คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 99 โอกาสในยามวิกฤติ
ดึกป่านนี้แล้ว ใครยังโทรมาหาเธออีก
คงไม่ใช่ พวกน้ำผึ้งมั้ง? พิงกี้หยิบโทรศัพท์ขึ้น มาอย่างหงุดหงิด
พอหยิบขึ้นมาดูเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เคย
ร่วมงาน
“ เถ้าแก่เนี้ยะ โทรหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า
คะ?”
พิงกี้นึกว่า พบปัญหาหลังการทำงาน เลยถาม
อย่างมีมารยาท
“ คราวที่แล้วไม่ใช่ว่าจะแนะนำงานให้เธอหรือ?
พอดีเพื่อนฉันที่เปิดบาร์แวะมาเที่ยวที่ร้าน
เห็นภาพวาดของเธอแล้วบอกว่าชอบมาก
เลยมาให้ฉันถามเธอสนใจอยากจะเปลี่ยนลุก ใหม่ให้บาร์เขาไหม?
“ สนใจสิคะ! ” พริบตาเดียวพิงกี้ตาสว่างเลย
“เถ้าแก่เนียะ ช่วงนี้ฉันมีเวลาว่าง พรุ่งนี้ก็ สามารถไปรายงานตัวได้เลยค่ะ ”
“ ดี งั้นก็เอาตามนี้เลยนะ ฉันเอาเบอร์เพื่อนฉัน
ให้เธอ
พวกเธอติดต่อคุยกันเองนะ ”
ขอบคุณมากเลยนะคะเถ้าแก่เนี้ยะ กลับมา ฉันขอเลี้ยงข้าวคุณนะ
‘ ไม่ต้องๆ ตอนนี้เธอลำบากเรื่องเงินอยู่ ไม่
ต้องลำบากเลี้ยงฉันหรอก ”
เถ้าแก่เนี้ยะอดขำไม่ได้ “ ฉันจำได้เธอทำงาน
ฝีมือเป็นด้วย
ฉันยังอยากให้เธอออกแบบผ้าคาดโต๊ะและผ้าปู
โต๊ะแหน่ะ
ถึงเวลาเธอคิดราคาพิเศษให้ฉันหน่อยก็พอแล้ว
นี่ก็เป็นอีกบิลนึง พิงกี้ต้องรับปากอยู่แล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งสวยขึ้นไปอีก
“ เถ้าแก่เนี้ยะเป็นคนหางานให้ฉัน ฉันต้องลด ราคาให้คุณอยู่แล้วค่ะ
“ งั้นฉันก็จะรองานออกแบบของเธอนะ “เถ้า แก่เนี้ยะก็หัวเราะอย่างสะใจ
“ ฉันชื่อพิมพ์ อายุเยอะกว่าเธอ เธอไม่ต้อง เรียกฉันเถ้าแก่เนี้ยะ
ต่อไปเรียกฉันพี่พิมพ์เถอะ
“ ได้ค่ะ พี่พิมพ์ ” พอวางสาย เธอหายใจออก แรงๆเฮือกนึง
เหมือนระบายความหงุดหงิดและทุกข์ใจออก
ใบหน้าที่ขาวใสยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ในเมื่อ บิลใหม่นี้คืองานในบาร์
เวลาทํางานคือกลางคืน
พอดีเลยถ้าไปตอนนี้ก็สามารถเริ่มทำงานเลยก็ไม่เลวนะ…. แฮ่ะๆ
ถ้าสามารถเซ็นต์สัญญาฉบับนี้ได้ราบรื่นนะ
พิงกี้มีความหวังแบบนี้ เธอโทรศัพท์ออก ฝั่งนู้น
เป็นเสียงชายหนุ่มคนนึง
พิงกี้คุยกับเธอไปสักพัก ยังถือว่าคุยกันถูกคอ
เธอเลยตัดสินใจจะไปดูสถานการณ์ที่บาร์
อยู่
โดยตรงหน่อย
