คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 79 เลิกกัน
บทที่ 79 เลิกกัน
เควินอยากถามคำถามนี้ตั้งนานแล้ว
อาจจะเพราะใจคาดเดาคำตอบนี้ได้ตั้งนานแล้ว
เลยไม่อยากหาเรื่องหยามเกียตริตัวเอง เพราะฉะนั้น เขาถึงอัดอั้นจนถึงวันนี้
ถึงได้ถามออกมาภายใต้สถานการณ์แบบนี้
เขาไม่รู้ว่าเพราะตัวเองอยากรู้อย่างกระจ่างแจ้ง
หรือว่าเพราะอยากให้ตัวเองตายใจ?
พิงกี้ไม่พูด ตอนแรกเธอทั้งโกรธทั้งโมโห
แต่ตอนที่ได้ยินเขาถามคำถามนี้มาอย่างกระทันหัน
หัวใจเธอเหมือนถูกมีดกรีดไปแผลนึง จู่ๆเจ็บขึ้นมา
อย่างรุนแรง
จนเธอทำอะไรไม่ถูก บรรยากาศที่เงียบงันรอบๆ
เหมือนกำลังบีบเค้นเธอ
เธอรู้ว่าเขากำลังรอคำตอบจากเธอ
“ แล้วคุณเคยแคร์ไหม?” เธอถามกลับ
“ในช่วงระหว่างที่ฉันตามราวีคุณแปดปี ถ้าคุณหัน มาเหลียวมองฉันสักครั้ง
ความสัมพันธ์ของเราอาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้ แต่คุณ ไม่เคยหันมามองฉันเลย
สายตาคุณมีแต่ลิสาตลอด คุณปกป้องเธอ แคร์แต่
ตอนที่เธออายุสิบแปดบอกรักคุณ คุณตอบรับคำ
บอกรักของเธอ
รับปากว่าเป็นแฟนเธอ…ความอ่อนโยนของคุณมีให้
แค่ลิสา
คนเดียวไม่ใช่หรือ?” “ ในเมื่อเป็นแบบนี้
แล้วคุณยังจะแคร์ว่าฉันเคยรักคุณจริงหรือเปล่า
ทำไม?
เพราะยังไงคุณก็ไม่เคยแคร์มันอยู่แล้ว ตอนนี้คุณก็
ไม่จำเป็นต้องแคร์หรอก”
น้ำตาที่อุ่นไหลลงมาจากตาอย่างควบคุมไม่ได้ พิงกี้
หันหน้าไปที่อื่น
ไม่อยากเหเขาเหน
* เธอรักมานพ? ” เควินถาม
“ เปล่า”
* อยู่กับฉัน เธอรู้สึกทรมานใช่ไหม?
“ ใช่ ” พิงกี้พูดเสียงหลบ “ ทรมานมาก ทรมานทุก
วินาที!
ฉันพยายามพูดหว่านล้อมตัวเองว่าอยู่กับคุณก็จะ สามารถแก้แค้นลิสาได้
แต่ฉันก็ยังทรมานอยู่ดี! ฉันไม่อยากเป็นมือที่สาม
ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงที่ทำลายความรักของคนอื่น!
ถึงฉันจะแก้แค้นลิสา ฉันก็จะแก้แค้นด้วยวิธีที่เปิด
เผยและตรงไปตรงมา
“ เมื่อก่อนตอนที่ฉันคบกับลิสา ทำไมเธอยังตามจีบ
ฉันต่อ?”
