คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 7 ทำกับข้าวเป็นไหม
ตอนนั้นพ่อของเขาทำงานอยู่ในพรรคการเมือง บริษัทของพ่อผมก็ต้องการที่จะพูดคุยเรื่องธุรกิจและผลประโยชน์กับพ่อของเขา และบังเอิญว่านัชชาก็ชอบผมพอดีตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเธอหน้าตาก็โอเค นิสัยอ่อนโยน ที่บ้านผมก็กำลังเร่งให้ผมแต่งงานอยู่พอดี ผมเลยแต่งงานกับเขาไง ดวิษพูดถึงเรื่องนี้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขาดูพูดได้เป็นธรรมชาติมาก ใครจะไปรู้หลังจากที่แต่งงานได้สองวัน พ่อของเธอก็ถูกระงับตำแหน่งไป
เพราะเรื่องพ่อของเธอ นัชชาเคยร้องไห้มาสามวันตอนนั้นดวิษก็มาปลอบเธอ ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วในใจดวิษจะคิดแบบนี้
นัชชานะนัชชา ตาบอดมานานเท่าไหร่แล้วนะ ? ต่อไปนี้เธอคงจะตาสว่างได้เสียที
แล้วตอนนี้เขาจะเอายังไง ? ปณิตาถาม ถึงแม้ว่าเธอกับดวิษอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าล้ำเส้นมากมาย
เธออยากจะหย่า แต่แม่ของผมกลัวว่าเธอจะขอแบ่งสมบัติ ดังนั้นแม่จึงไม่อนุญาตให้ผมหย่า ดวิษหัวเราะในลำคอแบบสมเพช คาดว่าอีกไม่เกินสองวันนัชชาก็คงมาร้องไห้ แล้วบอกให้ผมไปง้อคืนดีกับเธอแหละมั้ง
หลังจากที่นัชชาได้ยินประโยคนี้ ร่างกายของเธอทรุดลงและไม่ทันได้ระวังหัวของเธอก็ไปโดนใส่รถทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
สองคนที่อยู่ในรถตกใจ เธอรีบลุกขึ้นอยากที่จะหนีแต่ถูกดวิษที่ลงจากรถจับได้พอดี
กล้องโทรศัพท์ยังไม่ปิดโชคดีที่โทรศัพท์เพราะความเฉื่อยโดนโยนออกไป ทำให้หน้าจอเป็นสีดำทันที
นัชชา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ดวิษถามอย่างระแวง
นัชชามองไปยังปณิตาที่ลงจากรถในรถ ตอนแรกเธอยังตกใจอยู่ แต่ไม่นานเธอก็เปลี่ยนเป็นสภาพอย่างภาคภูมิใจ แถมยังยกมือดึงคอเสื้อของตัวเองลงเพื่อให้นัชชาเห็นรอยจูบตรงคอของเธอ
นัชชาสะบัดมือของดวิษออกไป แล้วยกมือขึ้นตบหน้าดวิษ ตบนี้สำหรับตัวฉันเอง
ตอนที่ดวิษสติยังไม่กลับมา เธอก็ตบไปอีกทีหนึ่ง ตบนี้สำหรับพ่อของฉัน
คุณบ้าไปแล้วรึไง?! ดวิษมองหน้านัชชาอย่างตกใจและโกรธเกรี้ยว
ดวิษ คุณนั่นแหละที่บ้า นัชชาโกรธจนตาแดงและเขม็งไปที่เขาอย่างดุร้าย ตอนที่พ่อของฉันโดนตรวจสอบ ความรู้สึกที่คุณแสดงออกมาตอนนั้นเป็นการเสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้นเลยใช่ไหม? ตอนนี้พูดมาแบบนี้คุณไม่กลัวฟ้าผ่าลงมารึไง ? ฉันขอร้องให้คุณมาเอาฉันเหรอ ? เหอะ! ต่อให้คุณคุกเข่าลงขอโทษฉัน ฉันก็ไม่มีวันยกโทษให้คุณ มีอะไรกับคุณน่ะเหรอฉันยังกลัวมีโรคติดมาเป็นของแถมด้วยซ้ำ !
หลังจากที่ปณิตาได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เธอรีบใส่รองเท้าส้นสูงเดินลงมาจากรถ นัชชา เธอพูดอะไรนะ มาต่อว่าคนอื่นมันดีแล้วเหรอ
หรือจะให้ฉันด่าเธอตรงๆละ ? นัชชาพูดอย่างเย็นชา ฉันจะพูดต่อหน้าเธอว่าสารเลว นังเมียน้อย แล้วเธอจะว่ายังไง?
