คุณสามีพันล้าน - บทที่ 071 ยศพัฒน์คือข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 071 ยศพัฒน์คือข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
“พัฒน์ พ่อแม่ของพัฒน์เกษียณแล้วเหรอ?”
พิชญ์สินีถามไปตามใจคิด อันที่จริงก็แค่ต้องการถามรายละเอียดของพ่อแม่ลูกเขย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพบปะระหว่างทั้งสองครอบครัว
เด็กทั้งสองคนได้จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ทั้งสองครอบครัวก็ยังไม่ได้เคยเจอหน้ากันมาก่อน ใช้ไม่ได้เลย
ก็ต้องปรึกษาหารือเรื่องจัดงานแต่งงาน
“พ่อของผมเกษียณแล้วครับ แม่ของผมไม่เคยทำงานมาก่อน ตอนนี้พ่อของผมดูแลแปลงดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ที่บ้าน และขายให้ร้านดอกไม้ในบางครั้ง เพื่อหารายได้เล็กน้อย แม่ของผม ก็เหมือนเดิม ช็อปปิ้งกับเพื่อน ซื้อของ หรือว่าเล่นไพ่ ท่องเที่ยวเป็นต้น ถึงยังไงชีวิตวัยแก่พ่อแม่ของผมก็สมบูรณ์มากๆ”
พิชญ์สินีอือคำหนึ่ง
“พ่อของพัฒน์ปลูกดอกไม้ขายเหรอ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าเขาก็ชอบปลูกดอกไม้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลังจากที่เกษียณ ก็ยิ่งมีเวลามากมายที่จะดูแลแปลงดอกไม้ของเขา”
“ที่บ้านของผมยังปลุกผลไม้มากมาย และก็มีทุ่งนามากมายด้วย”
พิชญ์สินีอือคำหนึ่ง คิดว่าพ่อแม่ของลูกเขยเหมือนกับครอบครัวของพวกเขา ล้วนอยู่ในชนบท
ในความรู้ความเข้าใจของเธอ มีเพียงชาวนาเท่านั้นที่จะทำนา
หลังจากเข้าใจสถานการณ์พื้นฐานของพ่อแม่ลูกเขยแล้ว พิชญ์สินีได้เร่งให้ยศพัฒน์กลับไปช่วยเทวิกาในร้าน
“แม่ครับ งั้นผมไปช่วยงานที่ร้านก่อน”
“ไปเถอะ”
ยศพัฒน์ภายใต้การมองตามหลังของแม่ยาย เดินออกจากบ้านเช่า
หลังจากที่ลงบันไดมา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่ชายของภรรยา
“มีอะไร?”
ทันทีที่รับสายชเนนทร์ถามอย่างไม่สบอารมณ์
ยศพัฒน์ยิ้ม“ชเนนทร์ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันมาสิบเอ็ดปี ต่อให้ฉันจะได้ครอบครองน้องสาวของนาย นายก็ไม่ถึงกับต้องทำอย่างนี้กับฉันนะ”
“แกยังหน้าด้านพูดว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันมาสิบเอ็ดปีเหรอ ไอ้เดรัจฉาน เล็งน้องสาวของฉันมาตั้งนาน ตอนนั้น วิกาเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง สิบสามปี!”
“ฉันก็ไม่ได้สารภาพรักกับวิกาตอนนั้นสักหน่อย”
ชเนนทร์หมดคำพูด และก็พูดอย่างรวดเร็วอีก: “สรุป ฉันนึกถึงทีไรก็โกรธทุกที มีธุระอะไรก็รีบพูดมา ฉันยุ่งอยู่”
“คืนนี้กินข้าวด้วยกัน ฉันเลี้ยง สถานที่ยังคงเป็นโรงแรมเมเปิล”
“ฉันไม่ไปหรอก ไปดูแกกับน้องสาวของฉันจู๋จี๋อี๋อ๋อกัน และมองดูพวกแกโชว์สวีทจนอิ่มเอิบ”
ยศพัฒน์หัวเราะดังลั่น“ถูกกระตุ้นเข้าเหรอ?”
“ฮึ่ม!”
ชเนนทร์ทำเสียงฟึดฟัดอย่างหนัก
“แม่มาแล้ว”
“แม่แกหรือแม่ของฉันเหรอ?”
