คุณสามีพันล้าน - บทที่ 098 ประธานใจร้ายมาหาไม่ใช่เรื่องดี
สีหน้าของกนกอรตกตะลึง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“แม่คะ วางใจได้ค่ะ ลูกสาวของแม่ไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ออกไปดูสิ ทำไมปู่ของลูกยังไม่เข้ามาอีก”
ทักษอรรู้สึกว่าพ่อสามีออกไปเปิดประตู ใช้เวลานานเกินไป
รู้สึกเป็นห่วง จึงบอกให้ลูกสาวออกไปดู
กนกอรกำลังจะออกไป คุณปู่ก็เดินเข้ามา
“คุณปู่ ทำไมช้าจังคะ”
“พ่อคะ ใครมาเหรอคะ” ทักษอรเพิ่งเด็ดผักเสร็จ เห็นพ่อสามีเดินเข้ามา จึงเอ่ยถาม
“เด็กหนุ่มคนหนึ่งพาคนชุดดำมาด้วยหลายคน เขาบอกว่าเขามาหากนกอร ฉันคิดว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีอะไร กนกอร หลานไปสร้างปัญหาไว้ข้างนอกหรือเปล่า มาเฟียถึงมาหาถึงบ้านอย่างนี้”
กนกอรตกตะลึงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “หรือจะเป็นตาประธานชั่วร้ายคนนั้น?”
พอเห็นว่าแม่และปู่ของเธอฟังไม่เข้าใจ เธอก็รีบอธิบาย “คุณนฤเบศวร์ค่ะ ประธานบริษัทลูกพี่ลูกน้องของหนูไง”
ทักษอรงงงวย “เขามาที่นี่ทำไม? แล้วยังมาหาลูกอีก?”
“แม่คะ หนูไม่รู้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ หนูไม่รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวด้วย คุณปู่ แล้วพวกเขาล่ะคะ?”
ทันทีที่กนกอรพูดจบ เธอก็เห็นนฤเบศวร์เดินเข้ามา ตามด้วยบอดี้การ์ดสองคน แต่ละคนถือตะกร้าผลไม้เยี่ยมไข้ไว้ในมือ
หลังจากที่บอดี้การ์ดทั้งสองวางตะกร้าผลไม้ลง พวกเขาก็ถอยออกไปทันที
ตอนที่ชายชราออกไปเปิดประตูเมื่อครู่ แล้วเห็นพวกเขายืนอยู่หลายคน เขาก็สะดุ้งตกใจ คิดว่าพวกเขาเป็นมาเฟีย
บอดี้การ์ดของตระกูลเดชอุปบ่นในใจ: พวกเขาเหมือนมาเฟียตรงไหน?
ทันทีที่นฤเบศวร์เดินเข้ามา สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่กนกอร
พอเห็นว่ากนกอรสวมกางเกงขาสั้นสีเขียว เผยให้เห็นขาที่เรียวยาวของเธอ ผิวของเธอก็ขาวมากด้วย เธอสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ผมของเธอก็พันกันไว้ด้านหลัง
นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ในมือถือรีโมท มืออีกข้างจับแอปเปิลไว้ พอเขาเดินเข้ามา เธอเพิ่งกัดกินแอปเปิลไปหนึ่งคำ และยังไม่ได้กลืนมันเข้าไป
หลังจากที่เห็นเขา เธอตกใจมาก และหยุดเคี้ยวอาหาร มองเขาอย่างตะลึงงัน
มือที่บาดเจ็บของเธอถูกพันด้วยผ้าพันแผล แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการจับรีโมทของเธอ
การแต่งตัวด้วยชุดลำลองของกนกอร ทำให้นฤเบศวร์รู้สึกว่าเธอในตอนนี้ กับเธอที่เขาเคยเห็นแตกต่างกันเหมือนคนละคน แต่กลับรู้สึกว่าแบบนี้ถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
“สวัสดีครับคุณน้า”
นฤเบศวร์ทักทายทักษอรอย่างสุภาพ
“สวัสดีจ้ะ”
ทักษอรทักทายกลับด้วยความงุนงง
นฤเบศวร์กล่าวขอโทษคุณปู่ชรัณอีกครั้ง “คุณปู่ชรัณ ผมไม่ใช่มาเฟึย อย่าห่วงไปเลยครับ ผมมาเยี่ยมกนกอร และไม่ได้มาคิดบัญชีด้วย”
“แล้วคุณมาที่นี่ทำไม”
กนกอรถามตามสัญชาตญาณ
แววตาของนฤเบศวร์เคร่งขรึม ก่อนจะเหลือบมองไปทางมือที่บาดเจ็บของเธอ และพูดเสียงเรียบว่า “มาเยี่ยมคุณ”
กนกอรรู้สึก “ตกใจ” มาก
ประธานชั่วร้ายมาเยี่ยมเธอจริงๆ เหรอ?
