คุณสามีพันล้าน - บทที่ 003 เซ็นสัญญา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 003 เซ็นสัญญา
เทวิกาครุ่นคิดสักพัก พลันมองยศพัฒน์อีกครั้ง ผู้ชายที่รู้จักกันมาสิบเอ็ดปี ถึงแม้จะกลายเป็นสามีภรรยาจริงๆ เธอก็ไม่น่าจะขาดทุนอะไรนี่
“งั้น เราก็มาทำสัญญาข้อตกลงแต่งงานกันสักฉบับเถอะค่ะ”
นัยน์ตายศพัฒน์ทอประกาย “ตกลงครับ ร่างข้อตกลงต่างๆ เธอจะเขียนเองหรือให้พี่เขียนให้ล่ะ?”
เทวิกาสวนทันควัน “ฉันเขียนค่ะ ถ้าเขียนเสร็จจะให้พี่ช่วยดูนะ ถ้ารู้สึกว่าไม่ติดขัดปัญหาตรงไหน เราก็เซ็นชื่อกำกับเอาไว้ สัญญาแต่งงานเพื่ออุดปากแม่ฉัน เพื่อคืนความสงบให้แก่ฉัน”
ยศพัฒน์ยิ้มให้ “งั้นตอนนี้เธอก็เขียนเลยสิ เขียนเสร็จพี่จะได้ดูเลย ถ้าไม่ติดปัญหาตรงไหน ตอนบ่ายเราก็ไปดำเนินการเรื่องเอกสารที่สำนักเขต พี่ว่างช่วงบ่ายพอดี”
เทวิกา : …. ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าพี่พัฒน์ดูรีบร้อนกว่าเธอเสียอีกนะ?
เธอต้องหลอนไปเองแน่ๆ พี่พัฒน์ก็แค่ช่วยเธอเท่านั้นแหละ
“ตกลงค่ะ ฉันจะไปเขียนเดี๋ยวนี้ อีกเดี๋ยวจะสั่งปริ๊นซ์สัญญามาสองฉบับ พี่พัฒน์ พี่นั่งกินขนมรอฉันอยู่ตรงนี้สักพักนะคะ”
เทวิกาพูดพร้อมทั้งลุกขึ้นยืน
ยศพัฒน์ยิ้มให้พลางพยักหน้าเล็กน้อย และใช้สายตาแสดงความหมายให้เธอตามสบาย
เทวิกาลุกขึ้นยืนแล้วถึงฉุกคิดว่าได้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน เธอสำรวจโดยรอบอย่างตึงเครียด ลูกค้าที่อยู่รอบๆ บ้างก็ลิ้มรสกับกาแฟ บ้างก็พูดคุยสัพเพเหระกับเพื่อนๆ ซึ่งไม่มีใครสนใจเธออีกเลย
ดูเหมือนว่าเนื้อหาที่เธอกับยศพัฒน์คุยกันน่าจะไม่มีคนได้ยิน
เทวิกาถอนหายใจโล่งอก พร้อมทั้งรีบไปเขียนร่างข้อตกลงการแต่งงาน
หลังจากที่รอให้เทวิกาเดินออกไป ยศพัฒน์ควานหาโทรศัพท์เพื่อกดโทรออก หลังจากรอให้อีกฝ่ายกดรับสาย เขากดเสียงต่ำเพื่อออกคำสั่งทันที “คุณไรยา ประชุมตอนบ่ายสามเลื่อนไปเป็นเก้าโมงเช้าวันจันทร์หน้านะ”
ไรยาแปลกใจเล็กน้อย การประชุมช่วงบ่ายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอก็ไม่ได้ซักไซ้มากนัก พลันตอบรับอย่างพินอบพิเทา “โอเคค่ะ คุณพัฒน์”
ยศพัฒน์กดวางสายทันที
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เทวิกาถือกระดาษสองแผ่นออกมา เธอยื่นกระดาษในนั้นให้ยศพัฒน์หนึ่งใบ ตัวคนก็นั่งลงตามหลัง พลันกระซิบพูดกับยศพัฒน์ทันที “พี่พัฒน์ พี่ลองดูข้อตกลงที่ฉันเขียนดูค่ะ”
