คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่66 เธอกับนภันต์เป็นอะไรกัน
ตอนที่66 เธอกับนภันต์เป็นอะไรกัน
นัชชาหัวเราะกับคำพูดของเธอ แกอย่ามาเว่อร์
จินต์ไม่ได้พูดเล่นต่อ พูดจริงจัง แต่บอกตามตรง ฉันคิดไม่ถึงว่าแกกับเขาจะมาถึงขั้นนี้ได้ ตอนแรกฉันก็แอบเป็นห่วงแกแต่เท่าที่เห็นตอนนี้ฉันคงไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะคนบางคนกำลังจะกินดีอยู่ดีแล้ว มีคนคอยรักคอยดูแล
พูดจบเธอก็แกล้งถอนหายใจ
นัชชาตื่นกลัว เขาแค่หมายถึงแบบนี้ แกไม่ต้องมาทำเป็นเว่อร์……………..
ยังไม่ทันได้พูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออก นัชชาตกใจรีบคว่ำโทรศัพท์ลงใต้ผ้าห่ม
ปลายสายได้ยินแต่เสียงขรุๆขระๆ กำลังจะวางสายแต่ก็ได้ยินเสียง คุณเข้ามาทำมั้ย
เตชิตที่เห็นเธอซ่อนโทรศัพท์ หรี่ตามอง เดินเข้ามาหาแล้วยื่นมือขวาไปทางเธอ โทรศัพท์อยู่กับใคร หืม ทำไมต้องตกใจด้วย
นัชชาก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องซ่อนด้วย อาจเป็นเพราะกำลังพูดถึงเขา ตอนนี้เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนโดนจับได้อย่างไงอย่างนั้น
เธอกลืนน้ำลายลงคอ เปล่า คุยกับเพื่อน
เพื่อนหรอ
เตชิตรู้ว่าเธอมีเพื่อนไม่เยอะ กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย แล้วทำไมต้องซ่อน
มันหมายคามว่า เอาออกมาให้ฉันดู
แต่นัชชาหน้าบาง เธอเขินอาย หยิบหาโทรศัพท์กะจะกดวางสายทิ้ง
คิดไม่ถึงว่าเตชิตเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาจะแย้งมันไปจากเธอ
นัชชานึกไม่ถึงว่าเตชิตจะกล้าแย่งโทรศัพท์ของเธอ เธอตกใจขยับผลิกตัวหนี คลานไปที่หัวเตียง
แต่เสียดายที่เธอช้าไปก้าวหนึ่ง เขายื่นมือดึงปลายเสื้อเธอกลับ แล้วนอนทับอยู่บนตัวเธอ
ไปเอาความกล้ามาจากไหน กล้าหนีแล้วด้วย หืม
อ้ะ คุณลุกขึ้น………… นัชชาร้องเบาๆ เธอไม่กล้าสบตาเขา เธอยังเขินอายที่ถูกสารภาพ
ตอนแรกเตชิตแค่กะจะแย่งโทรศัพท์ แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงหวานของเธอ ทำให้เขามีอารมณ์ สายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบาง จูบลงไปอย่างไม่ลังเล
อื้ม นัชชาตกใจ กำมือแน่น แน่นจนรู้สึกเจ็บมือ
เตชิตจูบเธอย่างรุนแรงเหมือนกับว่าจงใจอยากให้ปลายสายได้ยิน แรกๆนัชชาก็มีแรงผลักออก แต่ไม่นานก็ถูกเขาปลุกเร้า
ทั้งสองกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ก็มีเสียงพูดขึ้น
ขอ ขอโทษนะทั้งสอง นัชชา ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอวางสายก่อนนะ ตูๆๆๆ………….
นัชชา ………..
เตชิต ………..
