คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 38 ตกดึกทำตัวเป็นอันธพาล
ดวิษส่งคนสืบเรื่องเธอ เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่อยากบอกเธอ ตอนนี้ก็ด้วย
เขาไม่ได้ตอบ แต่ดูดบุหรี่ คืนนี้ไปเก็บของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว
นัชชามองด้วยสายตั้งสงสัย ข้อมูลที่คัดลอกให้วันนั้น แค่นั้นก็พอเป็นหลักฐานได้แล้วเหรอ
พอแล้ว
เธอยื่นหน้าไปใกล้กว่าเดิม แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แน่ใจเหรอ
การที่เธอเดินจากมาครั้งนี้แสดงว่าเธอพลิกไพ่ให้ดวิษแล้ว ถ้าอยากกลับมาอีกรอบไม่ใช่เรื่องง่าย
เตชิตดูดบุหรี่ครั้งสุดท้ายแล้วโยนออกนอกหน้าต่าง แล้วยื่นมือมายกคางเธอขึ้น ทำไม ไม่อยากไปเหรอ
นัชชากัดปาก คุณก็รู้ว่ามันไม่มีทางที่ฉันไม่อยากไปจากที่นี่
ตอนนั้นเธอรักดวิษมากขนาดไหนตอนนี้เธอก็เกลียดเขามากเท่านั้น ไม่งั้นคงไม่ทำทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นเขาหรอก
แสงไฟอ่อนๆที่ส่องมา ทำให้เห็นหน้าเนียนขาวของเธอ หน้าเธอเล็กมาก เล็กเท่าฝ่ามือของเขา แต่กลับมีดวงตาที่กลมโต ตาที่ซ่อนความดื้อรั้นไว้ไม่สามารถให้คนสังเกตได้ง่ายๆ
มือของเขาสัมผัสผ่านริมฝีปากของเธอ ทำให้เธอตกใจมองผู้ชายตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก
เตชิตไม่อยากพูดอ้อมค้อม หลักฐานพอหรือไม่พอก็มีค่าเท่ากัน ที่ให้เธอกลับมาเพราะไม่อยากเห็นดวิษมันมายืนกอดเธอต่อหน้าฉันอีก
เธอเม้มริมฝีปากบาง นัชชาเข้าใจ หูเธอแดง ขอโทษ
นอกจากคำขอโทษเธอไม่รู้จะพูดอะไร
เตชิตจ้องมองริมฝีปากบาง คำขอโทษของเธอ ง่ายไปรึเปล่า
นัชชาไม่เข้าใจ จังหวะที่เงยถ้าถูกเขาจูบอย่างแรง
จูบนี้มาแบบกะทันหัน นัชชาไม่ทันตั้งตัวไม่ได้จูบตอบ เห็นได้ชัดว่าเตชิตไม่ได้ใจเย็น เขาเปิดปากเธอ เข้ามาอย่างดูดเดือด
เหมือนประกาศว่าทุกส่วนในตัวเธอเป็นของฉัน
นัชชาเปิดตากว้าง สัมผัสดุเดือดที่เขามอบให้ จนลืมหายใจ เธอทุบตีเขาเพราะเธอรู้สึกหายใจไม่ออก
เตชิตยอมละจากเธอ ไม่ได้ทำอะไรต่อ ก้มมองริมฝีปากที่แดงจากความร้อนที่เขามอบให้
เธอนึกว่าที่เขามาหาเธอถึงนี่ เพื่อที่จะบอกเรื่องที่หลักฐานเพียงพอแล้ว
ความจริงคือเขานึกถึงภาพที่ดวิษโอบเธอทำให้เขาไม่พอใจ ให้อารมณ์เสียเลยขับรถมาถึงนี่
แต่จูบเธอ มันไม่ได้อยู่ในแผน
นัชชายกมือจับริมฝีปากตัวเอง ทั้งสองทำทุกอย่างที่ลึกซึ้งกันมาหมดแล้ว เว้นแต่เตชิตไม่เคยจูบเธอ
เหตุผลเธอไม่รู้แน่ชัดแต่รู้สึกได้ว่าจูบสำหรับเขาเป็นอะไรที่พิเศษ แต่ทำไมอยู่ดีๆเขา ถึง…
บรรยากาศในรถเริ่มแปลกๆ ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ยอมพูดอะไร นัชชาตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก กำลังพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ถูกสายที่เข้าดักไว้
เป็นเสียงโทรศัพท์ของเตชิต
เขาก้มมองชื่อที่แสดง ลังเลอยู่พักนึงก่อนเปิดประตูลงจากรถ ฮัลโหล จินต์
เขาเดินออกมาไกลๆๆ ไกลจนนัชชาไม่ได้ยิน แต่เธอก็จับได้ ‘จินต์’ เป็นชื่อที่ฟังแล้วน่าจะสนิทกันมาก
นัชชามองดูผู้ชายที่ยืนพิงอยู่ใต้ต้นไม้ ข้างหูมีแต่เสียงของชื่อที่เขาเรียกอย่างนุ่มนวล เธอไม่เคยได้ยินเขาเรียกใครได้นุ่มนวลขนาดนี้ รวมถึงท่าที่เขาจับโทรศัพท์ด้วยมือข้างเดียวตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
