คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 8 ความอ่อนโยนที่ต่างกัน
นัชชาตื่นตระหนก เธออยากหันตัวกลับไปแต่ไม่ทันแล้ว คนนั้นเอื้อมมือจากข้างหลังไปจับหน้าอกที่นุ่มนวลของเธอ อ๊ะ ! คุณ .. คุณไม่กินข้าวหรอ ?
กินของหวานก่อน
พูดเสร็จเตชิตก็จูบไปที่ต้นคอของเธออย่างระวัง ริมฝีปากบางเฉียบเย็นๆลงไปเรื่อยๆ มือใหญ่ของเขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืนแล้วแต่ไฟที่เปิดอยู่บนหัวยังคงให้ความสว่างแก่สายตาจนนัชชาไม่กล้าสบตาเขา
ก่อนหน้านี้นัชชาไม่เคยผ่านเรื่องอย่างนี้มาก่อน มีเพียงสองครั้งที่เขาทำกับเธอแต่ก็เป็นแบบเร่งรีบ ตอนนี้มีเวลามากพอแล้ว เตชิตทำการเล้าโลมอย่างสมบูรณ์แบบ เขาดูเป็นมืออาชีพมากในเรื่องนี้ ไม่นานผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็ตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
ความสุขค่อยๆ เพิ่มขึ้นภายในร่างกายทำให้นัชชารับมือไม่ไหว เธอรู้สึกละอายใจมากจนไม่ทันระวังเธอก็ส่งเสียงร้องออดอ้อนออกมา ทันทีที่เธอรู้ตัวเธอก็ปิดปากป้องกันไม่ให้ตัวเองร้องอีกครั้ง
แต่เตชิตไม่อนุญาต ร้องออกมาสิ
ความรู้สึกทั้งหมดของเธอล้วนถูกผลักออกมา เธอก็เหมือนเรือลำเล็กๆที่ถูกลมพายุพัดให้ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เตชิตเห็นเธอปฏิเสธที่จะส่งเสียงออกมา เขายิ่งทรมานเธอมากขึ้นอีก
ในที่สุดนัชชาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียง ร่างกายเธออ่อนปวกเปียกเหมือนกับน้ำที่โดนลมพัดพา
เสียงของเธอน่าฟังจริงๆ เตชิตค่อยๆเดินนำเธอไป จับมือที่ปิดปากของเธอออกกดไว้อีกข้างหนึ่ง
นัชชาค่อยๆ ปล่อยความรู้สึกให้ไปตามความต้องการ ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมดวิษถึงได้ชอบเรื่องแบบนี้นักหนา
…
เมื่อเสร็จแล้ว กับข้าวบนโต๊ะอาหารส่วนใหญ่ก็เย็นหมดแล้ว ความหิวที่เพียงเหลือเล็กน้อยของนัชชาก็กลายเป็นความเหนื่อยเพราะใช้พลังงานไปมาก
พวกเขายืนทำกิจกรรมนั้นกันอย่างหนักหน่วง จนมือกับขาทั้งสองข้างของเธอล้วนเมื่อยไปหมด อย่าพูดถึงเรื่องกินข้าว แค่เคลื่อนไหวยังรู้สึกลำบาก
แต่เตชิตกลับดูผ่อนคลายอย่างมาก เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จก็ไม่ลืมที่จะไปล้างมือด้วย หลังจากนั้นก็นั่งบนโต๊ะกินข้าวทานอาหารด้วยท่าทางสง่างามพร้อมกับแสดงความคิดเห็นด้วย
ทีหลังอย่าใส่พริกไทยดำ ฉันไม่ชอบ
นัชชาที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเมื่อได้ยินประโยคนี้ ทำให้เธอหมดความอดทน ถ้าคุณไม่ชอบ ก็อย่ากินสิ
มือของเตชิตถือช้อนส้อมอยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าโต้แย้งออกมา เขาเลยเงยหน้าขึ้นมามองเธอ นัชชารู้สึกหวาดผวาทันทีรีบหันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ฉันหมายความว่า คุณไม่กิน … ฉันจะกินเอง
เตชิตตบเก้าอี้ข้างๆเขา มานั่ง
เดิมนัชชาอยากจะขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนเต็มทีแต่ว่าครั้งนี้ที่เขาเรียกแล้วจะไม่ไปคงไม่ไม่ได้แล้ว เธอทนกับความรู้สึกที่ปวดแสบปวดร้อบตรงกลางระหว่างขาและนั่งลงไปด้วยท่าทีที่งุ่มง่าม
มองไปทางอาหารที่อยู่ข้างหน้าเธอไม่ค่อยมีความอยากอาหารเลย เธอกินไปไม่กี่คำก็วางช้อนลง ทันใดนั้นก็คิดอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ฉันมีอะไรให้คุณดู วันนี้…
กินข้าวก่อน เตชิตไม่ได้มองมาที่เขา ผมไม่ชอบพูดคุยเรื่องงานระหว่างมื้ออาหาร
….