แก ! ปณิตาไม่สามารถยับยั้งอารมณ์โกรธได้อีกต่อไป เธอเหลือบไปที่ดวิษ ชายคนนั้นยังโกรธเรื่องของตัวเองอยู่และไม่ได้สนใจเธอ เธอยกมือตบไปที่ใบหน้าของนัชชาอย่างเต็มแรงจนเลือดไหลออกจากมุมปาก
เพราะดวิษจับมือของนัชชาอยู่ คิดไม่ถึงว่าปณิตาจะลงมือตบหน้านัชชาเข้าให้แบบนี้
นัชชา เธอรังแกฉันมากเกินไปแล้วนะ !
ปณิตา เธอพูดออกมาได้ยังไงน่ะ เธอเป็นคนทำให้ครอบครัวคนอื่นพัง เธอเป็นเมียน้อย เรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันในวันนี้ อีกไม่นานมันก็จะเกิดขึ้นกับเธอเหมือนกันอย่าชะล่าใจไปละ
ในเมื่อดวิษนอกใจครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง ปณิตาจะไม่ใช่คนสุดท้ายที่เขาจะอยู่ด้วยไปตลอด
พูดเสร็จ เธอก็ไม่อยากจะยุ่งกับทั้งสองคนอีก เธอหยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วเดินจากไป
หลังจากที่เธอออกจากนิเวศน์วิลล่าพร้อมกับหนังสือสำรองต่างๆและของสำคัญแล้ว เธอก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ถ้าเตชิตเป็นเหมือนกับดักที่ดีข้างหน้า งั้นสิ่งที่อยู่ข้างหลังก็คงเป็นฝันร้ายที่กัดกินหัวใจคน
แค่นี้เธอก็มีความยากลำบากมากมายแล้ว ไม่ว่าเธอจะเลือกใคร แต่เธอก็ไม่อยากกลับมาที่นี่อีกต่อไป เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าแม้ว่าจะรู้ว่าคนที่รออยู่คอปีศาจร้ายก็ยังดีกว่ากลับไปโง่งมเหมือนเดิมอย่างนั้น
….
เวลาสองทุ่ม นัชชาไปอยู่ตรงหน้าประตูไวโรจน์วิลล่าอย่างตรงเวลาตามคำสังของเตชิต ถ้าจะบอกว่าที่นิเวศน์วิลล่าเป็นที่อยู่ของคนมีเงินแล้วละก็งั้นไวโรจน์วิลล่าก็เป็นที่ที่คนมีเงินก็ยังไม่สามารถเข้ามาอยู่ได้
วิลล่าแห่งนี้มีเพียงแค่ 11 ตึก แต่ละหลังจะมีสวนดอกไม้กับสระว่ายน้ำส่วนตัว และวิลล่าทั้ง 11 ตึกนี้มีพื้นที่ประมาณเขาครึ่งลูก ถ้าจะให้นับรวมค่าใช้จ่ายส่วนกลางละก็… นัชชาไม่กล้าแม้จะคิดเลย
นายทุนหน้าเลือด คำนี้เหมาะสมกับเตชิตจริงๆ
นัชชายืนกดกริ่งที่หน้าประตูบ้านตามมารยาท ไม่นานประตูก็เปิดออก เธอเดินจากประตูเข้าไปในวิลล่า เมื่อเข้ามายืนอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เธอกำลังทำใจอยู่ ทันใดนั้นประตูที่อยู่ด้านหน้าเธอก็ถูกเปิดออกจากด้านใน
เตชิตสวมเสื้อเชิ้ตที่ใส่ในวันนี้ เหมือนเพิ่งกลับมาไม่นาน เห็นเธอยืนโง่งงอยู่ตรงนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ เตรียมจะยืนเป็นเทพเฝ้าประตูเหรอ ?