ทำให้คนเย็นชาอย่างเขากลายเป็นผู้ชายอ่อนโยนแบบนี้ คงเป็นคนสำคัญมากแน่ๆ
นัชชาละสายตา ยกมือเกี่ยวผมมาทัดไว้ที่หู เธอกำลังหวังอะไรอยู่…
แสงไฟข้างทางอ่อนๆ ในสายเตชิตมีเสียงอ่อนนุ่มของผู้หญิง แต่สายตาก็เผลอมองมาผู้หญิงตัวเล็กที่กำลังก้มหน้า เขาไม่ได้ตั้งใจฟังที่เธอพูด
เต คุณฟังฉันอยู่รึเปล่า ไม่มีการตอบรับ เธอเลยอดถามเขาไม่ได้
เตชิตได้สติ เขาเลยตอบไปส่งๆ สายตากวาดเห็นผู้หญิงในรถกำลังปลดเข็มขัดออก เลยรีบหันมาบอกคนโทรศัพท์ จินต์ นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมยังมีงานที่ต้องทำต่อ คุณไปพักได้แล้ว
เธอเงียบแล้วพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง งั้นคุณไปทำงานต่อเถอะ รอคุณว่างแล้วค่อยโทรหาใหม่ ดูแลตัวเองด้วย อย่ามัวแต่ทำงาน
อืม ราตรีสวัสดิ์ พูดจบเขาก็รีบตัดสายทิ้ง
ในเวลาเดียวกัน นัชชาลงจากรถกำลังจะเดินกลับ ถูกเขาลากแขนไว้ เธอหันมาเจอสีหน้าไม่ค่อยพอใจของเขา ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วเหรอ
นัชชาปิดอารมณ์เอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ เมื่อกี้คุณยังจูบไม่พอเหรอ
เตชิตถามกลับ ฉันให้เธออยู่เพื่อที่จะจูบเธอเหรอ เธอคิดว่าตัวเองเป็นสมบัติหายากเหรอ
นัชชาเบ้ปาก เปล่า… ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น
เธอจะเป็นสมบัติหายากได้ยังไง คนในสายสิที่เป็น
เตชิตนึกว่าเธอจะตอบโต้ แต่เธอก็ยอมรับอย่างง่ายดาย จนเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
ใกล้เข้าฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิไม่ได้สูงมาก สิบกว่าองศา นัชชารีบออกมาใส่เพียงเสื้อแขนสั้น เตชิตเห็นเธอยกมือจับกุมไหล่ตัวเอง เขาก้มไปหยิบเสื้อที่อยู่ในมาห่มให้เธอ
นัชชาขยับหนี ไม่ต้อง ฉันไม่หนาว
ยังไม่ทันพูดจบเขาก็ออกแรงกดในเวลานี้ก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ถ้าไม่อยากให้ฉันจับเธอแก้ผ้าก็ใส่มันดีๆซะ
…
นัชชาหน้าแดง มองเขาแบบนิ่งๆ เชื่อฟังไม่หือไม่อือ ยอมให้เขารูดซิปขึ้นอย่างว่าง่าย
หลังจากใส่เสื้อเสร็จเรียบร้อย เห็นเธอกำลังก้าวขาจะไป ความอดทนของเตชิตขาด ขายาวก้าวไปดึงเธอไว้ แล้วดันชิดกับรถ
ถามด้วยน้ำเสียงดุๆ จงใจจะกวนฉันเหรอ
นัชชาเห็นสายตาดุๆของเขา ไม่กล้าพูดอะไรต่อกลัวว่าถ้าพูดอะไรไปเขาอาจทำรุนแรงกับเธอ เลยก้มลงส่ายหน้า ไม่กล้าหรอก
…
ไม่กล้าเหรอ…
นี่มันคำตอบบ้าบออะไร
เขาทำอะไรเธอ ทำไมเธอกลัวเขาขนาดนี้
หน้าทำหน้านิ่งอีกครั้ง กล้านักไม่ใช่เหรอ ทำไมมาตอนนี้ถึงกลัวหัวหดขนาดนี้
นัชชาตั้งใจพูดว่าเขา คุณเป็นเจ้าชีวิตฉัน ฉันจะกล้าได้ยังไง
เจ้าชีวิตเหรอ เตชิตยิ้มเยาะ ทำให้เธอกลัว เอามือไปยกคางเธอขึ้น เธอพูดจริงเหรอ
นัชชาต้องมองเผชิญหน้ากับเขา เธอรู้สึกกลัว ปากก็ไม่หยุดพูด ก็คุณพูดเอง
เคชิตยกยิ้ม ดีนี่ กล้ายกเอาคำพูดของเขามาพูดดักเขา
เตชิตพยักหน้ายิ้ม รู้มั้ยเจ้าชีวิตจริงๆเขาปฏิบัติต่อกันยังไง
นัชชางง เธอยังไม่ได้ตอบอะไร ก็ถูกเขาถอดเสื้อที่เขาเพิ่งใส่ให้ออก แขนยังไม่ทันได้ถอดออกสุด ก็โดนเขาจับยื้อไปข้างหลัง
เสื้อยืดสีขาวตัวบาง ถูกดึงออกให้เห็นไหลบางและสายเสื้อในสีดำของเธอ
นัชชาตกใจอึ้ง ดิ้นสุดแรง คุณ คุณคิดจะทำอะไร