—–ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พิงกี้ยืนอยู่หน้า
ประตูร้านบาร์ชื่อ “วิกตอเรีย
แสงไฟหลากหลายสีระยิบระยับเดี๋ยวสว่าง
เดี๋ยวมืด
เสียงดนตรีที่ดังและสั่นสะเทือนเหมือนจะ ระเบิดให้หลังคาแตก
พิงกี้ลากกระเป๋าและเดินผ่านเวทีไป เธอถาม ทางบาร์เทนเดอร์คนนึงเสร็จ
จากนั้นก็เดินขึ้นไปถึงที่หน้าประตูออฟฟิศชั้น
ก๊อกๆๆ ” เธอเคาะประตู
“ เข้ามา ” เสียงของผู้ชายเป็นเสียงเดียวกันกับ
ในโทรศัพท์
พิงกี้ผลักประตูเข้าไป
ทั้งห้องมีแต่กลิ่นควันบุหรี่ ทันใดนั้นด้วย จิตใต้สำนึกเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ ขอโทษด้วย ฉันเป็นคนสูบบุหรี่จัดไปหน่อย
ท่ามกลางควันบุหรี่
ผู้ชายที่รูปร่างสูงเดินมาตรงหน้าพิงกี้ และยื่น
มือทักทาย
“ สวัสดีครับ ผมชื่อดุสิตครับ
“ สวัสดีค่ะ ” พิงกี้ยื่นมือออก
ฉันชื่อพิงกี้ค่ะ ”
สอง
“ อืม….
” ดุสิตติดนิสัยหยิบบุหรี่ขึ้นมามวนนึง
เมื่อกี้เธอเดินผ่านร้านมา รู้สึกเป็นไงบ้าง มี ความคิดอะไรหรือเปล่า?
“ ตอนที่ฉันมาสำรวจดูระแวกร้านมาครู่นึง
สังเกตุเห็นที่นี่ไม่เพียงแต่มีมหาวิทยาลัยสอง แห่ง ยังมีโซนที่ค่อนข้างไฮคลาส
ตามหลักแล้วที่นี่ถือว่าทำเลดีทำมาค้าขายน่า
แต่ดูจากสถานการณ์คืนนี้แล้ว ผู้คนที่เข้าออก
จะรุ่ง
บาร์ไม่ ถือว่าเยอะเท่าไหร่
ฉันรู้สึกในนี้ต้องมีปัญหาที่เราไม่ได้คำนึงถึงค่ะ
* อ้อหรอ? เธอคิดว่าปัญหาเกิดจากที่ไหน
หล่ะ? »
ดุสิตถือบุหรี่มวนนึงเล่นอยู่ในมือ แต่ไม่ได้จุด
ไฟ
ฟัง มองเขาแล้วยืมอ่อนๆ
“ส่วนตัวฉันคิดว่า
โซนนี้อาจจะเหมาะกับการทำบาร์นั่งเล่น ชิวๆ มากกว่านะคะ ”
เธอบอกความคิดเห็นตัวเองออกมา ดวงตาคู่ งามมองไปที่ดุสิต
“ ดูท่าคุณดุสิตแล้ว บาร์แห่งนี้คงจะเป็นแค่ ธุรกิจเล่นๆของคุณ
– ให้ฉันบริหาร ถ้าคุณเชื่อใจฉันหรือว่าใจกล้าที่จะพนันดูหล่ะก็ ไม่ลองให้ฉันบริหารดู
“อื้ม? ”ดุสิตยักคิ้ว คิดไม่ถึงว่าพิงกี้จะพูดแบบนี้
“ ฉันขอใจกล้าที่จะเสนอตัวเองค่ะ ”
“ ดี ” ดุสิตเห็นด้วย เขาจุดบุหรี่ในมือขึ้นมา และสูบลึกๆไปคำนึง
งั้นที่นี่ ก็มอบให้เธอดูแลแล้วนะ ฉันไปก่อน
ห้า? ” พิงกี้ถูกความชิวๆของเขาทำจนอึ้งแล้วสัญญาหล่ะ? ”
จะทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีสัญญาถึงจะน่า เชื่อถือได้ มากกว่าไหม?
