คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 87 ชอบเขา ทําไมไม่อยู่กับเขา
“ พิงกี้ นี่เธอคิดยังไงกันแน่เนี่ย?” น้ำหวานปอก แอ๊ปเปิ้ลแล้วยื่นให้พิงกี้
ดวงตาที่กลมโตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและ
สอดรู้สอดเห็น
สว่างเหมือนไฟฉายสองดวงที่ไม่ส่องให้ความลับรั่ว ไหลออกมาไม่ยอมเลิกลา
พิงกี้รู้สึกหมดคำพูดกับเธอ “ ฉันนึกว่าเธอจะช่วย พี่มานพพูดซะอีก…..
เธอถูกจิ๊กโก๋ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว
น้ำหวานกับมานพเมื่อคืนก็มาเยี่ยมเธอแล้ว เพราะ สีหน้ามานพซีดเซียว
หน้าผากที่เหงื่อไหลออกมาเป็นเม็ดๆ แค่ดูก็รู้ว่า ร่างกายยังไม่หายดี
พูดแค่ไม่กี่คำก็ถูกเธอบังคับให้กลับไปพักผ่อน…
คิดไม่ถึงว่าเช้าตรู่น้ำหวานก็แวะมาเยี่ยมเธออีกครั้ง
ช่วงนี้เจอเรื่องวุ่นวายเยอะมาก
ในเมื่อน้ำหวานเอ่ยขึ้นมาเธอก็เลยเล่าให้น้ำหวานฟัง
แต่คิดไม่ถึงกลับทำให้น้ำหวานยิ่งเกิดความสงสัย ขึ้นไปอีก
* เอ่อ… ” คำพูดของพิงกี้ทำให้น้ำหวานอึ้งไปครู่
จากนั้นก็ไม่เอามาใส่ใจและ พูดอย่างโผงผางต่อ
* เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน เธอตอบคำถามฉันก่อน !
เควินบอกรักเธอแล้ว เธอก็ชอบเขาเหมือนกัน
แต่ทำไมไม่ยอมตอบตกลงเป็นแฟนเขาหล่ะ?”
…..”พิงกี้ก้มตาเพื่อปิดบังความเหงาในแววตา
เธอพูดเบาๆ
ฉันก็ไม่รู้สิ ”
“ ห้า เธอไม่รู้เนี่ยนะ? ”
“อืมๆ ” เธอไม่รู้จริงๆ ในใจรู้สึกสับสน
ทุกอย่างอย่างไม่ได้คิดไตร่ตรองดีๆเลย ไม่…เธอ อาจจะรู้อยู่ แต่ก็อยากที่จะไม่รู้สึกว่า…….
เรื่องของความรักมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มีเรื่อง ต้องให้คิดเยอะมาก
หายใจลึกๆเฮือกนึง พิงกี้ฝืนยิ้มและพูด
“ บางทีหลายๆอย่างมันไม่เอื้ออำนวย
ถึงชอบพอกันก็อาจจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
“ เพราะอะไร? ”
“ สำหรับฉัน คงเพราะกลัวความวุ่นวาย “พิงกี้
อธิบาย
“ ถ้าฉันรับปากเควิน ต่อไปคงต้องเจอปัญหาเยอะ
มาก
ไม่ว่าปัญหาที่มาจากตระกูลดำรงกูล มาจาก ตระกูลภิรมย์ภักดี
หรือมาจากตระกูลบุญถาวรและลิสา….ฉันไม่ อยากรับมือทั้งสิ้น
ฉันเรียกร้องไม่เยอะ ฉันแค่อยากมีชีวิตที่สงบสุข แต่ถ้าฉันอยู่กับเควิน
ต่อไปฉันก็อย่าหวังจะได้มีชีวิตสงบสุขเลย
“ ในเมื่อเธออยากได้ชีวิตที่สงบสุข ทำไมเธอไม่ รับปากพี่ชายฉันหล่ะ?
พี่ชายฉันรักเธอหัวปักหัวป่า น้องสาวอย่างฉันก็ไม่ สร้างปัญหาให้เธอ
แน่นอนอยู่แล้ว แม่ฉันเป็นคนปากร้ายแต่จิตใจดี ครั้งก่อน….
