คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 25 กลับไปบ้านสามี
นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการหรอ
นัชชาไม่ทันได้ใจหาย อารมณ์เหมือนถูกคนผลักให้ไปข้างหน้าเรื่องที่เตชิตรู้สึกอยากได้ตัวเธอ เรื่องนี้เธอรู้ดีแต่ตอนนี้เขากลับอยากให้เธอกลับไปหาดวิษอย่างงั้นเหรอ
นี่มันต่างกับการจินตนาการของเธอ ทำให้เธอรู้สึกความสำคัญตัวเองผิดอีกครั้ง
เตชิตมองผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าเขาตลอด เขาเห็นทุกอาการความรู้สึกของเธอ ทั้งตกใจและวิตกกังวล อย่างเหลือเชื่อ จนไปถึงขั้นรู้สึกผิดหวังและสับสน ตอนนี้เขาเห็นมันทุกอย่าง
การตอบสนองนี้ดีกว่าที่เขาคิดไว้ อย่างน้อยเธอก็รู้สึกเพราะเขาไม่ใช่เพราะดวิษ
การสนทนาหลังๆนัชชาแสดงออกชัดเจนว่าใจไม่อยู่กันเนื้อกับตัวเธอต้องคิดพิจารณาอย่างหนักว่าควรกลับไปนิเวศน์วิลล่ามั้ย
หลังจบการสนทนา ทนายปวิมลแยกกลับก่อน เตชิตยังนั่งอยู่ที่เดิม นัชชาก็เหมือนกัน
คนหนึ่งทำหน้านิ่ง อีกคนก็เอาแต่ก้มหน้า มีโต๊ะคั่นระหว่างกลางไว้ บรรยากาศเริ่มมาคุขึ้นมา
ให้โอกาสคุณได้กลับไปหาสามีเก่า ไม่ดีใจเหรอ
น้ำเสียงที่นิ่งเหมือนสายน้ำลอยอยู่บนหัว นัชชาเงยหน้าขี้นอย่างรวดเร็วคิ้วขมวดเกือบจะกัน คุณหมายความว่ายังไง
เตชิตหัวเราะออกมาเบาๆ หัวใจเต้นแรงจนเกิดเสียงเล็กน้อย
นัชชาเห็นเขาหัวเราะในจังหวะที่กำลังโกรธและรู้สึกเสียใจ รู้สึกเหมือนการหย่าของเธอเป็นแค่เรื่องตลกสำหรับเขา
เธอยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจ ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าแล้วหันหลังเดินออกไป มือเพิ่งถึงบานประตูก็ถูกดึงกลับไป
อยู่ที่มุมใกล้ๆประตู ผู้ชายตัวสูงจับเอวเธอไว้ส่วนมือก็ลูบไปลูบมา นัชชาไม่อยากพูดอะไรกับเขา ได้แต่จ้องเขม็งใส่
เตชิตมองใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนจากขาวซีดเป็นสีแดง ตาก็เริ่มปรือ
จนกระทั่งเตชิตถอดเสื้อเธอออก นัชชาทนไม่ไหวแล้วเอาจับมือหน้าเอาไว้ เตชิต นี่มันห้องรับรอง
ตรงมุมเป็นจุดบอดกล้อง
… นัชชาสูดหายใจ ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ
แต่เตชิตไม่สนใจผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนนางมาร ถึงเธอจะไม่ทำอะไรแค่ยืนจ้องเขาเฉยๆก็สามารถทำให้เขามีอารมณ์ได้
เขากดเธอไว้ที่ผนัง เธออย่าส่งเสียงก็แล้วกัน
นัชชารู้สึกอยากตายเอามือดันเขาออก เตชิต คุณหยุดบ้าได้แล้ว
ไม่ ฉันทนจนจะเป็นบ้าแล้ว ผู้ชายดึงมือเธอ ใครใช้ให้เธอใส่เสื้อผ้าแบบนี้มาอ่อยฉัน
นัชชาก้มมองชุดตัวเอง มันก็ปกติก็มีแค่เสื้อที่คอลึกไปหน่อย เธอด่าเสียงเบา คุณมันหื่นเอง
ฉันหื่นแค่กับเธอ พูดจบ ไม่สนใจว่าเธอจะต้านทาน เข้าไปในตัวเธอทันที
นัชชาปิดปากเงียบกลัวตัวเองจะส่งเสียงดัง ผนังเธอทำให้รู้สึกเจ็บ เธอขยับตัวเล็กน้อยยื่นมือไปยันกำแพงเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวไปชนกับผนัง
ดูเหมือนว่า เขามักจะทำให้เธอพ่ายแพ้ตลอดโดยเรื่องแบบนี้
……………….
หลังเสร็จกิจ เธอก็หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดตัวเอง ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้แต่ทั้งสองรู้ดี เธอโยนมันลงถังขยะ คนเลว!
