คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 34 จงใจพูดใส่ร้าย
เมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว นัชชาก็ไปส่งเมทนีกับณัชชนม์ที่บ้าน แล้วรีบกลับไปที่ทำงาน
เธอโดดงานมาทั้งเช้า พอถึงห้องทำงาน แก๋ก็ยื่นรายละเอียดของการประชุมทั้งเช้าให้เธอ กระซิบเบาๆข้างหูเธอ เธอรู้มั้ย วันนี้เวทิดาพอรู้ว่าเธอลางาน หน้าบูดไปเลย คนที่ไม่รู้ก็พากันนึกว่าเธอโดดงาน
ทุกคนคิดว่าเธอโดดงานเหรอ
นัชชางง เธอไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า ไม่มีแม้แต่อารมณ์ที่จะมาลางาน แล้วใครเป็นคนลาให้เธอ
เธอกำลังสงสัย นัชชาก็นึกถึงใบหน้าที่เย็นชากะทันหัน
นอกจากเตชิต คงไม่มีใครสามารถกล้าได้ขนาดนี้
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ เวทิดาคงเกลียดเธอมากขึ้นกว่าเดิม
ฉันคงทำอะไรให้เขาพอใจมั้ง นัชชาพูดแบบเบื่อๆ เธออุ้มเอกสารแล้วเดินไป แก๋ ฉันไปประชุมกับทนายนภันต์ก่อนนะ
แก๋ยกมือทำท่าโอเค ไปเถอะๆ ถ้ามีเรื่องอะไรเดี๋ยวฉันบอกเอง วางใจได้
นัชชาเดินเข้าห้องประชุมก็เห็นนภันต์กับปวิมลนั่งอยู่ในห้องแล้ว เมื่อเห็นเธอเข้ามาในห้องนภันต์ก็ไม่ได้พูดอะไร แม้แต่การประชุมก็พูดประชุมแบบสั้นๆ
หลังจบการประชุม นภันต์พูดขึ้น คุณกลับไปก่อน นัชชาอยู่ต่อด้วย
ปวิมลทำท่างง มองแรงมาที่นัชชา ถึงจะไม่พอใจแต่อยู่ต่อหน้านภันต์เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากออกไปตามที่เขาสั่ง
ในห้องประชุมเหลือแค่เขาสองคน นัชชาที่ก้มหน้าตั้งใจจัดเอกสาร ก็ได้ยินนภันต์ถามเธอ นัชชาใช่มั้ย
เธองง แต่ก็พยักหน้ารับ ใช่ค่ะ
เขาโยนปากกาลงบนโต๊ะ เอียงตัวนั่งไปข้างหลัง ท่าทางที่สบายๆแต่ทำให้คนรู้สึกกดดัน ฉันเคยบอกรึยังว่าทำงานกับฉันไม่มีการใช้ความสัมพันธ์หรือเส้นสายใดๆในการช่วย
การข่มขู่นั้น นัชชาคงจะยากที่จะไม่จำ เคยค่ะ
เรื่องลาวันนี้มันยังไงกันแน่ เวทิดาบอกว่าเธอลา ทำไมฉันไม่ได้รับเรื่องอะไรจากตัวเธอโดยตรง นภันต์ยิ้มแห้ง กลับมานั่งตัวตรง มือสองข้างวางอยู่บนโต๊ะ หรือเป็นเพราะว่าฉันยังไม่มีอำนาจพอที่จะรับเรื่องลาจากคุณ
ไม่ใช่ค่ะ นัชชากลัวเขาเข้าใจผิด รีบพูดอธิบาย ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ แต่วันนี้เกิดเรื่องกะทันหันนิดหน่อยเลยทำให้เสียเวลา ฉันรับประกันว่ามันจะไม่มีครั้งหน้าอีก
ฉันไม่ต้องการคำรับประการที่ไม่มีความหมายแบบนี้ นภันต์น้ำเสียงจริงจัง ถ้ามีครั้งหน้า คุณก็ไปหาทนายคนอื่น ฉันไม่ต้องการคนที่ไม่ให้เกียรติคนอื่น เข้าใจมั้ย
นัชชาก้มจนหัวจะมุดเข้าไปในใต้โต๊ะแล้ว เข้าใจค่ะ
นภันต์เพิ่งได้มองหน้านัชชาตรงๆ เย็นนี้จะมีลูกความมา คุณไปรับหน้าด้วย
ฉันเหรอคะ นัชชาเงยหน้าขึ้นแล้วชี้มาที่ตัวเอง
ไม่กล้าเหรอ
ไม่ใช่ไม่กล้า… แต่ว่าเธอเพิ่งมาทำงาน นภันต์ก็ให้เขาไปรับหน้า เธอรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง
นภันต์มองหน้าที่ดูตกใจอึ้งของเธอ เขาโยนเอกสารให้เธอ อันนี้คือเอกสาร ทำความเข้าใจด้วย ฉันก็อยู่ด้วย คุณไม่ต้องกลัว
เธอได้ยินว่าเขาอยู่ด้วย ก็โล่งใจ ขอบคุณค่ะ ฉัน…
นภันต์พูดขัด แล้วโบกมือไล่เชิงรำคาญ ออกไปได้แล้ว
เวลาบ่ายสองครึ่ง นัชชาเดินตามนภันต์มาที่ห้องรับแขก ผู้ชายใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเทา สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเดินเข้ามาในห้อง