“แม่ของแกก็คือแม่ของฉัน”แม่ของเขากลับไม่มีทางเป็นแม่ของชเนนทร์
เอ่อ รู้สึกว่า เขายังเอาเปรียบอยู่
ยศพัฒน์ที่เอาเปรียบอย่างรู้ตัว อยู่ในอารมณ์ที่ดีมากเป็นพิเศษ
“แม่ของฉันมาเหรอ? เธอมาทำไม?”
ชเนนทร์ได้ยินว่าแม่มา ก็ประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกว่าแม่มาก็เป็นเรื่องปกติมากๆ
ตอนที่เทวิกาพายศพัฒน์กลับไปเจอพ่อแม่ แม้ว่ายศพัฒน์จะเอาทะเบียนสมรสจริงออกมาสองฉบับ แต่พ่อแม่ก็ยังมีความสงสัยอยู่ในใจ
ครั้งนี้แม่มาที่นี่ สันนิษฐานว่าน่าจะมาตรวจสอบสถานการณ์สินะ
“ฉันรู้สึกว่าแม่สงสัยว่าฉันและวิกาเล่นละครกัน ดังนั้นจึงทำการจู่โจมอย่างไม่คาดคิด”
ชเนนทร์มุ่ยปาก และคาดเดาเหมือนกับเขา
“ตอนแรกวิกาก็เล่นละครกับแกอยู่แล้ว ไอ้สารเลวอย่างแกต่างหากที่คิดว่าเรื่องเล่นละครเป็นเรื่องจริง”
ยศพัฒน์ถูกด่าว่าสารเลวก็ไม่โกรธ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “วิกายอมรับฉันแล้ว ถึงยังไงฉันกับเธอก็รู้จักกันมาสิบเอ็ดปี ฉันเก่งขนาดนี้ ง่ายมากที่จะได้หัวใจของเธอ”
ชเนนทร์พูดอย่างไม่พอใจ: “เอ่อ แกเก่ง แกเก่งขนาดนี้ แม่ของแกรู้เรื่องหรือยัง?”
ไอ้สารเลวนี่เก่งมากจริงๆ คุณชายของตระกูลอริยชัยกุล กรรมการผู้จัดการของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาและความฉลาดหลักแหลมหรือว่าความสามารถ เขาเป็นคนที่สอง ก็ไม่มีใครกล้าเป็นคนแรก
“แม่ของฉันภูมิใจในตัวฉันเสมอมา”
ยศพัฒน์ทั้งมั่นใจทั้งหลงตัวเอง
ชเนนทร์: “…….เลิกงานฉันจะไป”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็วางสายทันที กลัวว่าถ้าพูดคุยกับน้องเขยต่อไป เขาจะโกรธมากจนอยากจะคลานตามระบบไวร์เลสไป และต่อยตีกับน้องเขยหนึ่งยก
หลังจากที่แจ้งให้พี่ชายภรรยาทราบแล้ว ยศพัฒน์ก็แจ้งให้กับเซทท์อีก ให้เซทท์เตรียมอาหาร ตามเมนูตอนเที่ยง เขาจะเชิญแม่ยายไปทานอาหารในคืนนี้
เซทท์ถามเขา: “พี่ แม่ยายของพี่มาแล้วเหรอ? ไม่แจ้งให้คุณลุงกับคุณป้ามาเจอกับแม่ยายของพี่เหรอ”
ยศพัฒน์เงียบไปครู่หนึ่ง และพูดว่า: “ฉันปรึกษากับพี่สะใภ้ของแกก่อนค่อยตัดสินใจ ประเด็นหลักคือกลัวจะทำให้แม่ยายของฉันตกใจ”
ตอนนี้แม่ยายคิดว่าครอบครัวของเขาเป็นชาวนา
เซทท์อือคำหนึ่ง
หลังจากที่สองพี่น้องสิ้นสุดการโทร ยศพัฒน์ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
แน่นอนว่า โกหกครั้งหนึ่ง ก็ต้องใช้คำโกหกนับไม่ถ้วนมาเพื่อปกปิด
เมื่อไม่สามารถปกปิดได้อีก ก็โป๊ะแตก
ชเนนทร์พวกเขาสองพี่น้องรู้ฐานะของเขาแล้ว
ฝ่ายแม่ยายนั้นก็ปกปิดไม่ได้
ระหว่างทางกลับร้าน ยศพัฒน์ไม่ลืมที่จะโทรศัพท์จัดให้คนไปสืบความปลอดภัยของกนกอร
ลูกค้าของOne Day In Coffee หลายคนหลังจากที่ดื่มกาแฟเสร็จ เช็กบิลออกไป
ตอนที่ยศพัฒน์กลับถึงในร้าน ที่นั่งจำนวนมากมายก็ว่างอยู่แล้ว
“แม่ของฉันพักผ่อนเหรอ?”