ยศพัฒน์รับกระดาษมา จากนั้นก็นำสัญญาแผ่นนั้นวางลงบนโต๊ะ พลันจ้องมองเนื้อหาในข้อตกลงอย่างจริงจัง
เทวิกาเขียนเงื่อนไขไว้สี่ข้อ:
ข้อหนึ่ง: การว่าจ้างยศพัฒน์เพื่อเป็นแฟน (หรือสามี) แก่เทวิกา ทุกเดือนจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินสองหมื่นห้าพัน ฟรีค่าที่พักและอาหาร รวมถึงมีเสื้อผ้าสองชุดแจกตลอดทุกฤดูกาล
ข้อสอง: ระหว่างอยู่ในสัญญา ถ้าหากพบรักแท้ ก็สามารถยกเลิกสัญญาล่วงหน้าได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ
ข้อสาม: ระหว่างอยู่ในข้อตกลง ทั้งสองฝ่ายจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวชีวิตส่วนตัวของกันและกัน
ข้อสี่: ระหว่างในช่วงที่มีข้อตกลงถ้าทั้งสองฝ่ายยังไม่เจอกับรักแท้ ระยะเวลาของสัญญาคือหนึ่งปี
เทวิกาพูดด้วยความรู้สึกประหม่า “พี่พัฒน์คะ ฉันเพิ่งเปิดร้านกาแฟเมื่อปีที่แล้ว รายได้ปีที่แล้วยังขาดทุนอยู่นะ ถึงแม้ปีนี้ไม่ขาดทุน แต่ก็ยังไม่ได้กำรี้กำไร ฉันจ่ายค่าจ้างให้พี่ได้เยอะประมาณนี้ค่ะ แต่ฉันสามารถให้ที่พักรวมถึงอาหารการกินได้ค่ะ”
ยศพัฒน์กล่าวตอบอย่างเฉยเมย “ไม่เป็นครับ พี่มีงานทำ”
เขาเอ่ยถามเทวิกาอีกครั้ง “พี่ขอแก้ไขข้อตกลงในสัญญาฉบับนี้ได้มั้ยครับ?”
เทวิกาพยักหน้าทันควัน “แน่นอนค่ะ พี่รู้สึกว่าตรงไหนมันไม่ดี ก็เสนอมาได้เลยค่ะ”
ยศพัฒน์ขอปากกาเทวิกา หลังจากหยิบมาแล้ว เขาจัดการขีดฆ่าข้อตกลงที่สาม จากนั้นจึงยื่นกระดาษแผ่นนั้นคืนให้เทวิกา และพูดทันที “ข้อตกลงมีเงื่อนไขแค่สามข้อ เธอช่วยปรินซ์มาใหม่สองฉบับนะ เราเซ็นชื่อกำกับ และพิมพ์ลายนิ้วมือได้ทันที”
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขายศพัฒน์ก็จะถูกเทวิกา “รับเลี้ยงดู” แล้ว
เทวิกามองเห็นยศพัฒน์ขีดฆ่าเงื่อนไขข้อที่สาม จึงย่นคิ้วโก่งอันงดงาม หลังจากนั้นอีกหลายนาที เหมือนว่าเธอคิดดีแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้พูดว่าอะไร และทำตามที่ยศพัฒน์กำชับทันที โดยไปปรินซ์ข้อตกลงมาสองฉบับอีกครั้ง
ทั้งสองคนเซ็นชื่อกำกับเป็นที่เรียบร้อย เทวิกายังหยิบเอาแท่นประทับตรา ทั้งสองคนต่างประทับรอยนิ้วมือลงด้านบนกระดาษ
ยศพัฒน์ยกมือขวาขึ้นเพื่อดูนาฬิกาข้อมือ จึงเอ่ยพูดกับเทวิกาทันที “เวลานี้ที่สำนักงานเขตยังทำงานอยู่นะ งั้นตอนนี้พวกเราไปเดินเรื่องเอกสารกันเลยเถอะ”
เทวิกาลังเลเล็กน้อย “แต่ พี่พัฒน์คะ ฉันมีแค่บัตรประชาชนเองนะ ทะเบียนบ้านเก็บไว้ที่คุณแม่นู่นค่ะ”