เตชิตผูกเน็คไท แล้วเหล่มองเธอ เมื่อกี้ใครบอกว่าจะเอาอีก
… นัชชาหน้าแดง หันหน้าหนีไม่อยากเห็นหน้าเขา ฉันไปละ
นัชชา เขาเรียกชื่อเต็มของเธอ
นัชชาชะงักเท้าแต่ไม่ได้หันหลังกลับ
เตชิตเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ คุณพิจารณาคำพูดของทนายปวิมลหน่อย
พิจารณาเรื่องอะไร
เรื่องที่กลับไปหาดวิษงั้นเหรอ
อารมณ์โกรธนัชชาลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที เธอกัดริมฝีปากล่างไว้ ก้าวหน้าเดินออกให้ห่างจากเขาเล็กน้อยแล้วหันหลังกลับมา เตชิต คุณคิดว่าฉันจะไปอะไรกับใครง่ายๆก็ได้ใช่มั้ย ใช่! ฉันเป็นผู้หญิงลับๆ ของคุณ ฉันไม่ได้สูงส่งขนาดให้คุณมอง แต่ฉันไม่เคยปล่อยตัวให้ใคร คุณ… เป็นผู้ชายคนแรกของฉัน ฉันไม่สนใจว่าคุณจะมองฉันยังไง แต่ฉันไม่ใช่ลูกบอลที่คุณจะเตะไปเตะมาเพื่อเล่นสนุกได้
เธอพูดระบายออกมาทีเดียวจนหมด ผู้ชายตรงหน้ามองเธอด้วยสายตาเข้มๆ ยกมือจับค้างเธอไว้ แล้วไง จะบอกว่าตัวเองมีอะไรกับฉันแค่คนเดียวเหรอ
นัชชากำลังจะอ้าปากเถียง แต่มันคือความจริง
แต่นี่ไม่ใช่จุดสำคัญที่เธอต้องการ
เตชิตเห็นหน้าจริงจังจ้องเอาคำตอบของเธอ นัชชา ฉันไม่ได้เห็นเธอเป็นลูกบอล ยิ่งไม่มีวันปล่อยเธอให้คนอื่น ให้เธอไปหาดวิษเพื่อให้ไปหาหลักฐาน ไม่ได้ให้พวกเธอกลับไปคืนดีกัน
พูดอยู่ดีๆ เขาก็ล้วงมือไปหยิบสร้อยเงินจากกระเป๋าเสื้อ เขาย่อเข่าลงตรงหน้าเธอ นัชชารู้สึกได้เพียงมีอะไรเย็นๆ โดนที่ขาซ้าย ของเธอ สร้อยถูกสวมเข้ามาแล้ว มันคือเครื่องติดตาม ถ้าหากเธอกล้ามีอะไรกับคนอื่น ฉันจะฆ่าผู้ชายคนนั้นทิ้งก่อนแล้วค่อยหักขาเธอทิ้ง
…………………..
คำขู่ของเตชิตได้ผลจริง นัชชาก็ยอมตกลงทำตามคำแนะนำนี้ ในเวลาเดียวกันเธอก็เข้าไปทำงานที่เตนัทลอว์เฟิร์มเป็นทางการ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้นัชชารู้สึกไม่เหมือนที่คิดเอาไว้ เมื่อเธอเพิ่งกลับมาอยู่ที่นิเวศน์วิลล่าก็เริ่มมีความรู้สึกอยากเจอเตชิตทุกๆวัน
ดวิษรู้เรื่องเพราะได้รับข่าวในโทรศัพท์จากแม่บ้าน เขาคาดไม่ถึง เขาปัดเรื่องที่กินข้าวอยู่กับปณิตาแล้วรีบขับรถกลับบ้าน
นัชชาที่กำลังช่วยป้าแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ พอเห็นเขาเข้ามา แกล้งทำท่านิ่งๆ เธอกลับมาแล้วเหรอ
ดวิษอยากให้เธอรู้สึกประหลาดใจ อยากดึงเธอเข้ามากอด แต่เธอหลบทัน อย่ามาทำตัวรุ่มร่าม ฉันยังไม่ได้อภัยให้คุณ
ดวิษไม่กล้าทำต่อเขากลัวว่าเธอจะโกรธแล้วหนีไปอีก แต่ก็ยังทำหน้าเหมือนไม่กลัวไม่สนใจ คิดได้แล้วเหรอ
นี่ไม่ใช่คำขอโทษและไม่ใช่คำแก้ตัว แต่เป็นคำถามว่าเธอคิดได้แล้วเหรอ
นัชชากลั้นความโมโหเอาไว้ อืม
ดวิษพอใจในคำตอบ เห็นแก่ที่เธอคิดได้กลับมาเอง ครั้งนี้จะปล่อยผ่านไป นัชชา มันจะไม่มีครั้งที่สอง เข้าใจมั้ย
นัชชาแสยะยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบอะไร
คุณทำความสะอาดทำไม
จะนอน
นอนเหรอ ดวิษเดินวนอย่างอารมณ์เสียในห้อง ไล่ให้แม่บ้านออกจากห้องแล้วพูดต่อ เธอกับฉันเป็นสามีภรรยากัน ทำไมต้องแยกเตียงกันนอนด้วย
แต่ก่อนมันจะเป็นแค่เขาที่ไม่กลับบ้าน นัชชาไม่เคยร้องขอให้แยกเตียงนอน ทำให้ดวิษรู้สึกแปลกใจและรู้สึกประหลาด
เหมือนกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงที่เชื่อฟังเขาทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว และไม่ใช่นัชชาคนเดิม
แต่เขาจะชอบผู้หญิงที่ปฏิเสธเขามากกว่า ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ได้มายากๆเขายิ่งชอบ
นัชชาได้ยินทุกอย่าง ยื่นมือไปจัดผ้าปูให้เรียบ ฉันรักสะอาดน่ะ เตียงที่คนอื่นเคยนอน… ฉันไม่ชิน
เขารู้ดีว่าเธอหมายถึงใคร
ดวิษยังตกอยู่ในความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อครู่อยู่ โดนเขาตอกหน้าไปทีหนึ่ง เขาจ้องหน้าเธอ นัชชา อย่าได้คืบจะเอาศอก
ถ้าไม่มีอะไรคุณก็ออกไปได้แล้ว ฉันเหนื่อย นัชชาไม่อยากมองหน้าเขา แค่ลำพังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกับเขาเธอก็รู้สึกไม่สบายตัว
ดวิษปิดประตูเสียงดัง นัชชาโล่งใจ ก้มมองสร้อยที่ข้อเท้า อดทนอีกหน่อยนะ