สิ่งที่คุณไม่ชอบมีเยอะจริงๆ
นัชชาแอบด่าในใจ แต่เธอก็เก็บโทรศัพท์ไปอย่างเชื่อฟัง ถึงแม้เธอจะไม่ได้กินอะไรอีกแต่ยังคงถูกเตชิตบังคับให้กินข้าวเป็นเพื่อนเขาจนเสร็จ
หลังจากเก็บโต๊ะอาหารเสร็จ นัชชาก็ขึ้นไปหาเขาที่ห้องสมุดชั้นสาม หลังจากได้รับอนุญาตแล้วเธอก็ผลักประตูเข้าไป เตชิตเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนซาตินสีน้ำเงินเปิดคอเล็กน้อย เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและผิวที่สีข้าวสาลีที่ดูดีเอามากๆ ถ้าไม่รู้ก็คงจะคิดว่าเขากำลังยั่วยวนอยู่
นัชชารู้สึกอึดอัดใจเธอลดสายตาลง และส่งโทรศัพท์ในมือให้เขา อันนี้เป็นสิ่งที่ฉันถ่ายในวันนี้ คุณดูสิ
เตชิตรับมาแล้วเปิดดูวิดีโอ เขาดูด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ส่งคลิปนี้เข้าไปที่อีเมล์ของฉัน
นัชชารับโทรศัพท์กลับมารู้สึกแปลกใจกับความนิ่งสงบของเขา แค่นี้เหรอ ?
ชายคนนั้นถามกลับ แล้วจะให้ทำอะไร?
….
เห็นเธอไม่พูดอะไรชายคนนั้นก็พูดอีกครั้ง ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไปตรวจสอบบันทึกเปิดห้องของดวิษ ก่อนที่เขาจะไปซ่อนข้อมูลเอาไว้
นัชชาเข้าใจในทันที ทำไมก่อนหน้านี้เธอคิดไม่ถึงล่ะ
ฉันจะไปตรวจสอบวันพรุ่งนี้ค่ะ
พูดเสร็จนัชชาก็รีบออกจากห้องแต่กลับถูกเตชิตเรียกไว้ เธอนึกว่าอีกฝ่ายยังมีอะไรที่จะพูดอีกแต่เขากลับถามว่า ทำไมวิดีโอถึงจบลงแบบกะทันหัน?
นัชชาหัวใจเต้นแรงทันที เธอก้มหน้าลงให้เปลือกตาปกปิดความหวาดผวาในตาของเธอ ฝืนทำสงบนิ่งและพูดว่า ไม่มีอะไร มือถือตกลงพื้นเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเตชิตไม่ได้เชื่อคำพูดห้วนๆของเธอ ใช้หัวคิดสักนิดก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆของเธอปรากฏมีรอยแดงอยู่ที่มุมปากของเธอ แต่โดนเธอปกปิดมันด้วยแป้งพัฟแล้ว
สีหน้าเขามืดมนทันที พวกนั้นทำร้ายเหรอ ?
นัชชาไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอเลยก้มหน้าลงแล้วเอาผมไปปกปิดไว้ ไม่มี ใครจะมาทำร้ายฉัน ฉันแค่ถือโทรศัพท์ไม่ดีเอง
นัชชา ผมไม่ชอบคนโกหก สีหน้าของเตชิตมืดครึ้มกว่าเดิมพร้อมเรียกแทนตัวเองว่าผมอย่างเคร่งเครียด ผมจะให้โอกาสคุณอีกหนึ่งครั้ง พูดความจริงกับผม เข้าใจไหม
ดวงตาชายคนนั้นมีความเดือดดาลอยู่ เมื่อนัชชาเห็นเข้าก็รู้สึกตกใจ เธอกัดริมฝีปากแน่น ในที่สุดเธอก็ไม่กล้าที่จะโกหกเขาอีก ยอมก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ปณิตา เมียน้อยของสามีฉัน
… เตชิตครุ่นคิดไม่กี่นาที หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา พูดด้วยความผิดหวัง เมื่อก่อนฉันก็เคยรับคดีฟ้องหย่ามาบ้าง ก็เจอเรื่องที่เมียน้อยทำร้ายร่างกายเมียหลวงมาไม่น้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นคนที่เต็มใจโดนเมียน้อยทุบตีอย่างเธอ
นัชชารู้สึกอายถึงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา ตอบกลับด้วยเสียงต่ำ ฉันก็ตบดวิษไปนะ
เตชิตหัวเราะเยาะ จะให้ผมบอกว่าคุณเก่งอย่างนี้เหรอ ?
…ไม่ใช่
เขามองไปยังผู้หญิงตัวเล็กๆที่ขี้กลัวอยู่ข้างหน้า เตชิตรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นครั้งแรก แต่เขาไม่พูดอะไร หันตัวออกจากห้องสมุดทันที ตอนที่นัชชากำลังคิดว่าตนเองมีตรงไหนทำให้เขาโกรธ ชายคนนี้ก็กลับมาอีก ในมือของเขามีกล่องปฐมพยาบาลมาหนึ่งกล่อง
เขานั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบขวดไอโอดีนออกมา มานี่
นัชชาเข้าไปนั่งข้างๆเขาอย่างเชื่อฟัง แก้มด้านซ้ายของเธอถูกทาด้วยไอโอดีนหลังจากนั้นก็ทายาซ้ำลงไป สัมผัสที่นุ่มนวลกับอุณหภูมิปลายนิ้วของชายคนนั้นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างผิดปกติ
นัชชาอดแอบมองเขาไม่ได้ ชายคนนั้นได้แต่ก้มหัวเช็คดูบาดแผลตรงปากของเธออย่างตั้งใจสนไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังแอบมองดูเขาอยู่ ในสภาพที่ดูตั้งใจและจริงจังของเขาเทียบกับสภาพที่มีแต่ความใคร่ในเวลาปกติ เขาที่เป็นแบบในตอนนี้ดีกว่าตั้งเยอะ
เขาช่วยเธอทายาอย่างจริงจัง เรื่องแบบนี้แม้แต่ดวิษก็ยังไม่เคยทำแบบนี้ให้เธอเลย
นัชชาใจเต้นเร็วอย่างไม่มีสาเหตุ ทันทีที่จะเปลี่ยนไปมองทางอื่นก็โดนเตชิตจับได้เสียก่อน
มองพอรึยัง ?
เดิมนัชชาก็เป็นคนขี้อาย พอโดนเขาเยาะเย้ยแก้มก็กลายเป็นสีแดงเข้มขึ้นมาทันที ทำให้เตชิตไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป
ขอบคุณ… หญิงสาวตัวน้อยพูดอย่างงุ่มง่าม
เตชิตเลิกคิ้วขึ้นแล้วทิ้งยาที่อยู่ในมือไป ผมอยากให้คุณขอบคุณด้วยการกระทำที่แท้จริงซะมากกว่า
แท้จริงอะไร… อู๊บ!
ยังไม่ทันจะพูดเสร็จ ทันใดนั้นนิ้วมือเรียวยาวของเขาก็ลูบไปที่ปากของเธอ นิ้วชี้และนิ้วนางจับไปที่ลิ้นของเธอ พลางเสียดไปบนเพดานปากของเธอ ความรู้สึกนั้น… นัชชาพูดอะไรไม่ออกแค่รู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในใจ
เธอจับไปที่ข้อมือของเขาพยายามดึงนิ้วมือของเขาออกมา แต่ก็ถูกเขาจับมือวางไว้ที่ขา ด้วยพละกำลังที่ต่างกันมากทำให้เธอไม่สามารถดิ้นรนได้