การเดินทางกลับไปเอาทะเบียนบ้าน ต้องใช้เวลาในการเดินทางไปกลับหลายชั่วโมง ถึงเวลานั้นสำนักงานเขตคงเลิกงานไปนานแล้ว
ยศพัฒน์หัวเราะทันที “เธอมีแค่บัตรประชาชนก็พอ เดี๋ยวพี่พาไปทำหนังสือรับรองที่สถานีตำรวจ ก็สามารถดำเนินการเรื่องเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรสได้แล้ว พี่มีเพื่อนทำงานอยู่ที่ทั้งสองแห่งนั้นพอดีเลย”
เทวิกา: … เธอรู้สึกตงิดขึ้นมาอีกครั้ง พี่พัฒน์รีบร้อนกว่าเธอเสียอีก
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา ยศพัฒน์ก็พาเทวิกาออกจากร้านกาแฟ
เขาพาเทวิกาเดินมายังด้านหน้ารถเบนซ์คันหนึ่ง กดปลดล็อก และแสดงท่าทางเป็นสุภาพบุรุษช่วยเปิดประตูรถให้เธอ เพื่อแสดงสัญญาณให้เทวิกาขึ้นรถ
เทวิกาจ้องมองรถหรูคันนี้ที่อยู่ทางด้านหน้า การที่ได้รับผลกระทบมาจากพี่ชายคนโตที่หลงรักรถยนต์มาก เทวิกาจึงตระหนักได้ทันทีว่ารถยนต์ประเภทนี้สนนราคาอยู่ที่หลายล้านทีเดียว
พี่พัฒน์เป็นคนรวยเหรอเนี่ย?
เหมือนว่ามองเห็นถึงความสับสนของเทวิกา ยศพัฒน์จึงรีบออกตัวอธิบาย “รถคันนี้พี่ไปซื้อมาจากเพื่อนของเพื่อนอีกทีเป็นรถมือสองแหละ จ่ายไปแค่ไม่กี่แสนเอง พอเวลาออกจากบ้านก็ต้องอัพเกรดตัวเองหน่อยครับ”
เทวิกา “….”
รถคันนี้ของพี่พัฒน์ ถ้าเป็นรถใหม่แล้วล่ะก็ต้องสนนราคาหลายล้าน ถึงแม้จะเป็นรถมือสอง ก็ต้องไม่ใช่แค่หลายแสนหรอก มองจากสภาพก็ยังใหม่เอี่ยมอยู่เลยเนี่ย
แต่นี่มันเป็นเรื่องของพี่พัฒน์เขา เธอจึงไม่ซักไซ้อะไร
รอจนเทวิกาขึ้นรถแล้ว ยศพัฒน์ช่วยปิดประตูรถให้เธอ จากนั้นก็ควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรศัพท์ออกทันที
ไม่ถึงสองนาที ยศพัฒน์ก็ขึ้นรถมา เขาจัดการคาดเข็มขัด พร้อมทั้งพูดกับเทวิกา “พี่คุยกับเพื่อนพี่แล้วนะ ว่าเราจะไปทำหนังสือรับรองที่สถานีตำรวจ พอไปถึงที่สำนักงานเขตก็สามารถดำเนินการเรื่องเอกสารได้ทันที”
เทวิกาพยักหน้า “พี่พัฒน์ เพื่อนพี่ช่างเก่งจังค่ะ”
ยศพัฒน์หัวเราะ เพื่อนเขาเก่งมากทั้งนั้นแหละ
หลังจากที่สตาร์ทรถแล้ว เทวิกาก็เริ่มระมัดระวังในการสอบถามความเป็นอยู่ของยศพัฒน์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันมาสิบเอ็ดปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน ขนาดพี่ชายของเธอยังไม่แน่ชัดถึงพื้นเพของยศพัฒน์ด้วยซ้ำ
“พี่พัฒน์ พี่พักอยู่ที่ไหนเหรอ? แล้วทำงานที่ไหน?”
