอมาก เกินไปหรือว่าไม่มีความรู้ขั้นพื้นฐานกันแน่