ถึงแม่ฉันตบหน้าเธอไปทีนึง แต่แม่ฉันมาคิดๆแล้วก็ รู้สึกเสียใจทีหลัง
ท่านอยากมาขอโทษเธอ แต่เกรงใจไม่กล้า
มา….สรุปรวมๆแล้ว
บ้านฉันนั่นแหล่ะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเธอ!
น้ำหวานพูดยาวเหยียดให้จบทีเดียวเหมือนท่อง หนังสือเลย
พิงกี้ไม่ได้พูดแทรก พอเธอพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ กดไปทีนึง
พิงกี้ถึงสงสัยและถาม “ เธอหยิบโทรศัพท์มาทำ อะไร? ”
“ ฮ่าๆ…. น้ำหวานหน้าก็ไม่เงย เธอพูดอย่าง
ธรรมชาติ
“ ก็อัดคลิปเสียงไง!
“ อัดคลิปเสียงทำไม?
“ อัดไว้ให้พี่ชายฉันฟังหน่ะสิ ฮิๆ….”
น้ำหวานยิ้มแก้มปริ และพูดอย่างเจ้าเล่ห์
* เธอคิดดูสิ ฉันช่วยพี่ชายฉันพูดดีเข้าตัวมาเยอะ ขนาดนี้
ฉันก็ต้องเอาค่าขนมหน่อยสิถูกไหม? ฉันกลัวพี่ ชายฉันไม่เชื่อ
ฉันก็เลยจะอัดคลิปไว้เอาหลักฐานนี้ไปขอเงินกับ
เขาไง! ”
‘ เธอทำถึงขั้นนี้เลยหรือ? “พิงกี้รู้สึกทึ่งจริงๆ
ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเธอก็ไร้ยางอายพอแล้ว
แต่คิดไม่ถึงข้างกายยังซ่อนผู้มีวิชาล้ำเลิศกว่าเธอ
เสียอีก!
“ แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเป็นคนทำงานด้วยความ จริงใจมากนะจะบอกให้
ทุกอย่างต้องเอาหลักฐานมาคุยกัน! ”
งั้นคำพูดที่ก่อนหน้านั้นเราคุยกัน……..
ไม่ได้อัด ฉันแค่อัดท่อนที่เมื่อกี้ฉันพูดเฉยๆ พิง
กี้ค่อยสบายใจหน่อย
น้ำหวานเอาโทรศัพท์ใส่เข้าไปที่กระเป๋า ในที่สุดก็
เริ่มพูดดีๆด้วย
“ พิงกี้ ไม่ใช่ฉันช่วยพี่ชายฉันพูดเอาดีเข้าตัวนะ
แต่ฉันรู้สึกเธออยู่กับพี่ชายฉันถึงจะเป็นการตัดสิน
ใจที่ดีที่สุดแล้ว
เธออยากได้ความสงบ เขาสามารถให้ความสงบ
เธอได้
เธออยากอิสระเสรี เขาก็สามารถตามใจเธอได้ ขอ
แค่เธอไม่นอกใจเขา
ทุกอย่างเขาต้องเอาเธอเป็นหลักแน่นอน ถึงเวลา
นั้น….แฮ่ๆๆ
ค่าขนมของเค้าก็ต้องพี่สะใภ้เป็นคนให้ฉันแล้ว!
พิงกี้ “ คนๆนี้หนี่พูดไม่ถึงสองคำก็เริ่มคิด
เรื่องเงินอีกแล้ว
แต่ว่า…….
* เธอคิดว่าใจฉันมีเควินอยู่ ยังจะหลอกตัวเองเพื่อ อยู่กับพี่มานพได้งั้นหรือ?
พิงกี้ยิ้มอย่างจนปัญญา
“ ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็คงเป็นคนไร้ยางอายเกินไป
ไม่เพียงแต่ได้เสพสุขความรักที่พี่มานพมีให้
แถมยังไม่ยอมทุ่มเทเพื่อเขาอีก
* พี่ชายฉันขอแค่ได้อยู่กับเธอเขาก็พอใจแล้ว
“ ตอนแรกเป็นแบบนี้ แต่ต่อไปอาจจะไม่แน่ หรอก”พิงกี้ส่ายหัว
“ พิงกี้……….”
