คุณสามีพันล้าน - บทที่ 012 การว่าร้ายจากพี่ภรรยา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 12 การว่าร้ายจากพี่ภรรยา
ชเนนทร์ “……..”
เขาหันเข้าไปในครัว
แม่สิถึงจะเป็นครอบครัว
“คุณแม่ ที่ผมพูดเป็นความจริงนะ”
ชเนนทร์เดินตามหลังแม่และพูดอย่างร้อนรน “ทำไมพวกคุณไม่เชื่อผมล่ะ”
พิชญ์สินีสั่งลูกชาย “กระเทียมยังไม่ได้ล้าง แกไปล้างและสับมันให้ฉันหน่อย เดี๋ยวจะเอามาทำไข่คน”
ชเนนทร์มองกระเทียมในตะกร้าผัก รีบหยิบมันลงไปใต้ก๊อกน้ำ ใส่ในอ่างน้ำแล้วเริ่มล้างกระเทียม
เขาล้างไปพูดไป “คุณแม่ ที่ผมพูดเป็นความจริงนะ จริงแท้แน่นอน คุณแม่จำยศพัฒน์เพื่อนร่วมชั้นของผมที่มหาวิทยาลัย Bได้ไหม เดชวิทย์รุ่นน้องที่รู้จักทั้งผมและเขาทำงานอยู่ที่สำนักงานเขตเป็นคนบอกผม”
“เดชวิทย์บอกว่ายศพัฒน์แต่งงานแล้ว ตอนแรกผมแปลกใจเลยโทรไปขอคำยืนยันจากยศพัฒน์ แต่ผลเป็นยังไงคุณแม่เดาสิ น้องสาวเป็นคนรับสาย เทวิกาบอกผมกับปากเองว่าคนที่จดทะเบียนสมรสกับยศพัฒน์ก็คือเธอ”
“ทำเอาผมตกใจแทบตาย ตกใจจนแม้แต่งานการก็ไม่สน รีบบินกลับมาบอกพวกคุณ”
พิชญ์สินียังคงทำโน่นทำนี่ต่อไปราวกับไม่ได้ยิน
ชเนนทร์ล้างกระเทียมแล้วสับจนละเอียด จากนั้นใส่กระเทียมที่สับแล้วลงในจาน ก่อนจะนำไปให้แม่ตัวเอง
“คุณแม่ฟังอยู่หรือเปล่า”
“ฟังอยู่”
“คุณแม่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรหน่อยเหรอ”
“พูดแต่ปากไม่มีหลักฐาน เว้นแต่เทวิกาจะพาเพื่อนร่วมชั้นของแกกลับมาบ้านและโชว์ทะเบียนสมรสให้ฉันดู ฉันถึงจะเชื่อว่าเธอแต่งงานแล้วจริงๆ”
ชเนนทร์ “…พรุ่งนี้พวกเขาต้องกลับมาแน่นอน ยศพัฒน์บอกว่าต้องการมาพบพ่อกับแม่”
ลูกชายพูดอย่างจริงจัง พิชญ์สินีที่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จไปหนึ่งจานทำการปิดแก๊ส แล้วถามลูกชายว่า “ที่แกพูดเป็นความจริงเหรอ”
“คุณแม่ ผมล้อเล่นได้เหรอ มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของน้องสาวผมเลยนะ”
ชเนนทร์ยืนยันซ้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
“ผมถึงขั้นทิ้งงานรีบกลับมา ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงผมต้องรีบกลับมาทำไม”
พิชญ์สินีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “หลังจากเทวิกาเลิกกับตาณ เธอก็เสียใจอยู่นาน จากนั้นก็ไม่เริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่อีกเลย เธอกับเพื่อนร่วมชั้นของแกคนนั้นรู้จักกันด้วยเหรอ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลย แล้วจะแต่งงานกันได้ยังไง”
“ก็ไม่ใช่เพราะผลจากการที่คุณแม่เอาแต่เร่งให้แต่งงานทั้งวี่ทั้งวันเหรอ เทวิกาถูกคุณแม่เร่งจนหวาดกลัวแล้ว เธอเลยหาผู้ชายสักคนมาแต่งงานน่ะสิ”
คำพูดของชเนนทร์ล้วนแต่เป็นเพราะไม่พอใจแม่ที่เร่งให้แต่งงาน
ถ้าน้องสาวแต่งงานแล้ว เป้าหมายของแม่ที่จะเร่งให้แต่งงานจะกลับมาหาเขา
