คุณสามีพันล้าน - บทที่ 056 ผีขี้เมาขวางประตู
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 056 ผีขี้เมาขวางประตู
ตอนที่สองสามีภรรยาออกไปจากบ้านนั้น ลุงวริศคนขับรถประจำของยศพัฒน์กับลุงเจย์ที่รับผิดชอบส่งเทวิกากลับไปที่บ้านเช่าก็ได้มารออยู่ก่อนแล้ว
เทวิกาเห็นรถคันที่ยศพัฒน์จะไปนั่งคือรถเบนซ์ที่ราคาหลายร้อยล้าน คันที่เขาขับมาในวันที่เธอกับเขาไปจดทะเบียนสมรสกันนั่นเอง
วันนั้นเขาบอกว่าเป็นรถมือสองที่ซื้อมาจากเพื่อน เอามาใช้สร้างภาพ แล้วบอกว่าถึงเป็นรถใหม่ก็ไม่แพงอะไร
เอ่อ!
โกหกก็ยังสามารถโกหกได้หน้าตาย หายใจเป็นปกติได้อีกเหรอ
เธอรู้สึกนับถือเขาจริง ๆ!
รถราคาไม่กี่ล้านสำหรับยศพัฒน์แล้ว ไม่ได้ถือว่าแพง ด้วยฐานะของเขา อย่างน้อยก็น่าจะขับรถโรลส์รอยซ์แล้ว
เทวิกาไม่ได้ถามเรื่องรถที่ขับกับเขา
เธอกล้าพูดได้เลยว่าในโรงรถของเขาจะต้องมีรถโรลส์รอยซ์อยู่แน่ ๆ
บางทีเขาอาจจะอยากทำตัวติดดินหน่อยละมั้ง
รั้วคฤหาสน์เป็นแบบมีรู
กชนิภายืนอยู่ที่หน้าประตู ก็สามารถมองเห็นภาพด้านในได้แล้ว
เธอเห็นเองกับตาว่ายศพัฒน์ช่วยดึงประตูรถเปิดออกให้ผู้หญิงคนนั้นแบบสุภาพบุรุษ แล้วตอนที่ผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถ พี่พัฒน์ยังประคองหล่อนไปด้วย
พี่พัฒน์ที่ใส่ใจขนาดนี้ กชนิภาไม่เคยได้เห็นมาก่อน
เธอชอบพี่พัฒน์มาหลายปีแบบนี้ แค่ได้อยู่ข้างเขาแค่นาทีเดียวก็ยังไม่ได้เลย
ผู้หญิงคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมาได้รับความอ่อนโยนและความเอาใจใส่จากพี่พัฒน์แบบนี้?
แค่เพียงเพราะว่าหล่อนเป็นคู่สร้างคู่สมของพี่พัฒน์เหรอ?
กชนิภาจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไปด้วยความอิจฉา
ตอนที่รถขับออกไปจากคฤหาสน์ กชนิภาอดไม่ได้ที่จะวิ่งตามรถไป วิ่งไปด้วยแล้วก็ตบกระจกหน้าต่างฝั่งที่เทวิกานั่งอยู่ไปด้วย
“เปรมา เธอลงจากรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันมีคำพูดจะพูดกับเธอ!”
“เปรมา เธอไสหัวไปตั้งสิบปีแล้ว ทำไมยังต้องกลับมาอีก?”
“เปรมา ฉันจะบอกเธอให้นะ พี่พัฒน์เป็นของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยมือแน่ พวกเราแข่งขันกันอย่างยุติธรรม เธออย่าดีใจไปหน่อยเลย พวกเราใครจะเป็นคนชนะก็ยังไม่รู้เลย”
ลุงวริศเร่งความเร็วขึ้นมา
รถยนต์ขับเร็วมากยิ่งขึ้น
ไม่นานก็ทิ้งห่างกชนิภาไปไกลเลย
เทวิกาอยากบอกให้ลุงวริศหยุดรถครู่หนึ่ง
แต่พอคิดถึงสถานะของตัวเองตอนนี้แล้ว ไม่ว่าเธอจะรักยศพัฒน์หรือเปล่า แต่ก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว ก็ควรจะมีท่าทางของภรรยา ไม่อาจสงสารความลำบากลำบนในการไล่ตามของคู่แข่งได้
ผู้ชายด้านข้างทำหน้าบึ้งตึงมาตลอด ทั้งตัวแผ่ซ่านกลิ่นอายเย็นเฉียบออกมา
ราวกับเป็นยมทูตที่คลานขึ้นมาจากนรกยังไงอย่างงั้น หนาวเย็นจนทำให้รู้สึกตัวสั่น
จู่ ๆ เทวิกาก็รู้สึกโชคดี โชคดีที่ตัวเองเป็นคนที่เขาชอบ ถ้าหากว่าเป็นศัตรูของเขาละก็ เธอจะต้องตายยังไงก็ยังไม่รู้เลย
หรือเปลี่ยนวิธีพูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือที่จริงแล้วเธอมีความสุขมาก แล้วก็โชคดีมากด้วย
ยศพัฒน์เล็งเห็นเธอ และเล็งมาเป็นเวลาสิบปี เสียเวลารอเธอเติบโตไปสิบปี รอจนมีโอกาส ให้เธอยอมเดินเข้ามาในโลกของเขาด้วยความเต็มใจ
สำหรับการมาตกหลุมแล้วคลานออกไปไม่ได้ ก็โทษอะไรเขาไม่ได้เลย
ใครใช้ให้เธอไร้เดียงสาเกินไป นึกว่ารู้จักกันมาสิบเอ็ดปี จึงเป็นคนที่คุ้นเคยกันดีมากแล้ว……
เฮ้อ เรื่องอดีตไม่ต้องกลับไปย้อนคิดแล้ว
เทวิกาแค่คิดถึงเรื่องที่ใช้เงินเช่าเขาเดือนละห้าพันในตอนนั้น ก็อยากควักลูกตาทั้งคู่ของตัวเองออกมาแล้ว
ตาบอดเหรอ!
