คุณสามีพันล้าน - บทที่ 062 เรื่องแต่งงาน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 062 เรื่องแต่งงาน
เมื่อประตูห้องพักเปิดออก คนที่เดินออกมามีแค่ยศพัฒน์
ส่วนคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเครื่องดับร้อนตอนนี้นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
สภาพในวันที่ฝนตกหนัก อากาศจึงเย็นชื้น
เหมาะแก่การนอนฝันหวาน
เทวิกาคิดว่าในสภาพอากาศย่ำแย่แบบนี้ ยังไงเธอก็คงกลับไปที่ร้านไม่ได้ จึงเลือกนอนฝันหวานอยู่ในห้องพักทำงานของยศพัฒน์ให้รู้แล้วรู้รอด
จากนั้น เธอก็หลับไป โดยไร้ซึ่งเรื่องกังวลใจใดๆ
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ สุดท้ายเธอก็ตื่นมาเพราะความหิว
เธอคลำหาโทรศัพท์บริเวณหัวเตียง เมื่อเปิดเวลาดู ก็พบว่าตอนนี้บ่ายโมงกว่าๆแล้ว
ไม่น่าล่ะเธอถึงหิวขนาดนี้
เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว หยิบหวีมาสางผมพอลวงกๆ จากนั้นก็หยิบกิ๊บมารวบผมไว้ข้างหลัง แล้วเดินออกไปอย่างเร่งรีบ
“พัฒน์….พี่ก็อยู่เหรอ?”
เธอเห็นพี่ชายของตัวเองนั่งอยู่ตรงข้ามยศพัฒน์ ทั้งสองเหมือนกำลังคุยอะไรกันบางอย่าง การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเธอพลันขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสอง
ชเนนทร์เป็นตัวแทนบริษัทมาคุยธุรกิจกับบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
ทั้งสองคุยกันอย่างออกรส จนถึงเวลากินข้าวแล้ว ก็ยังไม่รู้ตัว ยังคงคุยกันอย่างฉะฉาน จนกระทั่งถูกขัดจังหวะด้วยการปรากฏตัวของเทวิกา
ชเนนทร์มองน้องสาวที่อยู่ในชุดของยศพัตน์ จากนั้นก็หันมามองยศพัฒน์ จึงเห็นว่ายศพัฒน์เองก็กำลังมองไปทางน้องสาวของเขาอย่างอ่อนโยน จากนั้นยศพัฒน์ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปหาเทวิกา
“วิกา ตื่นแล้วเหรอ? หิวใช่ไหม? ผมแจ้งให้ผู้จัดการ เตรียมอาหารไว้ให้แล้ว เราไปทานกันได้เลย ไม่ต้องรอ”
ชเนนทร์ : ที่แท้คุณพัฒน์ก็ไม่ได้คุยงานจนลืมเวลาทานข้าว แต่ตั้งใจรอเทวิกาตื่นขึ้นมาทานพร้อมกันนี่เอง
“ฉันตื่นเพราะหิวนี่แหละ”
เทวิกาเอ่ยถามเสียงเบาว่า “แล้วพี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“พี่ชายคุณมาคุยงานที่บริษัทผมน่ะ เมื่อกี้กำลังคุยกันอยู่เลย”
เทวิกาตอบอ๋อ
เธอไม่เข้าใจศัพท์ทางธุรกิจของพวกเขา แล้วก็ไม่มีความสนใจในด้านธุรกิจด้วย แต่เธอชอบการเขียนและการอ่านหนังสือมากกว่า
ขณะที่เปิดร้านกาแฟ เธอก็เขียนหนังสือ เพื่อหารายได้เสริมไปด้วย ซึ่งเธอพอใจกับมันเป็นอย่างมาก มันเป็นอะไรที่ไม่หวือหวาแต่สงบสุข
คนอาจจะขำว่าเธอไม่มีความกระตือรือร้น คนเรามีจุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน จุดมุ่งหมายของเธอนั้นคือการได้เป็นนักเขียน ได้ตีพิมพ์หนังสือ และขายลิขสิทสิ์ไปทำหนัง ดัดแปลงเป็นการ์ตูน เกมส์อะไรก็ว่าไป และแน่นอน ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสามารถสร้างเม็ดเงินมหาศาล จนเธอนับไม่หวาดไม่ไหว
“เห็นแก่คุณ ผมจะ…..”