พิงกี้ทึ่งไปครู่นึง “ นั่น…คงเป็นเพราะว่า ฉันแค่
อยากตามจีบคณ
แต่ไม่เคยคาดหวังจะได้การตอบรับจากคุ ความคิดเธอ เน
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าสักวันเขาจะรักเธอขึ้นมาจริงๆ
เมื่อก่อน
เธอแค่อยากทําอะไรให้เขาเยอะๆ ทำให้เขามีความ สุขยิ่งๆขึ้นไปอีก
ต่อมาเขากับลิสาคบกัน เธอเหมือนเหยียบเบรก
ไม่ทันแล้ว
ถึงได้ยังชินที่จะติดตามเขา ความรักแบบนี้ยากที่จะ
ใช้คำพูดบรรยาย
ถ้าต้องให้พูดจริงๆ ก็คงเป็นความรักที่ไม่ต้องการสิ่ง
ตอบแทน
คงเป็นเพราะพยายามห้ามใจไว้ และเป็นเพราะเขา
ทำให้เธอหมดหวัง
เลยทำให้ความรักยิ่งอยู่ยิ่งจืดจาง จนสุดท้ายเธอ
ยอมละทิ้ง
แท้คือแบบนี้นี่เอง ” เควินหัวเราะเสียงต่ำที่นึง
อารมณ์ที่แฝงอยู่ในเสียงทำให้คนรู้สึกสาสารอย่าง
บอกไม่ถูก
* เธอไปเถอะ ” เควินทิ้งคำพูดนึงไว้แล้วเดินจากไป
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งมาก
ฟังไม่ออกอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ข้างในคือความดีใจหรือ
ความเศร้าโศก
พิงกี้ล้มลงไปที่พื้นอย่างช้าๆ เธอก้มหน้าลงไปกอด
ที่เข่าไว้
น้ำตาไหลอย่างเงียบๆ สมองยุ่งเหยิงไปหมด ทำให้
เควินโกรธจนจากไป
แต่เธอไม่รู้สึกมีความสุขหลังจากได้ชัยชนะเลย
เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ! หลอกตัวเองว่า
ไม่แคร์
แต่ว่าเธอแบกรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
เธอลงใดควบคุมอารมณ์และความรว งงเอง
ไม่ได้
เธอเหมือนไม้ธนูที่ถูกดึงจนถึงขีดสุด
ที่สามารถนำพาแต่ความบาดเจ็บมาให้อย่างควบคุม
ไม่ได้
แบบนี้ไม่ดี เธอไม่อยากเป็นแบบนี้! ถึงแม้ลิสาลอบ
ทำร้ายเธอก่อน
เธอก็ไม่อยากคลุมเครือกับเควินไม่เลิก
เธอไม่อยากขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไม่มีความรักเพราะ
สาเหตุใดๆทั้งสิ้น
ไม่อยากถูกบีบให้ทำสิ่งที่ไม่ชอบ
ยิ่งไม่อยากเอาเรื่องอย่างนั้นไปเป็นข้อแลก
เปลี่ยน…เธอไม่อยาก
ถึงเธอหลอกตัวเองว่าไม่แคร์ หลอกจนตัวเองใกล้จะ
เชื่อว่าคือความจริง
แต่ว่านาทีนี้เธอเพิ่งรู้ใจตัวเองอย่างถ่องแท้
เธอไม่ได้เข้มแข็งและแบกรับได้เยอะขนาดนั้น ไม่รู ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
พิงกี้ลุกขึ้นจากพื้นและหยิบของๆตัวเองแล้วเดินจาก
เธอไม่ได้ขับรถของเควินไป เธอเดินออกจากวิลล่า
ทีละก้าวๆ
ยืนอยู่สวนดอกไม้บนดาดฟ้า เควินมองดูผู้หญิงที่ เดินจากไปอย่างเงียบๆ
เธอเหมือนผีเสื้อที่ไม่มีวันโบยบินกลับมาอีก
บอบบางจนทำให้คนไม่กล้าเอื้อมมือไปจับ ถึงอยาก
รั้งเธอไว้แค่ไหน
เขาก็ได้แต่พยายามห้ามความคิดนี้ไว้ กลัวขึ้นใช้แรง
อีกเธอก็จะตายไป
เขาสั่งการให้พายุที่ยืนอยู่ข้างหลัง “ ส่งเธอกลับที่
ไปที่คอนโดวิมานเมฆ
ดูเธอเข้าห้องแล้วค่อยกลับมา
“ ครับ พายุรับคําสั่งแล้วเดินจากไป