* เอาหล่ะ เราคุยเรื่องอื่นดีกว่า ” พิงกี้พูดแทรกน้ำ หวาน เธอยิ้มและถามต่อ
เกี๊ยวน้ำที่ฉันเอามาฝากเมื่ออร่อยไหม?”
คำพูดเปลี่ยนประเด็นแบบนี้เปลี่ยนแบบไม่ใช้ใจ
คิดมาก
แต่น้ำหวานเห็นสายตาของเธอเต็มไปด้วยความ
หนักแน่น
เธอก็รู้เลยว่าพูดหว่านล้อมฟังก็ไม่ได้ เธอก็ไม่ได้
ฝืนใจต่อ
จากนั้นก็คุยเล่นกับพิงกี้ต่อ นั่งไปชั่วโมงกว่า
เธอกลัวพิงกี้จะเหนื่อยเลยขอไปก่อน พอน้ำหวาน
พิงกี้มองดูต้นไม้ที่เขียวขจี ดวงตาที่สวยงามค่อยๆ
เศร้าหมอง
เธอคิดถูก…หรือคิดผิด? เธอยอมรับว่าเธอชอบเค
ไป
แถมยังยอมรับต่อหน้าเขา แต่เธอจะไม่อยู่กับเขาเศร้าหมอง
เธอคิดถูก…หรือคิดผิด? เธอยอมรับว่าเธอชอบเค
แถมยังยอมรับต่อหน้าเขา แต่เธอจะไม่อยู่กับเขา
จริงๆหรือ?
ก็เหมือนที่เธอเคยบอกกับน้ำหวาน กิเลสของคน
มันยากที่จะเติมเต็ม
ตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แค่คิดว่าได้อยู่ด้วยกันก็
เพียงพอแล้ว
แต่พอได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็คิดอยากให้อีกฝ่ายรัก
ตัวเองให้มากกว่านี้
แต่ว่าพอตอนที่ความรักเร่าร้อนเหมือนไฟ
ก็เริ่มคาดหวังให้ความรักนี้บริสุทธ์จนไม่มีคราบ
สกปรก…..
เวลานี้ เรื่องที่เดิมทีไม่แคร์ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ถึงจะสงบสติอารมณ์ยังไงก็สามารถกลายเป็น ความเจ็บปวดที่แสนทรมานได้
วิน
อีกอย่าง ระหว่างเธอกับเควินมีมรสุมเยอะมาก
เธอไม่อยากให้ความรักนี้เริ่มด้วยความหวานแหวว
สุดท้ายจบด้วยความเกลียดชัง ถ้าเป็นแบบนั้น เธอ ยอมอยู่คนเดียวเงียบๆ
และไม่มีความข้องเกี่ยวใดๆทั้งสิ้นกับเขาดีกว่า
สําหรับมานพ….
ถ้าเธอเป็นคนใจดำและเห็นแก่ตัวจริงๆ อย่างมาก เธอก็แค่เลือกอยู่กับมานพ
มานพสามารถให้ชีวิตที่สงบสุขอย่างที่เธอต้องการ
ครอบครัวเขาต่างก็เป็นคนดีไม่มีทางดูถูกเธอ
แต่ก็เพราะพวกเขาต่างก็ดีขนาดนี้
เธอยิ่งไม่อยากให้พวกเขาได้รับความเดือดร้อน
ถ้าเธออยู่กับมานพ
นิสัยของเควิน เขาต้องใช้อำนาจที่มีลงมือกับมา
นพแน่ๆ
ได้
จริงๆ
ถ้าเธอปฏิเสธเควินแล้วไปเลือกผู้ชายคนอื่นก็ เหมือนหยามหน้าเขา
เขาไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแน่……. อยู่ตัวคนเดียวดีกว่า คิดไปคิดมา เธอ
พิงกี้นอนพักแค่ไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
หลายวันนี้เควินไม่เคยโผล่หน้ามาเลย
เธอก็แกล้งทำเป็นไม่แคร์และไม่ติดต่อเขา