ยศพัฒน์ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเทวิกาตัดบทเสียก่อน
“พี่พัฒน์ เอาตามเนื้องานเถอะ”
เธอไม่อยากให้ยศพัฒน์ร่วมงานกับพี่ชาย เพียงเพราะเห็นแก่เธอ เธออยากให้พี่พัฒน์มองเห็นความพยายามและความจริงใจของพี่ชาย และยินยอมที่จะร่วมงานกับเขา
ยศพัฒน์ยิ้มออกมา “พี่ชายของคุณไม่ได้เป็นแค่เพื่อนสมัยเรียนของผม แต่ยังเป็นพี่เขยผมด้วย การที่ผมจะช่วยพี่เขย ก็ถือเป็นเรื่องที่ควรทำแล้วนี่”
“พวกแกสองคนไม่เห็นฉันนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้หรือไง?”
ชเนนทร์เคาะโต๊ะ “พัฒน์ วิกาพูดถูก นายควรพิจารณาตามเนื้องาน ฉันไม่ได้อยากให้นายเปิดทางให้ฉันเพราะน้องสาว ถ้านายชอบผลงานของฉัน เราก็ร่วมงานกัน แต่ถ้าไม่ชอบ ก็อย่าฝืนเด็ดขาด การร่วมงานมันต้องได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขาดทุน”
ยศพัฒน์อุ้มภรรยาเดินเข้ามา พูดยิ้มๆว่า “ฉันเห็นผลงานของนายแล้ว มันมีจุดเด่นมาก ฉันค่อนข้างชอบ แต่ว่าเรื่องงานเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ไปทานข้าวกันก่อน”
ชเนนทร์ลุกขึ้น “ก็ได้ งั้นเราไปทานข้าวกัน”
ยศพัฒน์นิ่งไปเล็กน้อย ชเนนทร์จึงเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดกลั้วยิ้มว่า “ป่ะ”
นึกว่าไอ้พี่เขยคนนี้จะหูตาไว คิดเองได้ว่าไม่ควรไปเป็นก้างขวางคอ เขาถึงได้แกล้งๆชวน แต่ไม่คิดเลยว่าไอ้พี่เขยนี่จะตกลง
“ว่าแต่ทำไมวิกาได้มาใส่เสื้อนายล่ะ?”
ชเนนทร์เอ่ยถาม
“คืองี้พี่ พอดีฉันต้องไปส่งกาแฟกับขนมให้ลูกค้าน่ะ แต่ว่าระหว่างทางฝนดันตก ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ฉันก็เลยโทรหาพฒน์ให้มาช่วย เขาเลยพาฉันกลับมาที่บริษัท ในห้องพักไม่มีเสื้อผ้าของฉัน ฉันเลยต้องใส่เสื้อของเขา”
ชเนนทร์เงียบอยู่สักพัก ก็เอ่ยพูดกับยศพัฒน์ว่า “พัฒน์ เดี๋ยวฉันพาวิกากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน ไว้เจอกันที่โรงแรมเมเปิลนะ”
ชเนนทร์ยื่นมือออกจับมือเทวิกา แล้วเดินลากออกไป
ยศพัฒน์ “……….”
เมียถูกพี่เขยชิงตัวไปแล้วจะทำยังไงดี?
ชเนนทร์ขับรถพาเทวิกามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน ระหว่างทาง เขาก็เอ่ยถามน้องสาวว่า “วิกา แกคิดดีแล้วเหรอ?”
เทวิกาเงียบอยู่ชั่วครู่ ก็เอ่ยขึ้น “พี่ ฉันคิดดีแล้ว”
“ครอบครัวเขาอยู่สูงขนาดนั้น ถ้าแกแต่งเข้าไป ก็คงปรับตัวไม่ได้ มีแต่จะเหนื่อยเปล่าๆ”
ชเนนทร์เอ่ยเตือนน้องสาวตัวเอง
“การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แต่มันยังโยงไปถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่ายด้วย ครอบครัวของเรา ไม่มีอะไรให้กังวลก็จริง แต่ครอบครัวของเขาจะยอมให้พวกแกคบกันเหรอ? จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่พาแกไปเจอพ่อแม่เลยไม่ใช่หรือไง?”