ทนายนภันต์ ขาข้างหนึ่งที่พิการ เดินแบบเซๆ ยื่นมือให้นภันต์ทั้งๆยังห่างกันไกล ให้เห็นถึงการเคารพให้เกรียติ
นภันต์ยื่นมือออกไปจับ คุณนิพิฑ นี่ผู้ช่วยของผม นัชชา ทนายนัช
ครั้งแรกที่โดนคนเรียกว่าทนาย เธอรู้สึกตื่นเต้น ยื่นมือไปจับมือคุณนิพิฑ สวัสดีค่ะ
แต่ว่า…
รู้สึกได้ถึงความแปลก เธอก้มมอง เพิ่งเห็นว่าห้านิ้วแต่เขาหายไปแล้วสามนิ้ว
นัชชายกคิ้ว เธอเก็บมือ แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆให้คนรู้สึกไม่สบายใจ
นภันต์มองเธอ แต่พูดกับคุณพินิฑ เชิญนั่งครับ
ผ่านการฟังนัชชาเพิ่งรู้ว่า คุณนิพิฑเป็นพนักงานสำรวจในบริษัทถ่านแห่งหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการทำงาน ทำให้กระดูกเข่าซ้ายร้าว และนิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วก้อยขาด
อุบัติเหตุครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตเขา แต่เขายังมีลูกสาวที่กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สองอยู่คนหนึ่ง
ทนายนภันต์ ทนายนัช ผมตั้งใจทำงานเพื่อบริษัทมาตลอดยี่สิบปี ไม่เคยทำให้บริษัทเสียประโยชน์ แต่พอมาวันนี้ เขาไม่เคยคิดที่จะให้ค่าตอบแทนผมอย่างเป็นธรรม… นิพิฑพูดไปพูดมาน้ำตาก็ไหล
น้ำตาผู้ชายจะไม่ไหลง่ายๆ เว้นแต่จะเสียงใจมากๆ
นัชชาสูดหายใจ สงบสติอารมณ์ หยิบยื่นกระดาษทิชชู่ให้เขา คุณนิพิฑสบายใจได้ค่ะ คดีครั้งนี้ชนะไม่ยาก พวกเราจะเรียกร้องสิทธิให้คุณเอง
นภันต์หันมามองนัชชา เขาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ถามไถ่พูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับคุณนิพิฑ เขานิ่งจนนัชชารู้สึกว่าเขาเลือดเย็น
พูดคุยไปได้ประมาณสองชั่วโมง พอส่งคุณนิพิฑเสร็จ นภันต์เรียกนัชชาไปที่ห้องทำงานตัวเอง
ทั้งสองกำลังเดินไปห้องทำงาน บังเอิญเจอเตชิตกับหัวหน้าเดินมาทางเดียวกัน
นัชชาตอบสนองไม่ทัน นภันต์หยุดเดินแล้วก้มทักทาย สวัสดีครับคุณเตชิต
อืม เตชิตตอบรับ หันไปมองนัชชา
นัชชาตื่นตระหนก สวัสดีค่ะ คุณเตชิต
เตชิตละสายตาจากเธอ หันไปถามนภันต์ เหมือนไม่รู้จักเธอ ผู้ช่วยใหม่เหรอ
ใช่ครับ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นน้อง เพิ่งพาไปพบลูกความมา
ดวงตาดำมอง ทำให้นัชชาไม่กล้าหายใจเต็มปอด เขาพยักหน้า เชิญตามสบาย
พอเขาเดินผ่านนัชชาก็โล่งใจ นภันต์ยกคิ้วถาม คุณตื่นเต้นอะไร
นัชชาตกใจอึ้ง เปล่าค่ะ เห็นท่านประธานใหญ่แล้วแอบกลัวนิดหน่อย
ดีที่เขาเดินข้างกัน ทำให้นภันต์ไม่เห็นอาการของเธอ เขาจึงไม่ได้ถามต่อ
ปวิมลบังเอิญเห็นเหตุการณ์ สนทนาเมื่อครู่เธอก็ได้ยินทุกอย่าง พบลูกความเหรอ นัชชาเพิ่งมาแค่ไม่กี่วันก็ได้ไปพบลูกความ เธอได้เข้าไปข้างในห้องให้คำปรึกษากี่ครั้งแล้ว
และเมื่อกี้ นภันต์ตบเบาๆที่ไหล่ของเธอด้วยเหรอ
ปวิมลกำเอกสารแน่นใบหน้าที่แต่งไว้สวยงามก็เริ่มตึงเครียด
ได้ข่าวมาว่านัชชามีวิธีการหลายอย่าง นึกไม่ถึงว่าเธอกล้าที่จะอวดอ้างต่อหน้านภันต์ หน้าด้านที่สุด
ปวิมล เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เพื่อนร่วมทีมเห็นเธอยืนนิ่ง แล้วผลักเธอเบาๆ
ปวิมล ไม่มีอะไร
เธอหรี่ตาเหมือนคิดอะไรออก เงยหน้าขึ้น ทำหน้าเหมือนลังเลและกลัว น้ำฝน เมื่อกี้ฉันเห็นนัชชากับทนายนภันต์เหมือนโอบกันแล้วเดินเข้าห้องทำงานไป เธอว่า…