คุณสามีพันล้าน - บทที่ 080 รู้ซึ้งถึงความรู้สึกเจ็บปวด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 080 รู้ซึ้งถึงความรู้สึกเจ็บปวด
หลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่ง พิชญ์สินีก็พูดอีกว่า: “หากตั้งท้องจริงๆ สามารถเลือกที่จะทำเอาเด็กออกได้ ถ้าทำไม่ลงคอ ก็คลอดออกมา พ่อกับแม่ช่วยลูกเลี้ยง ไม่มีทางกระทบกับการแต่งงานครั้งที่สองของลูก”
“แม่ค่ะ”
“วิกา ลูกก็อย่าโทษว่าแม่ใจร้าย แม่ก็แค่หวังดีต่อลูก”
เทวิกาพูดอย่างช่วยไม่ได้: “แม่ค่ะ แม่ก็ต้องให้โอกาสหนูได้พูดบ้างนะคะ”
“อ๋อ ลูกพูดสิ”
พิชญ์สินีก็ให้โอกาสลูกสาวได้พูด
“พี่พัฒน์ไม่ยอมหย่ากับหนู”
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ เทวิกาบอกเรื่องราวของสาเหตุที่ผ่านมาอย่างตรงไปตรงมาให้แม่
หลังจากที่พิชญ์สินีได้ยินลูกสาวสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ก็ทั้งโมโหทั้งเป็นห่วงทั้งตำหนิตัวเองจริงๆ
เธอยื่นมือไปจิ้มหน้าผากของเทวิกา และด่าว่า: “แม่เร่งรัดให้แต่งงาน ก็กลัวว่าลูกถูกตาณทำให้เจ็บปวด ลูกไม่ยอม แม่นอกจากแค่ปากบ่นว่าลูกไม่กี่ประโยค เคยบีบบังคับลูกเหรอ? ลูกกลับดีจริงๆ เบื่อที่แม่พร่ำบ่น ก็คิดที่จะเช่าแฟนมาหลอกแม่ได้”
“เช่าก็เช่า ลูกยังไม่ซื่อบื้อไปจดทะเบียนสมรสกับเขา ลูกคิดว่าพวกลูกเซ็นข้อตกลงบ้าๆนั้น ก็มีประโยชน์เหรอ? คำพูดของผู้ชาย สิบคำ อย่างมากสุดเชื่อได้แค่สามคำ”
“ทันทีที่จดทะเบียนสมรส พวกลูกก็เป็นสามีภรรยาที่ถูกกฎหมาย ขึ้นเรือง่าย แต่ลงจากเรือยาก”
พิชญ์สินีด่าไปด่ามา ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล และพูดอย่างสงสัย: “พัฒน์เกลี้ยกล่อมให้ลูกไปจดทะเบียนสมรสได้อย่างไร? ทำไมแม่รู้สึกว่าเหมือนเขาจะมีความรู้สึก…….ต่อลูก แล้วฉวยโอกาสนี้พาลูกเข้าไปที่สำนักเขตเหรอ?”
ไม่สามารถตำหนิเธอที่คิดแบบนั้น
แม้ว่าเธอเพิ่งจะรู้ฐานะที่แท้จริงของยศพัฒน์ในคืนนี้ แต่ยศพัฒน์เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยของลูกชาย เธอก็เคยได้ยินเรื่องราวของยศพัฒน์มาจากปากลูกชายมากมาย
ผู้ชายที่เพอร์เฟกต์แบบนี้ ไม่ขาดผู้หญิงด้วยซ้ำ
ตกลงกับลูกสาวอย่างง่ายดาย ยังเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวไปจดทะเบียนสมรสด้วย พิชญ์สินีรู้สึกว่ายศพัฒน์วางกับดักมานานแล้ว ก็แค่รอให้ลูกสาวกระโดดลงไป
เทวิกาหน้าแดงเล็กน้อย หลุบตาลง และพูดเบาๆ: “พี่พัฒน์บอกว่า เขาชอบหนูมาตั้งนานแล้ว”
พิชญ์สินี: “…….”
ปริมาณข้อมูลในคืนนี้ล้นหลาม จนกระทบเธอ และระทมทุกข์
ผ่านไปครู่ใหญ่ เธอก็พูดอีกครั้ง ยังคงยืนกรานว่า: “หย่ากัน!”