เชนนทร์ ‘บัดซบ! เพื่อไม่ให้หูอื้อ เขาจึงตัดสินใจสมัครเข้าบริษัทที่จะได้เดินทางออกพื้นที่ไปทำงานในที่ห่างไกลที่สุด แบบที่จะไม่ต้องกลับมาอีกสักหนึ่งปี’
พิชญ์สินีหยิบตะหลิวขึ้นมาเตรียมจะตี แต่ชเนนทร์รีบกระโดดถอยหลังหนีเสียก่อน
“คุณแม่ ผมกำลังบอกเรื่องของน้องสาวนะ รอเทวิกากลับมา คุณแม่ก็พูดกับเทวิกาไปว่ารีบออกห่างยศพัฒน์ซะ วันจันทร์ไปหย่าที่สำนักงานเขตเลย”
ความกังวลของยศพัฒน์นั้นไม่เกินจริง
พี่ภรรยาของเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัย จะพูดเกี่ยวกับเขาไม่ดีต่อหน้าแม่ยาย
“เพราะอะไร”
“ยศพัฒน์ไม่ดีเหรอ”
พิชญ์สินีชอบเร่งให้แต่งงานและจัดนัดบอดให้ลูกสาว อย่างแรกเพราะลูกสาวของเธออายุครบกำหนดแล้ว และอย่างที่สองเพราะเธอหวังว่าลูกสาวจะใช้ความสัมพันธ์ครั้งใหม่เพื่อลืมผู้ชายที่เกาะคนรวยเพื่ออนาคตสร้างบาดแผลความเจ็บปวดให้เธออย่างไอ้ตาณนั่น
แต่เธอไม่อนุญาตให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รู้รายละเอียด
“ยศพัฒน์เป็นคนเจ้าเล่ห์มาก ภายนอกเขาดูอ่อนโยนและสง่างาม รอยยิ้มทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ แต่ความจริงเขาเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ สามารถฆ่าคนได้ในขณะที่พูดไปหัวเราะไป”
ชเนนทร์อธิบายสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับยศพัฒน์ “ตอนสมัยเรียน เขาไม่เคยข้องแวะกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพศเดียวกันที่ไหน เด็กสาวที่ชอบเขาสามารถตั้งแถวยาวจากบ้านเราไปถึงตลาดตะวันตกได้เลย เขาไม่ชอบใครสักคน”
“คุณแม่ ผมสงสัยจริงจังเลยว่ายศพัฒน์ขาดความสามารถทางเพศ”
พิชญ์สินีนึกถึงชายหนุ่มที่อ่อนโยนและสง่างามคนนั้น ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาก็จะทักทายด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม ตัวสูงยาว หน้าตาหล่อเหลา ดูแข็งแรงและมีสุขภาพดี จะเป็นอย่างที่ลูกชายบอกเหรอ
“คนที่ตั้งใจเรียนก็ไม่อยากมีความรัก แกมาว่าคนอื่นขาดความสามารถทางเพศ แกว่าร้ายเพื่อนร่วมชั้นแบบนี้เหรอ”
“คุณแม่ ไม่ใช่ว่าผมว่าร้ายเขา แต่เป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นของผมนินทากันลับหลัง ผู้ชายปกติจะเฉยชากับคนมากมายที่มาชอบได้ยังไง ร่างกายเขาต้องมีอะไรผิดปกติ หรือไม่ก็อาจจะมีปัญหาทางจิต”
สิ่งที่ชเนนทร์พูดเป็นความจริง
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย พวกเพื่อนร่วมชั้นเคยนินทาลับหลังว่ายศพัฒน์เป็นคนเย็นชา ความจริงไม่ใช่เย็นชาแต่มีความบกพร่อง
ตอนที่ชเนนทร์อยู่โรงเรียนมัธยม เขาแอบมีความรักเร็วมาก แต่ความรักในรั้วโรงเรียนไม่ยั่งยื่น พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลิกกัน
ตอนนี้เขาไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเขาซื่อสัตย์ต่อการเรียนระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนรอบตัวเขาเป็นแบบนั้น ยกเว้นยศพัฒน์
“บางคนมีความรู้สึกช้าก็เป็นเรื่องปกติ”
พิชญ์สินีไม่ค่อยเชื่อว่ายศพัฒน์มีปัญหาทางกายภาพ
“รุ่นน้องเดชวิทย์บอกว่ายศพัฒน์เคยมีคนรักในวัยเด็กคนหนึ่ง พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เติบโตมาด้วยกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีเสมอมา ปรากฏว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนรักในวัยเด็กของเขาจู่ๆ ก็ไปต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นยศพัฒน์จึงกลายเป็นคนเย็นชาอย่างที่เราเห็น”
“ผมสงสัยว่าคนรักวัยเด็กของเขาต้องการทำอะไรกับเขา แต่กลับพบว่ายศพัฒน์ใช้การไม่ได้ จึงเสียใจหนีไปต่างประเทศ ภายนอกเย็นชาเพราะมีปมด้อย ดังนั้นอยู่มหาวิทยาลัยเลยไม่เคยยุ่งกับผู้หญิง ใครเริ่มจีบเขาก่อนก็จีบไม่ติดเลย”
พิชญ์สินี “………..”
“คุณแม่ เทวิกาแต่งงานกับยศพัฒน์ก็เท่ากับกระโดดลงไปในกองไฟ เธอคงถูกคุณแม่เร่งให้แต่งงานจนไปสุ่มหาผู้ชายมาแต่งงาน ดังนั้นเธอจึงสุ่มหาผู้ชายมาแต่งงาน คุณแม่จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งงานของเธออีก”
พิชญ์สินีพูดด้วยความไม่เชื่อ “แต่งงานไม่ใช่เล่นขายของ เทวิกาไม่ใช่คนที่จะยอมเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ ถ้าเธอเต็มใจเปลี่ยนแปลง ยังจะต้องมีนัดบอดหลายสิบครั้งทำไม แกบอกว่าเธอแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้ว แต่เธอไม่กลับมาเอาเล่มทะเบียนบ้านแล้วจะได้ใบทะเบียนสมรสได้ยังไง”
“พวกเขาไปสถานีตำรวจเพื่อออกใบรับรอง”
“แถมที่นั่นยังมีรุ่นน้องเดชวิทน์อยู่ด้วย เลยได้ใบทะเบียนมาอย่างราบรื่น”
พิชญ์สินี “……….”
“คุณแม่ หรือไม่ก็โทรหาเทวิกาให้เธอกลับมาตอนนี้เลย พายศพัฒน์กลับมาด้วย แล้วเราก็จับผิดพวกเขาทั้งคู่!”
เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่พิชญ์สินีจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาลูกสาว
ขณะนี้เทวิกากับยศพัฒน์กำลังนั่งอยู่ในห้องหรูหราของโรงแรมเมเปิล กำลังจะสั่งอาหารค่ำ
ยศพัฒน์บอกว่าอยากจะฉลองและชวนเธอมาทานอาหารเย็น เธอคิดว่า อย่างมากเขาก็แค่หาร้านอาหารจานด่วน สั่งอาหารมาสักสองสามจานและดื่มแอลกอฮอล์ก็แค่นั้น
คิดไม่ถึงว่าเขาจะพาเธอมาโรงแรมเมเปิล
ในฐานะคนเมืองแอคเซสซ์ แม้ว่าจะมาจากสถานที่เล็กๆ นอกเมือง แต่เทวิกาก็รู้จักโรงแรมเมเปิล
นี่เป็นโรงแรมในเครือบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป หนึ่งในโรงแรมที่หรูหราที่สุดของเมืองแอคเซสซ์
เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง เทวิกาจึงไม่เคยมาเหยียบที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าว
แถมตอนนี้เธอยังเป็นหนี้อยู่เยอะมากด้วย