” ไม่มีปัญหา! “ดุสิตแสนีปนิ้วทีนึง และตะโกน ออกไปข้างนอก
” วันชัย เข้ามาหน่อยซิ ! ”
พิงกี้ “.
ไม่นานผู้ชายหัวล้านสีหน้าดุร้ายก็เดินเข้ามา
เดินไปที่ตรงหน้าของดุสิตอย่างเคารพ “ คุณ ดุสิตมีอะไรรับสั่งครับ
ดุสิตเสยผมแล้วพูดอย่างขี้เกียจ “ ฉันไม่มี
เวลา
นายช่วยฉันเซ็นต์สัญญากับคุณพิงกี้หน่อย เอา ตามใจชอบเลย ”
“รับทราบครับ
พิงกี “
ตั้งแต่เริ่มคุยกันจนเซ็นต์สัญญาเสร็จ
พิงกี้มองดูสัญญาในมือแล้วยังรู้สึกไม่อยากเชื่อ
ไม่อยากเชื่อ……เธอก็ได้เงินทุนมาสองล้านมา
แบบง่ายๆเลย
เธอสามารถใช้ความคิดทั้งหมดของเธอทำบาร์
นี้ให้สำเร็จ
มีสิทธิ์ตัดสินใจและมีอิสระอย่างร้อย
เปอร์เซ็นต์?
เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?! พิงกี้โจมปักอยู่ใน
ความสงสัย
เธอหยิกตัวเองแรงๆไปทีนึง จากนั้นก็เจ็บจน
ร้องโอ้ยออกมา
“ เอ่อ…” วันชัยผลักประตูเข้ามาเห็นภาพนี้
พอดี เขาอดยิ้มไม่ได้
คุณพิงกี้ครับ คุณดุสิตให้ผมบอกคุณว่าถ้าคุณไม่มีที่พัก
สามารถพักที่ออฟฟิศนี้ชั่วคราวได้ครับ….ถ้า คุณไม่รังเกียจนะครับ ”
ยังมีเรื่องดีแบบนี้ด้วยหรือ?
“ ไม่รังเกียจค่ะๆ ” พิงกี้สายมือ แต่เธอกอด
ถามไม่ได้
* คุณดุสิตรู้ว่าฉันไม่มีที่พักหรือคะ? ”
วันชัยชี้ไปที่กระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ที่อยู่มุม
“ อ๋อ…” พิงกี้เข้าใจแล้ว ที่นี้ยิ่งเพอร์เฟคเลย!
ไม่เพียงได้งานอย่างใหม่มาชิ้นนึง แถมยัง จัดการปัญหาเรื่องที่พักได้แล้วด้วย !
เปิดหน้าต่างให้กลิ่นควันบุหรี่ลอยออกไป พิงกี้ ถูกสายลมอุ่นๆพัดเป่าอยู่
เธอเสยเส้นผมที่นิ่มนวลไปข้างหู ในใจรู้สึกมี
ความหวังขึ้นมาอีก
ห้อง
ไม่ว่าชีวิตจะทําให้เธอตกลงที่ต่ำแค่ไหน เธอก็ สามารถลุกขึ้นมาได้
และจะยิ่งอยู่ยิ่งสูง! ——- ดุสิตออกจากร้านบาร์
เขาหรี่ตามองดูท้องฟ้าที่ถูกแสงส่องจนสว่าง
เส้นผมบนหน้าผากบังสายตาที่เยาะเย้ยเบาๆ
ของเขา
แต่กลิ่นไอของความเหงาบนตัวเขากลับบังยังไง
ก็ยังไม่มิด
เดินไปข้างหน้า เขาก็พบเจอกับเงาที่สูงใหญ่
ยืนอยู่ข้างรถตัวเอง
เหมือนตั้งใจรอเขาอยู่ เขาเดินไปที่ข้างรถอย่าง ไว และหัวเราะใส่คนที่รอทีนึง
“ ทำไม กลัวฉันทำเรื่องที่นายสั่งมาไม่ดีรึไง ถึง ได้ตั้งใจมารอฉันอยู่ที่นี่?