แน่นอนว่าต้องมีแผนร้ายในใจแน่ๆ
จริงสิ เธอเองก็เป็นเจ้าของOne Day In Coffeeได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เปรมาพาคนมาพังร้าน เขาจะมาขอโทษและชดเชยแทนก็ไม่แปลก และคงอยากให้เธอพูดแทนเปรมา ให้พวกเธอยกโทษให้อีกฝ่ายสินะ?
ถึงแม้เขาจะพยายามกดข่าวไว้ แล้วยังสั่งให้คนลบวิดีโอที่เปรมาพาคนมาพังร้าน แต่ข่าวมันแพร่ออกไปแล้ว และมีหลายคนได้เห็นวิดีโอนั้นแล้วด้วย
ผลกระทบต่อเปรมาได้เกิดขึ้นแล้ว
นฤเบศวร์ปกป้องเปรมา แล้วมาข่มขู่เธอ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนฤเบศวร์มากนัก
นฤเบศวร์ : …ยังไม่ส่งผลกระทบอีกเหรอ! หุ้นRA กรุ๊ป ของพวกเขา พอตลาดหุ้นเปิดก็ตกฮวบถึงขนาดนั้น
หลังจากถูกคุณปู่ของเขาตำหนิ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณชน ตอนที่ตลาดหุ้นตอนบ่ายเปิด หุ้นของบริษัทถึงไม่ตกฮวบอีก และขึ้นมาบ้าง
การขึ้น ๆ ลง ๆ ของตลาดหุ้นเป็นเรื่องปกติ นฤเบศวร์พอจะรับได้
ที่เขาโมโหมากที่สุด เพราะเหตุการณ์นี้ ปู่ของเขาเร่งให้เขาแต่งงาน
“คุณนฤเบศวร์มาขอร้องแทนคุณเปรมาเหรอคะ”
สีหน้าของกนกอรเย็นชา และขี้เกียจจะเชิญให้นฤเบศวร์นั่งลง
กลายเป็นทักษอรที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นแขกที่มาบ้าน ดังนั้นเธอจึงรีบเชิญนฤเบศวร์ให้นั่งลงบนโซฟาเดี่ยว และไปล้างผลไม้ที่เธอซื้อมาวันนี้ใส่จาน ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ แล้วเรียกให้นฤเบศวร์กินผลไม้
คุณปู่ชรัณเดินไปชงชา
เขาเทน้ำชาให้นฤเบศวร์
“ขอบคุณครับ”
นฤเบศวร์กล่าวขอบคุณ แล้วหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบอย่างสง่า
พอจิบชาเข้าปาก ท่าทางสง่าของเขาเกือบจะหายไป
นี่มันชาอะไรเนี่ย!
ขมมาก!