ค่ำคืนที่เงียบสงบ ตอนที่เราผอมบางห่างหายไป จากสายตาเควิน
เขาจุดบุหรี่ขึ้นมามวนนึง ให้ควันบุหรี่เหน็บชาเส้น ประสาทที่เจ็บจี๊ดอย่างรุนแรง
แววตาที่ตึงเครียดค่อยๆหลับตาลง สักพักเควินโทร
หาลิสา
เขาพูดแค่สั้นๆคำเดียว “ ลิสา เราเลิกกันเถอะ
ความเด็ดขาดเขาเคยคิดที่จะทำตั้งนานแล้ว
นั่งอยู่บนรถ พิงกี้มองกระจกรถดูวิวที่ถอยหลังไป เรื่อยๆอย่างเหม่อลอย
เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้นที่จะเดินคนเดียวอยู่ในที่มืด
ดื้อด้านที่จะเดินกลับคอนโดวิมานเมฆคนเดียว
ถึงจะทะเลาะแตกคอกับเควินยังไง เธอก็ยังขึ้นรถที่ เขาจัดเตรียมมา
ที่จริงบรอดเจ้าก็ไม่ได้อนขนาดนั้น ไม่ใช่คนที่ไม่ยอมพายแพตลอด
และไม่ใช่คนที่จะพยายามต่อสู้กับอำนาจที่ชั่ว
ร้าย….ที่
จริง เธอเป็นคนเก่งที่อยู่รอดในความทุกข์ยาก ลำบากได้ดี
ห้วงเวลาที่ทุกข์ยากลำบากที่ผ่านมาได้ซึมซับเข้าไป ที่กระดูกดำของเธอแล้ว
เธอรู้สึกตัวเองย่ำแย่พอแล้ว บรรยากาศในรถเงียบ
งันมาก
พายุดูกระจกมองหลังไปหลายครั้ง ถึงตัดสินใจเปิด
ปากพูด
“ คุณพิงกี้อย่าโกรธเจ้านายเลยนะครับ ทุกครั้งที่
คุณสองคนทะเลาะกัน
คุณทุกข์ใจ เขาก็ทุกข์ใจมากเหมือนกัน….
มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องทำแลบนั้นหล่ะครับ?
” เขาไม่มีความสุขได้ยังไง?
นังเสพสุขกับผู้หญิงที่ตัวเองรักพร้อมๆกันหลายคน
ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายชอบที่สุดหรือ?”
“ แต่ผมรู้สึกว่าใจของเจ้านายอยู่ที่คุณนะครับ
เขากับคุณลิสาช้าเร็วก็ต้องเลิกกันครับ
ตอนนี้พวกคุณทะเลาะกันแบบนี้มันทำลายความรู้สึก
มากนะครับ”
“ ความรู้สึกไม่ความรู้สึกอะไร? ฉันกับเขาไม่มีความ
รู้สึกอะไรหรอก
มีก็มีแต่ข้อแลกเปลี่ยน ขอแค่เขายังคบกับลิสาอยู่
วันนึง
ฉันก็คือมือที่สามที่เข้ามาแทรกแทรงความรักของ
พวกเขา อ่อไม่…
จู่ๆคิดอะไรขึ้นมาได้ พิงกี้หัวเราะเยาะตัวเอง
* ฉันลืมไป ที่จริงฉันใช่ใช่แม้แต่มือที่สาม
ฉันไม่มีความสามารถที่จะไปทำลายความรักของเขา
กับลิสา
เขาเคยพูดดงนานแล้ว ฉันเป็นแ งเล่นของเขา
มีแต่ลิสาที่จะเป็นภรรยาในอนาคตเขา…..
พายุพูดอย่างสอบถาม * เจ้านายเคยพูดแบบนี้จริงๆ
หรือครับ?
คุณฟังผิดหรือเปล่าครับ?”
* ฟังไม่ผิดหรอก ” พายุแอบเสียใจด้วยกับเควิน อย่างเงียบๆอยู่ในใจ
จู่ๆเขารู้สึกว่าเจ้านายที่สูงส่งคนนี้อีคิวต่ำกว่าเขาอีก
ที่เจ้านายตัวเองสละความโสดและซิงก่อนตัวเองคง เพราะว่าโชคดีแน่ๆ……..
“ ต่อจากนี้คุณจะทำยังไงต่อครับ? ”
“ เขาให้ฉันไปก็คงไม่ตามราวีฉันแล้วแหล่ะ แบบนี้
ฉันก็สบายแล้ว
นี่ถือว่าเป็นข่าวดี พิงกี้เม้มปากพยายามลืมความเจ็บ
ปวดในใจ
เธอยิ้มและเปิดปากพูด “ อวยพรฉันหน่อยสิ
“ ยินดีด้วยนะครับ ” คำพูดนี้พายุพูดจากใจจริง
แต่ว่าถ้าสีหน้าของพิงกี้ไม่ฝืนใจขนาดนั้น เขาอาจจะ จริงใจกว่านี้ได้อีก