คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 20: อย่าหลบหน้าพี่
บทที่ 20: อย่าหลบหน้าพี่
“ อยากร้องก็ร้องเถอะ พี่อยู่ตรงนี้ ”
ปลดเข็มขัดนิรภัยออก มานพกอดพิงกี้เข้ามาใน
อ้อมอก
ฝ่ามือที่อบอุ่นคอยลูบที่หลังเธอ และคอยปลอบโยน เธออย่างมีความอดทน
ไม่รู้ร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ พิงกี้ลืมตาพร้อมเสียงพูด
ที่แหบแห้ง
“ ปล่อยฉัน?
แ ร้องเสร็จแล้ว? “มานพกัมหน้าและหยอกล้อ
* เสื้อของพี่ซับน้ำได้ดีมาก เธอร้องต่อก็ได้
พี่ไม่รังเกียจเธอร้องไห้ฟูมฟายจนขี้มูกโป่งหรอก”
สายตาของเขาจ้องมองที่หน้าของพิงกี้ ทำให้เธอ รู้สึกอึดอัดใจ
* พี่สิร้องไห้ขี้มูกโป่ง ! ถึงฉันร้องฉันก็ร้องอย่าง สวยงามและสง่า )
เช็ดน้ำตาเสร็จเธอก็หันหน้าไปอีกทางนึง
“ อีกอย่าง ฉันร้องหรือไม่ร้องไห้ มันเกี่ยวอะไรกับพี่
ด้วย?”
พี่ชอบเธอ อยากเป็นผู้ชายของเธอ ทุกอย่างก็เธอ เกี่ยวกับพี่หมด”
คำพูดที่เร่าร้อนมานพไม่คิดก็พูดออกมาเลย ที่จริง เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและอ่อนโยน
พูดไม่เก่ง ยิ่งไม่ชอบเอาความคิดในใจแสดงออกมา
ทางภายนอก
เขาทนไม่ไหวที่จะพูดความในใจเขาออกมา ดูก็รู้เลย
ว่าเขาร้อนรนใจแค่ไหน
พิงกี้เงียบสงบลง
มานพจิงจังมาก ยิ่งทำให้เธอลำบากใจ
ถ้าแปด นเขาพูดกับเธอแบบนี้จะดีแค่ไหน…แต่
ตอนนี้
เธอกลับไปเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วจริงๆ ตอนที่
อายุสิบห้า
ตอบที่ยังเป็นวัยรุ่นเธอชอบผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้
ไดอาร์เธอจดบนทกทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ตอมา
ไม่มีวาสนา
เธอก็เคยอวรพรอยู่ในใจขอให้ชีวิตวันข้างหน้าของ
เขาพบเจอแต่ความสุข
ตอนนี้เธออายุยี่สิบสามแล้ว เธอรักผู้ชายที่เย็นชา
ใจดำมาแปดปี
ถูกเขารังแก สูญเสียทุกอย่างเพราะเขา เธอไม่ อยากมีความรักแล้วจริงๆ
* ขอโทษ” เงียบไปตั้งนานเสียงที่แหบแห้งของ พิงกี้เอ่ยออกมา
* พี่มานพ ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าพี่ดีกับฉันและเป็น เอ็นดูฉัน
แต่ว่าฉันไม่อยากไปสัมผัสกับความรักอีกแล้ว พี่อย่า บังคับฉันได้ไหม? ”
ความเจ็บปวดใจของเธอ ทำให้มานพเห็นแล้วปวด
* พี่รอเธอได้ พี่ไม่บังคับเธอ แต่เธออย่าหลบหน้าพี่
ได้ไหม? ”
4โอเคค่ะ พิ้งกี้พยักหน้า
“ งั้นพี่ส่งเธอไปสัมภาษณ์งานนะ”
* ค่ะ ”
“ เธอไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทไหน?”
“เอ่อ..ที่จริงก็แค่บริษัทเล็กๆบริษัทนึง งานที่สัม ภาณฝษณ์คืองานหน้าเคาท์เตอร์
ฉันอยากหางานทำไปก่อน อย่างน้อยก็เลี้ยงตัวเอง ให้รอดก่อน”
มานพนึกขึ้นมาได้ เขาอยากให้เธอไปทำงานที่บรษัท ของตัวเอง แต่เห็นพิงกี้ที่หัวดื้อ
เขาไม่อยากผลักเธอให้ออกห่างกว่าเดิม จึงต้อง กลืนคำพูดนี้ไว้ ทั้งสองพูดคุยกัน
อารมณ์ของพิงกี้ก็สงบนิ่งลงโดยไม่รู้ตัว และก็ถึงจุด หมายปลายทางแล้ว
“ พี่มานพ ขอบคุณมากเลยนะ ! พี่ไปทำธุระของพี่ เถอะ ว่างแล้วค่อยคุยกัน”
พิงกี้โดดลงจากรถและโบกมือลากับมานพ มานพยิ้ม
อ่อนๆ
“ อืม รีบไปเถอะ “พิงกี้หันหลังเดินไป ผมที่มัดรวบ
ไว้สะบัดไปมาอย่างร่าเริง
งานสัมภาษณ์ง่ายมาก แค่พูดคุยและดูหน้าตาเฉยๆ ตำแหน่งงานหน้าเคาท์เตอร์
นอกจากหน้าตาสวยและนิสัยดีกับทำงานคร่องแคร่ วก็พอแล้ว พิงกี้หน้าตาสะสวย
และเป็นคนพูดจาสนุก ไม่นานเจ้านายก็ตกลงรับเธอ ไว้และเซ็นต์สัญญาตอนนั้นเลย
เงินเดือนกับสวัสดิการก็เป็นที่พึงพอใจ เธอก็ไม่คิด ว่าจะอยู่ที่บริษัทตลอดชีวิตหรอก
แต่ทำไปพลางๆ ก่อนก็ไม่เลว เธอค่อยๆเดินลงตึก
เพิ่งเดินไปที่ข้างถนน
เธอตกใจที่เห็นรถออดี้A8คันสีขาวค่อยๆ ขับมาที่
ตรงหน้าเธอ
มานพเลื่อกระยกรถลงและกวักมือเรียกเธอ
“ หิวหรือยัง พี่พาเธอไปทานข้าวเที่ยง”
* ฉัน…”
“ดูท่าทางเธอน่าจะสัมภาษณ์งานได้ราบรื่นใช่ไหม ไม่ฉลองเลี้ยงข้าวพี่มื้อนึงหรือ?”
มานพยักคิ้วเบาๆ เธอยักไหล่และเปิดประตูขึ้นรถ
“ ฉันยังไม่ได้รับเงินเดือน พี่เบาๆหน่อยนะ ฉันจะ ขอบคุณพี่มากเลย ”
“วางใจเถอะ พี่ไม่โหดกับเธอหรอก” แววตาที่อ่อน โยนของมานพมองไปที่พิงกี้
ใบหน้าเธอเริ่มแดง เธอเริ่มรู้สึกเสียใจที่ขึ้นรถเขา