คุณสามีพันล้าน - บทที่ 059 โอ้อวดว่ามีเมียแล้ว
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 059 โอ้อวดว่ามีเมียแล้ว
นฤเบศวร์ “……”
เขาอยากจะอวก
กนกอรเป็นเด็กสดใสน่ารัก เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตามาก
แต่เขาก็เคยเห็นผู้หญิงสวยมาหลากหลายรูปแบบแล้ว เด็กสาวน่ารักอย่างกนกอร ไม่มีทางเข้าตาเขาหรอก
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่ในใจเขาก็คือเปรมา
แค่ช่วยเปรมาถือรองเท้า กนกอรก็ไม่คู่ควรเลย
“คุณชายใหญ่ครับ”
บอดี้การ์ดของตระกูลเดชอุปมาตามโลเคชั่นที่แชร์ให้ และตามมาถึงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา พอเห็นสภาพที่น่าอนาถของคุณชายใหญ่ของตัวเอง ก็ตกใจจนตาแทบจะถลนออกมาแล้ว
“คุณชายใหญ่ครับ คุณไม่เป็นอะไรนะครับ?”
นฤเบศวร์นวดขมับที่ปวดตุ๊บ ๆ ของตัวเองไป แล้วหันไปถลึงตาใส่กนกอรอีกสองครั้ง แล้วก็หมุนตัวจากไป
บอดี้การ์ดรีบตามไป
พอเดินไปไม่กี่ก้าว นฤเบศวร์ก็หยุดฝีเท้าลง แล้วหันหน้าไปพูดกับกนกอรว่า “เรื่องวันนี้ วันหลังของ‘ตอบแทน’ให้นะ”
เขาตั้งใจพูดคำว่า“ตอบแทน”ให้เสียงเข้มขึ้น
กนกอรพยายามทำตัวสงบนิ่งแล้วถามเขาไปประโยคหนึ่งว่า “ใครก่อเรื่อง ใครก็เป็นคนรับผิดชอบ ถ้าคุณเบศวร์แน่จริง ก็พุ่งเป้ามาที่ฉันคนเดียวเลย”
“วางใจเถอะ ฉันเป็นคนที่แน่จริงแน่!”
ตอนที่นฤเบศวร์ต่อสู้กับยศพัฒน์นั้น ทั้งโหดเหี้ยมและรุนแรง
นั่นเป็นเพราะว่าเขาเกลียดยศพัฒน์มากเกินไป
ที่จริงแล้วนิสัยของเขาไม่ได้ถือว่าชั่วร้ายมาก
กนกอรทำแบบนี้กับเขา เขาจะมาคิดบัญชีกับกนกอร แต่ไม่มีทางลามไปถึงคนอื่น ๆ ในบ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม
รถของบอดี้การ์ดจอดอยู่นอกตรอก พอนฤเบศวร์ขึ้นรถแล้ว ก็สั่งให้บอดี้การ์ดส่งเขาไปที่โรงแรมใหญ่ในเมืองแอคเซสซ์
เขาจะแช่น้ำร้อนสักหน่อย
บอดี้การ์ดไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณชายใหญ่ ทำไมถึงได้เปียกไปหมดทั้งตัว พวกเขาไม่กล้าถาม
นฤเบศวร์ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรศัพท์หาผู้ช่วยพิเศษของตัวเอง พออีกฝ่ายรับสายแล้ว เขาก็สั่งขึ้นว่า “ธันวา ช่วยฉันสืบหาคนชื่อกนกอรหน่อย เป็นเด็กสาวที่อายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ ฉันรู้สึกคุ้นหูกับชื่อเธอมาก แต่ฉันไม่มีภาพความทรงจำต่อเธอเลย”
ธันวาอยู่ระหว่างทางที่กำลังเดินทางไปบริษัท เขาขับรถไปด้วย และพูดไปด้วยว่า “เจ้านายครับ กนกอรก็คือเพื่อนสนิทของเทวิกานี่ครับ และหุ้นกับเทวิกาเปิดร้านกาแฟอยู่ร้านหนึ่ง ร้านนั้นชื่อว่าOne Day In Coffeeครับ เมื่อไม่นานมานี้ที่คุณให้ผมไปสืบเรื่องของเทวิกา แล้วก็ให้สืบเรื่องคนรอบตัวเทวิกามาให้หมดด้วยไงครับ”
นฤเบศวร์ “……”
ที่แท้เป็นเพื่อนของเทวิกานี่เอง
ถึงว่าเขาถึงได้รู้สึกคุ้นหูกับชื่อกนกอรนี้นิดหน่อย
ถึงว่าพอกนกอรรู้จักตัวตนของเขาแล้ว ยังกล้าเตะเขา และสาดน้ำเย็นใส่เขาทั้งตัวด้วย
คิดว่า น่าจะช่วยเอาคืนแทนเทวิกาละมั้ง
เขาพาคนไปหาเทวิกา แต่ไม่ได้ทำเรื่องร้ายอะไรออกมา ตอนนั้นเขาโอหังมาก
น่าจะเป็นเพราะท่าทางโอหังของเขาถูกกนกอรพบเห็นเข้าละมั้ง
ดังนั้นผู้หญิงคนนี้จึงคิดว่าเขาเป็นไอ้ชาติชั่ว
ในเมื่อเป็นเพื่อนรักของเทวิกา งั้นเขาก็ต้อง“ต้อนรับ”ให้ดี ๆ สักรอบแล้ว
ในขณะเดียวกันยศพัฒน์ก็กลับมาถึงเมเปิล กรุ๊ป
ตอนที่เดินเข้ามาในตึกสำนักงานนั้น ก็เจอเข้ากับอินทัชหัวหน้าแผนกผู้ช่วยพิเศษ
ทั้งสองคนเดินไปด้วยกัน
“เจ้านายครับ วันนี้ไม่ขับจักรยานมาทำงานแล้วเหรอครับ?”