“พี่ มันเป็นเพราะฉันยังไม่พร้อมต่างหาก เมื่อคืน ฉันไปบ้านของเขากรีนทาวน์ที่อยู่คอนโด เขาบอกว่า ถ้าฉันเต็มใจ สุดสัปดาห์นี้ จะพาไปเจอผู้หลักผู้ใหญ่”
เทวิกาพูดเข้าข้างยศพัฒน์โดยไม่รู้ตัว เพราะไม่อยากให้พี่ชายตำหนิยศพัฒน์
“เขาบอกว่าคนที่บอกเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ใจกว้างด้วย”
ชเนนทร์ส่งเสียงเหอะๆออกมา “แล้วใครมันจะไปบอกว่าคนที่บ้านเข้ากันยากกันล่ะ? บางคนก็ดีกับแค่คนในครอบครัว แต่ชอบต่อต้านคนนอก แถมนิสัยก็แย่มากๆ”
“อยู่คนละชั้น อยู่คนละโลกขนาดนั้น ต่อให้เขายินดีมอบตำแหน่งคุณนายตระกูลอริยชัยกูลให้แก ก็ใช่ว่าแกจะได้นั่งตำแหน่งนั้นอย่างสงบเสียหน่อย? อย่าเพิ่งพูดถึงผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเลย เอาแค่คนที่เขาชอบแค่คนเดียว แกก็เตรียมรับมือกับความประสาทแดกได้เลย ฉันรู้มาว่า เปรมาผู้ซึ่งเป็นรักแรกของเขากลับมาแล้วด้วย”
จากเพื่อนสมัยเรียนกลายมาเป็นน้องเขยตัวเอง ช่วงนี้ชเนนทร์เลยต้องสืบเรื่องของน้องเขยไว้หน่อย
เขาเสียดาย เสียดายที่อุตส่าห์ได้เรียนรุ่นเดียวกันกับยศพัฒน์ทั้งสี่ปี หลังจากเรียนจบก็ยังติดต่อกัน แต่กระนั้นก็ยังไม่รู้จักยศพัฒน์มากพอ แม้แต่ตัวตนที่แท้จริงของยศพัฒน์เขาก็ยังไม่รู้
“วิกา พี่ยังยืนยันคำเดิมนะ ยศพัฒน์เป็นผู้ชายที่รับมือยากที่สุดแล้ว แกไม่มีเล่เหลี่ยมพอที่จะสู้…..”
“พี่ ฉันกับพี่พัฒน์เป็นสามีภรรยากัน ไม่ใช่ศัตรู ไม่จำเป็นต้องสู้”
ชเนนทร์ “…..ฉันหมายถึงแกตามเขาไม่ทันหรอก คงถูกเขากินเข้าสักวัน อีกอย่างแกชอบชีวิตสงบสุข แต่โลกของเขาถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่อาจสงบสุขได้”
เทวิกาเงียบ
“พี่พูดกับแกขนาดนี้แล้ว ก็หวังว่าแกจะเก็บมันไปคิดให้ดีๆ ถ้าแกหย่ากับเขา พี่ก็จะสนับสนุนแก หรือถ้าไม่อยากหย่า พี่ก็จะไม่บังคับ เพียงแต่ ถ้าแกไม่อยากหย่า ยินยอมที่จะเป็นสามีภรรยากับเขา แกก็ต้องปรับทัศนคติที่แกมีต่อเขา และปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การใช้ชีวิตของเขา”
เขาหยุดพูดไปสักพักก็พูดขึ้นมาว่า “แต่พี่ก็หวังว่าแกจะเลิกกับเขานะ”
ป่านนี้ยศพัฒน์คงบ่นในใจแล้วว่า : ไอ้พี่เขยชอบฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่ เล่นงานเขา โดยการยุให้น้องสาวขอหย่ากับเขา
เพิ่งจับทะเบียนสมรสได้ไม่ทันไร
ก็จะให้เขาหย่าเหรอ ฝันไปเถอะ!
“พี่ ฉันบอกแล้วไง พัฒน์ไม่อยากเลิก ฉันกับเขากลายเป็นสามีภรรยาอย่างเป็นทางการแล้ว อันที่จริง….เขายังมีอีกหลายด้านที่พวกพี่ยังไม่รู้ พี่ ฉันคิดว่าอีกไม่นานฉันคงจะรักพัฒน์เข้าสักวันแน่ๆ”
ชเนนทร์เหนื่อยใจ
พูดไปตั้งเยอะ แต่น้องสาวฟังไม่เข้าหูเลย
พอถึงวัยแต่งงานแล้วก็อยู่ไม่ติดบ้านเลยสินะ!