“คุณกชนิภาดูจะหลงคุณหัวปักหัวปำเลยนะคะ เพียงแต่ เธอคิดว่าฉันเป็นคู่สร้างคู่สมของคุณไปซะแล้ว”
ยศพัฒน์สีหน้ามืดมน “อย่างกับคนโง่ เปรมาไม่ใช่คู่สร้างคู่สมของผม!”
รอก่อนเถอะ เขาจะกว้านซื้อแอมที กรุ๊ปมา และซื้อคฤหาสน์ของตระกูลธวัชพลังกรมาด้วย จะทำให้กชนิภาไม่มีโอกาสได้เป็นเพื่อนบ้านกับเขา แล้วก็ให้ตกจากรายชื่อลูกผู้ดีไฮโซไปเลย ดูซิว่ากชนิภายังจะมาตอแยเขาได้ยังไงอีก
ปกติ ยศพัฒน์ก็รู้สึกเบื่อกชนิภาอยู่แล้ว และส่วนใหญ่คนข้างล่างก็จะช่วยขัดขวางกชนิภาไว้ให้เขา จะไม่ปล่อยให้กชนิภามารบกวนเขาได้ง่าย ๆ
เขาก็เลยขี้เกียจที่จะไปจัดการกับกชนิภา
ตอนนี้เขามีเทวิกาแล้ว การตอแยของกชนิภาจึงมีผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมาก
จะปล่อยไว้ไม่สนใจอีกไม่ได้แล้ว
กชนิภาน่าจะฝันก็คงจะไม่เคยฝันถึงว่า มาวันหนึ่ง บริษัทของตระกูลธวัชพลังกรของหล่อนจะถูกกว้านซื้อไป เพราะสาเหตุมาจากการที่หล่อนไปแอบรักผู้ชายคนหนึ่ง
“คนเราทุกคนต่างก็มีอิสระในการรัก เธอไม่ได้ทำผิดอะไร”
เทวิกาพูดไปแล้ว มือหนึ่งก็ไปวางอยู่บนไหล่เขา อีกมือหนึ่งก็ไปจับอยู่บนใบหน้าเขา ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ใครใช้ให้คุณหน้าตาดีขนาดนี้ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงละก็ จะต้องงดงามจนเลื่องลือกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง และมีเสน่ห์ทำให้ผู้คนลุ่มหลงเป็นอย่างมากแน่”
ยศพัฒน์เอียงหน้าไปมองเธอ ดวงตาหยีลง แฝงไปด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ดูท่าภรรยาผมจะพอใจกับรูปลักษณ์ของผมเป็นอย่างมากเลยนะ”
เทวิกาลูบไปอีกสองที แล้วก็ชักมือกลับมา แล้วก็พิงหลังไปที่พนักเก้าอี้ “สีหน้าคุณนี่เปลี่ยนเร็วอย่างกับพลิกหน้าหนังสือเลยนะคะ”
วินาทีก่อนยังเหมือนกับเป็นยมทูตตนหนึ่ง วินาทีต่อมาก็มีรอยยิ้มอบอุ่นที่อุ่นราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ พัดมาจนจิตใจของเธอสั่นไหว
ยศพัฒน์ยิ้มแล้วกุมมือเธอไว้ “ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนสีหน้ายังไง แต่กับคุณ ไม่เปลี่ยนแน่นอน”
คนขับรถขับรถไปอย่างจดจ่อ ไม่กล้าเปล่งเสียงอะไรสักนิด และพยายามลดการมีตัวตนของตัวเองให้ต่ำที่สุด
พวกเขานึกว่าคุณชายใหญ่พูดจาไม่เป็นซะอีก แต่ผลปรากฏว่าคุณชายใหญ่พูดคำหวานขึ้นมานั้นสุดยอดเลย!
ลุงวริศกล้าพูดได้เลยว่า ไม่เกินสามเดือน คุณนายน้อยก็จะต้องมอบหัวใจทั้งดวงให้คุณชายใหญ่แน่นอน
พอออกจากเขตคฤหาสน์แล้ว เทวิกาก็ลงมาจากยศพัฒน์ แล้วก็ขึ้นไปนั่งรถคันที่ลุงเจย์ขับมา
สองสามีภรรยาแยกจากกันไปชั่วคราว
ยศพัฒน์มุ่งหน้าไปที่บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป ส่วนเทวิกาก็กลับไปที่บ้านเช่าของเธอ
ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เธอกลับไปที่บ้านเช่ายังมีเวลามาเขียนอีกสักสี่ห้าพันตัวแล้วอัปเดตได้
…….
กนกอรผลักประตูออก แต่กลับรู้สึกว่านอกประตูมีอะไรขวางทางประตูอยู่ เธอผลักไปแล้วรู้สึกค่อนข้างเปลืองแรง
พอใช้แรงไปหน่อยหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็ผลักประตูออกมาได้
เธอเดินออกมา เพื่อจะดูว่ามีของอะไรขวางอยู่ตรงหน้าบ้านเธอ
คนหนึ่งคน!
กำลังนอนอยู่หน้าบ้านเธอ นอนหลับอย่างกับหมูตัวหนึ่ง
กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง
เป็นผีขี้เมาตัวหนึ่ง
ไม่รู้ว่ามานอนอยู่ที่หน้าบ้านเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
เอ๊ะ คนคนนี้ดูคุ้นตาจังเลย
เขาใส่ชุดสูทไว้ทั้งตัว แถมยังใส่เนกไทไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะนอนอยู่บนพื้นอย่างน่าอาย ก็จะเป็นสุภาพบุรุษที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งเลย
กนกอรจ้องมองอยู่นาน แล้วก็นึกขึ้นมาได้
“นี่มันประธานนฤเบศวร์อะไรนั่นที่พาคนมาหาเรื่องเทวิกาเมื่อวานไม่ใช่เหรอ?”
กนกอรรู้จักตัวตนของไอ้ผีขี้เมาบนพื้นนี่แล้ว
ตอนที่นฤเบศวร์พาคนไปหาเรื่องเทวิกานั้น ยศพัฒน์ก็กำลังอยู่ด้วยพอดี พอมีเขาอยู่ด้วย กนกอรก็เลยไม่ได้เข้าไปช่วยต่อสู้ให้เทวิกา แต่เธอจดจำลักษณะของนฤเบศวร์ไว้แล้ว และเหมือนจะได้ยินสถานะของนฤเบศวร์มาด้วย
เมืองแอคเซสซ์มีบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ห้าบริษัท
ในนั้นบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปก็มักจะอยู่ในตำแหน่งผู้นำมาตลอด
ส่วนบริษัทที่เป็นรองบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปก็จะเป็นRA กรุ๊ป ซึ่งRA กรุ๊ปก็คือบริษัทครอบครัวของตระกูลตระกูลเดชอุป
ลูกพี่ลูกน้องของกนกอรทำงานอยู่ในRA กรุ๊ปพอดี ด้วยเหตุนี้เธอก็เลยรู้ว่าคนที่ประธานใหญ่ของRA กรุ๊ปก็คือนฤเบศวร์คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเดชอุป
“นี่ ตื่นเลยนะ”
กนกอรใช้เท้าเตะนฤเบศวร์ไป
ช่างเขาจะเป็นประธานอะไร คนที่มาต่อต้านเทวิกา ก็คือประธานชั่วทั้งนั้น!
เธอเป็นเพื่อนรักของเทวิกา คนที่ต่อต้านเทวิกาก็เป็นศัตรูของเธอกนกอรไปด้วย ปฏิบัติกับศัตรูก็ไม่ต้องอ่อนโยนหรอก
นฤเบศวร์โดนกนกอรเตะไปหลายที แล้วก็เจ็บจนตื่นขึ้นมา
พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง กำลังจ้องมองเขามาจากข้างบน ถึงเขาจะตื่นขึ้นมาแล้ว เธอก็ยังเตะเขาอยู่เช่นเดิม
สมควรตายจริง ๆ!
ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อน!
ไม่ใช่ซิ ทำไมเขาตื่นขึ้นมาถึงได้เห็นผู้หญิงคนนี้ได้ล่ะ?
คงไม่ใช่เพราะเขาเมาแล้ว ถูกยัยเด็กนี่เก็บกลับมา แล้วปู้ยี่ปู้ยำไปหรอกนะ?
พอคิดถึงจุดนี้ นฤเบศวร์ก็ไม่ได้สนใจอาการปวดหัวจนแทบจะระเบิดตอนตื่นขึ้นมา แล้วก็รีบลุกขึ้นมานั่ง แล้วพบว่าเสื้อเชิ้ตของตัวเองยังเป็นระเบียบเรียบร้อยดีอยู่ และไม่ได้นอนอยู่บนเตียง แต่นอนอยู่บนพื้น ดูท่ายังเป็นหน้าบ้านของคนอื่นเขาด้วย
เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมา แล้วตัวก็นอนลงไปข้างหลัง และนอนลงไปบนพื้นอีกครั้ง