หลังจากเอ่ยถามแล้ว เทวิกาก็รีบอธิบายทันควัน “ฉันไม่ได้ตรวจสอบเรื่องสาแหรกตระกูลนะ คือเรารู้จักกันมาสิบเอ็ดปี ฉันยังไม่รู้เลยว่าพี่พักอาศัยอยู่แถวไหน ตอนนี้เรามีสัญญาแต่งงานกัน ฉันรู้สึกว่า ยังไงฉันก็ต้องรู้ว่าพี่พักอยู่แถวไหนสิ”
ยศพัฒน์ตอบคำถามอย่างอารมณ์ดี “พี่เช่าคอนโดกรีนทาวน์อยู่ บ้านพี่ค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน ไม่อยากขับรถวิ่งไปวิ่งมา ก็เลยเช่าคอนโดอยู่ อ้อ พี่ทำงานอยู่ที่บี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป”
เมื่อได้ยินเขาพูดว่าเช่าอยู่ เทวิกาถอนหายใจโล่งอก ยังกลัวจริงๆ ว่าฐานะของเขาจะไม่ธรรมดา กลัวว่าตัวเองจะก่อความวุ่นวายเข้า อย่างเช่นพ่อแม่ของเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่คู่ควรกัน แล้วเอาเช็กเงินสดห้าล้านมาฟาดใส่หัวเธอเพื่อให้เธอทิ้งเขาไป
“สวัสดิการของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปดีใช่มั้ยคะ? ค่าเช่าคอนโดกรีนทาวน์แพงมาก ค่าเช่าต่อเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ”
ในทางกลับกันเธอไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นที่จะไปเช่าคอนโดกรีนทาวน์
ยศพัฒน์เก็บอาการได้ดี “สวัสดิการบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปดีมาก หลังจากพี่เรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็เข้าไปทำงานในนั้น ทำงานในนั้นมาหลายปีแล้ว รายรับก็ไม่เลวทีเดียว เลี้ยงตัวพี่เองได้ดีเชียวแหละ”
เขาเอี้ยวศีรษะเหล่มองเทวิกา พลางพูดสมทบอีกประโยค “กระทั่งแต่งงานแล้ว พี่ยังสามารถเลี้ยงดูลูกๆ และภรรยาได้ด้วยนะ”
เทวิกาชื่นชมทันที “งั้นก็เป็นเรื่องปกติ พี่พัฒน์นี่แหละถือว่าเป็นผู้ชายเพอร์เฟคตัวจริงค่ะ”
ยศพัฒน์ยิ้มเพื่อยอมรับคำชมของเธอ
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง
ที่ทำการสำนักงานเขต
มีผู้ชายที่อายุอานามใกล้เคียงกับยศพัฒน์คนหนึ่งก็ยืนคอยอยู่ตรงประตูของสำนักงานเขต เมื่อเห็นรถยนต์ของยศพัฒน์ค่อยๆ เข้ามาใกล้ เขาจึงยิ้มกล่าวทักทายทันที ตอนที่รถยนต์จอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มอันเบิกบานของเขาก็งดงามสามารถเทียบเคียงพระอาทิตย์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ
ยศพัฒน์กับเทวิกาลงจากรถในเวลาไล่ๆ กัน
ผู้ชายคนนั้นมองมาทางเทวิกา จึงเอ่ยถามยศพัฒน์ด้วยรอยยิ้ม “นายพัฒน์ นี่พี่สะใภ้ฉันใช่มั้ย?”
ยศพัฒน์หันหน้าไปมองเทวิกา เทวิกากลับไปไม่รู้สึกขวยเขิน ในทางกลับกันเธอแค่เป็นสามีภรรยาจอมปลอมกับยศพัฒน์เท่านั้นเอง เธอยื่นมือขวาออกไปให้แก่อีกฝ่ายอย่างเปิดเผย “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเทวิกาค่ะ”