นัชชาได้สติกลับ เธอก้าวเท้าเข้าไปแล้วประตูก็ปิดลงมา โครงสร้างในบ้านนั้นดูชัดเจนมากไม่ใช่สไตล์ที่หรูหรา แต่ในทางตรงกันข้ามมันเป็นศิลปะที่วิจิตรแต่เรียบง่าย บนผนังแขวนด้วยรูปภาพไม่กี่รูป เมื่อนัชชาเห็นก็รู้ขึ้นมาทันที
ผลงานของจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศ ต้องใช้ตัวเลขมากกว่าเจ็ดหลักในการประมูลถึงจะได้มา
เขาแขวนไว้3รูป ราคาอาจจะแพงกว่าตึกหนึ่งของนิเวศน์วิลล่าอีกนะ
ทำกับข้าวเป็นไหม ? เตชิตหันมาถามเธออย่างกะทันหัน
เธอพยักหน้าและตอบ เป็นค่ะ
ไปเรียนที่เมืองนอกสี่ปี เธอไม่ค่อยคุ้นกับอาหารตะวันตกมากเท่าไหร่เลยเธอก็ทำมาด้วยตัวเองตลอด หลังแต่งงานทำเป็นแม่บ้านมาหนึ่งปี งานฝีมือไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ
รสชาติที่ฉันกินมันค่อนข้างจะจืดนะ ไปทำอาหารได้แล้ว
นัชชางุนงงเล็กน้อย เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ฉันเหรอ ?
ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะใครละ?
ไม่ใช่ว่า… นัชชาพูดไปได้แค่ครึ่งทาง เธอไม่อาจเอ่ยปากได้
เตชิตเป็นคนแบบไหนกัน เพียงแค่เขามองสีหน้าก็รู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ แถมยังเป็นคนที่ไม่รู้จักวิธีระงับอามณ์อย่างนัชชา เขาวางแก้วน้ำที่อยู่ในมือลงแล้วเดินตรงมาหาเธอ เอาแขนยาวๆโอบอุ้มเธอไว้ แล้วโน้มตัวลงไปเล็กน้อย ทำไม เธอคิดว่าฉันจะให้คุณอยู่แค่บนเตียงเหรอ ? ตามการกระทำของเธอในตอนนี้ ฉันจะมีแต่เสียกับเสีย
ความหมายนัยของเขาคือว่าเธอไม่มีทักษะ นัชชาฟังออกแล้วหูของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที อายจนต้องก้มหัวลง
เธอต้องรู้สิ่งที่ฉันชอบทุกอย่าง แล้วก็อย่าพยายามแตะต้องเขตทุ่นระเบิดของผม ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความอดทนเท่าไหร่ แถมนิสัยไม่ดีด้วย เตชิตยืนขึ้น ดังนั้น ตอนนี้ไปทำกับข้าวซะ เข้าใจใช่ไหม ?
เจอแบบนี้นัชชายังจะพูดอะไรได้อีก ?
คนที่อยู่ล่างกว่าก็ต้องก้มหัวยอมรับ ตามสถานการณ์ในตอนนี้ เตชิตเป็นเจ้านายของเธอ
การรับรู้นี้ทำให้นัชชาผิดหวังเล็กน้อย มองดูเตชิตขึ้นไปข้างบน เธอจึงหันหลังเข้าไปในครัวเพื่อทำกับข้าว ในตู้เย็นมีผักและของสดแช่เย็นอยู่ เธอหยิบเอาซี่โครงวัวกับปลาซาบะออกมา ทำซี่โครงพริกไทยดำกับปลานึ่ง ผัดผักคะน้าแล้วก็ซุปซี่โครงหมูตุ๋น
เตชิตลงมาก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากห้องครัว เขาตั้งใจเดินไปเบาๆ เมื่อเงยหน้าก็มองเห็นในห้องครัวที่มีแสงไฟอบอุ่น ผู้หญิงกำลังใช้ตะเกียบคีบผักเข้าปากอย่างระมัดระวัง
เธอลองชิมดูแล้วรสชาติออกมาไม่เลวเลยจึงยิ้มอย่างพอใจจนเห็นฟันสีขาวเรียงเป็นแผง เส้นผมที่ถูกมัดไว้อย่างเป็นระเบียบมีปอยผมหลุดลงมาเล็กน้อยที่คอขาวๆของเธอ ทำให้คนทนไม่ได้อยากจะเอื้อมมือไปทำแทนเธอ
และเตชิตก็ห้ามใจไม่ไหวกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขาเดินไปเงียบผ่านตรงข้างหลังเธอและจัดการเก็บปอยผมที่หลุด นิ้วยาวๆลูบไประหว่างต้นคอของเธอ นิ้วท้องกอดรัดอย่างช้าๆ การกระทำนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีความหมายมาก
นัชชาตื่นเต้นจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เลยต้องเบี่ยงเบนความสนใจโดยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หิว… แล้วรึยังคะ ? จะกินข้าวเลยไหม?
เตชิตไม่ได้พูดอะไร ลมหายใจของเขาพ่นไปที่ผิวของเธอและมองเห็นหูเล็กๆของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างชัดเจน