คำพูดประโยคนี้ของอินทัชเห็นได้ชัดเลยว่าแฝงกลิ่นอายความหยอกล้อเอาไว้
“รถจักรยานจอดอยู่ที่บ้านเช่าภรรยาฉัน ฉันออกมาจากบ้านเลย”
ยศพัฒน์ไม่รังเกียจการหยอกล้อของอินทัช
“เดี๋ยวเลิกงานแล้วค่อยไปขับจักรยาน เดี๋ยวจะพาเมียฉันไปกินลมชมวิวสักหน่อย แล้วฉันก็ต้องไปช่วยเมียฉันซื้อกระโปรงยาวอีกหลายตัว ตอนที่กินลมชมวิว ใส่แล้วจะดูมีสวยเด่นกว่าใคร”
อินทัช “……เจ้านายครับ ผมรู้สึกว่าคุณกำลังโอ้อวดว่าคุณมีภรรยาแล้วอยู่”
ทรมานเขาที่เป็นชายโสดจริง ๆ
ยศพัฒน์เหล่ตามองเขาทีหนึ่ง “งั้นนายยังมาหาเรื่องทรมานตัวเองอีก?”
อินทัชหมดคำพูดไปเลย
พนักงานหลายคนที่เดินตามหลังทั้งสองคนอยู่ ฟังผู้บริหารระดับสูงที่สุดสองคนของบริษัทคุยกันไป พวกเขาก็แอบหัวเราะกันไป
ยศพัฒน์กับอินทัชล้วนใช้ลิฟต์เฉพาะของท่านประธาน
ทั้งสองคนเข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์ปิดลง ก็กั้นหูที่สอดรู้สอดเห็นของพวกพนักงานออกไป
ยศพัฒน์เอารูปภาพหลายใบยื่นไปให้อินทัช
อินทัชรับมาด้วยแล้วก็ถามอย่างแปลกใจไปด้วยว่า “นี่คืออะไรครับ? กระดาษวาดรูปเหรอ?”
ยศพัฒน์ไม่ตอบ
ตัวเขาเปิดรูปภาพพวกนั้นออกมา ก็เห็นเป็นภาพวาดของคนแปลกหน้าหลายคน
“เจ้านาย ทักษะในการวาดรูปของคุณดีมากจริง ๆ มีเวลาวาดรูปเพิ่มอีกไม่กี่รูป รับรองต้องมีคนมาแย่งซื้อรูปของคุณแน่ หรือไม่ก็ จัดงานนิทรรศการสักรอบเป็นไงครับ?”
“ช่วยฉันตรวจสอบหน่อยว่าคนพวกนี้เป็นใคร มาจากไหน เป้าหมายที่มาใกล้ชิดเทวิกาคืออะไร?”
ดวงตาดำของอินทัชเป็นประกายสั่นไหว แต่กลับพูดไม่เป็นการเป็นงานเลยว่า “หรือว่ามาถูกใจภรรยาท่านประธาน? จะมาแย่งผู้หญิงกับคุณ? แต่ว่าสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอำมหิต ภรรยาท่านประธานไม่ได้มีศัตรูที่ไหนแน่นะครับ?”