เทวิกาเก็บโต๊ะไปหลายโต๊ะเรียบร้อย เดินเข้ามา และถามเขา
“พี่ให้แม่พักผ่อน”
ยศพัฒน์หยิบผ้าขี้ริ้วออกจากมือของเธอ ก็กำลังจะช่วยเธอทำความสะอาดโต๊ะอื่นๆ หันหลังเดินไปได้สองก้าว ก็ย้อนกลับอีก และมองดูเธอ
“มีอะไรอยากพูดกับฉันหรือเปล่า?”
ยศพัฒน์พยักหน้า
เทวิกายิ้ม ยื่นมือไปจัดแจงปกเสื้อของเขา“อยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ ฉันฟังอยู่”
“พี่บอกกับแม่ว่า ไปกินข้าวที่โรงแรมเมเปิลในคืนนี้ เรียกชเนนทร์ไปด้วย พี่เลี้ยงเอง วิกา พี่ยังอยากจะเรียกคุณปู่คุณย่าและคุณพ่อคุณแม่ของพี่มาด้วย ผู้ใหญ่ของพวกเราก็ต้องเจอกันอยู่ดี เธอคิดว่าเหมาะสมมั้ย?”
เทวิกาหุบยิ้มเล็กน้อย และถามเขาอย่างนุ่มนวลว่า: “พี่สารภาพกับแม่ของฉันแล้วเหรอ?”
อาจจะทำให้แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของเธอตกใจ?
ยศพัฒน์ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น“ยังไม่ได้บอกเลย”
ตอนนั้นเธอก็ตกใจมากๆ
เมื่อเห็นอาการปวดศีรษะของเขา เทวิกาก็พูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของเขา: “สมน้ำหน้า ใครให้พี่หลอกพวกเรา ตอนนี้รู้สึกแย่แล้วใช่มั้ย นี่ก็คือจุดจบของการหลอกคน”
ทันทีที่เสียงลดลง เธอก็ถูกเขาดีดเบาๆ
เธอจับตรงที่ถูกเขาดีด มุ่ยริมฝีปากสีแดงเล็กน้อย เธอพูดผิดเหรอ?
“ภรรยา เธอต้องบอกว่าพี่ถ่อมตัว พูดว่าพี่หลอกพวกเธอไม่ได้”
“ถ่อมตัว? หึ รู้จักกันมาสิบเอ็ดปี พี่ยังบอกว่าถ่อมตัว พี่จะถ่อมตัวไปถึงไหน? บอกว่าหลอกก็คือหลอก”
ยศพัฒน์ยิ้มอย่างตามใจว่า: “โอเคๆๆ หลอกก็ได้ งั้นถามหน่อยภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ พี่ควรจะสารภาพหรือเปล่า?”
“นั่นเป็นเรื่องของพี่ ฉันไม่ได้หลอกคนสักหน่อย”
เทวิกาหันหลังออกไปมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
ปล่อยเรื่องหนักใจนี้ให้กับเขา ให้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง
ถึงยังไง คนที่หนักใจก็คือเขาไม่ใช่เธอ
เธอไม่ได้หลอกใคร
“กริ๊งๆ…….”
โทรศัพท์ของเทวิกาดังขึ้นมา
เป็นข้อความจากธนาคาร
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ที่แท้มันเป็นค่าธรรมเนียม
เมื่อเห็นเงินก้อนนั้นในบัญชี เทวิกาก็โอนเงินสองหมื่นห้าให้ยศพัฒน์ในทันที และหันหน้าไปพูดกับเขาว่า: “เฮ้ จ่ายค่าเช่าให้พี่ รบกวนตรวจสอบรับด้วย ฉันเปิดเผยและโปร่งใส ฉันพูดได้ทำได้ ไม่เหมือนกับพี่ รู้แต่หลอกคน พ่อค้าหน้าเลือดจริงๆ คนเราจะมองภายนอกกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถูกหลอกก็จะแย่มากๆ”
เธอก็มองว่าเขาอ่อนโยนมากๆ คิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ และเช่าเขาเป็นสามีอย่างกล้าหาญ
ผลปรากฏว่า เขาคือข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
เธอขึ้นเรือลำนี้ของเขาแล้ว ชาตินี้ก็ลงไปไม่ได้แล้ว