“แม่ค่ะ หนูไม่อยากหย่า หนูคิดว่าพี่พัฒน์ดีมาก อยู่กับเขา สบายใจมากๆ หนูชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ”
“ลูก…….ความเจ็บปวดที่ตาณมอบให้กับลูก ลูกลืมไปแล้วเหรอ”
“แม่ค่ะ ตาณจะเปรียบเทียบกับพี่พัฒน์ได้อย่างไร? ตาณตีสนิทกับคนรวย แต่พี่พัฒน์เป็นคนรวย ไม่มีทางเหมือนอย่างตาณหรอกค่ะ”
พิชญ์สินีพูดอย่างโหดร้าย: “พัฒน์มีผู้หลงรักมากมาย คุณเปรมาในคืนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นใช่มั้ย ลูกไม่ได้ฟังคุณเปรมาบอกว่าตระกูลของหล่อนและตระกูลอริยชัยกุลคบกันมาหลายชั่วคน เธอและพัฒน์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนโตเหรอ? คนรู้ใจวัยเด็กอย่างหล่อน จะมากมาย ลูกจะรับมือได้เหรอ?”
เทวิกาเงียบ
ถอนหายใจ พิชญ์สินีกอดลูกสาวไว้“แม่ก็ไม่บีบคั้นลูก ลูกคิดไตร่ตรองให้ดี ช่องว่างระหว่างลูกและพัฒน์นั้นใหญ่เกินไป เวลานานเข้า อารมณ์ที่พลุ่งพล่านลดลง ความรู้สึกจืดจาง เขาจะเริ่มไม่ชอบลูก เพราะว่าระดับของพวกลูกแตกต่างกัน นอกจากว่า ลูกศึกษาต่อ พยายามที่จะไล่ตามให้ทันเขา”
แบบนั้น เหนื่อยมาก
พิชญ์สินีปล่อยลูกสาว
“พวกเรากลับไปกันเถอะ”
เทวิกาพยักหน้าเงียบๆ
พิชญ์สินีไม่ได้อยู่ในเขตเมืองอีกต่อไป
ให้ลูกชายส่งเธอกลับบ้านเกิดในชั่วข้ามคืน
เทวิกาปฏิเสธที่จะให้ยศพัฒน์เข้าห้องในคืนนั้น ทำให้เขาไม่มีที่นอนจริงๆ เธออยากที่จะอยู่เงียบๆ และคิดถึงอนาคตของเธอกับยศพัฒน์
ในใจยศพัฒน์เข้าใจว่าแม่ยายต่อต้านให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน
เหตุผลก็คือเขาเป็นลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด
น่าตลกมาก ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ได้ต่อต้านที่เขาจะอยู่กับเทวิกา คนในบ้านตระกูลวาชัยยุงหลังจากที่รู้จักฐานะของเขา ก็มีท่าทีต่อต้านเป็นอย่างมาก
ตระกูลอริยชัยกุล น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?
เทวิกาคิดเรื่องราวเป็นเวลานาน ถึงได้เคลิ้มหลับไป
เพิ่งจะนอนหลัง ก็ฝัน
ฝันถึงผู้หญิงที่ผมกระเซิงคนนั้นอีกแล้ว บางครั้งก็อุ้มเธอแล้วร้องเรียกหาลูก บางครั้งก็อุ้มตุ๊กตาร้องเรียกลูก
ฝันไปฝันมา ฝันว่ามีคนหนึ่งเดินมาแย่งตุ๊กตาของผู้หญิงบ้าไป ผู้หญิงบ้าคนนั้นร้องไห้เรียกหาลูกอย่างสุดชีวิต และเสียงร้องไห้เจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาดใจตาย
ไม่รู้ว่าทำไม เทวิการู้สึกเพียงความเจ็บปวดในหัวใจ และดูเหมือนว่าหินหนักพันกิโลกำลังกดทับหัวใจของเธออยู่ ทำให้เธอหายใจไม่ออก
เมื่อเธอตื่นขึ้น เธอรู้สึกใบหน้าเปียกปอน
ยกมือขึ้นเช็ดออก มือเต็มไปด้วยน้ำตา
หมอนของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา
ทำไมถึงได้ฝันเหมือนกัน?