“วิกาไม่มีศัตรู นายมองออกด้วยเหรอว่าดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอำมหิต”
“เจ้านายวาดรูปพวกเขาออกมาอย่างกับเหมือนตัวจริงยังไงอย่างงั้น ผมไม่ได้ตาบอดสักหน่อย ทำไมจะดูไม่ออก”
ยศพัฒน์ล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรศัพท์ทันที พออีกฝ่ายรับสายแล้ว เขาก็ออกคำสั่งเสียงขรึมไปว่า “ภูริช ให้วายุกับสายฟ้ามาพบผมเดี๋ยวนี้”
ภูริชเป็นพ่อบ้านใหญ่ของคฤหัสถ์เมเปิล เขาเป็นคนควบคุมดูแลคนงานทั้งหมดในคฤหัสถ์เมเปิล แล้วการเคลื่อนไหวบอดี้การ์ด แน่นอนว่าภูริชก็ต้องเป็นคนไปจัดแจงตามคำสั่งของเจ้านายอยู่แล้ว
“ได้ครับ คุณชายใหญ่”
ภูริชตอบรับไปอย่างนอบน้อม
พอวางสายแล้ว ลิฟต์ก็พาทั้งสองคนขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดของตึกสำนักงาน
ทั้งสองคนเดินออกจากลิฟต์ไปด้วยกัน
ไรยามารออยู่หน้าลิฟต์นานแล้ว พอทั้งสองคนออกมา ไรยาก็รีบเดินตามไป เดินไปด้วยและรายงานเรื่องงานให้กับยศพัฒน์ไปด้วย ยศพัฒน์เดินไปด้วยฟังไปด้วยและตอบสนองกลับไปด้วย
พอมาถึงหน้าประตูห้องทำงานประธาน ไรยาก็หยุดลง
เธอรู้ว่าประธานยศพัฒน์กับหัวหน้าผู้ช่วยพิเศษอินทัชมีเรื่องจะปรึกษากัน
พอประตูห้องทำงานประธานปิดลงแล้ว อินทัชก็พูดขึ้นว่า “เจ้านายครับ เป็นเพราะคุณพวกเขาถึงได้มาหาเรื่องคุณนายหรือเปล่าครับ?”
ยศพัฒน์นั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงาน แล้วพูดอย่างครุ่นคิดขึ้นว่า “ฉันก็สงสัยแบบนั้นเหมือนกัน นายช่วยไปตรวจสอบให้ฉันชัดเจนกว่านี้หน่อย ไม่ต้องเกรงใจกับพวกเขา สั่งสอนให้รุนแรงสักรอบไปเลย”
“บอกให้พวกมันเอาคำพูดกลับไปให้คนที่อยู่เบื้องหลังพวกมัน ถ้าแน่จริงก็พุ่งมาที่ฉันยศพัฒน์เลย”
เอาผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นตัวอย่าง ถือว่าเป็นผู้ชายอะไรกัน?
อินทัชจ้องมองภาพวาดของคนพวกนั้นไปเรื่อย ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “จากข่าวกรองที่ผมได้มาในช่วงนี้ เรื่องที่คุณแต่งงานสายฟ้าแลบกับคุณนายน้อย ไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป คนที่ต่อต้านเราอยู่นั้น ก็มีแต่นฤเบศวร์ที่ข่าวสารว่องไว คนอื่นน่าจะยังไม่ได้รับข่าวหรอกครับ”
“ในเมื่อไม่รู้ว่าคุณกับคุณนายแต่งงานสายฟ้าแลบ แล้วจะมาเอาคุณนายเป็นตัวอย่างได้ยังไง?”
ยศพัฒน์ครุ่นคิดอย่างหนัก “อินทัช ความหมายของนายคือคนพวกนี้มาเพราะตัววิกาเองเลยเหรอ?”
แต่ว่าเทวิกาไม่เคยล่วงเกินใครมาก่อน ตระกูลวาชัยยุงก็เป็นตระกูลที่ใสสะอาด แล้วอาศัยอยู่ที่บ้านนอก จะไปล่วงเกินใครจนนำอันตรายมาสู่เทวิกาได้?
“เจ้านายครับ ตอนนี้พวกเรายังตัดสินอะไรไม่ได้ รอให้ตรวจสอบแล้วค่อยมาว่ากันเถอะครับ ดูจากข้อมูลที่เราได้มาในตอนนี้แล้ว ไม่ค่อยมีความเป็นไปได้ว่าที่พวกเขามาเอาคุณนายมเป็นตัวอย่างเพราะเจ้านายนะครับ”
ความเคลื่อนไหวในช่วงสิบปีที่ผ่านมาของคุณนายล้วนอยู่ในการควบคุมของเจ้านาย ถ้าคุณนายมีศัตรูจริง ๆ เจ้านายก็ต้องเป็นคนแรกที่รู้เรื่อง
พอรู้เรื่องที่ยศพัฒน์แต่งงานแล้ว อินทัชก็รู้สึกแปลกใจมากจริง ๆ ก็เลยไปตรวจสอบเองรอบหนึ่ง ถึงได้พบว่าเจ้านายของเขาแอบติดตามความเคลื่อนไหวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แล้วติดตามมาเป็นสิบปีแล้วด้วย
สามารถพูดได้ว่า วันหนึ่งเด็กผู้หญิงคนนี้กินข้าวกี่ถ้วย เจ้านายพวกเขาก็รู้เรื่องหมด
ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองตรวจสอบเองกับมือ อินทัชก็ไม่กล้าเชื่อว่า เจ้านายที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของพวกเขาคนนี้ ที่แท้จะมีความรู้สึกลึกซึ้งขนาดนี้