คุณปู่ชรัณคงจะใส่ชามากเกินไป
“นี่คือชาดอกคามิเลีย ปู่ของฉันชอบดื่มชารสเข้มข้น รสชาติขมเล็กน้อย แต่หลังจากดื่มแล้ว กลิ่นหอมของชาจะติดลิ้น และสดชื่นตาสว่างไปจนถึงดึกดื่น”
สดชื่นตาสว่าง
“ผู้สูงอายุไม่ควรดื่มชาเข้มข้นเกินไป มันจะส่งผลต่อการนอนหลับ”
นฤเบศวร์วางถ้วยน้ำชาลง
ฆ่าเขาให้ตาย เขาก็ไม่ดื่มแก้วที่สองเด็ดขาด
“กนกอร ที่ผมมาเยี่ยมคุณ ไม่ได้มาเพื่อขอร้องแทนเปรมา”
เปรมาถูกควบคุมตัวไปขังแล้ว หลังจากได้ออกมา ต้องชดเชยค่าเสียหายในร้านของเทวิกาเรื่องนี้ก็จะจบลง
แน่นอน ชื่อเสียงของเปรมาก็เสียไปด้วย
ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชั้นสูง บางที อาจจะถูกตีตัวออกห่างให้อยู่โดดเดี่ยว
บ้านตระกูลไชยรัตน์ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว แม้แต่ธุรกิจก็ย้ายไปต่างประเทศทั้งหมด พอคนจากไป เปรมาคุณหนูของบ้านตระกูลไชยรัตน์อยู่ในเมืองแอคเซสซ์ก็ไร้ค่าไปนานแล้ว
ที่เธอยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในวงการสังคมชั้นสูงได้เพราะมีนฤเบศวร์คอยช่วยเหลือ
“หึ หาได้ยากจริงๆ วันนี้พระอาทิตย์กำลังขึ้นทางทิศตะวันตกหรือเปล่า คุณนฤเบศวร์ถึงได้มาเยี่ยมคนธรรมดาอย่างฉัน ฉันรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็น ไม่อย่างนั้นฉันคงกินอะไรไม่ลง”
“ตกใจมากหรือไง”
เผชิญหน้ากับคำพูดถากถางของกนกอร นฤเบศวร์กลับไม่รู้สึกโกรธเลย
ตรงกันข้าม ทักษอรกลับรีบตำหนิลูกสาวของเธอเบาๆ
“แผลที่มือ…”
กนกอรยกมือที่บาดเจ็บขึ้นมา “นี่ไงคะ เห็นแล้ว ก็เชิญกลับไปได้แล้ว”
“กนกอร คุณนฤเบศวร์เป็นแขก ลูกทำตัวสุภาพกับแขกหน่อย”
ทักษอรดุลูกสาวของเธออีกครั้ง
กนกอรหน้ามุ่ยและบ่นพึมพำอะไรบางอย่างด้วยเสียงต่ำ
นฤเบศวร์ได้ยินไม่ชัด
“คุณนฤเบศวร์ อย่าถือสากนกอรเลยนะคะ เด็กคนนี้ดื้อรั้น แต่ไม่ได้มีจิตใจเลวร้ายอะไร”
นฤเบศวร์ยกยิ้มแล้วพูดว่า “คุณน้าครับ ผมรู้ว่ากนกอรไม่ได้มีจิตใจเลวร้าย อย่างมาก เธอก็แค่เทน้ำแข็งใส่ตัวผม ให้ผมหนาวจนเป็นหวัด”
“เห็นแก่ที่เธอยอมมาเป็นแฟนผม ผมจะไม่ถือสาเธอมากนัก”
“นฤเบศวร์!”
กนกอรโยนรีโมตใส่นฤเบศวร์ และลุกขึ้นยืนทันที
เธอรีบเดินเข้าไปหา และดึงนฤเบศวร์ด้วยมือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วกัดฟันพูด “ออกไปคุยกันข้างนอก”
ผู้ชายสารเลวคนนี้ กล้าฟ้องแม่ของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้
เทน้ำเย็นใส่เขาจนเขาเป็นหวัดมันแค่เรื่องเล็กน้อย แต่คำพูดของเขาที่บอกว่าเธอเป็นแฟนต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่
แม่ของเธอจะต้องเค้นถามเธออย่างละเอียด และเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคู่ขาของเขาแน่ๆ
ผู้ชายสารเลวคนนี้!
เธอรู้ว่าเขามาที่นี่ต้องไม่มีเรื่องดี
นฤเบศวร์ถูกกนกอรลากตัวออกไป
ทักษอรยังคงตกตะลึงอยู่
นฤเบศวร์หมายความว่าอะไร?
กนกอรลูกคนนั้นแอบคบกับนฤเบศวร์อย่างนั้นเหรอ?
ทำไมพวกเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย?
เด็กคนนี้ กล้าปิดเรื่องนี้กับพวกเขา!
กนกอรลากนฤเบศวร์ออกจากมาบ้าน แล้วเดินผ่านสวน ออกจากประตู แล้วเลี้ยวขวา หลังจากเดินไปได้สักพัก และมั่นใจว่าแม่ของเธอจะไม่ได้ยินได้ยินแล้ว เธอจึงหยุดเดิน