ได้ยินเสียงเธอขักจังหวะ ถึงเตชิตจะมีอารมณ์มากขนาดไหนก็ต้องยอมหยุด ปล่อยเธอ แล้วลุกขึ้นยืน ลงไปกินข้าว
นัชชาไม่กล้ามองหน้าเขา พยักหน้าตอบด้วยเสียงที่เบา โอเค
เขาหันจากไป เธอมองเห็นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายมันได้อย่างชัดเจน ทั้งตัวเหมือนละลายอยู่บนเตียง
รอให้เขาออกจากห้องไป นัชชาก็รีบคลานลงจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำแล้วเอามาล้างหน้า
ลดความร้อนในตัวเธอ ไม่งั้นเลือดกำเดาเธอคงไหล
แต่จังหวะที่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นปากที่บวมแดงของตัวเองในกระจก เธอตกใจ ถ้าคนที่ดูรู้ก็จะคิดว่าโดนจูบ แต่ถ้าคนไม่รู้นึกว่าเธอโดนประตูหนีบ
ประเด็นคือขี้เหร่ขนาดนี้ เดี๋ยวเธอจะพบผู้คนยังไง
อาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม เธอเลยเป็นห่วงรูปร่างหน้าตาของเธอเป็นพิเศษ
เธอต้องหาวิธีแก้
เธอเดินเวียนไปเวียนมาในห้องน้ำ สุดท้ายเธอก็เติมน้ำลงบนอ่างแปรงฟัน แล้วจุ่มปากลงไปแช่ค้างไว้ ถึงท่าทางจะดูตลกแต่ก็เหมือนจะได้ผล
เธอทำแบบนี้ไปสักระยะ เธอเงยหน้ามองในกระจก ถึงจะยังคงบวมและแดงอยู่ แต่ก็ดีกว่าเมื่อกี้ไปมาก
แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเธอก็เดินลงมาอย่างสดชื่น
บนโต๊ะมีโจ๊กสองถ้วย แซนด์วิชสองชิ้น ตรงกลางมีผลไม่หนึ่งจาน ส้มโอ บลูเบอร์รี่ อาโวคาโด
เธอไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน หิวจะตายอยู่แล้ว พอนั่งลงเธอก็ไม่เกรงใจ หยิบแซนวิชขึ้นมากัด ขนมปังที่ทาเนยแล้วอบให้กรอบพอดี เต็มไปด้วยซอสผัก และเหมือนจะใส่ปลาทูน่าด้วย รสชาติที่ลงตัว ไม่เลี่ยน
เธอกินทีเดียวไปครึ่งชิ้น แล้วตักโจ๊กกินไปสองคำ ในท้องรู้สึกเหมือนมีอะไรเติมเต็ม พอเธอเงยหน้ามองก็เห็นว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ายังไม่ได้เริ่มกิน
นัชชากลืนโจ๊กลงคออย่างช้าๆ ฉีกยิ้มอย่างเขินอาย เหอะๆ ทำไมคุณไม่กิน
เตชิตยังคงหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่แววตากลับเหมือนหัวเราะเยาะ ถ้าไม่อิ่ม กินของฉันด้วยก็ได้
น้ำเสียงเหมือนพูดกับลูก ‘อะ พ่อให้ ลูกชอบก็ดีแล้ว’
นัชชาเก็บมือที่ถือช้อน ไม่เป็นไร ฉันพอแล้ว
เธอเสียใจที่กินได้น่าเกลียดขนาดนั้น………..
เดี๋ยวเธอกลับเข้าบริษัทไปพร้อมกับฉันเลย ดีที่เขาเปลี่ยนเรื่องคุย
นัชชาเปลี่ยนเป็นการกินมุมมามเมื่อครู่เป็นการกินที่ช้าๆ ฉันไปพร้อมคุณ คงไม่สะดวกเท่าไหร่มั้ง
เธอกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เขา เพราะตอนนี้พวกเขาก็มีเรื่องไม่ดีเท่าไหร่ ถึงแม้ตอนนี้ดวิษจะมีมากกว่า แต่เธอก็ยังคงเป็นห่วง
เตชิตคิดว่าเพิ่งเริ่มต้นเธอไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ นั่งรถไปด้วยกัน แล้วเราแค่เว้นระยะเวลาขึ้นไป
นัชชาคิดว่ามันสมเหตุสมผล โอเค
เออ เขานึกขึ้นได้ เลยถามออกไป เธอกับนภันต์เป็นอะไรกัน
นภันต์หรอ
นัชชางง อะไรคือเป็นอะไรกัน
เตชิตนึกว่าเธอจงใจไม่ยอมรับ วางช้อนลงบนโต๊ะ ก่อนหน้านั้นเขาก็ช่วยเธอปกปิด ครั้งนี้เธอกระโดดตึกเขาก็ไปช่วยเธอทั้งๆที่ไม่กลัวอันตราย เธออธิบายมาสิ
นัชชาไม่ได้โง่ ที่จะฟังไม่ออกว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร ส่ายหน้าอย่างมั่นใจ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด เขาเป็นเพียงทนายที่ช่วยสอนงานฉัน เราอาจจะใกล้ชิดกัน แต่เขาไม่มีทางคิดอะไรเกินเลยกับฉันแน่นอน
ไม่งั้นคงไม่ด่าเธอแรงขนาดนั้น ถึงจะเป็นห่วงบ้างก็คงจะแค่ในฐานะรุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมสถาบันแค่นั้น
แต่เตชิตดูก็รู้ ในฐานะผู้ชายการกระทำทุกอย่างของเขามันหมายความว่ายังไง ดูออกว่าเขาคิดหรือรู้สึกอะไรกับเธอ เพียงแต่ผู้หญิงที่ซื่อๆคนนี้ยังไม่รับรู้