แม้ความฝันจะไม่ใช่ความจริงมากนัก แต่ความเจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาดใจที่ผู้หญิงบ้าคนนั้นเสียลูกไป แต่กลับจริงมาก ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของอีกฝ่ายในความฝัน และทำให้ใจเธอปวดร้าวยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบนตัวของเธอ
ความรู้สึกแปลกมาก
เทวิกาลุกขึ้นมา เช็ดน้ำตาอีกครั้ง และใช้เวลาสงบสติอารมณ์ ถึงได้หยิบโทรศัพท์จากโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อดูเวลา
ตีสาม
พอตื่นมาก็นอนไม่หลับ พออ่านข่าวไปสักพัก เธอรู้สึกปวดตา ถึงได้นอนหลับไป
ในเวลาเดียวกันในคฤหาสน์ตระกูลสาระทา ความเงียบในตอนกลางคืนก็ถูกทำลายด้วยเสียงกรีดร้องและร้องไห้
“ลูก ลูกของฉันหายไป ลูกของฉันหายไป!”
ภรรยาของผู้นำแห่งตระกูลสาระทา ผมยังคงยุ่งเหยิน วิ่งเท้าเปล่าออกจากห้องของเธออย่างบ้าคลั่ง ต่อจากนั้น วิ่งไปรอบๆห้อง วิ่งไปด้วยร้องไห้เรียกหาลูกไปด้วย
เสียงร้องของเธอ อยู่ในคืนที่เงียบงันนั้น แสบแก้วหูเป็นพิเศษ แต่กลับบีบคั้นหัวใจ
นั่นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดแทบขาดใจ
คนเป็นแม่ สูญเสียลูกไป เท่ากับถูกคนควักหัวใจ
โลกของพวกเธอจะสูญเสียแสงสว่าง และกลายเป็นความมืดมิด
“คุณนาย กลางดึก คุณคลุ้งคลั่งอะไรอีก คุณไม่นอน คนอื่นจะนอนนะ”
พวกคนใช้ที่สะดุ้งตื่น รีบวิ่งไปข้างหน้า และพยายามจับภรรยาของผู้นำ
บางคนตะโกนเสียงดังลั่น ในคำพูดแฝงไปด้วยความรังเกียจต่อภรรยาของผู้นำ
ใครก็รู้ว่า ผู้นำหมดความอดทนและอดกลั้นต่อภรรยาไปแล้ว
ผู้นำสามารถทอดทิ้งภรรยาเมื่อไหร่ก็ได้ และแต่งงานใหม่
ตอนนี้ ผู้นำกับคุณหนูตระกูลเลิศธนโยธาก็สนิทสนมแนบแน่น คุณหนูตระกูลเลิศธนโยธาสามารถที่จะเข้าออกตระกูลสาระทาได้อย่างอิสระ เหมือนนายคนใหม่ของตระกูลสาระทา
คุณหนูตระกูลเลิศธนโยธาก็ซื้อใจคนเป็นด้วย ทุกครั้งที่มาก็จะมอบของขวัญให้พวกคนใช้ รับของเขามา ก็ต้องทำงานให้กับเขา
ทุกคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ภรรยาของผู้นำในอนาคตต้องการให้พวกเธอฆ่าคุณนายบ้าให้ตาย เพื่อที่จะให้ตำแหน่งกับคุณหนูตระกูลเลิศธนโยธาได้ง่าย
แม้ว่าคุณนายบ้าจะมีลูกชายอยู่ข้างๆ แต่ตระกูลสาระทาก็ยังมีความขัดแย้งภายในที่รุนแรง คุณชายประยสย์จะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำได้อย่างราบรื่นหรือไม่ก็ยังไม่รู้แน่ชัด
ส่วนคุณหนูตระกูลสาระทาที่ถูกอุ้มไปนั้น ไม่มีข่าวคราวมากกว่ายี่สิบปี ไม่แน่อาจจะตายไปตั้งนานแล้ว
แม้ว่าจะไม่ได้ตาย ตระกูลที่ทะเยอทะยานจะทำให้เธอตาย
ใครจะยอมให้เธอกลับมารับมรดกครึ่งหนึ่งของตระกูลสาระทากัน?
อย่าว่าแต่ตระกูลสาระทาที่เหลือไม่ยอม คุณหนูตระกูลเลิศธนโยธาก็ไม่ยอม
ดังนั้น คุณหนูที่หายตัวไปเมื่อยี่สิบปีก่อน ไม่สามารถกลับมาได้
พวกคนใช้ก็จับตัวของภรรยาผู้นำที่วิ่งอย่างบ้าคลั่ง
“พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ลูกของฉันหายตัวไป ฉันจะไปตามหาลูกของฉัน พวกแกซ่อนลูกของฉันไว้ที่ไหน? ลูก ลูก กรี๊ดดดดดดด!”
มีคนดึงผมของภรรยาผู้นำ ทำให้เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด